ถือว่าเป็นสุดยอดอุปกรณ์ Windows 10 อีก 2 รุ่นที่สุดยอดมากๆ จากทาง Microsoft ที่ช่วงหลังสนใจจะมาทำฮาร์ดแวร์ขายอย่างตั้งอกตั้งใจ ที่ผ่านมาในไทยเราคงได้เห็น Surface Pro ขายกันไปซักแล้ว (เจน 5) แน่นอนว่ากระแสตอบรับก็ดีประมาณนึงสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ต Windows ตัวหรูมาพร้อมปากกา กับราคาที่อาจจะสูงไปสำหรับคนทั่วไป แต่คนที่มีกำลังพร้อมจะจ่ายก็สามารถซื้อมาใช้งานตามร้านกาแฟหรือออฟฟิศได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มีนาคมนี้ ทีมงาน NotebookSPEC ได้ไปงานเปิดตัวของใหม่ โดยทาง Microsoft ประเทศไทยก็พร้อมแล้วที่จะนำ Surface Family ที่เป็น Mobile Device อีก 2 ตัวด้วยกัน อย่าง Surface Laptop และ Surface Book 2 ที่ตัวนึงจะเป็น Ultrabook ระดับสูง ส่วนอีกตัวจะเป็น 2-in-1 Notebook โดยมีจำหน่ายแล้วที่ BaNANA, Power Buy, Power Buy, Power Mall และ JIB
มาพร้อมคุณสมบัติอันโดดเด่นในอุ
ราคาขายตามหน้าร้านตามสเปกของ Microsoft Surface Laptop และ Surface Book 2 ในไทยได้ ที่นี่ <<<
ผลิตภัณฑ์ |
ราคา (บาท) |
Surface Laptop |
|
Intel Core m3, 128 GB SSD, 4GB RAM, Intel HD Graphics 615 |
34,900 |
Intel Core i5, 128 GB SSD, 4GB RAM, Intel HD Graphics 620 |
38,900 |
Intel Core™ i5, 256 GB SSD, 8GB RAM, Intel® HD Graphics 620 |
49,900 |
Intel Core i7, 256 GB SSD, 8GB RAM, Intel IrisT Plus Graphics 640 |
59,900 |
Intel Core i7, 512 GB SSD, 16GB RAM, Intel Iris Plus Graphics 640 |
82,900 |
Intel Core i7, 1TB SSD, 16GB RAM, Intel Iris Plus Graphics 640 |
101,900 |
Surface Book 2 รุ่น 13 นิ้ว |
|
Intel Core i5, 256 GB SSD, 8GB RAM, Intel HD Graphics 620 |
54,900 |
Intel Core i7, 256 GB SSD, 8GB RAM, NVIDIA GeForce GTX 1050 |
72,900 |
Intel Core i7, 512 GB SSD, 16GB RAM, NVIDIA GeForce GTX 1050 |
92,900 |
Intel Core i7, 1TB SSD, 16GB RAM, NVIDIA GeForce GTX 1050 |
109,900 |
Surface Book 2 รุ่น 15 นิ้ว |
|
Intel Core i7, 512 GB SSD, 16GB RAM, NVIDIA GeForce GTX 1060 |
103,900 |
Intel Core i7, 1TB SSD, 16GB RAM, NVIDIA GeForce GTX 1060 |
118,900 |
อุปกรณ์เสริม |
|
อะแดปเตอร์แปลง USB-C เป็น HDMI |
1,590 |
อะแดปเตอร์แปลง USB-C เป็น VGA |
1,590 |
เมาส์ Microsoft Surface Precision |
3,900 |
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของ Microsoft Surface Pro, Surface Laptop และ Surface Book 2 ก็ตามนี้เลย
Surface Laptop : ประสิทธิภาพพร้อมการออกแบบอย่
Surface Laptop ยกระดับความสามารถและการออกแบบ มาในอุปกรณ์ฝาพับที่ดูหรูหราทั
นอกจากนี้ Surface Laptop ยังเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตั
Surface Laptop มาพร้อมกับ Windows 10 S ประสบการณ์ใหม่บนแพลตฟอร์ม Windows ที่ผสมผสานความปลอดภัยและประสิ
