เหตุการณ์ในครั้งนี้ที่เกิดขึ้นเรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่งที่สะเทือนวงการคริปโต (Cryptocurrency) หรือตลาดเงินดิจิทัลแบบครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ เมื่อทาง Bitconnect ได้ประกาศปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่ง Bitconnect เองก็เป็นแพลตฟอร์มด้านการลงทุนและแลกเปลี่ยน กับการออกเหรียญในที่ใช้ชื่อว่า BCC ที่ถูกสังคมคริปโตทั่วโลกมองว่า เป็นการโกงแบบ Ponzi scheme (แชร์ลูกโซ่)
โดยทาง Bitconnect ได้ประกาศผ่านทางหน้าเว็บไซต์ว่า ได้รับจดหมายแจ้งจากทางคณะกรรมการหลักทรัพย์จากรัฐ Texas และรัฐ North Carolina ระบุให้ทาง Bitconnect ปิดให้บริการ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ด้วยการขาย Token โดยไม่มีการลงทะเบียน รวมถึงแพลตฟอร์มถูกโจมตีแบบ DDoS จากผู้ไม่ประสงค์ดีส่งผลทำให้เว็บไซต์เกิดปัญหาด้านการใช้งาน จึงทำให้ทีมงาน Bitconnect ตัดสินใจปิดระบบ Lending กับ Exchange ในที่สุด
สาเหตุที่แพลตฟอร์ม Bitconnect ถูกมองว่าเป็นการโกงแบบ “แชร์ลูกโซ่” นั้น เนื่องจากมีผลตอบแทนให้สูงผิดปกติ ยกตัวอย่างเช่น ให้กู้เงินจำนวน $10,000 เป็นเวลา 180 วัน จะได้รับผลตอบแทนคืนถึง 40% ต่อเดือน และโบนัสอีก 0.2% ต่อวัน ซึ่งราคาเหรียญ BCC นั้น เคยถูกซื้อขายอยู่ที่ราว ๆ 400 เหรียญสหรัฐฯ ในช่วงปีใหม่ แต่ตอนนี้ราคาได้ร่วงอยู่ที่ราวๆ 25.57 เหรียญสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งหายไปถึง 80%-90% อีกทั้งการประกาศปิดแพลตฟอร์ม Bitconnect ส่งผลทำให้ผู้ที่เคยลงทุนกับเหรียญ BCC นั้นเกิดความเครียด เนื่องจากไม่สามารถขายเหรียญ BCC ได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตามเหรียญ BCC เองก็ไม่ได้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากนัก เพราะ ไม่ได้มีขายในไทยเท่าไร ทำให้คนไทยอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ถึงกระนั้นอย่างน้อยๆ ก็ทำให้รู้ว่าเวลาลงทุนอะไรสักเหรียญก็ควรดูความน่าเชื่อถือของเหรียญนั้นด้วย ไม่ใช่สักแต่จะเก็งกำไรอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นเงินลงทุนอาจจะกลายเป็นศูนย์ได้เดี๋ยวหาว่าไม่เตือนนะครับ
ที่มา : techcrunch