โน๊ตบุ๊คแบรนด์ Dell ได้รับความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนานและเป็นที่นิยมในการใช้งานกับองค์กรและภาคธุรกิจอย่างมากมาย ทั้งมาตรฐานการบริการ Dell Premium Support และ On-site Service “บริการซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ” ถึง 3 ปีด้วยกัน มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบๆ แต่แฝงความหรูหรา รวมถึงโดยทั่วไปแล้วคนมักจะมองว่าแบรนด์ Dell เป็นแบรนด์ระดับสูง เพราะผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในท้องตลาดนั้นค่อนข้างจะอยู่ในเกรดที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปนั่นเอง
โดยล่าสุดทางทาง Dell ได้นำเสนอ Dell Inspiron 7472 โดยเป็นรุ่นต่อยอดมาจาก Dell Inspiron 7460 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว ที่ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเบาเล็กกระทัดรัด ขอบจอก็บางเฉียบ ส่วนสเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 8 และการ์ดจอแยก GeForce MX150 แรมขนาด 8GB DDR4 สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็นระดับ Full HD ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง พร้อมใช้งานด้วย Windows 10 สนนราคาถูกกว่ารุ่นเดิมอยู่ที่ 34,990 บาท กับรุ่น Core i7 ส่วนถ้าเป็นรุ่น Core i5 จะอยู่ที่ 29,990 บาท
Specification
สเปกภายในของตัว Dell Inspiron 7472 จะเป็นรุ่น Core i7 โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8550U ความเร็ว 1.8GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.0GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Coffee Lake) รุ่นล่าสุด
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX150 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับฮาร์ดดิสก์ยังมีความจุ 1TB พร้อมด้วย SSD M.2 ความจุ 128GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call สนนราคา Dell Inspiron 7472 รุ่นที่ทางทีมงานนำมารีวิวอยู่ที่ 34,990 บาท (ถูกกว่ารุ่นก่อน 3,000 บาท) พร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้
- สเปกเต็มๆ ของ Dell Inspiron 7472 รุ่น Core i7 ราคา 34,990 บาท
- สเปกเต็มๆ ของ Dell Inspiron 7472 รุ่น Core i5 ราคา 29,990 บาท
* รุ่น Core i5 จะเป็น Core i5-8250U แรมให้เป็น 4GB ส่วนฮาร์ดดิสก์ติดตั้งมาเพียง 500GB
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ Dell Inspiron 7472 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีการใช้ตัวเครื่องขนาด 13 นิ้วเท่านั้น ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก แต่ก็ยังใส่จอขนาด 14 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คมาตรฐานแบเดิมๆ ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญขอบจอยังบางเฉียบ ซึ่งจะไปในปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องปกติแล้ว
แนวคิดโดยรวมถอดแบบมาจากรุ่นบนอย่าง Dell XPS 13 เป็นอย่างดี ทำให้ห้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย ที่ขอบอลูมิเนียมรอบของตัวเครื่อง ซึ่งมีให้เลือกอยู่สองสีด้วยกันคือ สีเงิน (Elegant Silver) และสีทอง (Rich Gold)
ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นอะลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างง่ายเช่นกัน
ดังนั้นผู้ใช้อาจจะต้องขยันเช็ดดูแลทำความสะอาดเครื่องซักหน่อย ส่วนด้านในและโครงสร้างจะเป็นพลาสติก แต่พื้นผิวของด้านในจะเป็นลักษณะซอพต์ทัชให้ความรุ่สึกที่นุ่มมือเรียกได้ว่าเวลาใช้งานวางมือลงไปนั้นมีความสบายมากๆ แต่ก็ต้องระวังเพราะดูแล้วจะเป็นรอยได้ง่ายเหมือนกัน แต่อาจจะดูแปลกตาสักเล็กน้อยกับกล้องเว็บแคมที่ Dell Inspiron 7472 ติดตั้งเพราะอยู่บริเวณใต้จอ ต่างจากโน๊ตบุ๊คทั้งไปมักจะอยู่ขอบจอด้านบนกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Dell Inspiron 7472 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใส่ใจในรายละเอียดก็คือ มีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางเครื่องก็เพียง 18.95 มิลลิเมตร บอกได้เลยว่าจะหาโน๊ตบุ๊คแบบนี้จากแบรนด์อื่นๆ ก็ยากซักหน่อย นอกเหนือจากนี้ยังรองรับการใส่แรมได้ 1 แถวเท่านั้น ทำให้ในการอัพเกรดเพิ่มขนาดของแรม จำเป็นต้องถอดแถวเดิมออกด้วยนั่นเอง เช่นถ้าจะใส่ 16GB ก็ต้องซื้อแรมแถว 16GB มาเลย แล้วถอดแถวเดิมที่เป็น 8GB ออก ส่วนจะเอาไปขายหรืออะไรก็แล้วแต่อีกที
