หากนึกถึง Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ ทั่วไป จะมีตัวเครื่องที่ใหญ่ หนา โดยมีน้ำหนักระดับ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเครื่องนั้นใช้สเปกภายในที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ ทำให้จำเป็นต้องใช้ชุดระบายความร้อนที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ตัวเครื่องนั้น ใหญ่ หนา หนัก เป็นธรรมดา แต่เมื่อปีก่อนๆ ก็ได้สัมผัสกับ MSI GS Series ที่เป็น Gaming Notebook ตัวแรง แต่เบาแค่ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น
โดยล่าสุดทาง #AdminPong NBS ได้มีโอกาสรีวิวในส่วนของ MSI GS65 8RE Stealth Thin ที่เป็นรุ่นอัพเดทมาจาก MSI GS63 7RE Stealth Pro ทั้งในเรื่องของความแรงและดีไซน์ รวมไปถึงฟีเจอร์ต่างๆ โดยมีสเปกประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าพีซีตั้งโต๊ะ โดยมีการออกแบบมาให้มีความเรียบหรูและบางเบา ซึ่งตัวเครื่องจะมีน้ำหนักที่เบาที่สุดจากทุก Series และจากการที่ใช้ชุดระบายความร้อนที่พัฒนามาอย่างดี มีน้ำหนักแค่ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้นเอง แต่ได้สเปก Core i7-8750H + NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) + หน้าจอ 15.6″ Full HD พร้อมรองรับการแสดงผล 144Hz
VDO Review
VDO Review – MSI GS65 8RE Stealth Thin
สายหรูบางเบา i7 -8750H + GTX 1060 เทพสุดจัดเต็มในงบ 72,900 บาท
Specification
MSI GS65 8RE Stealth Thin ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 8750HQ (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 256GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แบบ Dual Channel แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง VA ที่เทคโนโลยี Wide Viewing Angle Display ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญต่างจากรุ่นก่อนหน้าก็คือการรองรับ 144Hz ส่งผลให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสุดๆ และตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
พร้อมการรับประกันมาตรฐาน MSI จำนวน 2 ปี สนนราคา MSI GS65 8RE Stealth Thin อยู่ที่ 72,900 บาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแบ่งรุ่นย่อยของ MSI GS65 Series แต่อย่างใด แต่คาดว่าในอนาคตจะมีเพิ่มสเปกที่เป็นการ์ดจอ GTX 1050Ti หรือ GTX 1070 มาแน่นอน พร้อมกับสเปกแรมหรือ SSD ตามช่วงราคาอีกที เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้งานได้เหมาะสมที่สุด
หน้าสเปก MSI GS65 8RE Stealth Thin
Hardware / Design
สำหรับ MSI GS65 8RE Stealth Thin ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่ถูกต่อยอดมาจาก MSI GS63 รุ่นก่อนทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการปรับให้เรียบหรูขึ้น กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีทองในการประกอบกับสีดำของตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องเป็นสีแดงเกมมิ่งจ๋าๆ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่โก้แทนนั่นเอง
ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุผ้ากํามะหยี่คลุมตลอดทั้งชิ้น แต่รุ่นนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆแทน พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ 2 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจากเดิมอยู่บริเวณขอบตัวเครื่อง ซึ่งในตอนนี้ได้ถูกย้ายกลับมาเป็นปกติแล้ว พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน โดยอยู่ตรงกลางเหนือคีย์บอร์ด พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ซึ่งตรงบริเวณนี้ตรงขอบบนมุมขวาจะเป็นโลโก้ลำโพงของ DYNAUDIO ส่วนมุมขวาล่างจะเป็นโลโก้คีย์บอร์ด SteelSeries ที่การันตีว่าของดีแน่นอน
MSI GS65 8RE Stealth Thin ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 5 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 4 เส้น ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 45% หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำที่ดูคล้ายอลูมิเนียม ที่มีข้อสังเกตอย่างเมื่อเราออกแรงกดลงไปนิดหน่อยจะมีอาการยุบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งาน ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่า Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI GS65 8RE Stealth Thin ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาช่วงงบประมาณ 70,000 