คงปฎิเสธไม่ได้เลยครับว่า iPhone X ของทาง Apple ที่ในช่วงแรกทั้งก่อนวางจำหน่ายและหลังวางจำหน่ายได้มีการคาดการจากนักวิเคราะห์หลายๆ สื่อเอาไว้ว่า iPhone X จะขายได้ไม่ดีเท่าไรนักด้วยการตัดฟีเจอร์หลายๆ อย่างออกไปไม่ว่าจะเป็น Touch ID, พอร์ท 3.5 mm audio และการตั้งราคาที่ค่อนข้างแพง
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปนั้น iPhone X ก็ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างเป็นทางการแล้วว่าคำสบประมาทต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่สามารถที่จะหยุดกระแสความแรงและยอดขายที่เรียกได้ว่าทาง Apple นั้นได้ยิ้มแก้มปริจนทำให้สมาร์ทโฟนจากหลายๆ ผู้ผลิตดำเนินรอยตาม iPhone X บ้างครับ
หมายเหตุ – พอร์ท 3.5 audio jack ถูกตัดออกไปตั้งแต่ iPhone 7
แน่นอนครับว่าด้วยยอดจำหน่ายของ iPhone X ที่น่าประทับใจเช่นนี้นั้น ทางนักวิเคราะห์จากหลายๆ สำหนักต่างก็ได้ออกมาวิเคราะห์กันใหม่ว่าในปี 2018 – 2019 ที่จะมีการเปิดตัวและวางจำหน่าย iPhone X รุ่นที่ 2 นั้นจะยอดจำหน่ายของ iPhone X จะยังคงอยู่ในปริมาณที่คงที่เหมือนกับที่เคยทำได้ซึ่งนั่นหมายความว่าทาง Apple ก็จะยังสามารถที่จะยิ้มได้อยู่กับยอดขายของ iPhone X รุ่นที่ 2 ทว่าอย่างมันก็ยังคงมีปัจจัยหนึ่งที่ทาง Apple จะต้องพยายามเพื่อที่จะชนะให้ได้อย่างการรอคอยการซื้อเครื่องใหม่ของผู้บริโภคครับ
อ้างอิงจากทาง Guthrie นั้นจะพบว่าตั้งแต่ในช่วงที่ทาง Apple ทำการวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ออกมานั้นพบว่าผู้บริโภคจะมีอัตราการรออัพเกรดซื้อ iPhone รุ่นใหม่สูงขึ้นจากเดิมคืออยู่ที่ราวๆ 2.8 ปี ซึ่งอัตราการรออัพเพื่อซื้อเครื่องใหม่นี้นั้นสูงขึ้นมากกว่าจากในปี 2015 ประมาณ 4.8 เดือน(ในปี 2015 นั้นอัตราการรอเพื่อซื้อเครื่องใหม่จะอยู่ที่ 2.4 ปี) ครับ ซึ่งหากบอกกันตรงๆ แล้วนั้น iPhone X ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ทำให้อัตราการรอเพื่อซื้อเครื่องใหม่ของผู้บริโภคลดลงได้ครับ
จะเห็นได้ว่าการทำลายกำแพงของอัตราการรอเพื่อซื้อเครื่องใหม่ของผู้บริโภคนั้นก็คือการที่ Apple ได้ทำการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ เข้ามาใน iPhone ตามที่เห็นได้จาก iPhone X ซึ่งหากทาง Apple ยังคงสามารถที่จะเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาใน iPhone X รุ่นที่ 2 รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของ iPhone 9 ก็จะทำให้ทาง Apple สามารถที่จะทำยอดจำหน่าย iPhone ช่วงปี 2018 – 2019 ได้รวมกันที่ราวๆ 220 ล้านหน่วยซึ่ง iPhone 9 น่าจะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ช่วยให้ทาง Apple มียอดจำหน่าย iPhone รวมได้มากที่สุดหากทาง Apple ตัดสินใจใส่นวัตกรรมใหม่เพิ่มมาบน iPhone 9 อย่างเช่นระบบปลดล๊อค Face ID เป็นต้นครับ
อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวนี้นั้นก็เป็นเพียงการคาดการเท่านั้นเพราะว่าไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์หรือกระทั่งผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ เองนั้นก็คงไม่อาจจะสามารถคาดเดาได้ครับว่าทาง Apple จะดำเนินเกมอย่างไรสำหรับ iPhone X รุ่นที่ 2 และ iPhone 9 ที่จะเปิดตัวและวางจำหน่ายในช่วงปี 2018 นี้ และส่วนที่สำคัญที่สุดเลยที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลยนั้นก็คือผู้บริโภคที่ซื้อ iPhone X ไปใช้แล้วจะหันมาเปลี่ยนเป็น iPhone X รุ่นที่ 2 กันมากน้อยแค่ไหนครับ
ที่มา : wccftech