ส่วนการออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนของโลโก้ Dell ฝาหลังที่สวยงามเป็นสีเงิน ส่วนตัวเครื่องด้านล่างก็จะมีคำว่า Inspiron ปั๊มเอาไว้ นอกจากนี้การออกแบบยางรองใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่เหมือนใคร โดยใช้เป็นแถบยางยาวขนานไปกับแนวยาวของตัวเครื่อง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก แน่นอนว่าสติกเกอร์ Windows 10 ก็จะติดอยู่บริเวณนี้เช่นกัน สำหรับ Dell Inspiron 7460ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญยังมีการในส่วนของเชื่อมต่อของ Dell Inspiron 7472 ก็รองรับเพราะมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน เรียกได้ว่าเรื่องของดีไซน์นั้นตอบโจทย์กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วเครื่องเดียวจบแน่นอน ทำให้ไม่ว่าเราจะเอาไปทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้หมด แต่ข้อสังเกตุก็คือ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์อะไรไปจาก Dell Inspiron 7460 เลยแม้แต่น้อย
*รูปทั้งหมดในรีวิวนี้นำมาจาก Dell Inspiron 7460 บทความเดิมเลย
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด
รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
Dell Inspiron 7472 ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD เทคโนโลยี Truelife ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว และด้วยความที่จอเป็นแบบกระจกที่ให้เรื่องสีสันสดใส แต่ก็ค่อนข้างสะท้อนแสงพอสมควร ส่งผลให้ในการใช้งานไม่ควรหันจอไปทางแหล่งกำเนิดแสงหรือในที่ที่สว่างมากๆ เพราะอาจจะรบกวนการทำงานของเราได้ อย่างไรก็ตามมีการใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 7472 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่เพียง 60% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีเหลืองอมแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันธรรมดาในเกณฑ์ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ แต่ทำอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักมากนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าตรงกลางหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขอบมุมขวาบนที่ลดลงไปที่ระดับ 11% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ มาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม พอได้อยู่
ลำโพงสเตอริโอเทคโนโลยี Waves MaxxAudio Pro ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ให้เสียงที่ค่อนข้างดี แยกรายละเอียดได้ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ถือได้ว่ามีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต (รองรับการชาร์จไฟ 1 พอร์ต) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงชาร์จสมาร์ทโฟน และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน รวมไปถึงยังมีช่องเชื่อมต่อไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องอ่าน SD Card ตามสมัยนิยมอีกด้วย ซึ่งก็ยังน่าเสียดายอยู่ว่าแม้ว่าจะเป็นรุ่นใหม่ แต่ก็ยังไม่มีการติดตั้ง USB 3.1 Type-C มาเลย ทั้งๆ ที่ควรมีมาแล้ว
เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่ใกล้เคียง ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
Dell Inspiron 7472 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8550U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กว่าพวก Core i7 ตัวซีรีย์ H ตรงๆ ไม่ได้เรื่องของประสิทธิภาพการประมวลผล แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบาย
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX150 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950m เลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกมหนักๆ พอได้บ้าง ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD แบบ M.2 SATA3 ที่ความจุ 128GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 553 MB/s – Write: 215 MB/s (แอบเขียนช้าไปหน่อย) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,567 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกเดียวกันที่ไม่มีนั่นเอง
การทดสอบเกมจะเป็นเกมที่ไม่หนักมาก แต่เป็นเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 และ Overwatch ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Native 1920 x 1080 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยสำหรับ DOTA 2 ส่วน Overwatch จะเป็นปรับแบบ Lowโดย Rendering 100% ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้สำหรับเกมออนไลน์แนวนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Dell Inspiron 7472 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3,200 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ดูแล้วอาจให้ระยะเวลาการทำงานที่ค่อนข้างสั้นกว่าเครื่องอื่นเล็กน้อย ส่วนช่องระบายความร้อนของDell Inspiron 7460 จะอยู่ด้านบนบริเวณข้อพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 99 องศาเซลเซียสทีเดียว ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Dell Inspiron 7472 ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook เครื่องอื่นๆ ซึ่งจากการทดสอบเป็นการนำไปเล่นเกมหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel และ NVDIA รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น แต่ทางฝั่ง Intel เหมือนจะร้อนขึ้นด้วย เรียกได้ว่าชุดระบายความร้อนของ Dell ไม่สามารถจัดการได้เย็นกว่านี้แล้ว เวลาใช้งานหนักๆ ฉะนั้นใครกังวลส่วนนี้ก็ควรหลีกเลี่ยง
