โดย Xiaomi Mi Laptop Air 13.3″ มีขนาดหน้าจอ 13.3″ ที่นับว่าเป็นขนาดมาตรฐานของ Ultrabook โดยเน้นการพกพาเป็นหลัก ซึ่งดีไซน์ต้องบอกว่าสวยงามตามสมัยนิยม กับดีไซน์ที่คล้าย MacBook Pro แต่มีความบางและเบากว่า แน่นอนว่าราคาก็เบากว่าเช่นกัน (เมื่อเทียบสเปกต่อราคา) เพราะมีราคา 35,990 บาท ที่เทียบแล้วมีราคาถูกกว่า MacBook เป็นเท่าตัว แต่กลับมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าเพราะสเปกภายในเป็นตัวแรงและรุ่นล่าสุด
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ Xiaomi Mi Laptop Air 13.3″ มีความละเอียด Full HD พาเนล IPS พร้อมขอบจอ Bezel บางเพียง 5.59 มิลลิเมตร ตัวเครื่องก็มีความบางเพียง 14.8 มิลลิเมตรเท่านั้น น้ำหนักก็เบามากๆ เพียง 1.28 กิโลกรัม แน่นอนว่าวัสดุตัวเครื่องเป็นอลูมิเมียมแม็กนีเซียมอัลลอยด์ ซึ่งมีงานประกอบที่ยอดเยี่ยม ทนทานแน่หนา ทั้งจากที่ดูด้วยตาเปล่าและการสัมผัส บอกได้ถึงงานเนียบระดับโน๊ตบุ๊คพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า สีของเครื่องในงานจะเป็นรุ่นสีเทา Space Gray คาดว่าน่าจะมีสีเงิน Silver มาให้เลือกซื้อเช่นกัน
ปุ่มคีย์บอร์ดขนาดปุ่มที่ใหญ่ขึ้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปมาก แบบรับรองได้เลยว่า ไม่ว่านิ้วจะใหญ่ขนาดไหนก็กดโดนปุ่มถูกต้องแน่นอน ส่วนไฟตามปุ่มคีย์บอร์ดจะติดขึ้นมาเฉพาะบริเวณที่มีตัวอักษรเท่านั้นครับ ไม่มีไฟส่วนเกินแยงจากใต้ปุ่มออกมาแต่อย่างใด ส่วนที่เห็นว่าปุ่มของเครื่องในพรีวิวเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ซึ่งเครื่องขายจริงก็จะไม่มีแป้นไทยเช่นเดียวกัน แต่ใครจะไปเลเซอร์เพิ่มอันนี้ไม่ว่ากัน ประกันไม่ขาด ส่วนทัชแพดก็มีขนาดใหญ่ พร้อม Finger Print ผ่านทาง Windows Hello
สเปคภายใน Xiaomi Mi Laptop Air 13.3″ เลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i Gen 8 อย่าง i5-8250U ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ความเร็ว 1.60 – 3.40 GHz พร้อมแรมมาตรฐาน DDR4 ขนาด 8GB และ SSD แบบ PCIe ความจุถึง 256GB พร้อมช่องสำหรับใส่ SSD เพิ่มมาตรฐาน M.2 อีกหนึ่งสล็อต ที่สำคัญการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce MX150 (2GB) ตัวแรงระดับเทียบเท่า GTX 950M เรียกได้ว่าพอที่จะเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างลื่นไหลทีเดียว โดยแบตเตอรี่อยู่ได้นานสุดประมาณ 10 ชั่วโมง
นอกเหนือจากนี้ยังรองรับการชาร์จแบบไว้ที่ภายใน 30 นาที ชาร์จได้เร็วถึง 50% และมีพอร์ท USB 3.0 Type-C สองพอร์ตและ HDMI, USB 3.1 Type-C ครบครัน หูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. รวมไปถึงลำโพงสเตอริโอที่ติดตั้งมานั้นเป็นของ AKG พร้อมเทคโนโลยีเสียงของ Dolby อีกทั้งก็ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มาให้ใช้งานได้ทันที ไฮไลท์อีกอย่างอยู่ที่การเข้าใช้งานสามารถใช้ Wearable อย่าง Mi Band ปลดล็อคได้อีกด้วย
ไว้ยังไงทีมงาน NBS จะหามารีวิวให้ได้ชมกันอย่างแน่นอน ส่วนคนที่สนใจก็เตรียมเงินเอาไว้ได้เลย เพราะขายแล้วตามห้างร้านไอทีชั้นนำอย่าง Mi Store, IT City, Advice และร้านค้าอื่นๆ เรียกได้ว่า Xiaomi ทำตลาดจริงจังกับ Mi Laptop Air 13.3″ แน่นอน แม้ว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะคิดว่าราคาของ Xiaomi Mi Laptop Air 13.3″ ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเครื่องนี้ราคาสูงไปหรือเปล่า เมื่อเทียบกับสเปก
ตรงนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้อแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาแล้วเราจะเห็นผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi จะมีราคาที่ถูกกว่าแบรนด์อื่นๆ ต้องอย่าลืมว่าโน๊ตบุ๊คระดับสูงหนึ่งเครื่องนั้น มีต้นทุนที่สูงและกำไรรวมๆ แล้วไม่มากเท่ามือถือ ถ้าให้ตั้งราคาถูกกว่านี้ คาดว่าน่าจะไม่ไหว ยังไงใครเป็นแฟน Mi ก็ต้องเข้าใจตรงจุดนี้ด้วย ว่าจะให้ราคาถูกแบบเวอร์ๆ คงเป็นไปไม่ได้ และต้องบอกว่าเพียงเท่านี้ก็น่าซื้อกว่า MacBook Pro ในสเปกใกล้เคียงกันแล้ว ส่วนโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ของ Xiaomi น่าจะมีตามมาอีกที เช่นตัว Mi Laptop Gaming นั่นเอง