ที่ใช้สเปกใหม่ล่าสุดอย่าง i5-8300H, i7-8750H รวมไปถึงชิปประมวลผลตัวท็อปเทพอย่าง i9-8950HK ร่วมกับการ์ดจอ GTX 1050 Ti หรือ GTX 1050 Max-Q ด้วยความบางของตัวเครื่องเพียง 18.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้นสำหรับรุ่น UX580 และ UX480 จะเป็นความบาง 17.9 โดยเบาเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายเบาบางที่มีความแรงมากที่สุดในโลกรุ่นนึงก็ว่าได้
สเปกโดยรวมคร่าวๆ ของ ASUS ZenBook Pro UX580, UX480
- หน้าจอขนาด 15.6″, 14″ ใช้พาเนลแบบ IPS ความละเอียดที่ระดับ 4K UHD หรือ Full HD
- หน่วยประมวลผล Intel Core i5-8300H, i7-8750H, i9-8950HK
- หน่วยความจำแรม 8, 16 GB แบบ DDR4 2400 MHz
- แหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ 1TB / 512GB PCIe SSD หรือ 512GB / 256GB SATA3 SSD
- การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti หรือ 1050 Max-Q
- กล้องหน้าความละเอียด 720p (อยู่ทางขอบบนของตัวหน้าจอ)
- พอร์ตการเชื่อมต่อประกอบไปด้วย Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต, USB 3.2 Type-A จำนวน 2 พอร์ต, HDMI ช่องหูฟังและที่ชาร์จปกติ
- UX580 จะใช้สแกนลายนิ้วมือ ส่วน UX480 จะเป็นกล้อง IR เพื่อใช้งาน Windows Hello
- มาพร้อม Windows 10 แท้ พร้อมใช้งานทันที
Preview ASUS ZenBook Pro 15 UX580
สำหรับไฮไลน์นอกเหนือจากสเปกที่โคตรแรงด้วย Core i9 + GTX 1050Ti ประสิทธิภาพแรงกว่า Desktop PC ชัดๆ ที่มาในรูปแบบของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 ตัวท็อป รวมไปถึงดีไซน์การออกแบบที่ต้องยอมรับว่า ASUS ทำการบ้านซีรีส์ของ ZenBook มาดีโดยตลอด ก็จะเป็นในเรื่องของหน้าจอ ที่ต้องบอกว่าเหมาะสำหรับสายการทำงานมืออาชีพหนักๆ ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อวีดีโอ หรือโปรเซสไฟล์ภาพนิ่ง หรือทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน
เพราะหน้าจอเป็น 15.6″ ความละเอียด 4K Ultra HD (ส่วนรุ่นจอ 14″ จะเป็น Full HD)พาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง พร้อมขอบเขตสีที่ดีมากๆ ด้วยมาตรฐาน sRGB 132% เลยทีเดียว รวมไปถึงขอบจอก็ยังบางเฉียบตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คในปัจจุบัน อีกทั้งตัวเครื่องเองยังรองรับการต่อหน้าจอออกไปด้วยกันถึงอีก 3 หน้าจอ ผ่านทางพอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 2 ช่อง และ HDMI อีกหนึ่งช่อง ที่สำคัญยังสามารถเปิดหน้าจอที่ 5 ได้ด้วยผ่านทางทัชแพดแบบเดิมๆ แต่เปลี่ยนเป็น ScreenPad !!!