Conclusion / Award
เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ ด้วยความเป็นแบรนด์ Dell อย่าง Inspiron 7472 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล Inspiron ได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตุในเรื่องของราคาค่าตัวที่สูงซักหน่อย (เมื่อเทียบกับสเปกที่ใกล้เคียงกัน) โดยสนนเริ่มต้นที่ 29,990 บาท สำหรับรุ่น Core i5 ความละเอียดหน้าจอ Full HD ส่วนรุ่น Core i7 ก็สนนราคาที่ 34,990 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องชิปประมวลผล แรม และฮาร์ดดิสก์ที่มากว่า แต่ส่วนอื่นๆ ก็เหมือนกันหมด โดยส่วนตัวแล้วแนะนำว่าถ้างบถึงตัว Core i7 ก็จัดรุ่นนี้จะดีกว่า
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา Dell Inspiron 7472 จะมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่ก็เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้ว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว ทำให้แน่นอนว่าขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไป รวมไปถึงก็มีน้ำหนักเบากว่าด้วย เพียง 1.6 กิโลกรัมและบางเพียง 18.95 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่นั่นก็ยังเป็นดีไซน์เดิมๆ แบบรุ่นเก่าอย่าง Dell Inspiron 7460 อยู่ดี
Dell Inspiron 7472 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยสเปคภายในที่ครบครัน แม้ว่าตัวเครื่องจะบางเบาแล้ว แต่ก็ยังได้ Core i7 และการ์ดจอแยก อีกทั้ง SSD ก็มี ฮาร์ดดิสก์ธรรมดาก็มา
หน้าจอสวยสุดด้วย IPS ความละเอียดเนียนๆ ที่ Full HD ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการเป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูง แถมยังมีการรับประกันถึง 3 ปีอีกด้วย แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานกับแบรนด์ Dell โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวเมื่อเทียบกับสเปกความแรงล่ะก็ Dell Inspiron 7472 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ยังไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ เรียกได้ว่าน่าสียดายตรงจุดนี้มากๆ เลย รวมถึงการที่ไม่สามารถจัดการความร้อนได้ดีกว่ารุ่นก่อน อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ คนไหนอยากได้โน๊ตบุ๊คแนวๆ นี้ในราคาที่ถูกกว่า มี USB 3.1 Type-C ก็ลองดูเป็น Acer Swift 3 ก็ตอบโจทย์ได้เหมือนกัน ในราคาที่ถูกกว่าด้วย
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 13.3 นิ้ว
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล
- พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง พร้อมเทคโนโลยี Truelife
- ขอบจอบางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพิ่มความโดดเด่น
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบางพิเศษ วัสดุเป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูง
- ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุด และ SSD ความเร็วสูง
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10
- ประกันถึง 3 ปี มาพร้อม On-site Service มาตรฐาน Dell
ข้อสังเกตุ
- ดีไซน์การออกแบบทั้งหมด เหมือนรุ่นก่อนหน้า 100%
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในสเปกใกล้เคียงกัน
- หน้าจอ IPS ก็จริง แต่ค่า sRGB เพียง 60% เท่านั้น
- ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C ติดตั้งมาให้
- เมื่อใช้งานหนักๆ ต่อเนื่อง อุณภูมิจะสูงถึง 99 องศา
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 7472 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Inspiron มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 7472 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังบางเบาสุดๆ ด้วย ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 18.95 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.6 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 1.8 กิโลกรัม เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
Specification
สเปกภายในของตัว Dell Inspiron 7472 จะเป็นรุ่น Core i7 โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพด้วยอย่างการใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-8550U ความเร็ว 1.8GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 4.0GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 4 คอร์ 8 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 8 (Coffee Lake) รุ่นล่าสุด
ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce MX150 2GB GDDR5 ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับฮาร์ดดิสก์ยังมีความจุ 1TB พร้อมด้วย SSD M.2 ความจุ 128GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น
นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ารองรับการใช้งาน VDO Call สนนราคา Dell Inspiron 7472 รุ่นที่ทางทีมงานนำมารีวิวอยู่ที่ 34,990 บาท (ถูกกว่ารุ่นก่อน 3,000 บาท) พร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบ Dell Premium Support และ On-Site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ตามมาตรฐานของ Dell รวมถึงติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้
- สเปกเต็มๆ ของ Dell Inspiron 7472 รุ่น Core i7 ราคา 34,990 บาท
- สเปกเต็มๆ ของ Dell Inspiron 7472 รุ่น Core i5 ราคา 29,990 บาท
* รุ่น Core i5 จะเป็น Core i5-8250U แรมให้เป็น 4GB ส่วนฮาร์ดดิสก์ติดตั้งมาเพียง 500GB
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ Dell Inspiron 7472 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีการใช้ตัวเครื่องขนาด 13 นิ้วเท่านั้น ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก แต่ก็ยังใส่จอขนาด 14 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คมาตรฐานแบเดิมๆ ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ ที่สำคัญขอบจอยังบางเฉียบ ซึ่งจะไปในปัจจุบันถือว่าเป็นเรื่องปกติแล้ว
แนวคิดโดยรวมถอดแบบมาจากรุ่นบนอย่าง Dell XPS 13 เป็นอย่างดี ทำให้ห้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดในการทำให้ตัวเครื่องมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อย ที่ขอบอลูมิเนียมรอบของตัวเครื่อง ซึ่งมีให้เลือกอยู่สองสีด้วยกันคือ สีเงิน (Elegant Silver) และสีทอง (Rich Gold)
ส่วนของตัวเครื่องหลักๆ แล้วจะใช้เป็นอะลูมิเนียมและพลาสติกคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบ ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอะลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างง่ายเช่นกัน
ดังนั้นผู้ใช้อาจจะต้องขยันเช็ดดูแลทำความสะอาดเครื่องซักหน่อย ส่วนด้านในและโครงสร้างจะเป็นพลาสติก แต่พื้นผิวของด้านในจะเป็นลักษณะซอพต์ทัชให้ความรุ่สึกที่นุ่มมือเรียกได้ว่าเวลาใช้งานวางมือลงไปนั้นมีความสบายมากๆ แต่ก็ต้องระวังเพราะดูแล้วจะเป็นรอยได้ง่ายเหมือนกัน แต่อาจจะดูแปลกตาสักเล็กน้อยกับกล้องเว็บแคมที่ Dell Inspiron 7472 ติดตั้งเพราะอยู่บริเวณใต้จอ ต่างจากโน๊ตบุ๊คทั้งไปมักจะอยู่ขอบจอด้านบนกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Dell Inspiron 7472 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใส่ใจในรายละเอียดก็คือ มีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางเครื่องก็เพียง 18.95 มิลลิเมตร บอกได้เลยว่าจะหาโน๊ตบุ๊คแบบนี้จากแบรนด์อื่นๆ ก็ยากซักหน่อย นอกเหนือจากนี้ยังรองรับการใส่แรมได้ 1 แถวเท่านั้น ทำให้ในการอัพเกรดเพิ่มขนาดของแรม จำเป็นต้องถอดแถวเดิมออกด้วยนั่นเอง เช่นถ้าจะใส่ 16GB ก็ต้องซื้อแรมแถว 16GB มาเลย แล้วถอดแถวเดิมที่เป็น 8GB ออก ส่วนจะเอาไปขายหรืออะไรก็แล้วแต่อีกที
ส่วนการออกแบบมาอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คงเป็นส่วนของโลโก้ Dell ฝาหลังที่สวยงามเป็นสีเงิน ส่วนตัวเครื่องด้านล่างก็จะมีคำว่า Inspiron ปั๊มเอาไว้ นอกจากนี้การออกแบบยางรองใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่เหมือนใคร โดยใช้เป็นแถบยางยาวขนานไปกับแนวยาวของตัวเครื่อง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวอีก แน่นอนว่าสติกเกอร์ Windows 10 ก็จะติดอยู่บริเวณนี้เช่นกัน สำหรับ Dell Inspiron 7460ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญยังมีการในส่วนของเชื่อมต่อของ Dell Inspiron 7472 ก็รองรับเพราะมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน เรียกได้ว่าเรื่องของดีไซน์นั้นตอบโจทย์กับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้วเครื่องเดียวจบแน่นอน ทำให้ไม่ว่าเราจะเอาไปทำงาน หรือเพื่อความบันเทิง ก็ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้หมด แต่ข้อสังเกตุก็คือ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์อะไรไปจาก Dell Inspiron 7460 เลยแม้แต่น้อย
*รูปทั้งหมดในรีวิวนี้นำมาจาก Dell Inspiron 7460 บทความเดิมเลย
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีความโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด
รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
