หากนึกถึง Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แว้บแรกเราก็จะนึกถึงเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ตัวเครื่องที่ใหญ่ หนา โดยมีน้ำหนักระดับ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเครื่องนั้นใช้สเปคภายในที่มีประสิทธิภาพสูง ทั้งในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ ทำให้จำเป็นต้องใช้ชุดระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ตัวเครื่องนั้น ใหญ่ หนา หนัก เป็นธรรมดาแต่ในปี 2018 นี้บอกเลยว่าเทรนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ขอบจอหนาๆ บอดี้ใหญ่ๆ น้ำหนักเยอะๆ จะเอาท์แล้ว เพราะต่อไปเทรนเเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ จะเป็นแบบขอบจอบาง น้ำหนักเบาและพกพาง่าย
ซึ่งในบทความนี้ทางทีมงาน NBS จะรีวิวตัว MSI GF63 8RD ที่เป็นรุ่นใหม่ซีรีส์ใหม่ที่ทาง MSI เพิ่งออกมาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก โดยมีสเปคระดับกลางค่อนไปทางสูง ที่เน้นในส่วนของหน้าตาตัวเครื่องที่สวยงาม มีการออกแบบมาให้มีความเรียบหรูและบางเบากว่าเดิม พร้อมฟีเจอร์มากมายจัดเต็ม โดยตัวเครื่องที่ทีมงานได้มานั้นจะใช้สเปค Intel Core i7-8750H + NVIDIA GeForce GTX 1050Ti + หน้าจอ 15.6 ขอบบาง Full HD IPS 60 Hz ในราคา 32,900 บาท รีวิวข้างในจะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ
VDO Review
Specification
MSI GF63 8RD ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพแรงเหลือๆ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1 TB 5400 RPM พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว)
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงก็เลือกใช้ซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.1, USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth v5 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้ สนนราคา 32,900 บาท ประกัน 2 ปีเต็ม
- หน้าสเปคเต็ม MSI GF63 8RC i7-8750H + GTX 1050 + SSD m.2 128 GB ราคา 29,900 บาท
- หน้าสเปคเต็ม MSI GF63 8RD i7-8750H + GTX 1050Ti Max Q ราคา 32,900 บาท
Hardware / Design
สำหรับ MSI GF63 8RD ถือว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีรีส์ใหม่ GF รุ่นล่าสุดที่ทำออกมาได้ดีมากๆ (เทียบท่า GP) ทั้งในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบาและพกพาได้สะดวก โดยยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นล่นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้มังกรแดง Dragon Army มินิมอลสุดๆ
ด้านฐานล่างออกแบบมาใหม่ดีไซน์เป็นแนวตัว X วัสดุเป็นพลาสติกด้าน พร้อมกับทำการเซาะร่องระบายอากาศหลายตำแหน่งด้วยกัน ลำโพงก็อยู่ที่ด้านล่าง 2 ตัวทำให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงได้ดี การแกะอัปเกรดบอกเลยว่าค่อนข้างยาก เพราะต้องแกะน็อตออกหมดทุกตัวแล้วค่อยใช้บัตรแข็งๆ แงะที่ละส่วน
ในส่วนของช่องระบายความร้อนของ MSI GF63 8RD มีด้วยกัน 2 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย โดยใช้พัดลม 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น เพียงพอต่อการใช้งาน ดีไซน์ด้านในตัวเครื่องเลือกใช้จอขนาด 15.6 นิ้วบอดี้ 14 นิ้ว ซึ่งขอบจอบางมากเพียง 4.9 มม เท่านั้น บางมากๆ จนคิดว่าจอ 14 นิ้วด้วยซ้ำ ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น
วัสดุบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นอะลูมิเนียมสีดำทำการบรัชลายเส้นเหมือนฝาหลัง สวยงาม แข็งแรง ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีแดง สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ เรียกได้ว่า GF63 8RD ตัวนี้ยังคงรักษามาตรฐานเหมือนรุ่นพี่ก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Gaming Notebook บางเบาสายพันธุ์แท้เหมือนรุ่น GS แต่ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดีแบบเรียบง่าย ที่ไม่ใช่แค่เครื่องแรงอย่างเดียวแต่ในประสบการณ์ใช้งานก็ดีเยี่ยมด้วย แถมมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวพกพาไปไหนได้สบายๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GF63 8RD ถูกออกแบบมาใหม่โดยตัดปุ่ม Numpad ออก และเป็นรุ่นแรกด้วยที่ไม่ใช้คีย์บอร์ดของ SteelSeries ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ SteelSeries แต่การออกแบบ การใช้งานถือว่าทำได้ดีกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นแบบรู้สึกได้เลย เพราะทั้งการตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อม กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ตัวคีย์บอร์ด SteelSeries รุ่นอื่น และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟคีย์บอร์ดตัวเครื่องให้มาเป็นสีแดงสีเดียว ปรับสีไม่ได้ ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ พร้อมทำการไฮท์ไลท์ขอบแดงทุกปุ่มให้ดูเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสายพันธ์ุแท้
ส่วนของทัชแพดก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน มีการเซาะร่องตัดขอบอะลูมิเนียมสวยงาม ผิวสัมผัสไม่ลื่นจนเกินไป ตัวปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ทั้งการคลิกซ้ายคลิกขวาไม่มีอาการยวบยาบให้เห็น รวมถึงการใช้งานมัลติทัชก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล โดยรวมการใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี สามารถทำงานวางบนตักได้สะดวก หรือนำเล่นในร้านกาแฟชิคๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ MSI GF63 8RD นั้น มีขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD ตัวหน้าจอ Panel IPS มุมมองกว้างทำให้แสดงผลภาพออกมาได้อย่างสวยงามคมชัด ลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนจากแสงไฟรอบๆ ตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งแสงสว่างของหน้าจอสามารถปรับได้หลายระดับให้พอดีกับสายตา สามารถสู้แสงจ้าจากภายนอกได้ในระดับหนึ่ง แถมขอบจอบางเพียง 4.9 มม. ทำให้ภาพที่ได้เต็มตาสุดๆ ส่วนเรื่องของสีดูสวยงามกว่า Panel TN ทั่วไปพอสมควรทั้งสีสด ไม่จืด และไม่เพี้ยนมาก
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง Nahimic 3 ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงให้มีมิติ แยกเสียงซ้ายขวาให้ชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเลือกลำโพงถือว่าทำได้ดีเลยครับ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ MSI GF63 8RD ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 208 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานธรรมดาไม่ได้สว่างมาก คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงแล้วอันนี้ไม่แนะนำเท่าไรนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนขวากับตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านล่างขวาจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง MSI GF63 8RD กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว แม้ว่าตัวเครื่องจะไซต์เล็กก็ตามที่ได้ทั้ง USB 3.1 Type A จำนวน 3 พอร์ต, USB 3.1 Type C จำนวน 1 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน 2 ช่อง ขนาด 3.5 มิ , Lan, SD Card Reader, Kensington และส่วน HDMI จะอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless Dual Band แบบ 802.11b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น และรองรับสัญญาณความที่ถี่ 5 Ghz ได้ ขนาดของตัวเครื่อง 359 x 254 x 21.7 มม.
