ถ้าพูดถึงมอนิเตอร์สำหรับผู้ที่ต้องการให้ภาพที่ออกมามีสีสันตรงตามมาตรฐาน ภาพสวย ชื่อของ BENQ คงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลายท่านคงอยากจะได้มาใช้งานกัน ในบทความนี้เราจะมารีวิวในส่วนของมอนิเตอร์ระดับบนที่เน้นประสบการณ์ใช้งานความบันเทิงอย่าง BENQ EL2870U กับคุณสมบัติการแสดงผล HDR 10 แบบความละเอียด 4K UHD พร้อมรองรับ Free Sync ไม่ให้ภาพฉีกขาด และในขณะเดียวกันก็ยังมี BI+ ฟังชันก์เฉพาะตัวของทางเบ็นคิวที่ปรับแสงอัตโนมัติ ช่วยถนอมสายตาและลดอาการสายตาล้าเมื่อต้องมองจอเป็นเวลานานๆ
ที่สำคัญรองรับทั้งเครื่องเล่นเกมคอนโซล PlayStation 4 และพีซีไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่าจอเดียวจบทั้งเล่นเกมและความบันเทิง ไม่ต้องขยับไปไหนกันเลยทีเดียว สนนราคาเพียง 14,200 บาท พร้อมรับประกัน 3 ปีมาตรฐาน BENQ
สเปค BENQ EL2870U
- ขนาดหน้าจอ 27.9″ อัตราส่วนหน้าจอแบบ 16:9
- ความละเอียด 3840×2160 (Ultra HD) 60 Hz
- พาเนล TN คุณภาพสูง เป็นจอแบบด้าน (ลดแสงสะท้อน)
- อัตราส่วนคอนทราสต์ 1,000:1
- ระดับความสว่างที่ 300 cd/m²
- Response time 1ms สำหรับ gray to gray
- มุมมองจอ 170/160 องศาทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- พอร์ตเชื่อมต่อ
- 2 x HDMI
- 1 x DisplayPort
- 1 x แจ็ค 3.5 มิลลิเมตร ไว้ต่อเสียงออกลำโพงหรือหูฟัง
- 1 x ช่องเสียบปลั๊กไฟ
- ขนาดมากสุดเมื่อรวมขาตั้ง: 657.9 x 476.27 x 149.6 น้ำหนักเฉพาะจอ 5.7 กิโลกรัม
- รองรับเมาท์ติดผนังตามมาตรฐาน VESA (100mm)
- ใช้ไฟมากสุด 55W และเมื่อสลีปจะใช้ต่ำสุดแค่ 0.5W
- อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง: สาย HDMI, สายไฟ และก็เอกสารอื่นๆ
- ประกันนาน 3 ปี ส่งตามตัวแทนหรือศูนย์บริการ
- ราคา 14,200 บาท
กล่องของ BENQ EL2870U เป็นกล่องกระดาษลูกฟูกธรรมดาตามมาตรฐาน BENQ ที่เน้นความเรียบง่าย ซึ่งมีการระบุฟีเจอร์ต่างๆ เอาไว้อย่างชัดเจนเข้าใจง่าย ส่วนบรรจุภัณฑ์ก็ทำออกมาได้เรียบร้อยและปลอดภัยทำให้อุปกรณ์ภายในไม่เสียหายง่ายๆ โดยภายในกล่องของ BENQ EL2870U มีตัวหน้าจอมอนิเตอร์ ฐานตั้ง ขาตั้ง รวมไปถึงสายสัญญาณ HDMI และสายไฟ คู่มือมาให้ ซึ่งเราก็สามารถพร้อมเชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
มาดูตัวเครื่องภายนอกโดยรวมของของ BENQ EL2870U ก่อนแล้วกัน งานประกอบแน่นหนาพอประมาณตามสไตล์ BENQ ให้ความรู้สึกที่ดูแน่นหนาอยู่เหมือนกัน ส่วนหน้าตาต้องบอกเลยว่ามาในแบบของ BENQ จริงๆ คือดูมีความเป็นเหลี่ยมๆ แข็งแรง ต่างจากแบรนด์อื่นในตลาดที่นิยมใส่ความโค้งมนและความเงางามเข้ามา
เรียกว่าถ้ามองภายนอก BENQ ให้ภาพของความเป็นมืออาชีพได้ดีมากๆ ขอบจอทั้ง 4 ด้านไม่หนาเทอะทะหรือบางเฉียบจนเกินไปด้วยโทนสีสันเป็นสีดำแบบด้านและมันวาวสลับกับเทาซึ่งดูคล้ายกับโลหะราคาแพง ที่จัดวางภายในห้องได้อย่างลงตัวสุดๆ ซึ่งไม่ว่าเราจะเอาวางไว้ใช้งานร่วมกับเครื่อง PlayStation 4 รวมไปถึงพีซีทั้งแบบตั้งโต๊ะหรือโน๊ตบุ๊คก็ดูเหมาะสมและสวยงาม