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงแต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GS65 8RE Stealth Thin เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ แบบสิ้นเชิง จากการที่ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่สำคัญในคราวนี้ไฟ LED ที่เป็น RGB สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน ที่เปลี่ยนไปเลยก็คือ ตัดชุด Numpad ออกไปเลย จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็กลงนั่นเอง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับรับได้ (ถ้าเน้นใช้เมาส์ไม่ต้องซีเรียสมาก) ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี มีการตัดขอบเส้นสีทองที่ขอบนอก เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม
Screen / Speaker
MSI GS65 8RE Stealth Thin มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น ที่แม้ว่าจะเป็นพาเนล VA รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ใช่ IPS แบบรุ่นปกติ ที่แทบไม่เป็นรองเรื่องมุมเลย เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแทบเท่าพาเนล IPS เลยทีเดียว ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมซ้ายบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องกลางแถวกลางทั้งหมดเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 9% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO แบบสเตอริโอ โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปประมวลต่างหาก
Connector / Thin And Weight
MSI GS65 8RE Stealth Thin จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6 นิ้วซึ่งไซส์เล็กกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3x USB 3.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C), 1x HDMI 1.4, 1x miniDisplayPort 1.2, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้
มีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเล่นเกม ได้หลากหลายจอแบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ miniDisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดั ด้วยน้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 150 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่า 28% เลยทีเดียว
Performance / Software
โดย MSI GS65 8RE Stealth Thin มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750HQ (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2018) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 8GB x 2 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 970M และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3254MB/s และเขียนที่ 1409MB/s ซึ่งถ้าใครอยากเร็วแรงกว่านี้ก็สามารถซื้อ SSD มาทำ Raid เพิ่มได้อีก 1 ตัว ความเร็วก็จะทะลุยิ่งขึ้นไปอีก หรือจะเอามาเพิ่มความจุก็แล้วแต่
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง FF XV / FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 90 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล
MSI DRAGON CENTER Version 2 เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- System Monitor : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
ยิ่งปรับโปรไฟล์สีผ่านซอฟแวร์ MSI True Color เทคโนโลยีที่ให้ค่าสีที่สมจริง ใกล้เคียงกับ 100% sRGB พร้อมโหมดพรีเซ็ทปรับได้อีก 6 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ก็แจ่มและใช้งานได้จริง
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วน SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries Per-Key RGB ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้ เรียกได้ว่าจะปรับไฟให้ตะมุตะมิแค่ไหนก็สามารถทำได้เลย หรือจะได้พรีเซ็ทต่างๆ ที่มีมาแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS65 8RE Stealth Thin เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 5 – 6 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก) แต่อย่างไรก็ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 33 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 92 – 96 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ CoolBoots เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,000 รอบต่อวินาที จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง
Conclusion / Award