สำหรับ ScreenPad ถือว่าเป็นสิ่งใหม่จริงๆ โดย ASUS ZenBook Pro 15 UX580 และ ASUS ZenBook Pro 14 UX480 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นแรงของโลก ที่ตัวทัชแพดเดิมๆ เองสามารถเปลี่ยนเป็นหน้าจอทัชสกรีนได้ อารมณ์แบบมือถือสมาร์ทโฟนเลย ด้วยสเปกหน้าจอเป็นขนาด 5.5″ ความละเอียด Full HD พาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง เทียบเท่าหน้าจอมือถือดีๆ ในปัจจุบันก็ว่าได้
ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ทั้งการที่เป็นหน้าจอที่ 5 ได้ ฉะนั้นใครจะแอบดู Yuotube หรือเปิด Bot ในที่ทำงานนั้นก็สบายๆ รวมไปถึงเป็นเครื่องคิดเลข เป็นแป้นตัวเลข เชื่อต่อกับมือถือ ควบคุมการใช้งานต่างๆ และอื่นๆ ได้อีก เพราะทาง ASUS เปิดให้นักพัฒนาเข้ามาต่อยอดในเรื่องของแอปอีกที ฉะนั้นเราก็สามารถติดตั้งแอปเพิ่มได้ภายหลังอีกที ซึ่งเมื่อจากการทดลองใช้งานจริงแล้วของ ScreenPad นับว่าใช้ได้จริงเลยทีเดียว อาจจะมีหน่วงเล็กน้อย แต่ก็ใช้งานได้ลงตัวดี
ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 นั้นจะดูเล็กกว่าและบางกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วรุ่นอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีขอบจอที่ค่อนข้างบาง ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา เรียกได้ว่าเทียบเท่าหน้าจอ 14 นิ้วรุ่นก่อนๆ ได้เลย ซึ่งดีไซน์ออกมาได้ดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น ในส่วนของมุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน ให้ผิวสัมผัสที่ดี รวมถึงแกนพับหน้าจอขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางดูแข็งแรงทนทานสุดๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญเลือกใช้สีสันเอกลักษณ์อย่าง Deep Drive Blue ที่เป็นสีหลักร่วมกับการแซมสี Rose Gold Trim ลงไป
ส่วนบอดี้วัสดุงานประกอบจะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ทั้งในส่วนของสวนของตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องวัสดุจะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ส่งผลให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา แข็งแแรง และเวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย ส่วนฝาหน้าจอจะเป็นรอยนิ้วมือง่ายสักหน่อย เวลามีเหงื่อที่มือ ดังนั้นผู้ใช้อาจจะต้องขยันเช็ดดูแลทำความสะอาดเครื่องสักนิด
ลำโพงออกแบบมาอยู่ด้านล่างตัวเครื่องของทาง Harman Kardonให้เสียงกังวาลรอบทิศทางดี ส่วนทางลักษณะซอพต์ทัชก็เป็นแบบซ่อนปุ่ม ขนาดค่อนกลาง ซึ่งถือว่าทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง และในส่วนกล้องเว็บแคมก็ติดตั้งให้มาด้วยแบบ HD พร้อมไมค์ตัดเสียง และมีเซนเซอร์วัดแสงปรับจออัตโนมัติมาให้อีกด้วย ส่วนระบบ Windows Hello เพื่อเข้าใช้งานตัวเครื่องจะเป็นแบบสแกนลายนิ้วมือ
Preview ASUS ZenBook Pro 14 UX480
ASUS ZenBook Pro 14 UX480 ดูเหมือนจะได้รับออกแบบดีไซน์ไปในทิศทางเดียวกับ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 รวมไปถึงการมี ScreenPad แต่มีขนาดที่เล็กกว่า บางกว่า เบากว่า เน้นพกพามากกว่า และสเปกที่อาจจะยัดมาสู้ไม่ได้เรื่องของซีพียูและการ์ดจอ เพราะตัวท็อปจะเป็นเพียง i7 + GTX 1050 Max-Q แต่ต้องยอมรับว่ามีบางส่วนได้รับแรงบันดาลใจมากจาก ASUSPRO B9440 เหมือนกันในเรื่องของดีไซน์บานพับที่เมื่อกางออกแบบจะยกตัวให้สูงขึ้นโดยอัตโนมัติ