โดยมีน้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม ถือว่าไม่หนักไม่เบา ซึ่งเมื่อรวมกับอะแดปเตอร์ชาร์จเข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.10 กิโลกรัม ซึ่งสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายเอามากๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง MSI GF63 8RD เพื่อทำการอัพเกรดนั้นสามารถอาจจะทำได้ค่อนข้างยาก ไม่แนะนำให้แกะเองเลยถ้าไม่ชำนาญพอ เพราะมีสลักค่อนข้างเยอะ และมีชิ้นตรงที่หุ้มปิดแกนฝาพับมาด้วย ซึ่งต้องไขน็อตทุกตัวออกที่มองเห็น แล้วใช้บัตรแข็งค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรง
วิธีการแกะเริ่มจากที่มุมด้านบนก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลัง และแกะแผ่นออกมาทั้งหมด ซึ่งต้องทำอย่างระมัดระวังช้าๆ ไม่ต้องรีบ มิฉะนั้นเกลียวอาจจะหักได้ เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมนบอร์ดสีดำ จุดสังเกตคือตัวเครื่องใช้พัดลม 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น ช่องระบายความร้อน 2 ช่อง ด้านหลังกับด้านข่าง
เมื่อแกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดได้คือ Harddisk SATA ขนาด 2.5 นิ้วพิเศษหน่อยเลือกใช้ของ Seagate BaraCuda หรือหากใครจะแกะออกมาใส่ SSD ก็ได้ ส่วน SSD m.2 จะอยู่ตรงกลางซ้าย สามารถใส่เข้าอัปเกรดได้ทันทีโดยไม่ต้องไปยุ่งกับส่วนอื่นๆ รองรับทั้ง SATA 3 และ PCIe NVMe
สำหรับ Ram นั้นจะมีแผ่นกระดาษสีดำปิดไว้อยู่ ซึ่งสามารถอัพได้ 1 ช่องและได้สูงสุดถึง 32 GB ครับ แนะนำว่าซื้อ 8 GB DDR4 Bus 2666 มาใส่อีกตัวก็เพียงพอกับการใช้งานมากๆ แล้วครับ (MSI สามารถแกะอัปเกรดได้ไม่หลุดประกัน แต่จะไม่รับผิดชอบอุปกรณ์ที่ใส่เพิ่มครับ)
Performance / Software
MSI GF63 8RD มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8750H รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core/ 12 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อม Ram 8 GB DDR4 Bus 2666
ในส่วนของกราฟิกการ์ดตัวนี้จะไม่มีการ์ดจอออนบอร์ดแต่มีเฉาพกราฟิกการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) ที่ต้องบอกว่าแรงใช้ได้เลย ทั้งการใช้งานที่ตอบสนองการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรหนักๆ ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดีทีเดียว
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผล คะแนนที่ได้ตามประสิทธิภาพเป็นที่น่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียวครับ แถมแรงกว่ารุ่นเดิมเยอะ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 39.1 MB/s และสูงสุดที่ 144.7 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 101.6 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 20.1 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ได้ออกมาอยู่นเกณฑ์กลางๆ ครับ
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ MSI GF63 8RD ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกมยอดนิยมในตอนนี้ไปดูเลยกราฟกันเลยดีกว่าครับประสิทธิภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 50 FPS ขึ้นไปทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดี จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ผสานกับ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q 4 GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับ Ram 8 GB และรวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 RPM ด้วย(ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V, Overwatch, PUBG, DOTA 2 และ Far Cry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีไหลที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดเกือบทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 50 FPS เรียกได้ว่าเล่นได้เหลือๆ แถมหน้าจอเ IPS ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีน่าพอใจ
Battery / Heat / Noise
