หูฟังเล่นเกมหรือ Gaming headset เป็นอุปกรณ์ที่เกมเมอร์หลายคนมักจะปลื้มและเลือกเป็นเครื่องมือชิ้นแรกๆ ไม่แพ้เมาส์หรือคีย์บอร์ดเลยด้วยซ้ำ เพราะเรื่องของเสียง เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเล่นเกม และความบันเทิงต่างๆ เพราะทั้งเสียงเอฟเฟกต์ในฉากการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็น กระสุนปืน ระเบิดหรือเศษกระจกแตก ย่อมสร้างความเร้าใจให้กว่าการฟังเสียงผ่านลำโพงธรรมดา และยังไม่รบกวนคนรอบข้างด้วย ที่สำคัญยังทำให้สมจริงเหมือนกับอยู่ในเหตุการณ์ เพราะว่าถ้าเป็นหูฟังดีๆ ก็จะมีมิติของเสียงเข้ามา ด้วยการสนับสนุนระบบเสียงรอบทิศทางนั่นเอง
HyperX Cloud Alpha เป็นหูฟังเล่นเกมอีกรุ่นหนึ่งจากสายเลือดของหูฟังสำหรับเกมเมอร์ที่เป็นนักแข่งหรือ eSport กับความล้ำสมัยในการออกแบบและคุณภาพเสียงในซีรีส์ของ Cloud ที่ทั่วโลกยอมรับ กับรูปลักษณ์ที่เป็นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใส่โทนสีแดงสดตัดกับโครงสร้างสีดำ ในสไตล์ของเกม ที่ดูดุดันน่าจับต้อง พร้อมครอบศีรษะที่นุ่มนวล เสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้
ด้วยการปรับให้สอดคล้องกับสรีระของผู้ใช้แต่ละคนได้ แน่นกระชับกับโครงสร้างอะลูมิเนียม แต่ดูไม่เทอะทะ เพราะเน้นความสะดวกสบายในการสวมใส่ ซึ่งอาจไม่ใช่แค่การเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนำไปใส่ฟังเพลงหรือดูหนังนอกบ้าน คล้องคอติดตัวไปได้ด้วย เติมเต็มคุณภาพเสียงไปกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 50mm ในแบบนีโอดายเมียม ครอบหูฟังหุ้มหนัง ที่มีความโอบกระชับใบหู และสายต่างๆ สามารถถอดเก็บได้ แม้กระทั่งไมโครโฟนก็ตาม ซึ่งในครั้งนี้ HyperX Cloud Alpha มีน้ำหนักเบาเพียง 336 กรัมเท่านั้น โดยมีคอนโทรลระดับเสียงมาในสายสัญญาณด้วย
Specification
- 50-mm dual chamber dynamic drivers (neodymium magnets)
- 65 Ω impedance
- 13-27,000 Hz frequency response (specified by the manufacturer)
- Closed-back, over-ear design
- In-line remote control
- Detachable, noise-cancelling microphone
- 3.5-mm connectivity (dual TRS and TRRS)
- 1.3 m + 2 m braided cable
- Weight: 336 g
รูปลักษณ์และฟังก์ชั่น
หน้ากล่องของหูฟัง HyperX Cloud Alpha รุ่นนี้ออกแบบมาแทบไม่ต่างจากหูฟังตระกูล Cloud series ก่อนหน้านี้มากนัก ทั้งในเรื่องของดีไซน์และสีสัน
ส่วนด้านหลังกล่องใส่ฟีเจอร์สำคัญๆ มาให้ได้ทราบเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น Memory foam, Aluminium frame, Detachable Noise Cancellation Microphone และ Detachable Cable
มาดูภายในกล่องกันบ้าง HyperX Cloud Alpha มีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ ประกอบด้วย หูฟัง สายสัญญาณแบบเสียงและพร้อมไมโครโฟน 3.5mm อย่างละ 1 เส้น รวมถึง ไมโครโฟนแบบแยกและคู่มือการใช้งาน
ถุงผ้าสำหรับใส่หูฟัง สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เพื่อป้องกันรอยขูดขีด
สายสัญญาณสำหรับไมโครโฟนและหูฟังจากคอมพ์ เพื่อนำมาต่อกับหูฟัง เพื่อใช้งานร่วมกัน