วัสดุของ Surface Laptop จะเลือกใช้เป็นอะลูมิเนียมสีเงินโทนสว่างตลอดทั้งตัวเครื่องแบบ Unibody ไร้รอยต่อทั้งด้านนอกและด้านใน แต่ด้านในจะมีความพิเศษตรงที่ Alcantara นับว่าเป็นวัสดุผ้าที่มีความหรูหราสวยงาม เหมือนกับที่เคยใช้ไปแล้วก่อนหน้านี้กับ Surface Pro ส่วนของ Type Cover (Docking Keyboard) ซึ่งมีข้องสังเกตุว่าอาจจะเลอะง่ายถ้ามือเราไม่สะอาดขณะใช้งาน ฉะนั้นต้องระวังในส่วนนี้ด้วย
หน้าจอขนาด 13.5″ สัดส่วน 3:2 เหมือน Surface Pro ที่ทำให้มีพื้นที่ในการใช้งานด้านบนมากกว่าสัดส่วน 16:9 ทั่วไป ความละเอียดที่ 2256 x 1504 พิกเซล พาเนล IPS คุณภาพสูง รองรับการทัชสกรีนทั้งนิ้วและ Surface Pen มีกล้อง IR ไว้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อเข้าใช้งาน โดยมีช่องระบายความร้อนของตัวเครื่องอยู่ใต้หน้าจอ
ส่วนชุดคีย์บอร์ดเป็นแบบ Full Size มีไฟส่องสว่างขึ้นมา โดยตัวปุ่มเป็นพลากสติกสีสันเดียวกับผ้า ตัวอักษรเป็นสีขาว พร้อมทัชแพดแบบซ่อนปุ่มคลิกซ้ายขวา จากการทดลองวางมือใช้งานเพื่อนการพิมพ์ให้สัมผัสที่ดีแตกต่างจากวัสดุอื่นๆ สำหรับลำโพงได้มีการติดตั้งไว้อยู่ใต้คีย์บอร์ดอีกที เสียงที่ออกมามีความไพเราะใช้ได้ โดยให้เสียงที่ดีกว่า Surface Book 2 และ Surface Pro เพราะเสียงนั้นมีการผ่านผ้ามาอีกชั้นนึง
พอร์ตการเชื่อมต่อหลักๆ มีน้อยมากเมื่อเทียบกับ Ultrabook เจ้าอื่นๆ โดยมีเพียง USB 3.0 Type-A, Mini DisplayPort, ช่องต่อหูฟัง 3.5 ม.ม. และ Surface Connect ที่ไว้ต่อกับอแดปเตอร์หรือ Ducking เพิ่มเติมเท่านั้น ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น Windows 10S เราสามารถที่จะเปลี่ยนเป็น Windows 10 ธรรมดาได้ภายหลัง (แต่เปลี่ยนกลับไม่ได้) ซึ่ง Windows 10 S มันก็คือ Windows 10 ปกติที่ปรับแต่ง ไม่ให้ลงโปรแกรมอื่นๆ ได้โดยตรง ต้องลงจะ Microsoft Store เท่านั้น รวมถึงปิดฟีเจอร์การทำงานบางอย่างลง เพื่อให้ตัวเครื่องทำงานเบาลงลื่นขึ้นนั่นเอง
Surface Book 2 : อุปกรณ์ Surface แบบพกพาที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด
ลดความต่างระหว่างคอมพิวเตอร์ตั้
การออกแบบโดยรวมของ Surface Book 2 (เจนแรกไม่มาไทย) มาในรูปแบบของ 2-in-1 Notebook ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายโหมด วัสดุใช้เป็นแม็กนีเซียมอัลลอยด์ที่ให้ทั้งความแข็งแรงทนทานน้ำหนักเบา สัมผัสดีเยี่ยมกว่าอะลูมิเนียม โดยรุ่นขนาดหน้า 13.5″ มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.53 – 16.4 กิโลกรัม และหน้าจอ 15″ จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.9 กิโลกรัม ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบา เน้นพกพาสะดวก แต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ
บานพับหน้าจอเป็นแบบพิเศษที่มีความแข็งแรงทนทาน ดีไซน์ไม่ซ้ำใครแน่นอน ข้อสังเกตุคือเวลาพับจอจะปิดไม่สนิทแนบไปกับตัวเครื่องเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งมีข้อดีกรณีที่เราถอดหน้าจอแล้วใส่อีกด้าน มันจะรองรับองศาที่เหมาะกับการใช้งานปากกาขีดเขียนได้อย่างลงตัว แม้จะดูแปลกๆ หน่อยก็ตามที