MSI GF63 8RD นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3-Cell Li-Polymer Battery 51 Whr ซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างใหญ่กว่ารุ่นอื่นในราคาระดับเดียวกัน และเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง โดยสามารถใช้งานผ่าน Wi-Fi เล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube ได้ยาวนานประมาณถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง 52 นาทีครับ
ทางด้านอุณหภูมิสำหรับเครื่องนี้ที่พัดลมระบายความร้อน 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น ช่องระบายความร้อน 2 ช่อง อาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่ก็เรียกได้ว่าระบายความได้ดีในระดับหนึ่ง เมื่อใช้เล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 95 องศาสำหรับ CPU และ 86 องศาสำหรับ GPU แนะนำว่าให้ใช้ Cooling Pad เสริมด้วยจะดีมากหากนำไปใช้งานเป็นเวลานานๆ ครับ
Conclusion / Award
สรุป MSI GF63 8RD ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดแรงเทรนใหม่ที่เน้นเรื่องขอบจอบาง น้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น แถมติดตั้งสเปคโคตรแรงทั้ง Intel Core i7-8750H รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสุดแรง บวกกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q Z(4 GB) ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็น Max-Q จริงๆ แล้วเพื่อทำให้เครื่องบางขึ้น และจ่ายไฟได้น้อย แต่ยังคงประสิทธิภาพที่แรงเหมือนเดิม ดีไม่ดีหากดูหากดูจากกราฟ GTX 1050Ti Max-Q ตัวนี้ แรงกว่า GTX 1050Ti รุ่นอื่นอีกด้วยซ้ำ เพราะว่า MSI เขา Optimize เครื่องมาดีจริงๆ รีดประสิทธิภาพได้เต็มที่
รวมไปถึงเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่เป็นมาตรฐานใหม่หมด ช่อง USB จะเป็นเวอร์ชั่น 3.1 ทุกพอร์ตและมี Type C มาด้วย พอร์ต HDMI ก็อยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่องทำให้สามารถเชื่อมต่อจอแยกได้ง่าย ลำโพงเลือกใช้ระบบเสียง Nahimic 3 เสียงที่ได้ถือว่าโอเคมากๆ ดูดีกว่ารุ่นอื่นแบบรู้สึกได้เลย การใช้งานแป้นพิมพ์ถึงแม้ว่าจะไม่มี Numpad และไม่ใช่ของ Steelseries แต่การใช้งาน การกด การสัมผัส ถือว่าทำได้ดีมากและขนาดปุ่มกดค่อนข้างใหญ่พิมพ์มันมือสุดๆ
ส่วนข้อสังเกตหลักๆ เลยคือเครื่องของการระบายความที่มีพัดลมตัวเดียวทำให้สู้รุ่นพี่ตัวอื่นไม่ได้ ที่มีทั้งพัดลมสองตัวฮีทไปป์ 6 เส้น+ ดังนั้นหากใครที่จะซื้อไปเล่นเกมหนักๆ ทั้งวันอาจจะต้องไปดูรุ่น GL63 GF62 หรือ GE63 ดีกว่า แต่ถ้าหากใครเน้นพกพาเล่นเกมบ้างบางครั้งคราวและไม่ได้ใช้งานหนักทั้งวัน MSI GF63 8RD รุ่นนี้คือคำตอบของคุณแน่นอน บอกเลยว่าถ้าใส่ SSD m.2 ไปอีกสักตัวนะ แจ่มแมวเลยละกับค่าตัวเพียง 32,900 บาทเท่านั้น
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามมินิมอล เรียบง่าย งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ตัวเครื่องบางเฉียบ โดยมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาสะดวก
- สเปคประสิทธิภาพสูงได้ทั้ง Intel Core i7-8750H และการ์ดจอ GTX 1050Ti Max-Q
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วขอบจอบางเพียง 4.9 มม.
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันและเป็นมาตรฐานใหม่หมด USB 3.1 Type A, USB 3.1 Type C, HDMI
- รองรับ SSD m.2 PCIe NVMe Gen 3
- ใช้ซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชั่นใหม่ ช่วยปรับแต่งเครื่องให้ดียิ่งขึ้น
- ตัวเครื่องทำการ Optimize มาค่อนข้างดี ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพของเครื่องได้สูงกว่าปกติทั่วไป
- ราคาไม่แพงจนเกินไปเหมือนกับรุ่นพี่ตัวอื่นเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องใช้พัดลมตัวเดียว หากใช้งานหนักๆ เป็นเวลานานๆ เครื่องจะค่อนข้างร้อน
- อแดปเตอร์จ่ายไฟไม่เล็กลงตามขนาดเครื่อง
- MSI GF63 8RC รุ่นถูกกว่าแถม SSD m.2 128 GB แต่รุ่นนี้กลับไม่แถมเฉย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GF63 8RD ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