Gaming Notebook น้ำหนักเบาถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เกมเมอร์หลายคนต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI GS65 8RE Stealth Thin แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น แถมได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 8 ล่าสุดกับ i7-8750H + GTX 1060 (6GB) บอกเลยครับว่าสวยทั้งรูปจูบก็หอม
ดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบมาใหม่หมด บอดี้เป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีดำขอบทอง ซึ่งแตกต่างจากรุ่นอื่นก่อนหน้านี้ที่จะเป็นสีดำขอบแดง โดย MSI GS65 8RE Stealth Thin จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD IPS-Level รองรับที่ 144 Hz ขอบเขตสี 95% sRGB คีย์บอร์ด Steelseries RGB แบบใหม่ที่ตัด Numpad ทิ้ง ลำโพงเลือกใช้ของ Dynaudio ระบบเสียง Nahimic 3 รองรับระบบเสียงแบบ Hi-res จัดเต็ม
การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost Trinity ที่มีพัดลม 3 ตัว ฮีทไปป์ 4 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน ส่วนแรมตัวเครื่องให้มา 16GB DDR4 ความจุ SSD 256GB m.2 NVMe ตัวแรง แถมตัวเครื่องยังสามารถใส่ SSD m.2 ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่อง (มี m.2 2 ช่อง) แบตเตอรี่ก็ทำการอัพเกรดมาใหม่ทำให้ใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 5 – 6 ชม. จากการทดสอบจริง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานอีกด้วย
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันหายห่วงทั้ง Thunderbolt 3, USB 3.1 Type-A x3, RJ45, HDMI, Mini-DisplayPort รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน แต่น่าเสียดายที่ตัดช่อง SD Card Reader ออกไปด้วย ซึ่งเข้าใจว่าไม่เหลือที่แล้ว โดยราคาของ MSI GS65 8RE สนนราคาอยู่ที่ 72,900 บาทพร้อมประกัน 2 ปีเต็ม ส่วน MSI GS65 รุ่นสเปกอื่นๆ น่าจะตามาอีก ทั้งใช้การ์ดจอ GTX 1050Ti หรือ GTX 1070
เปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ หรือใครจะเอางบขนาดนี้ไปแยกซื้อโน๊ตบุ๊คกับคอมประกอบก็ไม่ว่ากัน ฮา
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-8750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1060 (6GB) แรม 16GB
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ขอบเขตสี sRGB 95%
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
- อีกทั้งยังมาพร้อมพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ที่เป็นฟอร์ม USB-C
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 3 ให้เสียงที่ดี
- รองรับไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 3200MB/s
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- คีย์บอร์ด SteelSeries Per-key RGB ปรับเปลี่ยนสีไฟตามปุ่ม ทำงานร่วมกับเกมได้
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กและเบากว่า 28% เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
ข้อสังเกต
- ความร้อนอาจจะดูสูงไปนิด เมื่อใช้งานเต็มที่ แต่ในการใช้งานจริงไม่มีปัญหาอะไร
- พอร์ตการเชื่อมต่อชิดกันไปนิด SD Card Reader ถูกตัดออกไป
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสเปกที่ได้เพียงอย่างเดียว
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเพียง 5 – 6 ชั่วโมง ไม่เหมือนที่เคลมไว้ 8 ชั่วโมง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GS65 8RE Stealth Thin ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Technology
MSI GS65 8RE Stealth Thin เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ 144Hz sRGB 95%, NVMe M.2, Nahimic 3, DDR4, Steelseries Keyboard, Killer Network, Thunderbolt 3 รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center V.2 ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และอื่นๆ อีกมากมาย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสำหรับคนงบเยอะ ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 8750HQ (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 256GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แบบ Dual Channel แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI GS65 8RE Stealth Thin อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แม้แบตอาจจะใช้งานได้ไม่ถึง 8 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้ก็ตาม