Dell Inspiron 7472 ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD เทคโนโลยี Truelife ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ค่อนข้างน่าประทับใจ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว และด้วยความที่จอเป็นแบบกระจกที่ให้เรื่องสีสันสดใส แต่ก็ค่อนข้างสะท้อนแสงพอสมควร ส่งผลให้ในการใช้งานไม่ควรหันจอไปทางแหล่งกำเนิดแสงหรือในที่ที่สว่างมากๆ เพราะอาจจะรบกวนการทำงานของเราได้ อย่างไรก็ตามมีการใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 7472 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่เพียง 60% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีเหลืองอมแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันธรรมดาในเกณฑ์ทั่วไป ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 220 cd/m2 ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เอาไปทำงานข้างนอกสบายๆ แต่ทำอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลักมากนัก
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าตรงกลางหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านขอบมุมขวาบนที่ลดลงไปที่ระดับ 11% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ มาตราฐานทั่วไป เหมาะสำหรับคนเอามาดูหนังฟังเพลง เล่นเกม พอได้อยู่
ลำโพงสเตอริโอเทคโนโลยี Waves MaxxAudio Pro ที่อยู่บริเวณด้านหน้าของตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ให้เสียงที่ค่อนข้างดี แยกรายละเอียดได้ในระดับที่ดีน่าประทับใจ ถือได้ว่ามีเสียงดังชัดเจนออกแนวใสๆ เน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต (รองรับการชาร์จไฟ 1 พอร์ต) ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูล รวมไปถึงชาร์จสมาร์ทโฟน และพอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ตที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน รวมไปถึงยังมีช่องเชื่อมต่อไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องอ่าน SD Card ตามสมัยนิยมอีกด้วย ซึ่งก็ยังน่าเสียดายอยู่ว่าแม้ว่าจะเป็นรุ่นใหม่ แต่ก็ยังไม่มีการติดตั้ง USB 3.1 Type-C มาเลย ทั้งๆ ที่ควรมีมาแล้ว
เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่ใกล้เคียง ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ที่ชาร์จเข้าไปด้วย ก็จะมีหนักราวๆ 1.8 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลย เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คเน้นประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันทีเดียว
Performance / Software
Dell Inspiron 7472 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-8550U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.8 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.0 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ
เทียบกับรุ่นก่อนเรียกได้ว่าแรงขึ้นพอตัวเพราะ Core เยอะขึ้น แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสู้กว่าพวก Core i7 ตัวซีรีย์ H ตรงๆ ไม่ได้เรื่องของประสิทธิภาพการประมวลผล แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบาย
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 620 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการ์ดจอน้องเล็กรุ่นล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce MX150 (2GB GDDR5) ที่ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับ GTX 950m เลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกมหนักๆ พอได้บ้าง ซึ่งเดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้เป็น SSD แบบ M.2 SATA3 ที่ความจุ 128GB ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ กับความเร็วระดับ Read: 553 MB/s – Write: 215 MB/s (แอบเขียนช้าไปหน่อย) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 3,567 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คมีการ์ดจอแยก ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกเดียวกันที่ไม่มีนั่นเอง
การทดสอบเกมจะเป็นเกมที่ไม่หนักมาก แต่เป็นเกมที่คนส่วนมากนิยมเล่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็เล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 และ Overwatch ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ Native 1920 x 1080 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างเลยสำหรับ DOTA 2 ส่วน Overwatch จะเป็นปรับแบบ Lowโดย Rendering 100% ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับที่น่าประทับใจ พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้สำหรับเกมออนไลน์แนวนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึงเกมออนไลน์อื่นๆ ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Dell Inspiron 7472 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3,200 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ดูแล้วอาจให้ระยะเวลาการทำงานที่ค่อนข้างสั้นกว่าเครื่องอื่นเล็กน้อย ส่วนช่องระบายความร้อนของDell Inspiron 7460 จะอยู่ด้านบนบริเวณข้อพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอะลูมิเนียมของจอ ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 99 องศาเซลเซียสทีเดียว ด้วยการที่ระบบระบายความร้อนของ Dell Inspiron 7472 ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานหนักๆ ตลอดเวลา เหมือน Gaming Notebook เครื่องอื่นๆ ซึ่งจากการทดสอบเป็นการนำไปเล่นเกมหลายชั่วโมง อย่างไรก็ตามตัวเครื่องไม่ได้เกิดอาการค้าง หน่วง หรือมีปัญหาแต่อย่างใด แม้ว่าชิปประมวลผล Intel และ NVDIA รุ่นล่าสุดจะแรงขึ้น แต่ทางฝั่ง Intel เหมือนจะร้อนขึ้นด้วย เรียกได้ว่าชุดระบายความร้อนของ Dell ไม่สามารถจัดการได้เย็นกว่านี้แล้ว เวลาใช้งานหนักๆ ฉะนั้นใครกังวลส่วนนี้ก็ควรหลีกเลี่ยง