MSI GF63 8RD มีสเปคที่ครบครันทั้งชิบประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องที่อัพเกรดได้มากถึง 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และรองรับ SSD m.2 แบบ PCIe NVMe Gen 3 ตัวแรงด้วย รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อก็เป็นมาตรฐานใหม่หมด USB เป็น 3.1 ทุกพอร์ตทั้ง Type A และ Type C
Best Mobility
ความสามารถในการพกพาของ MSI GF63 8RD อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบทที่หนาเพียง 21.7 มม. และน้ำหนักเบา 1.86 กิโลกรัม และขอบจอบาง 4.9 มม. ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายไม่หนัก
VDO Review
Specification
MSI GF63 8RD ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-8750H (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 Core/12 Thread ประสิทธิภาพแรงเหลือๆ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1 TB 5400 RPM พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR4 จำนวน 1 แถว อัปเกรดได้สูงสุด 32 GB (ใส่ Ram ได้ 2 แถว)
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง IPS ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง สวยงาม ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกมก็สามารถใช้ได้ดีชัดเจน ลำโพงก็เลือกใช้ซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.1, USB 3.1 Type C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, Lan RJ-45 , รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth v5 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้ สนนราคา 32,900 บาท ประกัน 2 ปีเต็ม
- หน้าสเปคเต็ม MSI GF63 8RC i7-8750H + GTX 1050 + SSD m.2 128 GB ราคา 29,900 บาท
- หน้าสเปคเต็ม MSI GF63 8RD i7-8750H + GTX 1050Ti Max Q ราคา 32,900 บาท
Hardware / Design
สำหรับ MSI GF63 8RD ถือว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีรีส์ใหม่ GF รุ่นล่าสุดที่ทำออกมาได้ดีมากๆ (เทียบท่า GP) ทั้งในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบาและพกพาได้สะดวก โดยยังคงรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจคอเกมอย่างสุดๆ วัสดุอลูมิเนียมขัดเงาบรัชเป็นล่นเส้นๆ แนวตั้งดูโดดเด่นแบบเรียบง่าย พร้อม ด้วยโลโก้มังกรแดง Dragon Army มินิมอลสุดๆ
ด้านฐานล่างออกแบบมาใหม่ดีไซน์เป็นแนวตัว X วัสดุเป็นพลาสติกด้าน พร้อมกับทำการเซาะร่องระบายอากาศหลายตำแหน่งด้วยกัน ลำโพงก็อยู่ที่ด้านล่าง 2 ตัวทำให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงได้ดี การแกะอัปเกรดบอกเลยว่าค่อนข้างยาก เพราะต้องแกะน็อตออกหมดทุกตัวแล้วค่อยใช้บัตรแข็งๆ แงะที่ละส่วน
ในส่วนของช่องระบายความร้อนของ MSI GF63 8RD มีด้วยกัน 2 ช่องคือด้านหลังฝั่งซ้ายมือตัวเครื่อง และด้านข้างซ้าย โดยใช้พัดลม 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น เพียงพอต่อการใช้งาน ดีไซน์ด้านในตัวเครื่องเลือกใช้จอขนาด 15.6 นิ้วบอดี้ 14 นิ้ว ซึ่งขอบจอบางมากเพียง 4.9 มม เท่านั้น บางมากๆ จนคิดว่าจอ 14 นิ้วด้วยซ้ำ ใช้งานเต็มตาสุดๆ แกนฝาพับแข็งแรงพัฒนาขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นก่อน ส่วนคีย์บอร์ดจะเป็นไซต์มาตรฐานคือไม่มี Numpad แต่ปุ่มกดจะใหญ่กว่าปกติ ทำให้พิมพ์สัมผัสได้ถนัดมือขึ้น
วัสดุบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นอะลูมิเนียมสีดำทำการบรัชลายเส้นเหมือนฝาหลัง สวยงาม แข็งแรง ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ที่ด้านมุมบนขวามือแยกจากคีย์บอร์ด นอกจากนี้คีย์บอร์ดยังมีไฟสีแดง สามารถเปิดปิดได้ 3 ระดับ เรียกได้ว่า GF63 8RD ตัวนี้ยังคงรักษามาตรฐานเหมือนรุ่นพี่ก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Gaming Notebook บางเบาสายพันธุ์แท้เหมือนรุ่น GS แต่ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดีแบบเรียบง่าย ที่ไม่ใช่แค่เครื่องแรงอย่างเดียวแต่ในประสบการณ์ใช้งานก็ดีเยี่ยมด้วย แถมมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวพกพาไปไหนได้สบายๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GF63 8RD ถูกออกแบบมาใหม่โดยตัดปุ่ม Numpad ออก และเป็นรุ่นแรกด้วยที่ไม่ใช้คีย์บอร์ดของ SteelSeries ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ SteelSeries แต่การออกแบบ การใช้งานถือว่าทำได้ดีกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นแบบรู้สึกได้เลย เพราะทั้งการตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อม กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้ตัวคีย์บอร์ด SteelSeries รุ่นอื่น และที่ขาดไม่ได้เลยคือไฟคีย์บอร์ดตัวเครื่องให้มาเป็นสีแดงสีเดียว ปรับสีไม่ได้ ซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ พร้อมทำการไฮท์ไลท์ขอบแดงทุกปุ่มให้ดูเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสายพันธ์ุแท้
ส่วนของทัชแพดก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน มีการเซาะร่องตัดขอบอะลูมิเนียมสวยงาม ผิวสัมผัสไม่ลื่นจนเกินไป ตัวปุ่มคลิกซ้ายคลิกขวาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่ม ซึ่งการใช้งานการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ทั้งการคลิกซ้ายคลิกขวาไม่มีอาการยวบยาบให้เห็น รวมถึงการใช้งานมัลติทัชก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล โดยรวมการใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดี สามารถทำงานวางบนตักได้สะดวก หรือนำเล่นในร้านกาแฟชิคๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ MSI GF63 8RD นั้น มีขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD ตัวหน้าจอ Panel IPS มุมมองกว้างทำให้แสดงผลภาพออกมาได้อย่างสวยงามคมชัด ลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนจากแสงไฟรอบๆ ตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งแสงสว่างของหน้าจอสามารถปรับได้หลายระดับให้พอดีกับสายตา สามารถสู้แสงจ้าจากภายนอกได้ในระดับหนึ่ง แถมขอบจอบางเพียง 4.9 มม. ทำให้ภาพที่ได้เต็มตาสุดๆ ส่วนเรื่องของสีดูสวยงามกว่า Panel TN ทั่วไปพอสมควรทั้งสีสด ไม่จืด และไม่เพี้ยนมาก
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี ระบบเสียง Nahimic 3 ทำให้มีเสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบให้อยู่ที่ด้านล่างตัวเครื่อง ช่วยให้ตัวเครื่องสามารถกระจายเสียงให้มีมิติ แยกเสียงซ้ายขวาให้ชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเลือกลำโพงถือว่าทำได้ดีเลยครับ
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ MSI GF63 8RD ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 60% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 208 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานธรรมดาไม่ได้สว่างมาก คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงแล้วอันนี้ไม่แนะนำเท่าไรนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนขวากับตรงกลางมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านล่างขวาจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง MSI GF63 8RD กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว แม้ว่าตัวเครื่องจะไซต์เล็กก็ตามที่ได้ทั้ง USB 3.1 Type A จำนวน 3 พอร์ต, USB 3.1 Type C จำนวน 1 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน 2 ช่อง ขนาด 3.5 มิ , Lan, SD Card Reader, Kensington และส่วน HDMI จะอยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่อง
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 5.0 และ Wireless Dual Band แบบ 802.11b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น และรองรับสัญญาณความที่ถี่ 5 Ghz ได้ ขนาดของตัวเครื่อง 359 x 254 x 21.7 มม.
โดยมีน้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม ถือว่าไม่หนักไม่เบา ซึ่งเมื่อรวมกับอะแดปเตอร์ชาร์จเข้าไปด้วยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.10 กิโลกรัม ซึ่งสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายเอามากๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง MSI GF63 8RD เพื่อทำการอัพเกรดนั้นสามารถอาจจะทำได้ค่อนข้างยาก ไม่แนะนำให้แกะเองเลยถ้าไม่ชำนาญพอ เพราะมีสลักค่อนข้างเยอะ และมีชิ้นตรงที่หุ้มปิดแกนฝาพับมาด้วย ซึ่งต้องไขน็อตทุกตัวออกที่มองเห็น แล้วใช้บัตรแข็งค่อยๆ แงะจากด้านหลังตรง
