สำหรับ mini PC Desktop ของฝัง ASUS ตัวนี้ก็มาถึงรุ่นที่สองแล้วกับตัว GR8 II ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นจากเดิมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของการดีไซน์ที่ดูล้ำสมัยมากขึ้น สเปคแรงขึ้น รวมถึงติดตั้งไฟ RGB มาให้ด้วยด้านหน้าอย่างแจ่ม นับว่าแตกต่างจากรุ่นเดิมอย่างตัว GR8 พอสมควรเลยทีเดียว แถมขนาดตัวเครื่องก็เล็กกระทัดรัด สามารถจัดหาวางพื้นที่ได้สะดวก ไม่เหมือนพวก PC Desktop ใหญ่ๆ ปกติที่ต้องใช้พื้นที่เยอะๆ นั่นเอง และในบทความนี้ทางทีมงานก็ได้ตัว ASUS ROG GR8 II มารีวิว จะเป็นอย่างไรบ้างไปดูกันเลยครับ
สเปคเบื้องต้น
- CPU : Intel® Core™ i7 7400 4 core 4 Threads, L3 6 MB
- GPU : NVIDIA GeForce® GTX 1060 6GB GDDR5
- RAM : DDR4 16 GB Dual Channel Bus 2400 MHz (แบบโน้คบุ๊ค)
- SSD : M.2 SSD SATA III 256GB
- HDD : 1.0 TB 7200 RPM
- Power Supply : 230 W Power adapter
- Wireless Data Network : 802.11 a/b/g/n/ac2 x2 , Bluetooth V4.2
- Weight : 4 kg
- OS : Windows 10
การดีไซน์
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ ASUS ROG GR8 II คงนี้ไม่พ้นเรื่องของการดีไซน์ ซึ่งตัวเครื่องได้ออกแบบมาเพื่อชาวเกมเมอร์โดยเฉพาะ ดูดุดัน เท่แบบลงตัวไม่เหมือนใคร ตัวเครื่องบอดี้สีดำเทา ผสมกับกับสี Plasma Copper ตรงกลางเครื่อง และด้านหน้ามาพร้อมกับไฟ RGB ที่มีลวดลายดูทันสมัย คล้ายกับอุปกรณ์จากอนาคตก็ไม่ปาน ซึ่งเราสามารถปรับแต่งสีไฟต่างๆ ได้ตามใจชอบในโปรแกรม AURA ที่มีมาให้ในเครื่องนั่นเอง
ด้านข้างตัวก็ดีไซร์ออกมาดูโฉบเฉี่ยว โดยทางด้านขวาจะมีโลโก้ ROG โดดเด่นออกมาเป็นเอกลักษณ์ ส่วนทางด้านซ้ายเป็นกระจกทึบๆ ไว้ส่องดูอุปกรณ์ด้านใน และก็มีสติ๊กเกอร์ผลิตภัณฑ์แปะเอาไว้ดูด้านล่าง
ด้านหลังตัวเครื่องก็มีพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ มากมาย ซึ่งพอร์ต USB 3.1 , Type A, USB 3.1 Type C, 2 x HDMI, DisplayPort, RJ45 LAN, Kensington Lock, DC-in, Optical S/PDIF out, Audio Jack เรียกได้ว่าครบครันเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน และที่สำคัญเลยคือ มีการ์ด Wireless ในตัวด้วยทำให้เวลาจะใช้ Wi-fi ก็ไม่จำเป็นต้องซื้ออแดปเตอร์เพิ่มครับ
ในส่วนของการแกะอัพเกรดตัวเครื่องอาจจะทำให้ยากนิดหนึ่ง เพราะ ต้องงัดฝาบนเปิดออก ซึ่งต้องใจเย็นๆ เบาๆ มือ ไม่งั้นฝาอาจจะหักได้ บอดี้ด้านในโครงสร้างเป็นโลหะอย่างดี มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน ไม่ได้กองไว้แค่จุดใดจุดหนึ่ง ทำให้การระบายความร้อนของทำได้ดีไม่มีปัญหา ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ด้านล่างจะเป็นการ์ดจอ ส่วนด้านบนที่เราสามารถแกะออกมาอัพเกรดได้ จะมีทั้งฮาร์ดดิสก์, SSD m.2, และ Ram (แบบโน๊ตบุ๊ค) ครับ
การใช้งาน
สำหรับประสิทธิภาพในการทำงาน การทดสอบ การเล่นเกม ของ ASUS ROG GR8 II ถือว่าทำได้ดีมากๆ ซึ่งทางทีมงานได้ทดสอบเล่นเกมระดับ 2K ด้วยเกมต่างๆ เป็นเวลานานๆ มาดูกันครับว่าแต่ละเกมที่ทำงานได้ทำการทดสอบจะมี FPS เฉลี่ยเท่าไรกันบ้าง
จากราฟจะเห็นได้ว่าทุกเกมมีคะแนนเฉลี่ย FPS 50+ ขึ้นไปเกือบทุกเกม ยกเว้น PUBG ที่มี FPS เฉลี่ย 36 ซึ่งหากเพื่อนๆ ปรับความละเอียดน้อยกว่านี้ ไม่ได้ปรับสุดทุกอย่างรับรองเลยครับว่าจะสามารถเล่นเกมได้ลื่นๆ แน่นอน อีกทั้งถ้าเอามาเล่นเกมกับจอที่รองรับ 120 Hz อุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ดีๆ หูฟังแจ่มๆ ซึ่งทางทีมงานได้เซ็ตของทาง ROG มาด้วย บอกเลยครับว่าฟินสุดๆ ไปเลย เล่นได้ทั้งวันจนลืมทำงานเลยทีเดียวครับ
