สำหรับนักเล่นเกมที่ใช้โน๊ตบุ๊คเป็นเครื่องหลักสำหรับการเล่นเกมนั้นทาง MSI ได้ทำการเปิดโน๊ตบุ๊คไลน์ใหม่ประจำต้นปี 2018 มาให้ทุกๆ ท่านได้เสียเงินกันอีกแล้วครับ โดยสำหรับโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ที่ทาง MSI เปิดตัวออกมานี้จะประกอบไปด้วยรุ่น GS65 Stealth Thin gaming, GT75 Titan, GE Raider RGB Edition, GT83 Titan และ GT63 Titan ตามมาด้วยรุ่นกลางอย่าง GP, GL และ GV ที่ได้รับการอัพเดทหน่วยประมวลผลเป็นรุ่นที่ 8 ของทาง Intel ด้วย แต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้นไปติดตามกันได้เลยครับ
GS65 Stealth Thin Gaming Laptop
เริ่มกันด้วยรุ่นเล็กที่ประสิทธิภาพไม่เล็กตามไปด้วยกัน GS65 Stealth Thin ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่เน้นในเรื่องของความบางพกพาได้สะดวก ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลรุ่นที่ 8 ของทาง Intel(ระบุไว้แต่เพียงว่าเป็น Core i7 แต่ไม่ได้ลงลึกว่าเป็นรหัสใด) พร้อมด้วยชิปกราฟิกอย่าง GeForce GTX 1070(และในรุ่นราคาถูกกว่ากับ GTX 1060) บนหน้าจอพาเนล IPS ที่มาพร้อมกับความถี่สูงถึง 144 Hz และ response time 7 ms ขอบบางเพียงแค่ 4.9 mm เท่านั้น
ตามที่ทาง MSI ให้ข้อมูลมานั้น GS65 Stealth Thin จะมีประสิทธิภาพโดยรวมมากกว่า Stealth ในปี 2017 อยู่ที่ราวๆ 40 % ด้วยหน่วยประมวลผลที่เลือกใช้นั้นจะมาพร้อมกับแกนการประมวลผลมากถึง 6 แกนซึ่งหลายๆ ท่านอาจจะกังวลในเรื่องความร้อนทว่าด้วยเทคโนโลยีการระบายความร้อนรุ่นอัพเกรดอย่าง MSI Cooler Boost Trinity cooling จะทำให้คุณลืมเรื่องความร้อนไปได้ดดยปริยายครับ
GS65 Stealth Thin นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4 cell ที่สามารถใช้งานในโหมดปกติได้ยาวนานมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตัวเครื่องมีน้ำหนักอยู่แค่เพียง 1.79 kg เท่านั้นทำให้สบายใจได้ว่าพกพาสะดวกสบายอย่างแน่นอน ตัวคีย์บอร์ดเป็นของ SteelSeries ที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างแบบ RGB ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะทำการปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการผ่านทางโปรแกรม Dragon Center 2.0(ซึ่งสามารถปรับโหมดในการใช้งานต่างๆ รวมไปถึงโหมดการเล่นเกมที่จะทำให้คุณได้พบกับประสบการณ์การเล่นเกมที่เจ๋งกว่าเดิม)
ทั้งนี้ GS65 Stealth Thin จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้(แต่เปิดให้ pre-order แล้ว) สำหรับราคานั้นยังไม่มีการเผยข้อมูลออกมาอย่างเป็นทางการครับ
GS73 & GS63 Stealth Processor Updates
ต่อมานั้นเรายังคงเกาะอยู่กับรุ่น Stealth ที่ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ประจำปี 2018 อย่างรุ่น GS73 และ GS63 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้นั้นจะได้รับการอัพเกรดหน่วยประมวลผลเป็นรุ่นที่ 8 ของทาง Intel เช่นเดียวกันทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 40% ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่มีไฟส่องสว่างแบบ RGB โดยจะมีแป้นอยู่ที่ 102 แป้น ระบบระบายความร้อนนั้นได้รับการเปลี่ยนพักสมใหม่ที่มีความบางมากกว่าเดิม ลำโพงเป็นของ Dynaudio และได้รับการอัพเกรดการเชื่อมต่อเป็น Killer 1550 และ Bluetooth v5 ปิดท้ายด้วยการรองรับโปรแกรมปรับแต่งประสิทธิภาพอย่าง Dragon Center 2.0 รุ่นใหม่ครับ
GT75 TITAN with Hexa-Core Processor
ต่อกันด้วยรุ่นใหญ่ที่มาพร้อมกับสเปคแบบจัดเต็มกันบ้างกับ GT75 TITAN ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลรุ่นที่ 8 ของทาง Intel ในซีรีย์ Core i9 ซึ่งมีแกนการประมวลผลมากถึง 6 แกน 12 thread และพิเศษกว่าตรงที่คุณสามารถทำการ Overclocked ความเร็วสัญญาณนาฬิกาของหน่วยประมวลผลบน GT75 TITAN ได้ ตัวเครื่องมาพร้อมกับคีย์บอร์ดแบบ mechanical พร้อมกับตัวเลือกกราฟิกชิปทั้ง GTX 1080, GTX 1070 และ GTX 1070 SLI ครับ
นอกเหนือไปจากนั้นแล้ว GT83 Titan และ GT63 Titan ก็ได้รับการอัพเกรดใหม่ด้วยเช่นกันด้วยการเปลี่ยนมาใช้หน่วยประมวลผลรุ่นที่ 8 ของทาง Intel นอกไปจากนั้นแล้วยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกเล็กน้อย อย่าง GT83 TITAN นั้นก็ได้เปลี่ยนมาใช้คีย์บอร์ดที่มาพร้อมกับสวิตซ์ Cherry MX Speed Silver ทุกแป้น พร้อมด้วยกราฟิกชิป GTX 1080 เชื่อมต่อกันแบบ SLI สำหรับ GT63 TITAN นั้นจะได้รับการอัพเกรดมาใช้ชิปกราฟิก GTX 1080 พร้อมด้วยคีย์บอร์ด SteelSeries gaming ที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่าง RGB ครับ
GE Raider RGB Edition
ปิดท้ายด้วยรุ่นราคาเอื้อมถึงแต่ความแรงยังไม่จางหายกับ GE63/73 Raider RGB Edition ซึ่งนอกจากในส่วนของหน่วยประมวลผลที่จะได้รับการอัพเกรดมาใช้รุ่นที่ 8 ของทาง Intel แล้ว ตัวเครื่องยังชูจุดเด่นด้วยการมาพร้อมกับ ultra-illumination with RGB lighting บนส่วนของฝาปิดด้านบนซึ่งสามารถปรับความแตกต่างของสีได้ถึง 24 โซนรวมถึงไฟแบบ RGB ก็ยังสามารถที่จะปรับสีได้มากถึง 16.8 ล้านสี
ตัวเครื่องทั้ง 2 รุ่นนั้นจะมาพร้อมกับระบบระบายความร้อน MSI Cooler Boost 5 เพื่อระบายความร้อนให้กับหน่วยประมวลผลและชิปกราฟิกอย่าง GTX 1070/1060 การเชื่อมต่แบบไร้สายก็ได้รับการอัพเกรดมาเป็น Nahimic 3, Killer networking และ Bluetooth 5.0 ครับ
หมายเหตุ – ในรุ่น TITAN และ GE Raider RGB Edition นั้นยังไม่มีการเผยวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการออกมา
ที่มา : techpowerup