นับวันข้อมูลก็จะมีแต่มากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะภาพถ่ายที่มักจะทำให้สมาร์ทโฟนของท่านเต็มได้อย่างง่ายดาย (โดยเฉพาะสาวๆที่เห็นกระจกเป็นไม่ได้ต้องถ่ายสักหน่อยละ) หน่วยความจำที่ขายๆกัน 64 ,128GB คงไม่พอ ไม่ต้องพูดถึง 256GB ที่บางท่านก็อาจจะใช้ไม่เหลือ และพอมีเหตุจำเป็นต้องถ่ายรูปขึ้นมาก็ต้องมาเลือกลบรูปเพื่อถ่ายภาพใหม่ บางท่านมีคอมไว้เก็บข้อมูลก็ยังดี แต่บ้างท่านไม่มีหรือใช้เครื่องออฟฟิตต่อสมาร์ทโฟนก็คงไม่ดี จะดีแค่ไหนถ้าเรามีหน่วยความจำส่วนตัวที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกที่ทุกเวลา และสะดวกง่ายได้แถมยังใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือพีซีกับ WD My Cloud Home Duo
WD My Cloud Home เป็นอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลบนเครือขายแบบเอนกประสงค์ เน้นการใช้งานที่ง่ายและสะดวก เพียงเชื่อมต่อสายแลนและ ลงแอพ/โปรแกรมอีกเล็กน้อยก็สามารถใช้งานได้แล้ว หรือถ้าป็นแบรนด์อื่นอาจจะเรียก NAS โดย WD My Cloud Home จะแบ่งเป็น 2 รุ่น แบบฮาร์ดิสค์ลูกเดียว ที่มีความจุตั้งแต่ 2 – 8TB และแบบ Duo ที่จะเพิ่มความจุอีกเท่าตัวเป็น 4 – 16TB โดยนอกจากพอร์ตแลนแล้ว ยังมีพอร์ต USB 3.0 สำหรับดึงข้อมูลอีกด้วย
WD My Cloud Home Duo มากับกล่องเรียบๆเน้นโทนสีเขียวขาว พร้อมระบุฟีเจอร์และข้อมูลสเปคครบครัน โดยตัวที่ทีมงานได้มาทดสอบความจุ 4TB แบบ Duo (2TB x 2) พร้อมแนะนำการเชื่อมต่อเบื่องต้น โดยอุปกรณ์ในกล่องจะมีคู่มือ ,Adapter พร้อมหัวแปลง ,สาย LAN
การออกแบบของ WD My Cloud Home Duo จะเป็นไปตามธีมใหม่ของทาง WD ที่จะเน้นสีอุปกรณ์เป็น 2 เฉด โดยด้านบนจะเป็นสีขาวโล่งๆ และชิ้นล่างที่จะเป็นตำแหน่งของพอร์ต สีเงินพร้อมการขึ้นลายพิเศษ เพื่อให้ช่วยจับได้กระชับมือ วัสดุเป็นพลาสติกเงาๆ ขนาดค่อนข้างใหญ่ดีทีเดียว และมีน้ำหนักมากไม่เหมาะกับการพกพาเท่าไร โดยจะมีไฟแสดงสถานะบริเวณขอบด้านหน้า (เน้นต่อไว้ใช้งานยาวๆมากกว่า)
ด้านหลังจะมีช่องระบายความร้อนพร้อมพัดลมด้านบน และด้านล่างจะมี รูสำหรับรีเซต ,USB 3.0 2 พอร์ต ,LAN (RJ45) และพอร์ต Adapter
WD My Cloud Home Duo จะมีช่องด้านบนให้สามารถเปิดเพื่อดึงฮาร์ดดิสค์ข้างในออกมาได้ โดยก่อนถอดออกมาต้องดึงสลักล๊อคออกมาก่อน โดยฮาร์ดดิสค์ภายใน WD จะให้รุ่น Rad ที่เป็นเกรดสำหรับ NAS มาให้ ซึ่งจะทนทานและใช้งานได้ยาวนานกว่า WD My Cloud Home Duo ที่ทีมงานได้มาทดสอบจะเป็น WD Rad ความจุ 2 TB จำนวน 2 ลูก
การเชื่อมต่อจะต่างจากรุ่นอื่นๆ เพราะต้องเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ตเท่านั้นจะมาต่อแลน หรือยูเอสบีไม่ได้ ต้องเซ็ตอัพผ่านโปรแกรมเท่านั้น โดยเข้าเว็บไซต์ www.MyCloud.com จากนั้นเลือกให้ตรงกับรุ่นของตัวเอง หรือหากใครใช้สมาร์ทโฟนก็สามารถเข้าผ่านแอปพลิเคชัน Android หรือ iOS ได้เช่นกัน