วิธีการแกะเริ่มจากที่มุมด้านบนก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ รูดไปตามแนวฝาหลัง และแกะแผ่นออกมาทั้งหมด ซึ่งต้องทำอย่างระมัดระวังช้าๆ ไม่ต้องรีบ มิฉะนั้นเกลียวอาจจะหักได้ เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมนบอร์ดสีดำ จุดสังเกตคือตัวเครื่องใช้พัดลม 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น ช่องระบายความร้อน 2 ช่อง ด้านหลังกับด้านข่าง
เมื่อแกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำ สีเทาแปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนเพื่อกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดได้คือ Harddisk SATA ขนาด 2.5 นิ้วพิเศษหน่อยเลือกใช้ของ Seagate BaraCuda หรือหากใครจะแกะออกมาใส่ SSD ก็ได้ ส่วน SSD m.2 จะอยู่ตรงกลางซ้าย สามารถใส่เข้าอัปเกรดได้ทันทีโดยไม่ต้องไปยุ่งกับส่วนอื่นๆ รองรับทั้ง SATA 3 และ PCIe NVMe
สำหรับ Ram นั้นจะมีแผ่นกระดาษสีดำปิดไว้อยู่ ซึ่งสามารถอัพได้ 1 ช่องและได้สูงสุดถึง 32 GB ครับ แนะนำว่าซื้อ 8 GB DDR4 Bus 2666 มาใส่อีกตัวก็เพียงพอกับการใช้งานมากๆ แล้วครับ (MSI สามารถแกะอัปเกรดได้ไม่หลุดประกัน แต่จะไม่รับผิดชอบอุปกรณ์ที่ใส่เพิ่มครับ)
Performance / Software
MSI GF63 8RD มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8750H รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core/ 12 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อม Ram 8 GB DDR4 Bus 2666
ในส่วนของกราฟิกการ์ดตัวนี้จะไม่มีการ์ดจอออนบอร์ดแต่มีเฉาพกราฟิกการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) ที่ต้องบอกว่าแรงใช้ได้เลย ทั้งการใช้งานที่ตอบสนองการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรหนักๆ ก็สามารถทำได้เป็นอย่างดีทีเดียว
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผล คะแนนที่ได้ตามประสิทธิภาพเป็นที่น่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียวครับ แถมแรงกว่ารุ่นเดิมเยอะ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 39.1 MB/s และสูงสุดที่ 144.7 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 101.6 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 20.1 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ได้ออกมาอยู่นเกณฑ์กลางๆ ครับ
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ MSI GF63 8RD ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกมยอดนิยมในตอนนี้ไปดูเลยกราฟกันเลยดีกว่าครับประสิทธิภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 50 FPS ขึ้นไปทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดี จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ผสานกับ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q 4 GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับ Ram 8 GB และรวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 RPM ด้วย(ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V, Overwatch, PUBG, DOTA 2 และ Far Cry 5 ก็สามารถเล่นได้ดีไหลที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดเกือบทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 50 FPS เรียกได้ว่าเล่นได้เหลือๆ แถมหน้าจอเ IPS ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีน่าพอใจ
Battery / Heat / Noise
MSI GF63 8RD นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 3-Cell Li-Polymer Battery 51 Whr ซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างใหญ่กว่ารุ่นอื่นในราคาระดับเดียวกัน และเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง โดยสามารถใช้งานผ่าน Wi-Fi เล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube ได้ยาวนานประมาณถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง 52 นาทีครับ
