ตั้งแต่ทาง Intel ได้ทำการเปิดตัว miniPC ในรูปแบบของ NUC ออกมานั้น เรียกได้ว่าในสมัยก่อนเจ้า NUC นี้จะไม่ค่อยรองรับการเล่นเกมมากเท่าไร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้ NUC มักจะนำไปใช้ในการทำงานในสำนักงานมากกว่า ทว่ากับ “Hades Canyon NUC” รุ่นใหม่ล่าสุดนั้นทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วครับเพราะจากผลการทดสอบนั้นเรียกได้ว่ามันสามารถใช้ในการเล่นเกมได้แบบสบายๆ เลยทีเดียว ลองมาดูกันครับว่า “Hades Canyon NUC” นั้นจะน่าสนใจมากแค่ไหน
Specification
เริ่มต้นแล้วนั้นเรามาดูในส่วนของสเปคกันก่อนครับ “Hades Canyon NUC” นั้นมาพร้อมกับสเปคดังต่อไปนี้ครับ
- หน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Intel® Core™ i7-8809G ที่มีแกนการประมวลผล 4 แกน 8 threads ความเร็วสัญญาณนาฬิกาฐานอยู่ที่ 3.10 GHz และ Turbo boost สูงสุดที่ 4.20 GHz
- ชิปกราฟิกแบบแยกรุ่น Radeon™ RX Vega M GH ความเร็วสัญญาณนาฬิกาฐานอยู่ที่ 1063 MHz และ Turbo boost สูงสุดที่ 1190 MHz
- ชิปกราฟิกแบบฝังรุ่น Intel® HD Graphics 630 ความเร็วสัญญาณนาฬิกาฐานอยู่ที่ 350 MHz และ Turbo boost สูงสุดที่ 1100 MHz
- หน่วยความจำ(RAM) แบบ DDR4 ความเร็ว 2400 MHz เลือกได้สูงสุดที่ขนาด 32 GB
- แหล่งเก็บข้อมูลแบบ M.2 SSD จำนวน 2 slots
- พอร์ทการเชื่อมต่อประกอบไปด้วย USB Type-C ที่รองรับ Thunderbolt 3 (40Gbps) จำนวน 1 พอร์ททางด้านหลังของตัวเครื่อง, SDXC card slot, USB Type-A ทางด้านหน้าจำนวน 1 พอร์ท, USB 3.1 Gen 2 Type-C จำนวน 1 พอร์ททางด้านหลัง, USB 3.0 จำนวน 4 พอร์ททางด้านหลัง, USB 3.0 ทางด้านหน้าจำนวน 1 พอร์ท, USB 3.1 Gen 2 แบบ Type-A จำนวน 1 พอร์ทและ Type-C อีกหนึ่งพอร์ททางด้านหน้า, HDMI 2.0a จำนวน 1 พอร์ททั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง, mini DisplayProt จำนวน 2 พอร์ท, Ethernet 1000 MB, S/PDIF และ audio 3.5 mm
- การเชื่อมต่อไร้สายมาพร้อมกับ Intel® Wireless-AC 8265 และ Bluetooth 4.2
Test Gaming
จากสเปคนั้นจะเห็นได้ว่าแรงพอสมควรเลยครับ แต่จะแรงจริงๆ หรือไม่นั้นลองมาดูคลิปดังต่อไปนี้ครับ
ในการทดสอบการเล่นเกมและ Benchmark นั้น Hades Canyon NUC ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวครับกับการเป็น miniPC โดยในการเล่นเกมนั้นทาง engadget ได้ทำการทดสอบตามเกมดังต่อไปนี้
- Doom 3 ความเร็วอยู่ระหว่าง 50 – 60 FPS เล่นที่ความละเอียด 1080p พร้อมเปิดเอฟเฟคแบบ High(ถ้าปรับเพิ่มมากกว่านี้ความเร็วจะลดลงไปอยู่ที่ราวๆ 40 FPS ซึ่งก็ยังถือว่าน่าประทับใจอยู่)
- Overwatch ความเร็วอยู่ระหว่าง 60 – 90 FPS เล่นที่ความละเอียด 1080p พร้อมเปิดเอฟเฟคแบบ Ultra
- Hellblade: Senua’s Sacrifice ความเร็วอยู่ระหว่าง 30 – 40 FPS เล่นที่ความละเอียด 1080p พร้อมเปิดเอฟเฟคแบบ Very High(ถ้าเปิดเอฟเฟคที่ High จะมีความเร็วอยู่ในช่วง 50 – 60 FPS
จะเห็นได้ครับว่า Hades Canyon NUC นั้นรองรับการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 1080p ได้เป็นอย่างดี แถมทาง Intel ยังได้บอกเอาไว้ว่า Hades Canyon NUC นั้นรองรับการเล่นเกมด้วยอุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงอีกดังนั้นแล้วทาง engadget จึงได้ทำการทดสอบกับ Oculus Rift โดยการรันด้วยเกม Superhot, Duck Season และ Serious Sam VR ทว่าผลที่ได้นั้นไม่ค่อยจะน่าพอใจสักเท่าไรเพราะถ้าคุณต้องการเล่นให้ลื่นล่ะก็ต้องเปิดเอฟเฟคไว้ที่ต่ำสุดถึงจะเล่นได้ครับ