ถ้าไม่เคยใช้บริการ ต้องลงทะเบียนก่อนนะครับ ซึ่งก็ไม่ยากอะไรแค่ลงอีเมล์ สร้าง user pass จากนั้นยืนยันอีเมล์ก็ใช้ได้ครับ จากนั้นจะมีให้เพิ่มอุปกรณ์เข้าไป โดยใต้ WD My Cloud Home Duo จะมีรหัส 9 ตัว 3 หลัก เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ซื้อมาใหม่เลยจะสามารถเพิ่มได้ไม่ยาก แต่กรณีที่อุปกรณ์เคยเปิดใช้งานหรือลงทะเบียนมาแล้ว จำเป็นต้องให้ผู้ที่ลงทะเบียนอุปกรณ์อนุมัติก่อนจึงจะเข้าไปใช้งานได้
การใช้งานเบื่องต้นแม้ไม่ติดตั้งโปรแกรมก็สามารถใช้งานผ่าน Browser ได้เลย ไม่ว่าจะเพิ่ม ลบไฟล์ เพิ่มลบโฟรเดอร์ก็สามารถทำงานได้ นอกจากนั้นก็จะมีให้สามารถดึงรูปจากโซเชียลมีเดียที่เราใช้งานอยู่ก็ยังได้
ต่อมาจะเป็นโปรแกรมที่เราติดตั้งบนพีซี เมื่อติดตั้งแล้วตัวโปรแกรมจะเพิ่มไดร์ฟของ WD My Cloud Home เป็นเหมือนไดร์ฟอีกลูกบนเครื่องเลย จึงทำให้สามารถใช้งานได้เหมือนฮาร์ดดิิสค์ทั่วไปที่ต่อยูเอสบีได้ทันที นอกจากนั้นยังสามารถ Backup ไดร์ฟ USB หรือฮาร์ดดิสค์ลูกอื่นๆเข้า WD My Cloud Home ได้ทันทีอีกด้วย (แต่ถ้าข้อมูลเยอะมากก็จะนานหน่อย) และแน่นอนว่าสามารถเพิ่มแอพอื่นเข้ามาช่วยใช้งานได้อีก
แอพของสมาร์ทโฟน สามารถใช้งานได้ไม่ต่างจากตัว Browser เท่าไร ทั้ง ui และการใช้งานต่างๆ แต่ก็ทำให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายแม้ไม่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย
จากการได้ทดสอบใช้งาน WD My Cloud Home Duo ตัวนี้ ต้องยอมรับครับว่าเพิ่มความสะดวกในการสำรองข้อมูลอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่สามารถโยนรูปภาพมาสำรองที่ตัว WD My Cloud Home ได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆครับ ถ้าเป็น nas รูปแบบอื่นอาจจะต้องเซ็ตอัพวุ่นวาย ต้องเชื่อมต่อผ่านโปรแกรมอีกซึ่งยากต่อผู้ใช้งานทั่วไป แต่ WD My Cloud Home นั้นสามารถทำงานได้ง่ายและสะดวกไม่ว่าอยู่ที่ไหน ผมนำตัว WD My Cloud Home ต่อไว้กับเน็ตที่ออฟฟิต แล้วออกมาทำงานข้างนอก กลับบ้านต่างจังหวัดก็ยังสามารถโยนรูปเข้าไปเก็บ หรือดึงข้อมูลจากตัวฮาร์ดดิสค์ออกมาได้ทันที อีกส่วนที่สะดวกสำหรับการใช้งานตามบ้านหรือตามออฟฟิตคือสามารถให้ใช้เป็นหน่วยความจำกลางที่ให้คนอื่นๆเข้ามาใช้งานได้ด้วยไม่จำเป็นแค่เฉพาะอุปกรณ์ของเราคนเดียวเท่านั้น
WD My Cloud Home เหมาะกับผู้ใช้งานตามบ้านหรือออฟฟิตขนาดเล็กไว้เป็นศูนย์กลางสำหรับเก็บข้อมูลโดยเฉพาะรูปถ่ายที่สามารถโยนเข้ามาเก็บไว้ได้ทันที ทุกที่ทุกเวลาแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเท่านั้น อีกทั้งการออกแบบให้ติดตั้งและใช้งานได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือพีซี โดยเฉพาะสาวๆที่สมาร์ทโฟนมักจะถ่ายภาพจนเต็ม WD My Cloud Home คือคำตอบที่ทำให้ท่านไม่ต้องซื้อสมาร์ทโฟนใหม่ (เพราะหน่วยความจำเต็ม) อีกต่อไป
WD My Cloud Home มาในราคาเริ่มต้น 2 TB ที่ 5,150 บาท
จุดเด่น
- ติดตั้งและใช้งานได้ง่าย
- รองรับทุกแพลตฟอร์ม
- สามารถถอดเปลี่ยนฮาร์ดดิสค์ได้เอง
ข้อสังเกตุ
- รีเซ็ตยาก
- มีราคาต่อความจุสูง