Conclusion / Award
เป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ ด้วยความเป็นแบรนด์ Dell อย่าง Inspiron 7472 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล Inspiron ได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตุในเรื่องของราคาค่าตัวที่สูงซักหน่อย (เมื่อเทียบกับสเปกที่ใกล้เคียงกัน) โดยสนนเริ่มต้นที่ 29,990 บาท สำหรับรุ่น Core i5 ความละเอียดหน้าจอ Full HD ส่วนรุ่น Core i7 ก็สนนราคาที่ 34,990 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องชิปประมวลผล แรม และฮาร์ดดิสก์ที่มากว่า แต่ส่วนอื่นๆ ก็เหมือนกันหมด โดยส่วนตัวแล้วแนะนำว่าถ้างบถึงตัว Core i7 ก็จัดรุ่นนี้จะดีกว่า
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา Dell Inspiron 7472 จะมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่ก็เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้ว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว ทำให้แน่นอนว่าขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไป รวมไปถึงก็มีน้ำหนักเบากว่าด้วย เพียง 1.6 กิโลกรัมและบางเพียง 18.95 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่นั่นก็ยังเป็นดีไซน์เดิมๆ แบบรุ่นเก่าอย่าง Dell Inspiron 7460 อยู่ดี
Dell Inspiron 7472 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยสเปคภายในที่ครบครัน แม้ว่าตัวเครื่องจะบางเบาแล้ว แต่ก็ยังได้ Core i7 และการ์ดจอแยก อีกทั้ง SSD ก็มี ฮาร์ดดิสก์ธรรมดาก็มา
หน้าจอสวยสุดด้วย IPS ความละเอียดเนียนๆ ที่ Full HD ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการเป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูง แถมยังมีการรับประกันถึง 3 ปีอีกด้วย แบบ On-site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย นอกจากนี้ยังมี Call Center ช่วยบริการตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ค ที่เน้นประสบการณ์ใช้งานกับแบรนด์ Dell โดยไม่กังวลในเรื่องของราคาค่าตัวเมื่อเทียบกับสเปกความแรงล่ะก็ Dell Inspiron 7472 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับ แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ยังไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ เรียกได้ว่าน่าสียดายตรงจุดนี้มากๆ เลย รวมถึงการที่ไม่สามารถจัดการความร้อนได้ดีกว่ารุ่นก่อน อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ คนไหนอยากได้โน๊ตบุ๊คแนวๆ นี้ในราคาที่ถูกกว่า มี USB 3.1 Type-C ก็ลองดูเป็น Acer Swift 3 ก็ตอบโจทย์ได้เหมือนกัน ในราคาที่ถูกกว่าด้วย
จุดเด่น
- เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 13.3 นิ้ว
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD 1920 x 1080 พิกเซล
- พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง พร้อมเทคโนโลยี Truelife
- ขอบจอบางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพิ่มความโดดเด่น
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบางพิเศษ วัสดุเป็นอะลูมิเนียมคุณภาพสูง
- ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุด และ SSD ความเร็วสูง
- มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10
- ประกันถึง 3 ปี มาพร้อม On-site Service มาตรฐาน Dell
ข้อสังเกตุ
- ดีไซน์การออกแบบทั้งหมด เหมือนรุ่นก่อนหน้า 100%
- ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในสเปกใกล้เคียงกัน
- หน้าจอ IPS ก็จริง แต่ค่า sRGB เพียง 60% เท่านั้น
- ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C ติดตั้งมาให้
- เมื่อใช้งานหนักๆ ต่อเนื่อง อุณภูมิจะสูงถึง 99 องศา
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 7472 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Inspiron มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 7472 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังบางเบาสุดๆ ด้วย ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 18.95 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.6 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 1.8 กิโลกรัม เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