ทางด้านอุณหภูมิสำหรับเครื่องนี้ที่พัดลมระบายความร้อน 1 ตัว ฮีทไปป์ 3 เส้น ช่องระบายความร้อน 2 ช่อง อาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่ก็เรียกได้ว่าระบายความได้ดีในระดับหนึ่ง เมื่อใช้เล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 95 องศาสำหรับ CPU และ 86 องศาสำหรับ GPU แนะนำว่าให้ใช้ Cooling Pad เสริมด้วยจะดีมากหากนำไปใช้งานเป็นเวลานานๆ ครับ
Conclusion / Award
สรุป MSI GF63 8RD ถือเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดแรงเทรนใหม่ที่เน้นเรื่องขอบจอบาง น้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น แถมติดตั้งสเปคโคตรแรงทั้ง Intel Core i7-8750H รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสุดแรง บวกกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q Z(4 GB) ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็น Max-Q จริงๆ แล้วเพื่อทำให้เครื่องบางขึ้น และจ่ายไฟได้น้อย แต่ยังคงประสิทธิภาพที่แรงเหมือนเดิม ดีไม่ดีหากดูหากดูจากกราฟ GTX 1050Ti Max-Q ตัวนี้ แรงกว่า GTX 1050Ti รุ่นอื่นอีกด้วยซ้ำ เพราะว่า MSI เขา Optimize เครื่องมาดีจริงๆ รีดประสิทธิภาพได้เต็มที่
รวมไปถึงเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่เป็นมาตรฐานใหม่หมด ช่อง USB จะเป็นเวอร์ชั่น 3.1 ทุกพอร์ตและมี Type C มาด้วย พอร์ต HDMI ก็อยู่ที่ด้านหลังตัวเครื่องทำให้สามารถเชื่อมต่อจอแยกได้ง่าย ลำโพงเลือกใช้ระบบเสียง Nahimic 3 เสียงที่ได้ถือว่าโอเคมากๆ ดูดีกว่ารุ่นอื่นแบบรู้สึกได้เลย การใช้งานแป้นพิมพ์ถึงแม้ว่าจะไม่มี Numpad และไม่ใช่ของ Steelseries แต่การใช้งาน การกด การสัมผัส ถือว่าทำได้ดีมากและขนาดปุ่มกดค่อนข้างใหญ่พิมพ์มันมือสุดๆ
ส่วนข้อสังเกตหลักๆ เลยคือเครื่องของการระบายความที่มีพัดลมตัวเดียวทำให้สู้รุ่นพี่ตัวอื่นไม่ได้ ที่มีทั้งพัดลมสองตัวฮีทไปป์ 6 เส้น+ ดังนั้นหากใครที่จะซื้อไปเล่นเกมหนักๆ ทั้งวันอาจจะต้องไปดูรุ่น GL63 GF62 หรือ GE63 ดีกว่า แต่ถ้าหากใครเน้นพกพาเล่นเกมบ้างบางครั้งคราวและไม่ได้ใช้งานหนักทั้งวัน MSI GF63 8RD รุ่นนี้คือคำตอบของคุณแน่นอน บอกเลยว่าถ้าใส่ SSD m.2 ไปอีกสักตัวนะ แจ่มแมวเลยละกับค่าตัวเพียง 32,900 บาทเท่านั้น
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามมินิมอล เรียบง่าย งานประกอบแน่นวัสดุดี
- ตัวเครื่องบางเฉียบ โดยมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาสะดวก
- สเปคประสิทธิภาพสูงได้ทั้ง Intel Core i7-8750H และการ์ดจอ GTX 1050Ti Max-Q
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วขอบจอบางเพียง 4.9 มม.
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันและเป็นมาตรฐานใหม่หมด USB 3.1 Type A, USB 3.1 Type C, HDMI
- รองรับ SSD m.2 PCIe NVMe Gen 3
- ใช้ซอฟต์แวร์ Dragon Center เวอร์ชั่นใหม่ ช่วยปรับแต่งเครื่องให้ดียิ่งขึ้น
- ตัวเครื่องทำการ Optimize มาค่อนข้างดี ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพของเครื่องได้สูงกว่าปกติทั่วไป
- ราคาไม่แพงจนเกินไปเหมือนกับรุ่นพี่ตัวอื่นเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้
ข้อสังเกต
- ตัวเครื่องใช้พัดลมตัวเดียว หากใช้งานหนักๆ เป็นเวลานานๆ เครื่องจะค่อนข้างร้อน
- อแดปเตอร์จ่ายไฟไม่เล็กลงตามขนาดเครื่อง
- MSI GF63 8RC รุ่นถูกกว่าแถม SSD m.2 128 GB แต่รุ่นนี้กลับไม่แถมเฉย
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GF63 8RD ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Performance
MSI GF63 8RD มีสเปคที่ครบครันทั้งชิบประมวลผล Core i7-8750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti Max-Q (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องที่อัพเกรดได้มากถึง 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และรองรับ SSD m.2 แบบ PCIe NVMe Gen 3 ตัวแรงด้วย รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อก็เป็นมาตรฐานใหม่หมด USB เป็น 3.1 ทุกพอร์ตทั้ง Type A และ Type C
Best Mobility
ความสามารถในการพกพาของ MSI GF63 8RD อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบทที่หนาเพียง 21.7 มม. และน้ำหนักเบา 1.86 กิโลกรัม และขอบจอบาง 4.9 มม. ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายไม่หนัก