สำหรับขาตั้งไม่ได้ติดตั้งมาตั้งแต่แรก แต่เราเราสามารถติดตั้งเองได้ง่ายๆ โดยประกอบไปด้วยสองส่วนคือแกนขาตั้งและฐาน ซึ่งแกนเราสามารถใช้ไขควงสี่แฉกตัวใหญ่หน่อยในการไขยึดเข้าไปกับตัวจอ ส่วนฐานจะเป็นตัวยึดหมุนซึ่งเราสามารถใช้มือเปล่าหรือไขควงหมุนเข้าไปได้ ที่ต้องยอมรับว่า ขาตั้งของ BENQ EL2870U ทำออกมาได้แข็งแรงดี ไม่ต้องกลัวล้มเลย โดยสามารถปรับก้มเงยได้ประมาณนึงที่ 5~15 องศา อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถหมุนซ้ายขวาได้ ถ้าจะหมุนต้องขยับทั้งฐาน ซึ่งโดยส่วนตัวก็ไม่มีปัญหาอะไร
ดีไซน์อื่นๆ ของ BENQ EL2870U ก็มีความเรียบหรูดูดี ทั้งขนาดหน้าจอที่แม้จะใหญ่ 28″ (27.9″) พร้อมขอบตัวเครื่องที่มองจากมุมไหนก็มีความบางตามสไตล์นิยมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน โดยตามขอบหน้าจอรอบๆ ทั้งด้านบน ซ้ายขวา ก็จะมีช่องระบายความเล็กๆ กระจายอยู่ทั่ว ช่วยในเรื่องของอุณหภูมิหน้าจอเวลาใช้งานนานๆ จะไม่เกิดความร้อนที่สูงจนเกินไป ซึ่งด้านหลังก็จะเป็นโลโก้ BENQ ขนาดใหญ่ พร้อมกับชุดช่อง VESA ที่ทำให้เราติดหน้าจอมอนิเตอร์กับผนังได้
นอกเหลือจากนั้นขอบด้านล่างของทั้ง 2 ฝั่ง ได้มีการติดตั้งลำโพงเอาไว้ 2 ตัวด้วยกัน ให้เสียงที่ดังพอประมาณ ซึ่งให้กำลังข้างละ 2Watt เสียงที่ออกมาคุณภาพอาจจะไม่ได้สูงมากเหมือนลำโพงจริงๆ แต่ก็พอใช้งานได้กรณีที่เราไม่ได้ดูหนังหรือฟังเพลงจริงจัง สำหรับใครเน้นคุณภาพเสียงจริงๆ ให้ต่อชุดลำโพงหรือหูฟังดีๆ ไปเลยจะเหมาะสุด ซึ่งตรงนี้เราจะเห็นถึงปุ่มควบคุมเมนูของ BENQ EL2870U ด้วย
ในส่วนของ Interface หรือการปรับแต่งการใช้งานตัวมอนิเตอร์นั้นทาง BENQ ได้ทำปุ่มเมนูเป็นลักษณะปุ่มกดปกติที่ดูเรียบง่าย ปุ่มควบคุมเมนูรวมไปถึงปุ่ม Power ได้ถูกติดตั้งไว้ขอบมุมขวาล่างของหน้าจอ BENQ EL2870U โดยเป็นแบบซ่อนปุ่มไว้ขอบล่าง
เมื่อเราใช้งานจริงเพียงแค่กดปุ่มใดปุ่มหนึ่ง ก็จะมี OSD (On Screen Display) ปรากฏขึ้นที่จอ ทำให้สามารถรู้ได้ทันทีว่าปุ่มที่เรากดใช้ทำอะไร
ที่สำคัญยังมีปุ่มไว้เปิดการใช้งานฟีเจอร์ HDR 10 ตามแต่คอนเทนต์หรือเครื่องที่รองรับอย่างเครื่องเล่นเกมคอนโซล PlayStation 4 หรือเกมพีซีบางเกม และ BI+ ช่วยปรับแสงตามสภาพแวดล้อมทั้งเรื่องอุณหภูมิสีและความสว่าง ซึ่งการกดเปิดใช้งานนั้นง่ายมากๆ โดยกดเลือกที่ปุ่ม HDR |B.I.+|B.I.+ |B.I.+ บนกรอบจอ จะปรากฎภาพแสดงสถานะ HDR/ HDR/HDR/B.I.+B. ซึ่งการสลับการตั้งค่า HDR/B.I.+กดปุ่มเดิมซ้ำเรื่อยๆ ระบบจะสลับการตั้งค่าปิดเปิดไปมา
พอร์ตการเชื่อมต่อภายนอกของ BENQ EL2870U รองรับดิจิตอลแบบเต็มรูปแบบ จะอยู่บริเวณด้านล่างหลังตรงกลางของจอภาพ โดยจากภาพประกอบไล่จากทางช่องซ้ายมือ จะเป็นช่องพอร์ตอะแดปเตอร์จ่ายไฟเพื่อจ่ายพลังงานมายังจอมอนิเตอร์, พอร์ต HDMI 2.0 จำนวน 2 พอร์ต ที่เราสามารถเลือกเชื่อมต่อทั้งโน๊ตบุ๊คและ PlayStation4 ได้พร้อมๆ กับ รวมไปถึงยังมี Display Port 1.2 ไว้เชื่อมต่อกับคอมตั้งโต๊ะที่มีการ์ดจอแยก ถัดไปจะเป็นช่องสัญญาณหูฟังแบบมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าสมกับเป็นมอนิเตอร์ระดับมืออาชีพยุคนี้จริงๆ
