IPv6 คืออะไร มาทำความเข้าใจกันสักเล็กน้อย IPv6 มาจากคำว่า Internet Protocol version 6 เป็นโปรโตคอลใหม่เกิดมาเพื่อทดแทนอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลรุ่นเดิม (ปัจจุบันเป็น Internet Protocol version 4 :IPv4) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของตัวโปรโตคอล ให้รองรับหมายเลขแอดเดรสจำนวนมาก และปรับปรุงคุณลักษณะอื่นๆ อีกหลายประการ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัยรองรับระบบแอพพลิเคชั่น (application) ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลแพ็กเก็ต (packet) ให้ดีขึ้น ทำให้สามารถตอบสนองต่อการขยายตัวและความต้องการใช้งานเทคโนโลยีบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในอนาคตได้เป็นอย่างดี ?(อ่านรายละเอียดแบบเต็มได้ที่ http://www.ipv6.nectec.or.th/faq.php#ans1 )
ปัจจุบันในประเทศไทยยังไม่มีการนำมาใช้อย่างจริงจัง ISP ต่างๆในไทยก็ยังไม่เปิดใช้กับผู้ใช้ทั่วไป แต่ในระบบปฎิบัติการ Windows 7 ได้ตั้งเป็นค่าดีฟอลต์ให้โหลดขึ้นทำงานพร้อมกับ IPv4 ในเมื่อไม่ได้ใช้ เราก็สามารถปิดการทำงานไม่ดีกว่าหรือ ที่ผมมีความคิดให้ปิดก็เหตุ 2 ประการ
1.Resources (ทรัพยากรของระบบ) – ในเมื่อไม่ได้ใช้งาน คุณจะเปิดโปรโตคอลถึง 2 ตัว (IPv4 และ IPv6) ทำให้ CPU ทำงานมากขึ้นกับสิ่งที่ไม่ได้ใช้ทำไม เปิดเฉพาะที่ใช้จริง (IPv4) ก็พอ
2.Security (ความปลอดภัย) ? การที่มีอินเตอร์เน็ตมีโปรโตคอลอื่นๆ อยู่มาก ก็เป็นการเพิ่มช่องทางความเสี่ยงของโปรแกรมที่ไม่หวังดี เข้าโจมตีได้
เมื่อทราบเหตุผลแล้ว ถ้าคุณต้องการทำการปิด IPv6 ก็ทำตามนี้
1.พิมพ์ regedit ที่ช่องว่าง Search ของ Start Menu แล้ว Enter
2.เมื่อ Registry Editor เปิดขึ้นมาที่หน้าต่างด้านซ้าย ให้ไปตามคีย์ย่อยดังนี้
HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentControlSet\Services\Tcpip6\Parameters
3.ทำการสร้างคีย์ใหม่ โดยคลิกขวาที่ว่างๆ ที่หน้าต่างด้านขวา โดยเลือกคำสั่ง New > DWORD (32-bit) Value ให้ชื่อคีย์เป็น DisabledComponents
4.ดับเบิลคลิกที่คีย์ DisabledComponents ที่หน้าต่าง Edit DWORD (32-bit) Value ให้ใส่ค่า FF ที่ช่องว่าง Value data: ?แล้วคลิก OK
5. ปิด Registry Editor แล้วรีสตาร์ตเครื่อง เพื่อให้การปรับแต่งเป็นผล
หมายเหตุ ในกรณีต้องการให้เปิดใช้ IPv6 ขึ้นมาใหม่ก็ให้ไปลบคีย์ DisabledComponents ที่สร้างขึ้นมา