สำหรับผลการ Benchmark นั้นจะเป็นดังต่อไปนี้ครับ
ในจุดนี้นั้นถือว่าน่าประทับใจมากครับกับการเป็น NUC ของ Hades Canyon ซึ่งจากการทดสอบนั้นพบว่ามันเร็วกว่า NUC รุ่นพี่อย่าง Skull Canyon ถึง 3 เท่าตัวเลยทีเดียว ประสิทธิภาพที่ได้มานี้นั้นคงต้องยกให้ Intel® Core™ i7-8809G และ Radeon™ RX Vega M GH เขาล่ะครับ
อีกจุดเด่นของ Hades Canyon NUC นั้นก็ต้องเป็นระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบปิดที่ทาง Intel ได้พัฒนาขึ้นมาซึ่งในการใช้งานนั้นพบว่า CPU และ GPU จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ 55 องศาเซลเซียสเมื่อใช้งานปกติด และสูงขึ้นไปอยู่ที่ราวๆ 70 องศาเซลเซียสขณะที่ใช้งานหนักๆ ครับ
อย่างไรก็ตามครับใช่ว่าเจ้า Hades Canyon NUC นั้นจะมีข้อดีเพียงอย่างเดียวเพราะว่าข้อเสียของมันก็มีเหมือนกันอย่างการที่มันไม่รองรับการเล่นคลิปวีดีโอที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ HDR หรือแม้กระทั่ง 4K Blu-ray ก็ไม่รองรับ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ Youtube ที่มีการเข้ารหัสไว้แบบ VP9 codec ก็ไม่สามารถเล่นได้ซึ่งมาจากผลของการที่ทาง AMD ได้ตัดฟีเจอร์ดังกล่าวออกไปบน Radeon™ RX Vega M GH ครับ
Pricing
อีกหนึ่งจุดที่อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนคิดหนักนั่นก็คือเรื่องราคาครับ โดย Hades Canyon NUC รุ่นที่มาพร้อมกับสเปคท๊อปสุด(ซึ่งใช้ในการรีวิวของบทความนี้) จะมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ $999 หรือประมาณ 31,140 บาท ซึ่งราคาในระดับนี้นั้นผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่อง miniPC สำหรับการเล่นเกม(ซึ่งมีขนาดตัวเครื่องใหญ่กว่า NUC อย่างเช่น Zboxes ของทาง Zotac) ได้โดยประสิทธิภาพในการเล่นเกมและความยืดหยุ่นในการปรับตั้งฮาร์ดแวร์ก็ดีกว่าครับ
สรุป
เมื่อเทียบกับ NUC ด้วยกันเองแล้วนั้น Hades Canyon NUC ถือว่าทำได้ดีครับโดยเฉพาะกับประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ระดับ 1080p แต่ถ้าคุณไม่ได้ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กมากๆ เพื่อใช้ในการเล่นเกมนั้น ด้วยราคาของ Hades Canyon NUC เองคุณก็มีตัวเลือกที่ดีกว่าในการใช้งานครับ
ข้อดี
- หน่วยประมวลผลและกราฟิกชิปแบบแยกมีประสิทธิภาพที่ดีมากๆ เมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์แบบ NUC ด้วยกันเอง
- พอร์ทการเชื่อมต่อเยอะมาก
- การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ภายในตัวเครื่องสามารถทำได้ง่ายและรองรับการเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลแบบ M.2 SSD ได้อีก 1 ตัว
ข้อเสีย
- ราคาถือว่าแรงมากเกินไป
- Power adapter มีขนาดใหญ่มากทำให้ในการพกพานั้นไม่ได้สะดวกเท่าไรนัก
- ถึงจะรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงแต่ประสิทธิภาพที่ได้นั้นพบว่าไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
ที่มา : engadget