จอ BENQ EL2870U ถูกออกแบบมาให้มีขอบจอที่บาง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นไร้ขอบซะทีเดียว ส่วนเรื่องของสีสันบอกเลยว่าหายห่วง เรียกได้ว่าดีกว่ามอนิเตอร์ราคาหลักพันอย่างแน่นอน กับเรื่องของคุณภาพโดยรวม
พอลองใช้งานจริง สีสันที่ BENQ EL2870U แสดงออกมา ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานของ BENQ เลย กับพาเนล TN คุณภาพสูง ทั้งเรื่องความสดใสของสีสันที่ไม่มากเกินไป คอนทราสต์ที่กำลังเหมาะกับการใช้งาน ถือว่าเป็นจอสำหรับใช้เล่นเกม หรือจะใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันก็ได้เช่นกันครับ ด้วย 1000 : 1 contrast ratio, ความสว่าง 300-nits
รับรองเลยว่าถูกใจเรื่องการเล่นเกมหรือความบันเทิงไม่แพ้เรื่องการทำงานด้วยการรองรับเทคโนโลยี HDR (High Dynamic Range) ทำให้เห็นทุกรายละเอียดของขอบเขตระหว่างพื้นที่ที่มืดและสว่างเพื่อสร้างภาพให้สมจริงราวกับสิ่งที่ดวงตาของเรามองเห็น โดยรองรับทั้งเกม PlayStation 4 และเกมพีซี นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Brightness Intelligence Plus (B.I.+) ตรวจจับความสว่าง และอุณหภูมิของสีเพื่อปรับระดับของแสงให้สบายตามากยิ่งขึ้น โดยใช้แสงนวลตาโทนอุ่นเพื่อความสบายตาส่วนแสงสีขาวโทนเย็นเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน ซึ่งเทคโนโลยีทั้ง 2 นี้ เราสามารถเลือกเปิดปิดการใช้งานได้อย่างอิสระ
BENQ EL2870U มีหน้าจอขนาด 27.9 นิ้ว (ตีกลมๆ ก็คือ 28 นิ้ว) ความละเอียด Ultra HD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ตามมาตรฐานของมอนิเตอร์ระดับสูงที่เน้นประสบการณ์ความเรียบเนียนของเม็ดพิกเซล ทำให้เราแทบไม่เห็นรอยต่อ ส่วนพาเนลเป็น TN พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนปัญหาเรื่องแสงรั่วตรงขอบจอ จากที่ลองทดสอบมาและสังเกตุมาคือไม่มีให้เห็นเลย
ส่วนการแสดงผลภาพเคลื่อนไหวก็อยู่ในระดับดีมาก ด้วย Response Time 1 ms , Native 60 Hz Refresh Rate, 1000 : 1 Contrast Ratio, ความสว่าง 300 cd/m2 เหมาะกับการเล่นเกมแนว MMO, MOBA หรือเกมที่มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วประมาณนึง ด้วยเวลาในการตอบสนอง 5ms, 1ms(GtG) ที่สำคัญด้วยชิปประมวลผลภาพ AMD FreeSync จึงทำให้ไม่เกิดภาพ Ghost หรือ Tearing เลย แต่ก็ต้องใช้ร่วมกับการ์ดจอ AMD ที่รองรับด้วย หรือใครใช้การ์ดจอ NVIDIA อยู่ก็เปิดใช้ VSync แทนได้