คีย์บอร์ดของ Surface Book 2 เป็นสีสันเดียวกับตัวเครื่องให้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอด ให้ความนุ่มนวลเด้งรับกับการพิมพ์อย่างลงตัว มาพร้อมด้วยไฟเรืองแสงให้แสงสว่างในการทำงาน ที่ตอบสนองได้ดีกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปแบบรู้สึกได้แถมยังสวยงามหรูหรา ส่วน Layout คีย์บอร์ดยังคงเป็น 4 แถวขนาด Full Size ซึ่งในด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำ ส่วนดีไซน์ทัชแพดนั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
ส่วนของหน้าจอ Surface Book 2 จะมีความคล้ายกับ Surface Pro เพราะอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในได้ถูกติดตั้งลงส่วนของหน้าจอ ทั้งซีพียู แรม SSD และอื่นๆ รวมไปถึงลำโพงที่ซ้ายขวาของหน้าจอ กล้อง IR พร้อมด้วยแบตเตอรี่ 1 ก้อน รองรับการทำงานโหมดแท็บเล็ตได้ประมาณ 5 ชั่วโมง รอบๆ ตัวเครื่องก็จะมีช่องระบายความร้อน พร้อมปุ่ม Power ปรับเสียง และช่องต่อหูฟัง ส่วนขอบด้านล่างก็จะเป็นจุดที่ไว้เชื่อมต่อกับ Docking Keyboard ส่วนด้านหลังหน้าจอก็เป็น โดยมีกล้องด้านหลังพร้อมไมค์คู่
พอร์ตการเชื่อมต่อครบครันกว่า Surface ทุกรุ่นด้วย ด้วยการที่ส่วนของ Docking Keyboard พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 3.0 Type-C จำนวนสองช่อง พร้อมช่อง SD Card Reader และ USB 3.1 Type-C แน่นอนที่ขาดไม่ได้คือ Surface Connect นอกเหนือจากนี้ความเจ๋งยังมีการติดตั้งแบตเตอรี่ก้อนที่ 2 อีกด้วย (ก้อนใหญ่กว่า) รวมไปถึงยังมีการติดตั้งการ์ดจอแยกไว้ตรงส่วนนี้ด้วย ทั้ง GTX 1050 ที่เป็นรุ่นหน้าจอ 13.5″ สเปก Core i7 และการ์ดจอ GTX 1060 ที่เป็นรุ่นหน้าจอ 15″ ฉะนั้นเมื่อเชื่อมต่อ Docking Keyboard จะได้ความแรงเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตั
สำหรับความต่างของ Surface Book 2 รุ่นหน้าจอ 13.5″ และ 15″ นอกเหนือจากขนาดและน้ำหนักก็คือ ตัว Docking Keyboard ของรุ่น 15″ จะมีความใหญ่และนู้น พร้อมช่องระบายอากาศที่ใหญ่กว่านั่นเอง แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ของโน๊ตบุ๊คขนาดจอ 15″ สเปกแบบนี้ ที่มีความบางเบามากกว่าอยู่ดี
สำคัญคืออย่างที่บอกไปเรื่องของสเปกชิปประมวลผล Intel Core i เจน 7 เจน 8 ที่ติดตั้งมาใน Surface ทุกรุ่น จะเป็นรุ่นรหัสพิเศษที่ไม่เหมือนกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพราะจะมีความแรงมากกว่าเล็กน้อย โดยเป็นการที่ทาง Microsoft คุยกับ Intel เป็นการเฉพาะกิจ ส่วน i7 เจน 8 นั้นจะเป็นรุ่นตระกูล U ทั้งหมด ไม่ใช่ตระกูล H แต่อย่างใด ซึ่งความแรงบอกได้เลยว่า i7 เจน 8 ก็แรงอยู่พอตัวทีเดียว เกือบเทียบกับตระกูล HQ บน เจน 7 แล้วก็ว่าได้
Surface Book 2 มีวางจำหน่าย 2 รุ่น คือ 13.5″ และ 15″ ที่ให้พลังงานแบตเตอรี่ยาวนานถึ
ปิดท้ายด้วยที่หาก Surface Book 2 กำลังใช้งานการ์ดจอแยกบน Docking Keyboard เราก็จะไม่สามารถถอดหน้าจอได้ โดยถ้าเรากดปุ่ม มันก็จะขึ้นสีแดง พร้อมหน้าจอที่ขึ้นสถานะว่าติดการทำงานที่โปรแกรมไหนบ้าง ถ้าเราจะถอดก็จำเป็นต้องปิดโปรแกรมเหล่านั้นที่รันอยู่เสียก่อน
ไว้ยังไงถ้าทีมงาน NotebookSPEC มีโอกาสทดสอบรีวิว Surface Laptop และ Surface Book 2 จะมาว่ากันละเอียดๆ อีกทีครับ ขอบคุณที่ติดตามกัน