The Crew เป็นเกมแข่งรถที่มีจุดเด่นตรงที่การแข่งขันแบบออนไลน์รวมกลุ่มกับเพื่อนเพื่อออกไปทำภารกิจได้วางจำหน่ายไปเมื่อปี 2014 และอีก 4 ปีให้หลังต่อมา Ubisoft ก็ได้ปล่อยภาคต่อออกมาแล้วกับ The Crew 2 ที่ยกระดับความมันส์เพิ่มขึ้นด้วยการแข่งขันที่มีมากกว่าแค่แข่งรถบนถนนแต่สามารถแข่งขันด้วยยานพาหนะแบบอื่นได้ด้วย
The Crew 2 จะเป็นเกมแข่งรถมอเตอร์สปอร์ตแบบโลกเปิด Open World เหมือนกับภาคแรกโดยที่เราสามารถขับรถท่องเที่ยวไปทั่วสหรัฐอเมริกาได้ซึ่งคุณจะสามารถไปเที่ยวจุดที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ๆ ได้หรือขับข้ามเมืองจาก Los Angeles ไป New York ก็ทำได้เช่นกัน
อีกจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของภาคนี้ก็คงไม่พ้นระบบการเปลี่ยนยานพาหนะแข่งขันซึ่ง The Crew 2 นอกจากเราจะได้แข่งรถทางเรียบแล้วจะสามารถเปลี่ยนไปแข่งเรือหรือขับเครื่องบินแข่งขันกันได้ครับแถมยังเปลี่ยนโหมดการแข่งได้ทันทีก็เป็นความแปลกใหม่ทีเดียวเพียงแต่ว่าบรรดายานพาหนะพวกเรือหรือเครื่องบินมีเลือกน้อยไปเสียหน่อยและ Event ไม่หลากหลาย
นอกจากจะแข่งเรือ/เครื่องบินแล้วตัวเกมก็ยังมีแข่งมอเตอร์ไซค์แบบมอเตอร์ครอสด้วยครับแต่ว่าการควบคุมค่อนข้างสับสนและอยู่ในเกณฑ์ที่แย่พอสมควรขณะเดียวกันถ้าเป็นการแข่งรถบนท้องถนนกลับกลายเป็นว่ามีรถหลากหลายแบบให้เล่นเยอะกว่ามากเลยทำให้พอนาน ๆ ไปรู้สึกว่าแข่งขันรถบนถนนยังดีกว่าแข่งแบบอื่น ๆ อีก
ภายในเกมก็มีระบบผู้ติดตาม Follower ให้ด้วยครับซึ่งค่าผู้ติดตามจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเราขับรถได้โดนใจผู้ชมเช่นขับผาดโผนแบบสตันท์แมนหรือแค่ขับแจ่งใน Event ต่าง ๆ ยอดผู้ติดตามก็เพิ่มขึ้นโดยจะมีระดับให้ไต่เต้ากันไปเริ่มจากนักแข่งโนเนมไปจนถึงซุปเปอร์สตาร์นักแข่งก็สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ภาคนี้ที่ให้เราเป็นจ้าวแห่งการแข่งขัน
ระบบแต่งรถก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยกับเกมแนวนี้และใน The Crew 2 เองก็ออกแบบระบบแต่งรถได้ค่อนข้างแปลกเพราะว่าเราจะเพิ่มสมรรถนะรถได้ก็ต่อเมื่อแข่ง Event จบแล้วต้องสุ่มของหลังจบการแข่งเป็นระบบ Loot สุ่มของแต่งดี ๆ นั่นเองและก็หมายความว่าการจะได้ของแต่งดี ๆ หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแต้มบุญของคนเล่นแล้วล่ะ
การแต่งรถที่ใช้ระบบสุ่มของก็ดูแปลกแล้วทางด้าน AI ในเกมเองอาจจะไม่แปลกประหลาดแต่ก็โหดใช้ได้ทีเดียวอย่างเช่นถ้าแข่งรถแล้ววิ่งไม่หลุดโค้งหรือเกิดความผิดพลาดเราก็อาจจะชนะมันแต่ถ้าเกิดพลาดเองแม้เพียงเล็กน้อยเหล่า AI ก้พร้อมจะแซงคุณได้ทุกเมื่อและหากของแต่งรถคุณจัดเต็มเท่าไหร่ AI ก็จะมีสเปครถเหมือนกันกับคนเล่น