โดย V-Sync หรือ Vertical Synchronization คือกระบวนการในการควบคุม Refresh Rate ของหน้าจอ ซึ่งมันจะคอยแก้ปัญหาภาพเหลือม หรือ Tearing เช่นกัน แต่เป็นการอาศัยตัวเกมรวมไปถึงชิปประมวลผลในการทำงานให้มี Refresh Rate ที่เหมาะสมแทน อย่างกรณี BENQ EL2870U มี 60 Hz Refresh Rate ก็หมายความว่า รองรับการแสดงผลสูงสุดที่ 60 FPS (Frame per Second) ถ้าส่งมา 100 FPS ก็จะโดนปรับลงให้เหลือ 60 FPS ถ้าส่งมาต่ำกว่า 60 ค่าของ VSync จะถูกชดเชยให้เท่ากับสื่อที่ส่งมาเลือกกระบวนการนี้ว่า Effective FPS นั่นเอง
Low Blue Light : โหมด Reading (ซ้าย) และ Multimedia (ขวา)
นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Low Blue Light Technology เทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าได้รับการออกแบบมาเพื่อกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ช่วยลดอาการสายตาล้าและระคายเคืองที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อต้องมองหน้าจอเป็นเวลานานๆ ผู้ใช้สามารถปรับระดับได้ทั้งหมด 4 แบบคือ สำหรับชมมัลติมีเดีย ท่องเว็บ ทำงานออฟฟิศ และ การอ่าน ให้สิ่งดีๆ กับดวงตาโดยที่ไม่พลาดการรับชมสิ่งที่น่าสนใจ
สรุปแล้วจอมอนิเตอร์ BENQ EL2870U เป็นจอที่เหมาะกับทั้งการใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไปเน้นความบันเทิงมาตรฐานล้ำๆ อย่างความละเอียด Ultra HD 4K และ HDR รวมถึงการใช้งานตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ไปจนถึงกึ่งโปร ถ้าเอาไปเล่นเกมแนว MOBA หรือเชื่อมต่อกับ PlayStation 4 ก็เหมาะสมอย่างสุดๆ กับราคาค่าตัวในช่วงไม่เกินหมื่นบาทกลางๆ
BENQ EL2870Uน่าจะเป็นหนึ่งในจอมิเตอร์ที่สามารถเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลายคนที่กำลังมองหามอนิเตอร์เพื่อการใช้งานตั้งแต่ระดับทั่วไป หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมด้วยเครื่องเล่นเกมคอนโซล PlayStation 4 ร่วมกับการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบๆ ให้ประสิทธิภาพในการแสดงผลที่สูง ทำให้ภาพที่ได้รับออกมาเป็นที่น่าประทับใจแบบหาได้ยากในมอนิเตอร์ทั่วไป แถมฟีเจอร์เพียบ
เชื่อว่าเมื่อเทียบกับประสบการณ์การใช้งานที่จะได้รับแล้ว กับราคา 14,200 บาท รับประกัน 3 ปี คุ้มค่าแบบสุดๆ อย่างแน่นอน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วจะบอกว่าหน้าจอมอนิเตอร์เดิมของ BENQ อายุเกือบ 10 ปี ที่ใช้งานอยู่ยังไม่เสียเลย (แต่มีเรื่องความเสื่อมของสีบ้าง) ฉะนั้นเรื่องความทนทานก็หายห่วงไว้ใจได้อยู่
จุดเด่น
- มอนิเตอร์ระดับมืออาชีพ ขนาดใหญ่ถึง 27.8 นิ้ว
- ดีไซน์สวยเรียบ วัสดุดี งานแน่นหนา ทนทาน
- ความละเอียดสูงระดับ 3840 × 2160 พิกเซล (16:9)
- จอเป็นพาเนล TN ให้การแสดงผลที่ดี
- มีค่า Response Time เพียง 1ms (G2G)
- มีฟีเจอร์ด้านการแสดงผลครบครัน
- ติดตั้งลำโพงมาพร้อมใช้งานทันที
- มีพอร์ตการเชื่อมต่อหลากหลาย
- รับประกัน 3 ปี
ข้อสังเกต
- น้ำหนักค่อนข้างมาก ยากต่อการเคลื่อนย้าย
- ฐานตั้งสามารถปรับได้แค่ก้มเงยเท่านั้น
- เหมาะกับการใช้งานคนเดียว
>> อ่านรายละเอียดสินค้า https://goo.gl/QSCdhg
>> เช็คราคา https://goo.gl/tYhdHd