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI Gaming มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI GS65 8RE Stealth Thin ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวดุดันและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้การตัดสีดำกับทอง รวมไปถึงไฟคีย์บอร์ดก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วย Per-key RGB ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนที่เป็นเกมเมอร์ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
VDO Review
VDO Review – MSI GS65 8RE Stealth Thin
สายหรูบางเบา i7 -8750H + GTX 1060 เทพสุดจัดเต็มในงบ 72,900 บาท
Specification
MSI GS65 8RE Stealth Thin ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 8750HQ (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 256GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แบบ Dual Channel แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล
นอกจากนี้มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลคุณภาพสูง VA ที่เทคโนโลยี Wide Viewing Angle Display ให้จอแสดงผลมีมุมมองกว้าง พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ที่สำคัญต่างจากรุ่นก่อนหน้าก็คือการรองรับ 144Hz ส่งผลให้เล่นเกมได้ลื่นไหลสุดๆ และตัวเครื่องยังมีลำโพงจากแบรนด์ Dynaudio พร้อมซอฟแวร์เสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า มาพร้อม Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที
พร้อมการรับประกันมาตรฐาน MSI จำนวน 2 ปี สนนราคา MSI GS65 8RE Stealth Thin อยู่ที่ 72,900 บาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแบ่งรุ่นย่อยของ MSI GS65 Series แต่อย่างใด แต่คาดว่าในอนาคตจะมีเพิ่มสเปกที่เป็นการ์ดจอ GTX 1050Ti หรือ GTX 1070 มาแน่นอน พร้อมกับสเปกแรมหรือ SSD ตามช่วงราคาอีกที เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้งานได้เหมาะสมที่สุด
หน้าสเปก MSI GS65 8RE Stealth Thin
Hardware / Design
สำหรับ MSI GS65 8RE Stealth Thin ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่ถูกต่อยอดมาจาก MSI GS63 รุ่นก่อนทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่เน้นความบางเบา พกพาได้สะดวก โดยยังรักษาความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัม ทำให้ถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่ดุดันมีพลังด้วยวัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
โดยฝาหลังและดีไซน์ทั้งหมดมีการปรับให้เรียบหรูขึ้น กับพื้นผิวเรียบๆ พร้อมกับใช้สีทองในการประกอบกับสีดำของตัวเครื่อง ตั้งแต่โลโก้ ขอบตัวเครื่อง ทัชแพด แกนบานพับ ช่องระบายความร้อน ซึ่งดูแล้วเป็นการเปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องเป็นสีแดงเกมมิ่งจ๋าๆ ให้กลายเป็นโน๊ตบุ๊คที่ดูน้อยแต่โก้แทนนั่นเอง
ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุผ้ากํามะหยี่คลุมตลอดทั้งชิ้น แต่รุ่นนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นอะลูมิเนียมเรียบๆแทน พร้อมมียางรองขนาดใหญ่ 2 จุด ช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ช่วยส่งมวลลมเย็นถูกดูดเข้าช่องลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี
ส่วนปุ่มเปิดปิดเครื่องจากเดิมอยู่บริเวณขอบตัวเครื่อง ซึ่งในตอนนี้ได้ถูกย้ายกลับมาเป็นปกติแล้ว พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน โดยอยู่ตรงกลางเหนือคีย์บอร์ด พร้อมการติดตั้งช่องลมโปร่งขนาดใหญ่เพื่อให้ช่วยระบายความร้อนที่ดีกว่าเดิม ซึ่งตรงบริเวณนี้ตรงขอบบนมุมขวาจะเป็นโลโก้ลำโพงของ DYNAUDIO ส่วนมุมขวาล่างจะเป็นโลโก้คีย์บอร์ด SteelSeries ที่การันตีว่าของดีแน่นอน
MSI GS65 8RE Stealth Thin ใช้เทคโนโลยี Cooler Boost Trinity ใช้พัดลม 3 ตัว ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 5 จุด อยู่ทางด้านหลังและด้านข้างของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล (พัดลม 1 ตัว) และกราฟิกการ์ด (พัดลม 2 ตัว) ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 4 เส้น ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 45% หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม
ส่วนที่พักมือและเนื้องานรอบแป้นพิมม์ใช้วัสดุเป็นพลาสติกสีดำที่ดูคล้ายอลูมิเนียม ที่มีข้อสังเกตอย่างเมื่อเราออกแรงกดลงไปนิดหน่อยจะมีอาการยุบเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการใช้งาน ที่สำคัญไม่พูดไม่ได้เลยกับขอบหน้าจอที่บางลงอย่างเห็นได้ชัดที่ 4.9 มิลลิเมตร ทั้งด้านซ้ายขวาและขอบบน ดูได้จากกล้องเว็บแคมถูกติดตั้งลงไปบนขอบที่บางมากๆ
ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่า Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้ว MSI GS65 8RE Stealth Thin ไม่ใช่แค่แรงแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาช่วงงบประมาณ 70,000 บาทก็ว่าได้เลย ที่แม้ราคาดูสูงแต่จัดเต็มทุกฟีเจอร์จริงๆ
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GS65 8RE Stealth Thin เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ แบบสิ้นเชิง จากการที่ใช้ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries โดยพัฒนาและออกแบบมาให้ MSI โดยเฉพาะ ทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน ที่สำคัญในคราวนี้ไฟ LED ที่เป็น RGB สามารถเปลี่ยนสีทีละปุ่ม ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน ที่เปลี่ยนไปเลยก็คือ ตัดชุด Numpad ออกไปเลย จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่เล็กลงนั่นเอง
ทัชแพดมีขนาดใหญ่ โดยดูเป็นเนื้อเดียวกับตัวเครื่อง ตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็อาจจะมีความแข็งพอดีๆ การใช้งานโดยจัดได้ว่าอยู่ในระดับรับได้ (ถ้าเน้นใช้เมาส์ไม่ต้องซีเรียสมาก) ใช้งานได้สะดวกสำหรับการวางบนตัก หรือเล่นในร้านกาแฟ โดยการควบคุมมีการตอบสนองได้ดี มีการตัดขอบเส้นสีทองที่ขอบนอก เข้ากับตัวเครื่องโดยรวม
Screen / Speaker
MSI GS65 8RE Stealth Thin มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น ที่แม้ว่าจะเป็นพาเนล VA รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ใช่ IPS แบบรุ่นปกติ ที่แทบไม่เป็นรองเรื่องมุมเลย เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแทบเท่าพาเนล IPS เลยทีเดียว ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นพร้อมกางได้ถึง 180 องศา
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่นเล็กน้อย
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 350 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องมุมซ้ายบนเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องกลางแถวกลางทั้งหมดเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 9% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO แบบสเตอริโอ โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic เวอร์ชั่น 3 สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน สนับสนุน VR และ 3D เต็มรูปแบบใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียงอีกด้วย พร้อมมีฟีเจอร์ Hi-Res Audio ด้วยชิปประมวลต่างหาก
Connector / Thin And Weight
MSI GS65 8RE Stealth Thin จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6 นิ้วซึ่งไซส์เล็กกว่าปกติ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3x USB 3.0, Thunderbolt 3 (USB Type-C), 1x HDMI 1.4, 1x miniDisplayPort 1.2, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out อย่างไรก็ตามพอร์ตการเชื่อมต่ออาจจะชิดกันไปหน่อย เวลาเชื่อมต่อพร้อมๆ กันอาจจะติดกันได้
มีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11 ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ ลดค่าปิงต่ำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเล่นเกม ได้หลากหลายจอแบบรอบทิศทาง จากทั้ง Thunderbolt 3, HDMI และ miniDisplayPort ส่วนของการพกพา ก็ถือว่าทำได้ดั ด้วยน้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 150 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบาลงกว่า 28% เลยทีเดียว
Performance / Software
โดย MSI GS65 8RE Stealth Thin มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen อย่าง Intel Core i7-8750HQ (ว่าที่รุ่นยอดนิยมประจำปี 2018) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.20 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.10 GHz เป็นซีพียูแบบ 6 Core 12 Threads
ที่แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-7700HQ พอตัว มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 แบบ 8GB x 2 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 970M และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3254MB/s และเขียนที่ 1409MB/s ซึ่งถ้าใครอยากเร็วแรงกว่านี้ก็สามารถซื้อ SSD มาทำ Raid เพิ่มได้อีก 1 ตัว ความเร็วก็จะทะลุยิ่งขึ้นไปอีก หรือจะเอามาเพิ่มความจุก็แล้วแต่