ขึ้นชื่อว่า The Crew ก็คือการเล่นร่วมกันเป็นทีมก็แน่นอนว่าภาคที่ 2 ผู้เล่นกับเพื่อนก็สามารถรวมกลุ่มกันแข่งขันได้แบบออนไลน์ซึ่งตัวเกมจะบังคับผู้เล่นให้เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลาหากจะเล่นเกม เมื่อรวมทีมกันเข้าแข่งขัน Event คู่แข่งคันอื่น ๆ ก็จะเป็น AI แต่ถ้าจะท้าทายผู้เล่นที่ออนไลน์อยู่ต้องบอกว่าไม่สามารถทำได้
ถึงเราจะสามารถเห็นผู้เล่นคันอื่น ๆ ขับผ่านไปมาได้แต่ทว่าไม่สามารถท้าแข่งไป Challenge กับผู้เล่นอื่น ๆ ได้เลยไม่มีระบบ Lobby ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถแข่งขันกับผู้เล่นแปลกหน้าได้ด้วยตนเองก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายทีเดียวที่เป็นเกมออนไลน์ต่อเน็ตแต่ไม่สามารถแข่งกับคนอื่นได้
การควบคุมรถก็ไม่ต้องห่วงว่าจะคุมยากเพราะ The Crew 2 จะให้ความเป็นเกมอาร์เขตมากกว่าครับทำให้การขับขี่เลี้ยวโค้งได้ทันทีหรือการชนสิ่งกีดขวางก็ไม่ถึงขั้นรถพังยับอาจจะพูดได้ว่าเป็นเกมแข่งรถเน้นสนุกเอามันส์กว่าความซีเรียสจริงจังการขับขี่ด้วยความสมจริง
ข้อเสียของเกมนอกจากระบบ Multiplayer ที่ว่าไปก็ยังมีเรื่องของระบบใช้เงินจริงเพื่อซื้อรถซึ่งรถบางคันก็มีราคาแพงเอาเรื่อง เนื้อหาของเกมก็ดูจะไม่จริงจังเท่าภาคแรกนักพวกฉากคัทซีนหรือบทสนทนาไดอะล็อคในเกมไม่มีแรงดึงดูดค่อนข้างจืด ๆ ไปเลย
รวม ๆ แล้ว The Crew 2 เป็นเกมแข่งรถ Open World ที่มอบความแปลกใหม่กับการแข่งขันได้หลายแบบแผนที่อันกว้างใหญ่ตระการตาท่องเที่ยวทั่วสหรัฐได้เต็มที่แต่ตัวเกมก็มาสะดุดตรงการเล่นออนไลน์ที่ไม่สามารถแข่งกับผู้เล่นแปลกหน้าคนอื่นได้หรือเนื้อหาเกมที่ไม่เน้นจริงจังอะไรเอามันส์เข้าว่าอย่างเดียว
The Crew 2 (PlayStation 4 , Xbox One , PC)
ผู้พัฒนา: Ivory Tower
ผู้จัดจำหน่าย: Ubisoft
วันวางจำหน่าย: 29 มิถุนายน 2018
Link: Steam
Minimum Requirements (30 fps)
- CPU: Intel Core i5-2400s @ 2.5 GHz / AMD FX-6100 @ 3.3 GHz
- RAM: 8 GB
- OS: Windows 7 SP1 , Windows 8.1 , Windows 10 (64-bit versions only)
- VIDEO CARD: NVIDIA GeForce GTX 660 / AMD HD 7870
Recommended Requirements (60 fps)
- CPU: Intel Core i5-4690k @ 3.5 GHz / AMD Ryzen 5 1600 @ 3.2 GHz
- RAM: 8 GB
- OS: Windows 7 SP1 , Windows 8.1 , Windows 10 (64-bit versions only)
- VIDEO CARD: NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) / GTX 970 (4GB) / AMD RX 470 (8GB)
Score: 55/100
ที่มา: PCGAMER