มาดูทางด้านอุณหภูมิตัวเครื่องกันบ้างครับ สังเกตได้ว่าถึงแม้ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็กแต่การระบายความร้อนก็ถือว่าทำได้ดีมากเลยทีเดียวครับ โดย CPU มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 78 องศาเท่านั้น ส่วนตัว GPU มีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 83 องศา ครับ
นอกจากนี้ทีมงานยังได้ทำการทดสอบฮาร์ดดิสก์ทั้งสองลูกคือตัว ฮาร์ดดิสก์ปกติ และ SSD M.2 ซึ่งตัว SSD M.2 256 GB ตัวนี้ เป็นแบบ SATA 3 ปกติมีความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 553.6 MB/S และเขียนอยู่ที่ 265.0 MB/S ครับ
ส่วนทางฮาร์ดดิสก์ 2.5 (แบบโน๊ตบุ๊ค) เป็นแบบ 7200 RPM มีความเร็วในการโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 44.7 MB/s และสูงสุดที่ 144.6 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 104.5 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 17.0 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นค่อนข้างความน่าประทับใจทีเดียวดีกว่าในโน๊ตบุ๊คบางรุ่นเสียอีก
ด้านโปรแกรมที่ติดมากับตัวเครื่องเลยคือ โปรแกรม ARMOURY และ AURA ซึ่งตัวโปรแกรม ARMOURY เองจะไว้ใช้ปรับสีไฟคีย์บอร์ดและเมาส์ของตัวเกมมิ่งเกียร์ ROG รวมถึงตั้งค่ามาโครต่างๆ โดยเราสามารถตั้งค่าให้ เมาส์และคีย์บอร์ดมีค่าสีที่ Sync กันได้ ดูเข้ากันสุดๆ
ส่วนตัวโปรแกรม AURA จะไว้ตั้งค่าสีไฟของตัว ASUS ROG GR8 II ซึ่งสามารถตั้งค่าได้หลากหลายรูปแบบมากๆ รวมถึงมีสีให้เหลือสันแบบ RGB เลยทีเดียว
สรุป
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมี PC Desktop แรงๆ ขนาดเล็กที่จะเทียบเท่ากับ ASUS ROG GR8 II ที่ยัดขุมพลังมาอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งหากประกอบเองบอกได้เลยครับว่าตัวเครื่องนี้ต้องขนาดใหญ่กว่าตัว ASUS ROG GR8 II 2-3 เท่า ก็ว่าได้ นอกจากที่จะมีดีไซน์ขนาดเล็กแล้ว การดีไซน์บอดี้ภายนอก รวมถึงวัสดุงานประกอบต่างๆ ก็ทำได้แข็งแรง ทนทาน สวยงามเท่แบบดุดันไม่เหมือนใครอย่างแน่นอนครับ
หากถามว่า ASUS ROG GR8 II ตัวนี้เหมาะกับใคร คงต้องบอกเลยครับว่าเหมาะสำหรับแฟนพันธุ์แท้ ROG ที่ต้องการ PC Desktop เล็กๆ แรงๆ ไว้ใช้ที่บ้านอย่างแน่นอนที่สุด ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์ของทาง ROG ได้เป็นอย่างดี ส่วนข้อสังเกตที่พบอันดับแรกเลยคือ ราคาซึ่งเปิดตัวมากค่อนข้างสูงกว่าประกอบเองพอสมควร รวมถึงตัวเครื่องการแกะอัพเกรดค่อนข้างยากนั่นเองครับ
ข้อดี
- สเปคแรงรองรับการเล่นเกมหนักๆ ได้ทุกเกม
- งานประกอบ และการดีไซน์สวยงามโดดเด่น ดุดัน ไม่เหมือนใคร พร้อมมีไฟ RGB ที่ด้านหน้าตัวเครื่อง
- รองรับการอัพเกรดเพิ่มเติมได้ในอนาคต
- การประกัน 3 ปีเต็ม
- มี USB Type C รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน
- มีการ์ด Wi-Fi ในตัวเหมือนโน๊ตบุ๊ค
- มาพร้อมกับ Windows 10 แท้ สามารถเปิดเครื่องใช้งานได้ทันที
ข้อสังเกต
- มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสเปคประกอบเอง
- การแกะอัพเกรดทำได้ค่อนข้างยาก