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-8750H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB) ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึง SSD NVMe ก็ส่งผลช่วยด้วย
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง FF XV / FarCry 5 / GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว
เกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 / Overwatch / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 90 ขึ้นไปตลอด แต่ในส่วนของเกม PUBG อาจจะมีเฟรมเรทตกไปต่ำกว่า 60 บ้าง ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเป็นเกมออนไลน์ที่กินทรัพยากรพอตัวเหมือนกัน ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ อยู่
ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 144Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ 144Hz อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล
MSI DRAGON CENTER Version 2 เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ต่อยอดมาจากรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นคือใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ได้อย่างลงตัว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์ของทาง MSI ก็ว่าได้ ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน โดยหน้าเมนูมีอาทิเช่น
- System Monitor : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
หรือจะย่อเป็นหน้าต่างโปรแกรมเล็กๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ สะดวกใช้งานด้วย
ยิ่งปรับโปรไฟล์สีผ่านซอฟแวร์ MSI True Color เทคโนโลยีที่ให้ค่าสีที่สมจริง ใกล้เคียงกับ 100% sRGB พร้อมโหมดพรีเซ็ทปรับได้อีก 6 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ก็แจ่มและใช้งานได้จริง
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วน SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries Per-Key RGB ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้ เรียกได้ว่าจะปรับไฟให้ตะมุตะมิแค่ไหนก็สามารถทำได้เลย หรือจะได้พรีเซ็ทต่างๆ ที่มีมาแล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GS65 8RE Stealth Thin เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 5 – 6 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก) แต่อย่างไรก็ถือว่าใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกที่ใกล้เคียงกัน
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 33 – 43 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 – 32 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 92 – 96 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร จากการที่เปิดฟีเจอร์ CoolBoots เพิ่มรอบพัดลมเป็น 6,000 รอบต่อวินาที จากการที่มีพัดลม 3 ตัว แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้อย่างไม่น่าเป็นห่วง
Conclusion / Award
Gaming Notebook น้ำหนักเบาถือเป็นสิ่งหนึ่งที่เกมเมอร์หลายคนต้องการจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งปกติแล้วโน๊ตบุ๊คเล่นเกมแรงๆ แต่ละรุ่นมักจะมีน้ำหนักที่เยอะ พกพาลำบาก เวลาใส่กระเป๋าแบกไปไหนมาไหนปวดหลังปวดไหล่กันสุดๆ แต่ว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ MSI GS65 8RE Stealth Thin แน่นอน เพราะด้วยตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น แถมได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 8 ล่าสุดกับ i7-8750H + GTX 1060 (6GB) บอกเลยครับว่าสวยทั้งรูปจูบก็หอม
ดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบมาใหม่หมด บอดี้เป็นอลูมิเนียมอัลลอยสีดำขอบทอง ซึ่งแตกต่างจากรุ่นอื่นก่อนหน้านี้ที่จะเป็นสีดำขอบแดง โดย MSI GS65 8RE Stealth Thin จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว Full HD IPS-Level รองรับที่ 144 Hz ขอบเขตสี 95% sRGB คีย์บอร์ด Steelseries RGB แบบใหม่ที่ตัด Numpad ทิ้ง ลำโพงเลือกใช้ของ Dynaudio ระบบเสียง Nahimic 3 รองรับระบบเสียงแบบ Hi-res จัดเต็ม
การระบายความร้อนตัวเครื่องเป็นแบบ Cooler Boost Trinity ที่มีพัดลม 3 ตัว ฮีทไปป์ 4 เส้น ขนาดใหญ่ ช่องระบายความร้อน 4 ช่องหมดห่วงเรื่องตัวเครื่องร้อน ส่วนแรมตัวเครื่องให้มา 16GB DDR4 ความจุ SSD 256GB m.2 NVMe ตัวแรง แถมตัวเครื่องยังสามารถใส่ SSD m.2 ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่อง (มี m.2 2 ช่อง) แบตเตอรี่ก็ทำการอัพเกรดมาใหม่ทำให้ใช้งานทั่วไปได้สูงสุดถึง 5 – 6 ชม. จากการทดสอบจริง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ Windows 10 แท้พร้อมใช้งานอีกด้วย