ชุดควบคุมระดับเสียง เป็นแบบแกนหมุนซ้ายขวา ในการเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มสำหรับเปิด-ปิดการทำงานไมโครโฟน
มาดูหน้าตาชัดๆ สำหรับหูฟังรุ่นนี้ HyperX ปรับโครงสร้างมาให้ดูกระชับมากขึ้น เพื่อให้สวมใส่ง่าย ไม่เกะกะ สำหรับให้ใช้งานได้ทั้งชายและหญิง
ครอบศีรษะที่เป็นแบบหุ้มหนังมาและเดินด้ายแดง ให้อารมณ์เท่ๆ ราวกับเบาะหนังของรถสปอร์ตนั่นเอง
ด้านใต้ของครอบหูฟัง เป็นฟองน้ำที่ให้ความนิ่มนวล แต่ระยะยุบไม่มากนัก เหมาะกับการใช้งานยาวๆ หรือเล่นเกมนานๆ เพราะไม่รู้สึกรำคาญ
ครอบหูฟังที่ทาง HyperX เลือกใช้เป็นแบบ Memory foam ให้ความนุ่มนวลและโอบกระชับ ลดเสียงรอบข้างได้ดี ซึ่งเท่าที่ลองสวมใส่ ให้ความเบาสบายและไม่รำคาญหูอีกด้วย พร้อมชุดขับนีโอดายเมียม 50mm
ครอบหูพลาสติกสีดำ ติดโลโก้ HyperX สีแดง รับกับโครงสร้างอะลูมิเนียมสีแดง ไม่ทำเป็นโครงสร้างทึบเหมือนในรุ่นก่อนๆ ส่วนหนึ่งเพื่อให้น้ำหนักเบาลง และสวมสบายมากขึ้น การพกพาก็สะดวก
ก้านปรับระดับได้ 8 ระดับ สามารถเลื่อนปรับได้ขณะใช้งาน ปรับได้นุ่มนวลไม่แข็งเกินไปนัก มีอักษรบอกข้างซ้าย-ขวาระบุไว้บนหูฟังชัดเจน
ครอบหูฟังด้านซ้าย มาพร้อมช่องเสียบสายสัญญาณและไมโครโฟนข้างๆ กัน
หูฟังเป็นแบบถอดประกอบได้ Detachable Noise Cancellation และมีฟีเจอร์ลดเสียงรบกวน
เมื่อต่อสายเข้ากับหูฟังก็ดูเข้ากันได้ดีทีเดียว ค่อนข้างลงตัวและเคลื่อนย้ายได้ง่าย
Conclusion
HyperX Cloud Alpha เป็นหูฟังเล่นเกมอีกรุ่นหนึ่งของค่าย ที่ทำออกมาได้ไม่ผิดหวัง เพราะหากดูตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ถือว่าตอบโจทย์กับเกมเมอร์ได้ดีทีเดียว ขนาดไม่ใหญ่มาก แบบเดียวกับใน Cloud II แต่ในฟีเจอร์มาอย่างครบครัน สำหรับคนที่ซีเรียสในเรื่องของเสียง รวมถึงการให้ทิศทางของเสียงก็อยู่ในระดับที่ดีอีกด้วย
เช่นเดียวในการทดสอบชมภาพยนตร์ ด้วยเสียงจากฉากโครงสร้างถล่ม เนื่องจากแรงระเบิดใน Transformer และแรงกระแทกโลหะกระทบกันจากการปล่อยหมัดดวลกันระหว่างออพติมัสไพรม์กับบับเบิลบี และเสียงจากตัวละครที่มีความชัดเจน ส่วนการทดสอบด้วยเกม Call of Duty WWII เสียงระเบิดไม่กระแทกจนแตกพล่าเกินไป รวมถึงการลั่นกระสุนที่ฟังดูนุ่มขึ้น ทำให้เก็บเสียงรอบข้างได้ง่ายกว่า มีเสียงระเบิดห่างๆ ให้พอสัมผัสได้
ส่วนในเกม Need for speed payback เสียงเครื่องคำรามได้อย่างสะใจ รวมถึงการใช้ไนตรัสที่ได้อารมณ์ แต่ที่น่าสนใจ คือสามารถรับฟังเสียงคำสั่งและรับรู้การเคลื่อนไหวรอบตัวได้ง่ายขึ้น ก็ต้องถือว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างลงตัวสำหรับคอเกม และใช้สำหรับการชมภาพยนตร์ กับการออกแบบให้สอดรับกับผู้ใช้ได้มากขึ้น สวมสบายใช้ต่อเนื่องได้นาน น้ำหนักเบา กับสนนราคาราวๆ 4 พันกว่าบาทเท่านั้น จึงน่าจะเป็นหูฟังอีกรุ่นหนึ่งที่ตอบโจทย์ในการเล่นเกมใหม่ๆ ได้ดีทีเดียว
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยดูสปอร์ตสำหรับเกมเมอร์
- ไดรเวอร์ขนาด 50mm พร้อมครอบหูฟังเมมโมรีโฟมให้ความนุ่มนวล
- โครงสร้างอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา ปรับระดับได้
ข้อสังเกต
- ครอบหูฟังปรับหมุนซ้าย-ขวาได้เล็กน้อย
ราคา : ประมาณ 4,100 บาท
Contact : HyperX Cloud Alpha