จากการที่ ASUS ZenBook Pro 14 UX480 มีบานพับระหว่างจอภาพและตัวเครื่อง ทำหน้าที่เสมือนฐานรองรับ ทำให้คีย์บอร์ดทำมุม 7 องศากับระนาบ ทำให้การพิมพ์ง่ายและสบายยิ่งขึ้น บอกลาอาการปวดข้อมือ ปวดตามลำตัว และคอ ที่เกิดจากการพิมพ์เป็นระยะเวลานานไปได้เลย
ตัวเครื่องโดยรวมจะเป็นอะลูมิเนียมอัลลอยเกรดยานอวกาศระดับพรีเมี่ยม (Aerospace-grade) ซึ่งโลหะเกรดนี้มีความแข็งแรงมากกว่าโลหะอัลลอยธรรมดาถึง 50% แสดงถึงความอุตสาหะเอาใจใส่ในรายละเอียดของการดีไซน์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฝาหลัง ตัวเครื่องด้านใน และใต้ตัวเครื่อง ทำให้มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป
ทางด้านของคีย์บอร์ดของ ASUS ZenBook Pro 14 UX480 นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกน้ำเงินเข้ากับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรเหลืองตัดกับปุ่ม ซึ่งมีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ เป็นแบบ Chiclet มีความหนา 1.0 mm ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น สัมผัสนุ่ม มีระยะห่างของปุ่มกำลังพอดี้ เพื่อให้มีความรู้สึกที่สะดวกสบายในการพิมพ์ กดแรงๆ ก็ไม่มีอาการแป้นยวบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สามารถปรับได้ 3 ระดับ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานจะสะท้อนออกมาทางฟอนต์สีเหลืองดูสวยงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง 2 ตัว ระบบเสียง Harman/Kardon ให้ที่เสียงที่ดีมาก ผ่านตัวซอฟต์แวร์ ASUS SonicMaster ทั้งในเรื่องของเสียงเบสที่มีน้ำหนัก เสียงกลางที่สมดุล และเสียงแหลมที่ออกมาใสๆ พูดเลยว่ามีโน๊ตบุ๊คเพียงไม่กี่รุ่นที่ทำเสียงออกมาดีได้ขนาดนี้ ซึ่งตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น 2 ตัว ทำให้เสียงที่ออกมามีเสียงดังฟังชัด
นอกเหนือจากนี้ยังมีจุดเด่นอย่างขอบหน้าจอ NanoEdge มีขนาดความบางเฉียบ ซึ่งทำให้ตัวเครื่องมีมิติเล็กลงไปอีก รวมไปถึงยังมีตัวเลือกเป็นหน้าจอทัชสกรีน พร้อมรองรับ ASUS Pen อีกด้วย ที่สำคัญส่วนของคีย์บอร์ดมีระยะยุบ 1.5 มิลลิเมตร ไฟส่องสว่างใช้งานง่าย พร้อมลำโพงคุณภาพอย่าง Harman Kardon อีกทั้งมี กล้อง IR ใช้งานผ่านทาง Windows Hello เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
เรียกได้ว่า ASUS ZenBook Pro 15 UX580 เป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสบการณ์ใช้งานประสิทธิภาพอีกหนึ่งรุ่นที่พร้อมชนกับ Dell XPS 15 หรือ MacBook Pro 15 ที่มีความเจ๋งยิ่งกว่าตรงที่ชิปประมวลผลมีรุ่น i9-8950HK ให้เลือกด้วย ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็อาจจะมีความใกล้เคียงกัน ถ้างบไม่เกี่ยงก็น่าจัดมาใช้งานมากๆ รองรับงานทั่วไปลื่นหัวแตก ส่วนเล่นเกมก็สบายๆ หายห่วงเลย (แต่อาจจะปรับไม่สุดทุกเกมนะ เห็นแก่ความบางมันหน่อย) สนนราคาคาดการณ์ที่ 50,000 บาทขึ้นไปแน่นอน
ปิดท้ายพรีวิวของ ASUS ZenBook Pro 15 UX580 และ ASUS ZenBook Pro 14 UX480 ด้วยสไลด์ที่บ่งบอกข้อมูลเพิ่มเติมและแนวคิดการการสร้างครับ ส่วนรีวิวตัวเต็มทางทีมงาน NBS จะรีบเซาะหามารีวิวอีกที เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนสนใจโน๊ตบุ๊คสายทำงานตัวแรงแบบนี้ ฟีเจอร์เด็ดๆ แบบนี้อย่างแน่นอน