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีมาให้ครบครันหายห่วงทั้ง Thunderbolt 3, USB 3.1 Type-A x3, RJ45, HDMI, Mini-DisplayPort รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน แต่น่าเสียดายที่ตัดช่อง SD Card Reader ออกไปด้วย ซึ่งเข้าใจว่าไม่เหลือที่แล้ว โดยราคาของ MSI GS65 8RE สนนราคาอยู่ที่ 72,900 บาทพร้อมประกัน 2 ปีเต็ม ส่วน MSI GS65 รุ่นสเปกอื่นๆ น่าจะตามาอีก ทั้งใช้การ์ดจอ GTX 1050Ti หรือ GTX 1070
เปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ หรือคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คแรงๆ เบาๆ ซักเครื่อง สำหรับหลายๆ คนที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้ หรือใครจะเอางบขนาดนี้ไปแยกซื้อโน๊ตบุ๊คกับคอมประกอบก็ไม่ว่ากัน ฮา
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู
- ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับกว่าเดิม โดยมีน้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น
- สเปคสูงมากทั้ง Core i7-8750H และการ์ดจอ GeForce GTX 1060 (6GB) แรม 16GB
- หน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ รองรับที่ความถี่ 144Hz ขอบเขตสี sRGB 95%
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, HDMI และ Mini DisplayPort 1.2
- อีกทั้งยังมาพร้อมพอร์ตความเร็วสูง Thunderbolt 3 ที่เป็นฟอร์ม USB-C
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 3 ให้เสียงที่ดี
- รองรับไดร์ฟ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 3200MB/s
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost Trinity มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง ให้สนุกยิ่งขึ้น
- คีย์บอร์ด SteelSeries Per-key RGB ปรับเปลี่ยนสีไฟตามปุ่ม ทำงานร่วมกับเกมได้
- อแดปเตอร์จ่ายไฟ มีขนาดที่เล็กและเบากว่า 28% เป็นภาระน้อยลงไปชัดเจน
ข้อสังเกต
- ความร้อนอาจจะดูสูงไปนิด เมื่อใช้งานเต็มที่ แต่ในการใช้งานจริงไม่มีปัญหาอะไร
- พอร์ตการเชื่อมต่อชิดกันไปนิด SD Card Reader ถูกตัดออกไป
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสเปกที่ได้เพียงอย่างเดียว
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเพียง 5 – 6 ชั่วโมง ไม่เหมือนที่เคลมไว้ 8 ชั่วโมง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GS65 8RE Stealth Thin ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Technology
MSI GS65 8RE Stealth Thin เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น หน้าจอ 144Hz sRGB 95%, NVMe M.2, Nahimic 3, DDR4, Steelseries Keyboard, Killer Network, Thunderbolt 3 รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center V.2 ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และอื่นๆ อีกมากมาย สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมสำหรับคนงบเยอะ ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
Best Performance
ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7- 8750HQ (2.20 – 4.10 GHz) ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Desktop มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 256GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 แบบ Dual Channel แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาของ MSI GS65 8RE Stealth Thin อยู่ในระดับที่ดีกว่า Gaming Notebook ทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ แม้แบตอาจจะใช้งานได้ไม่ถึง 8 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้ก็ตาม
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ MSI Gaming มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน MSI GS65 8RE Stealth Thin ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ แต่มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ออกแนวดุดันและเรียบหรูมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้การตัดสีดำกับทอง รวมไปถึงไฟคีย์บอร์ดก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วย Per-key RGB ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาเชื่อได้ว่าหลายๆ คนที่เป็นเกมเมอร์ต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน