เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดคุ้มค่าราคาประหยัดอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจที่มาในช่วงเดือน มี.ค. นี้ ซึ่งทางทีมงานอยากจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันกับ ASUS FX503VM เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแน่นๆ ที่สามารถตอบโจทย์การทำงานได้อย่างหลากหลาย ทั้งเล่นเกมลื่นหรือจะดูหนังฟังเพลง เอนเตอร์เทนเม้นก็ครบถ้วน และที่สำคัญเลยคือตัวเครื่องนี้มาพร้อมกับ Windows 10 แท้
สำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ASUS FX503VM เรียกได้ว่าลักษณะการดีไซน์เหมือนกับตัว ASUS FX503VD เป๊ะๆ ทุกระเบียบนิ้วต่างกันแค่สติ๊กเกอร์นิดหน่อยตรงบอดี้คีย์บอร์ด ซึ่งดีไซน์ตัวเครื่องออกเป็นโทนสีดำแดง ที่มาพร้อมกับ CPU Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ตัวแรง ส่วนหน่วยความจำยังมาพร้อมกับ Ram 4-8 GB DDR4 (i5 = 8, i7 = 4) และฮาร์ดดิสก์ 1 TB หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS ครบถ้วนทุกฟีเจอร์และประสิทธิภาพความแรง ซึ่งสนนราคาเริ่มต้นเพียง 30,900 บาทเท่านั้น
Specification
ASUS FX503VM รุ่นที่ทาง NotebookSPEC ได้มาทดสอบใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB ที่ 5400 RPM+ 8 SSH (FIRECUDA) และรองรับได้ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ในส่วนของ Ram เองมีมาให้ 4 GB แบบ DDR4 Bus 2400 แบบอยู่ด้านใน
นอกจากนี้ ASUS FX503VD มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาให้พอตัวทั้ง HDMI, 2 x USB 3.0, Kensington lock slot, 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , LAN RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบ Combo พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.1 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac ส่วนระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 มาให้ในตัวเลยด้วย
ทางด้านราคาของ ASUS FX503VM รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยชื่อเต็มจะเป็น ASUS FX503VD E4029T สนนราคาอยู่ที่ 37,900 บาท การรับประกัน 2 ปี และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วยอุ่นใจจัดเต็มจริงๆ
Hardware / Design
การออกแบบของ ASUS FX503VM เรียกได้ว่าถอดแบบออกมาจากตัว ASUS FX503VD ทุกระเบียดนิ้ว ซึ่งมีลักษณะที่เน้นเรื่องความโฉบเฉี่ยว ดุดัน แฝงความเป็นเกมมิ่งได้อย่างลงตัวเรียบง่าย โทนสีของตัวเครื่องจะเน้นเป็นสีดำแดง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีการทำงาน Aluminum Texture รอบตัวอกีด้วย ช่วยสร้างความโดดเด่นสวยงาม น่าสัมผัส ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย อีกทั้งส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องยังถูกออกแบบจัดวางมาได้อย่างลงตัว
วัสดุของตัวเครื่องในส่วนฝาพับด้านบนผลิตจาก ABS Plastic ตลอดทั้งตัวเครื่องงซิงช่วยให่มีน้ำหนักเบา ออกแบบใหม่เป็นลายตัว X พร้อมโลโก้ ASUS อยู่ตรงกลางน พร้อมลายลาย Aluminum Texture เป็นเส้นลงบนผิว ให้สัมผัสที่ขรุขระ จับติดมือ ไม่ลื่น และรู้สึกดีกว่าพลาสติกแบบธรรมดาทั่วไป ส่วนด้านล่างก็เป็นพลาสติกสีดำ แกะลายช่องระบายความร้อนแบบใหม่ดูสวยงามดี การอัพเกรดก็ทำได้ง่ายเพียงแค่แกะน็อตเพียงตัวเดียว
ด้านบานพับเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นแบบบานพับคู่ วัสดุด้านนอกเป็นพลาสติกแข็งแรงทนทาน บอดี้ด้านในก็ยังคงเป็นพลาสติกเช่นเดียวกับด้านนอกพร้อมกับช่องดูความร้อนด้านบนคีย์บอร์ด จอของตัวเครื่องแบบ IPS ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด Full HD และลดการสะท้อนจากแสงไฟที่อยู่รอบๆ และมีมุมมองกว้างกว่าแบบ TN อย่างเห็นได้ชัด
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ ASUS FX503VM คือคีย์บอร์ดที่มีคาแร็คเตอร์ความเป็นเกมมิ่งแฝงอยู่ มีการทำไฮไลท์สีตัวปุ่มกด WASD อีกทั้งยังมีไฟ red-backlit ส่องสว่างออกจากฟอนต์ช่วยให้สวยงามและมองเห็นคีย์ได้ง่ายในมี่มีแสงน้อยกับทุกปุ่ม สามารถปรับได้ 3 ระดับอีกด้วย ความแตกต่างที่ ASUS FX503VM ต่างจาก ASUS FX503VD คือมีสติ๊กเกอร์รองรับ VR อยู่ที่ด้านล่างซ้ายตรงบอดี้คีย์บอร์ดนั่นเอง
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS FX503VM คือคีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแร็คเตอร์ของความเป็นเกมมิ่งด้วย 4 ปุ่ม WASD ที่เกมเมอร์คุ้นเคยถูกย้อมสี Orange Reflective เสริมความโดดเด่นสวยงาม สามารถสังเกตได้ง่าย และวางนิ้วบนปุ่มได้อย่างรวดเร็วขึ้นสักเล็กน้อย ซึ่งเวลาความได้เปรียบที่เล็กน้อยนี้ บางครั้งช่วยตัดสินการแพ้ชนะในการเล่นเกมได้เลยทีเดียว ตัวปุ่มกดแบบ Chiclet Switches ที่มีระยะห่างระหว่างปุ่ม 1.8 มม. รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน รวมถึง Numpad ก็มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้แบบแป้นพิมพ์ Full Size ด้วยเช่นกัน
ส่วนของ Touch Pad ที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนปุ่มเพื่อความสวยงาม และทำไฮไลท์เส้นสีแดงแบ่งโซน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวมได้เป็นอย่างดี พื้นผิวมีลักษณะเรียบลื่น แต่อาจจะไม่ป้องกันครามรอยนิ้วมือสักเท่าไรนัก หากมือสกปรกอาจจะทำให้การใช้งานไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร และปุ่มปิดเปิดเครื่องจะอยู่ที่มุมบนขวาตัวเครื่องสีแดงสวยงาม
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ ASUS FX503VM นั้น มีขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD ตัวหน้าจอ Panel เป็นแบบ Matte (IPS) มุมกว้าง 178 องศา ทำให้แสดงผลภาพออกมาได้อย่างสวยงามคมชัดทุกมุมมอง ลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนจากแสงไฟรอบๆ ตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมี แสงสว่างของหน้าจอสามารถปรับได้หลายระดับให้พอดีกับสายตา สามารถสู้แสงจ้าจากภายนอกได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องของสีดูสวยงามกว่า Panel TN ทั่วไปพอสมควรทั้งสีสด ไม่จืด และไม่เพี้ยนมาก
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี เสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน อยู่ด้านข้างตัวเครื่องซ้ายขวา ช่วยแก้ปัญหาสำหรับบางคนที่เวลาพิมพ์งานข้อมืออาจจะไปปิดช่องลำโพงทำให้เสียงออกไม่เต็มที่ได้
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS FX503VM ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 200 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงแล้ว อันนี้ไม่แนะนำ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนซ้ายมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านขวากลางและล่างกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 14% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS FX503VM กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ทมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ตอ(ด้านซ้าย), USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต(ด้านขวา) พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, SD Card Reader ขนาดมาตรฐาน, Lan และ HDMI
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 4.1 และ Wireless Dual Band แบบ 802.11b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น และรองรับสัญญาณความที่ถี่ 5 Ghz ได้ ขนาดของตัวเครื่อง 384 x 262 x 24 มม. โดยมีน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างหนักเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับค่ายอื่นที่มีสเปคและราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งหากรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วจะมีน้ำหนักราวๆ อยู่ที่ประมาณ 3 กิโลกรัม โดยหากจะพกพาไปไหนแนะนำให้ใช้กระเป๋าเป้แบบสะพายสองข้างดีกว่าครับ
Inside
การแกะเครื่อง ASUS FX503VM เพื่อทำการอัพเกรดนั้นสามารถที่จะทำได้ค่อนข้างง่าย โดยการถอดน็อตเพียงตัวเดียว แล้วใช้เล็กแกะดึงออกมาก็สามารถทำได้แล้ว ส่วนถ้าหากจะถอดฝาหลังออกทั้งหมดจะยากสักหน่อยเพราะ ต้องถอดน็อตออกให้หมดทุกตัวด้านหลังเครื่อ เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนเข้าใจง่ายไม่มีปัญหา
หลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำๆ แปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดได้สามารถอัพเกรดได้ทั้ง Harddisk SATA ขนาด 2.5 นิ้ว กับ SSD M.2 ซึ่งสามารถไขน๊อคออกถอดออกหรือใส่เข้าอัพเกรดได้ทันทีโดยไม่ต้องไปยุ่งกับส่วนอื่นๆ สำหรับในส่วนของ Ram นั้นจะมีแผ่นกระดาษสีดำปิดไว้อยู่ ซึ่งสามารถอัพได้ 1 ช่องและได้สูงสุดถึง 32 GB เพราะ ASUS FX503VD นี้มี Ram 4 GB อยู่ด้านในฝาหลังใหญ่อีกที ยากต่อการแกะออกมาอัพเกรด
Performance / Software
ASUS FX503VM มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อม Ram ภายในขนาด 4 GB DDR4 Bus 2400 โดยทีมงานได้ทำการเพิ่ม Ram เข้าไปอีก 8 GB เป็น 12 GB ครับ
ในส่วนของกราฟิกการ์ดตัวนี้จะไม่มีการ์ดจอออนบอร์ดแต่มีเฉาพกราฟิกการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1060 6 GB ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี แถม Overclock มาจากโรงงานอีก 7% ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผล คะแนนที่ได้ตามประสิทธิภาพเป็นที่น่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 23.6 MB/s และสูงสุดที่ 130.6 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 119.4 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 9.89 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ได้ออกมาอยู่นเกณฑ์กลางๆ ครับ
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ ASUS FX503VM ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกมยอดนิยมในตอนนี้ไปดูเลยกราฟกันเลยดีกว่าครับประสิทธิภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 40 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดี จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 6 GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับ Ram 12 GB และรวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 RPM ด้วย(ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1, GTA V, Overwatch, PUBG และ DOTA 2 ก็สามารถเล่นได้ดีไหลที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดเกือบทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 40 FPS เรียกได้ว่าเล่นได้เหลือๆ แถมหน้าจอเป็นแบบ Panel Matte(IPS) ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีน่าพอใจ และ PUBG บ้านก็ไม่เป็นดินน้ำมันแล้วด้วยเมื่ออัพแพทต์ใหม่ล่าสุด
Battery / Heat / Noise
ASUS FX503VM นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4 Cells 64 Whrs Battery ซึ่งถือได้ว่าใครมากลางๆ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว โดยสามารถใช้งานผ่าน Wi-Fi เล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube ได้ยาวนานประมาณถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง 31 นาทีเลยทีเดียวครับ
ทางด้านอุณหภูมิสำหรับเครื่องนี้ที่พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว เรียกได้ว่าระบายความได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เมื่อใช้เล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 99 องศาสำหรับ CPU และ 81 องศาสำหรับ GPU ถือว่าค่อนข้างร้อนสักหน่อย แนะนำควรเล่นในห้องแอร์และใช้ Cooling Pad เสริมช่วยด้วยจะดีมากครับ
Conclusion / Award
สรุป ASUS FX503VM คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับความสามารถที่ครบถ้วน ทั้งประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องความคุ้มค่า มี Windows 10 เป็นหลัก ประสิทธิภาพที่ได้ก็แรงดูเหมือนว่าจะแรงกว่ารุ่นอื่นยี่ห้ออื่นที่สเปคเท่ากันอีกด้วย เพราะ ทาง ASUS ได้ Overclock GPU ให้ตั้งแต่โรงงานอีก 7% ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมากสำหรับเกมเมอร์
ทั้งนี้การ Design ตัวเครื่องก็ออกแบบมากเหมือน ASUS FX503VD ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งออกแบบฝาหลังมาเป็นลายตัว X โดนใจคอเกมเมอร์แน่นอน สีก็ดำเรียบๆ ไม่ฉูดฉาดเหมือน ROG ที่จะมีสีส้มปนเข้ามา ซึ่งหากใครที่ต้องการโน๊ตบุ๊คทำงาน ดีไซน์เรียบๆ บอกเลยว่า ASUS FX503VM ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน แถมยังมีประสิทธิภาพแล้วถือว่าไม่เป็นสองรองใครในรุ่นราคาระดับเดียวกัน
ส่วนข้อสังเกตของเครื่องนี้ก็พอมีอยู่บ้าง คือในเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่ไม่มี USB Type C, Ram ของตัวเครื่องที่สเปค CPU เป็นตัว i7 ให้มาเพียง 4 GB ซึ่งอยู่ด้านใน ทำให้ยากหากใครอยากจะอัพเกรดเป็น 16 GB และเรื่องระบายความร้อนที่ยังคงใช้บอดี้แบบเดิมเหมือนตัว ASUS FX503VD แต่มีสเปคแรงขึ้น ทำให้การระบายความร้อนอาจจะยังทำได้ไม่ดีนักครับ
ข้อดี
- สเปคสูงด้วย Intel Core i7-7700HQ + Nvidia GTX 1060 6 GB ราคาถูกที่สุด
- คีย์บอร์ดสามารถปรับไฟได้หลายระดับ รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน
- ดีไซน์บอดี้ทำออกมาได้สวยงามแบบเรียบง่าย มีความเป็นเกมมิ่ง
- รองรับการอัพเกรด SSD แบบ M.2 NVMe
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD พาเนล IPS
- มี Windows 10 แท้ในตัว
- ประกันอุบัติเหตุ Prefect Warranty ฟรี 1 ปีแรก
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ต USB Type C
- Ram 4 GB ที่ติดมากับตัวเครื่องอยู่ในฝาหลังด้าน ทำให้ยากต่อการถอดออกมาอัพเกรด
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง ASUS FX503VM ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS FX503VM ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบง่าย สีสันไม่เยอะเหมือนรุ่นอื่นๆ
Best Performance
ASUS FX503VM มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) รองรับ SSD M.2 NVMe หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS เล่นเกมลื่น จอสวย มีทุกๆ อย่างที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องๆ หนึ่งควรจะมี
Best Value
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ASUS FX503VM สเปคเป็น Intel Core i7-7700HQ การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่มี Windows 10 แท้ในราคา 37,900 บาท ส่วนตัว i5-7300HQ ราคาเพียง 30,900 บาทเท่านั้น บอกเลยว่าถูกที่สุดในตลาดตอนนี้ อีกทั้งถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS ยังจะได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย คุ้มจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะ
Specification
ASUS FX503VM รุ่นที่ทาง NotebookSPEC ได้มาทดสอบใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB ที่ 5400 RPM+ 8 SSH (FIRECUDA) และรองรับได้ติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe ในส่วนของ Ram เองมีมาให้ 4 GB แบบ DDR4 Bus 2400 แบบอยู่ด้านใน
นอกจากนี้ ASUS FX503VD มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาให้พอตัวทั้ง HDMI, 2 x USB 3.0, Kensington lock slot, 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , LAN RJ-45, รูหูฟังกับไมค์แบบ Combo พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.1 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac ส่วนระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 มาให้ในตัวเลยด้วย
ทางด้านราคาของ ASUS FX503VM รุ่นที่วางจำหน่ายในไทยชื่อเต็มจะเป็น ASUS FX503VD E4029T สนนราคาอยู่ที่ 37,900 บาท การรับประกัน 2 ปี และที่สำคัญเมื่อเอาซีเรียลไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS จะได้รับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกจากทาง ASUS อีกด้วยอุ่นใจจัดเต็มจริงๆ
Hardware / Design
การออกแบบของ ASUS FX503VM เรียกได้ว่าถอดแบบออกมาจากตัว ASUS FX503VD ทุกระเบียดนิ้ว ซึ่งมีลักษณะที่เน้นเรื่องความโฉบเฉี่ยว ดุดัน แฝงความเป็นเกมมิ่งได้อย่างลงตัวเรียบง่าย โทนสีของตัวเครื่องจะเน้นเป็นสีดำแดง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีการทำงาน Aluminum Texture รอบตัวอกีด้วย ช่วยสร้างความโดดเด่นสวยงาม น่าสัมผัส ไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย อีกทั้งส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องยังถูกออกแบบจัดวางมาได้อย่างลงตัว
วัสดุของตัวเครื่องในส่วนฝาพับด้านบนผลิตจาก ABS Plastic ตลอดทั้งตัวเครื่องงซิงช่วยให่มีน้ำหนักเบา ออกแบบใหม่เป็นลายตัว X พร้อมโลโก้ ASUS อยู่ตรงกลางน พร้อมลายลาย Aluminum Texture เป็นเส้นลงบนผิว ให้สัมผัสที่ขรุขระ จับติดมือ ไม่ลื่น และรู้สึกดีกว่าพลาสติกแบบธรรมดาทั่วไป ส่วนด้านล่างก็เป็นพลาสติกสีดำ แกะลายช่องระบายความร้อนแบบใหม่ดูสวยงามดี การอัพเกรดก็ทำได้ง่ายเพียงแค่แกะน็อตเพียงตัวเดียว
ด้านบานพับเครื่องถูกออกแบบมาให้เป็นแบบบานพับคู่ วัสดุด้านนอกเป็นพลาสติกแข็งแรงทนทาน บอดี้ด้านในก็ยังคงเป็นพลาสติกเช่นเดียวกับด้านนอกพร้อมกับช่องดูความร้อนด้านบนคีย์บอร์ด จอของตัวเครื่องแบบ IPS ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด Full HD และลดการสะท้อนจากแสงไฟที่อยู่รอบๆ และมีมุมมองกว้างกว่าแบบ TN อย่างเห็นได้ชัด
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ ASUS FX503VM คือคีย์บอร์ดที่มีคาแร็คเตอร์ความเป็นเกมมิ่งแฝงอยู่ มีการทำไฮไลท์สีตัวปุ่มกด WASD อีกทั้งยังมีไฟ red-backlit ส่องสว่างออกจากฟอนต์ช่วยให้สวยงามและมองเห็นคีย์ได้ง่ายในมี่มีแสงน้อยกับทุกปุ่ม สามารถปรับได้ 3 ระดับอีกด้วย ความแตกต่างที่ ASUS FX503VM ต่างจาก ASUS FX503VD คือมีสติ๊กเกอร์รองรับ VR อยู่ที่ด้านล่างซ้ายตรงบอดี้คีย์บอร์ดนั่นเอง
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ ASUS FX503VM คือคีย์บอร์ดที่แฝงไว้ด้วยคาแร็คเตอร์ของความเป็นเกมมิ่งด้วย 4 ปุ่ม WASD ที่เกมเมอร์คุ้นเคยถูกย้อมสี Orange Reflective เสริมความโดดเด่นสวยงาม สามารถสังเกตได้ง่าย และวางนิ้วบนปุ่มได้อย่างรวดเร็วขึ้นสักเล็กน้อย ซึ่งเวลาความได้เปรียบที่เล็กน้อยนี้ บางครั้งช่วยตัดสินการแพ้ชนะในการเล่นเกมได้เลยทีเดียว ตัวปุ่มกดแบบ Chiclet Switches ที่มีระยะห่างระหว่างปุ่ม 1.8 มม. รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน รวมถึง Numpad ก็มีมาให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานได้แบบแป้นพิมพ์ Full Size ด้วยเช่นกัน
ส่วนของ Touch Pad ที่มีขนาดพอเหมาะพอดีกับตัวเครื่อง ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนปุ่มเพื่อความสวยงาม และทำไฮไลท์เส้นสีแดงแบ่งโซน เข้ากับตัวเครื่องโดยรวมได้เป็นอย่างดี พื้นผิวมีลักษณะเรียบลื่น แต่อาจจะไม่ป้องกันครามรอยนิ้วมือสักเท่าไรนัก หากมือสกปรกอาจจะทำให้การใช้งานไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร และปุ่มปิดเปิดเครื่องจะอยู่ที่มุมบนขวาตัวเครื่องสีแดงสวยงาม
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ ASUS FX503VM นั้น มีขนาด 15.6 นิ้ว ผิวจอแบบ Anti-Glare ความละเอียด 1920 x 1080 Pixel Full HD ตัวหน้าจอ Panel เป็นแบบ Matte (IPS) มุมกว้าง 178 องศา ทำให้แสดงผลภาพออกมาได้อย่างสวยงามคมชัดทุกมุมมอง ลดปัญหาเรื่องแสงสะท้อนจากแสงไฟรอบๆ ตัวได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งมี แสงสว่างของหน้าจอสามารถปรับได้หลายระดับให้พอดีกับสายตา สามารถสู้แสงจ้าจากภายนอกได้ในระดับหนึ่ง ส่วนเรื่องของสีดูสวยงามกว่า Panel TN ทั่วไปพอสมควรทั้งสีสด ไม่จืด และไม่เพี้ยนมาก
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบ Stereo 2.0 แยกเสียงซ้ายขวาได้ชัดเจนดี เสียงดังฟังชัด มีน้ำหนัก ถือว่าเอามาเล่นเกมฟังเพลงได้ดีในระดับหนึ่งตามสไลต์เสียงจากลำโพงโน๊ตบุ๊ค ช่องลำโพงถูกออกแบบมาอย่างแนบเนียน อยู่ด้านข้างตัวเครื่องซ้ายขวา ช่วยแก้ปัญหาสำหรับบางคนที่เวลาพิมพ์งานข้อมืออาจจะไปปิดช่องลำโพงทำให้เสียงออกไม่เต็มที่ได้
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS FX503VM ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 61% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 200 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงแล้ว อันนี้ไม่แนะนำ
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนซ้ายมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอตรงด้านขวากลางและล่างกลางจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 14% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
Connector / Thin And Weight
มาดูทางด้านพอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง ASUS FX503VM กันบ้าง ซึ่งเครื่องนี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีพอร์ทมาให้ครบครับใช้ได้เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ตอ(ด้านซ้าย), USB 2.0 จำนวน 1 พอร์ต(ด้านขวา) พร้อมช่องต่อหูฟังกับไมค์แบบ Combo ขนาด 3.5 มิลลิเมตร 1 ช่อง, SD Card Reader ขนาดมาตรฐาน, Lan และ HDMI
ในส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายจะใช้ Bluetooth 4.1 และ Wireless Dual Band แบบ 802.11b/g/n/ac มาตราฐานใหม่ล่าสุด ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้มีความสเถียรมากยิ่งขึ้น และรองรับสัญญาณความที่ถี่ 5 Ghz ได้ ขนาดของตัวเครื่อง 384 x 262 x 24 มม. โดยมีน้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างหนักเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับค่ายอื่นที่มีสเปคและราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งหากรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วจะมีน้ำหนักราวๆ อยู่ที่ประมาณ 3 กิโลกรัม โดยหากจะพกพาไปไหนแนะนำให้ใช้กระเป๋าเป้แบบสะพายสองข้างดีกว่าครับ
Inside
การแกะเครื่อง ASUS FX503VM เพื่อทำการอัพเกรดนั้นสามารถที่จะทำได้ค่อนข้างง่าย โดยการถอดน็อตเพียงตัวเดียว แล้วใช้เล็กแกะดึงออกมาก็สามารถทำได้แล้ว ส่วนถ้าหากจะถอดฝาหลังออกทั้งหมดจะยากสักหน่อยเพราะ ต้องถอดน็อตออกให้หมดทุกตัวด้านหลังเครื่อ เมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ถูกออกแบบจัดระเบียบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนเข้าใจง่ายไม่มีปัญหา
หลังจากที่แกะออกมาแล้วนั้นจะเห็นแผ่นสีดำๆ แปะติดไว้อยู่ในหลายๆ ส่วนกันไฟฟ้าสถิต และในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่สามารถทำการอัพเกรดได้สามารถอัพเกรดได้ทั้ง Harddisk SATA ขนาด 2.5 นิ้ว กับ SSD M.2 ซึ่งสามารถไขน๊อคออกถอดออกหรือใส่เข้าอัพเกรดได้ทันทีโดยไม่ต้องไปยุ่งกับส่วนอื่นๆ สำหรับในส่วนของ Ram นั้นจะมีแผ่นกระดาษสีดำปิดไว้อยู่ ซึ่งสามารถอัพได้ 1 ช่องและได้สูงสุดถึง 32 GB เพราะ ASUS FX503VD นี้มี Ram 4 GB อยู่ด้านในฝาหลังใหญ่อีกที ยากต่อการแกะออกมาอัพเกรด
Performance / Software
ASUS FX503VM มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อม Ram ภายในขนาด 4 GB DDR4 Bus 2400 โดยทีมงานได้ทำการเพิ่ม Ram เข้าไปอีก 8 GB เป็น 12 GB ครับ
ในส่วนของกราฟิกการ์ดตัวนี้จะไม่มีการ์ดจอออนบอร์ดแต่มีเฉาพกราฟิกการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce GTX 1060 6 GB ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี แถม Overclock มาจากโรงงานอีก 7% ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
CINEBENCH หรือโปรแกรมที่ใช้ทดสอบงานทางด้านเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผล คะแนนที่ได้ตามประสิทธิภาพเป็นที่น่าประทับใจพอสมควรเลยทีเดียวครับ
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 23.6 MB/s และสูงสุดที่ 130.6 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 119.4 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 9.89 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ได้ออกมาอยู่นเกณฑ์กลางๆ ครับ
ในส่วนนี้เราจะทดสอบ ASUS FX503VM ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกมยอดนิยมในตอนนี้ไปดูเลยกราฟกันเลยดีกว่าครับประสิทธิภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 40 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดี จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1060 6 GB ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับ Ram 12 GB และรวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 RPM ด้วย(ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1, GTA V, Overwatch, PUBG และ DOTA 2 ก็สามารถเล่นได้ดีไหลที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดเกือบทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 40 FPS เรียกได้ว่าเล่นได้เหลือๆ แถมหน้าจอเป็นแบบ Panel Matte(IPS) ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีน่าพอใจ และ PUBG บ้านก็ไม่เป็นดินน้ำมันแล้วด้วยเมื่ออัพแพทต์ใหม่ล่าสุด
Battery / Heat / Noise
ASUS FX503VM นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4 Cells 64 Whrs Battery ซึ่งถือได้ว่าใครมากลางๆ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าใช้ได้ดีเลยทีเดียว โดยสามารถใช้งานผ่าน Wi-Fi เล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube ได้ยาวนานประมาณถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง 31 นาทีเลยทีเดียวครับ
ทางด้านอุณหภูมิสำหรับเครื่องนี้ที่พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว เรียกได้ว่าระบายความได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เมื่อใช้เล่นเกมหนักๆ เป็นเวลานานๆ จะมีอุณหภูมิสูงสุดถึง 99 องศาสำหรับ CPU และ 81 องศาสำหรับ GPU ถือว่าค่อนข้างร้อนสักหน่อย แนะนำควรเล่นในห้องแอร์และใช้ Cooling Pad เสริมช่วยด้วยจะดีมากครับ
Conclusion / Award
สรุป ASUS FX503VM คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับความสามารถที่ครบถ้วน ทั้งประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ต่างๆ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องความคุ้มค่า มี Windows 10 เป็นหลัก ประสิทธิภาพที่ได้ก็แรงดูเหมือนว่าจะแรงกว่ารุ่นอื่นยี่ห้ออื่นที่สเปคเท่ากันอีกด้วย เพราะ ทาง ASUS ได้ Overclock GPU ให้ตั้งแต่โรงงานอีก 7% ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมากสำหรับเกมเมอร์
ทั้งนี้การ Design ตัวเครื่องก็ออกแบบมากเหมือน ASUS FX503VD ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งออกแบบฝาหลังมาเป็นลายตัว X โดนใจคอเกมเมอร์แน่นอน สีก็ดำเรียบๆ ไม่ฉูดฉาดเหมือน ROG ที่จะมีสีส้มปนเข้ามา ซึ่งหากใครที่ต้องการโน๊ตบุ๊คทำงาน ดีไซน์เรียบๆ บอกเลยว่า ASUS FX503VM ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน แถมยังมีประสิทธิภาพแล้วถือว่าไม่เป็นสองรองใครในรุ่นราคาระดับเดียวกัน
ส่วนข้อสังเกตของเครื่องนี้ก็พอมีอยู่บ้าง คือในเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อที่ไม่มี USB Type C, Ram ของตัวเครื่องที่สเปค CPU เป็นตัว i7 ให้มาเพียง 4 GB ซึ่งอยู่ด้านใน ทำให้ยากหากใครอยากจะอัพเกรดเป็น 16 GB และเรื่องระบายความร้อนที่ยังคงใช้บอดี้แบบเดิมเหมือนตัว ASUS FX503VD แต่มีสเปคแรงขึ้น ทำให้การระบายความร้อนอาจจะยังทำได้ไม่ดีนักครับ
ข้อดี
- สเปคสูงด้วย Intel Core i7-7700HQ + Nvidia GTX 1060 6 GB ราคาถูกที่สุด
- คีย์บอร์ดสามารถปรับไฟได้หลายระดับ รองรับ N-key Rollover และแยกปุ่มลูกศรชัดเจน
- ดีไซน์บอดี้ทำออกมาได้สวยงามแบบเรียบง่าย มีความเป็นเกมมิ่ง
- รองรับการอัพเกรด SSD แบบ M.2 NVMe
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD พาเนล IPS
- มี Windows 10 แท้ในตัว
- ประกันอุบัติเหตุ Prefect Warranty ฟรี 1 ปีแรก
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ต USB Type C
- Ram 4 GB ที่ติดมากับตัวเครื่องอยู่ในฝาหลังด้าน ทำให้ยากต่อการถอดออกมาอัพเกรด
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง ASUS FX503VM ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS FX503VM ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบง่าย สีสันไม่เยอะเหมือนรุ่นอื่นๆ
Best Performance
ASUS FX503VM มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) รองรับ SSD M.2 NVMe หน้าจอ 15.6 นิ้ว Full HD IPS เล่นเกมลื่น จอสวย มีทุกๆ อย่างที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องๆ หนึ่งควรจะมี
Best Value
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ASUS FX503VM สเปคเป็น Intel Core i7-7700HQ การ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) ที่มี Windows 10 แท้ในราคา 37,900 บาท ส่วนตัว i5-7300HQ ราคาเพียง 30,900 บาทเท่านั้น บอกเลยว่าถูกที่สุดในตลาดตอนนี้ อีกทั้งถ้าลงทะเบียนในเว็บไซต์ ASUS ยังจะได้การรับประกันอุบัติเหตุฟรี 1 ปีแรกอีกด้วย คุ้มจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วล่ะ