HTC VIVE™ บริษัทผู้พัฒนาระบบเทคโนโลยีเวอร์ชวลเรียลลิตี้โลกเสมือนจริงแบบ Room-scale ที่ก้าวล้ำที่สุดในวงการ ประกาศเปิดตัวแว่นเสมือนจริงตัวอัพเกรดล่าสุดรุ่น Vive Pro และรุ่น Vive Wireless มอบสุดยอดประสบการณ์เสมือนจริง (Virtual Reality หรือ VR) เหนือระดับสุดพรีเมี่ยมแก่ผู้บริโภคและลูกค้าองค์กร อีกทั้ง บริษัทฯ ยังพัฒนาแพลตฟอร์ม Viveport VR และ Vive Video รูปแบบใหม่สำหรับใช้ในการค้นหาและเลือกซื้อคอนเทนต์ VR ต่างๆ ที่เพิ่มความสะดวกและเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานให้ง่ายและตอบโจทย์ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
Vive Pro (ไวฝ์ โปร)
Vive Pro ตัวแว่นเสมือนจริงที่ได้ทำการอัพเกรดตัวจอป้อนภาพ (Head-Mounted Display หรือ HMD) มอบประสิทธิภาพการแสดงผลและระบบเสียงที่สมบูรณ์แบบ ด้วยหน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 3.5 นิ้วเพื่อมุมมองที่กว้างเป็นพิเศษ และมีความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลสูงถึง 615 ppi พิกเซลเพิ่มมากกว่ารุ่นปัจจุบันถึง 37 เปอร์เซ็นต์ ออกแบบเฉพาะสำหรับเหล่าเกมเมอร์และลูกค้าองค์กรธุรกิจ
Vive Pro นวัตกรรมเทคโนโลยีแว่น VR ความละเอียดสูง ยกระดับความคมชัดให้เหนือชั้นด้านการแสดงผลข้อความและกราฟฟิก เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์โลกเสมือนที่สมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งรุ่น Vive Pro ยังมาพร้อมกับหูฟังประสิทธิภาพสูงติดตั้งภายในตัวแว่น ระบบเทคโนโลยีเสียงเสมือนจริงรอบทิศทางพร้อมระบุตำแหน่งที่มาของเสียงได้อย่างแม่นยำและให้เสียงที่ใสชัดเจน Vive Pro ได้รับการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ให้สวมสบาย กระจายน้ำหนักทั่วทั้งตัวแว่นเพื่อรักษาสมดุลและยังช่วยลดน้ำหนักตัวแว่นด้านหน้าด้วย นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสิทธิภาพไมโครโฟนที่มีระบบตัดเสียงรบกวนและติดตั้งกล้องด้านหน้าทั้งสองข้าง ซึ่งตัวแว่นรุ่นนี้ยังสามารถรองรับระบบเทคโนโลยี SteamVR Tracking 2.0 ของ Valve ด้วย
เดเนียล โอเบรียน ผู้จัดการทั่วไป Vive ประจำประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า “ในปัจจุบันความต้องการของตลาดอุปกรณ์เทคโนโลยีโลกเสมือนมีจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะแว่น VR ระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมหน้าจอภาพความละเอียดสูงและระบบเสียงติดตั้งภายในตัว ซึ่ง Vive Pro เป็นรุ่นที่ได้รับการอัพเกรดเพื่อผู้ใช้งานและลูกค้าระดับองค์กรที่ต้องการสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ VR ที่แท้จริง”
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการวางจำหน่ายและราคาของ Vive Pro ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในตอนนี้
Vive Wireless (ไวฝ์ ไวร์เลส) แว่น VR แบบไร้สาย
Vive Wireless เป็นแว่น VR แบบไร้สายรุ่นแรกในตลาด ชูจุดเด่นด้านความคล่องตัว สัมผัสประสบการณ์โลกเสมือนเต็มรูปแบบคุณภาพสูงสุดด้วยเทคโนโลยี WiGig จากอินเทล และทำงานแบบ ไร้สายบนย่านความถี่ 60GHz อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับ Vive และ Vive Pro ได้ด้วย โดยแว่นรุ่น Vive Wireless นี้จะเริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกในไตรมาสที่สามปีนี้
แฟรงค์ โซกี ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มผลิตภัณฑ์ VR บริษัทอินเทล คอร์เปอเรชั่น กล่าวว่า “ผู้ใช้แว่น VR จำนวนมากล้วนมีความต้องการอยากได้แว่น VR แบบไร้สายนับตั้งแต่ที่เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงเริ่มเปิดตัวในช่วงแรกๆ ซึ่งความร่วมมือกับเอชทีซีเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยี WiGig ของอินเทลครั้งนี้ เรารับประกันด้านคุณภาพและประสบการณ์สูงสุดที่มอบให้แก่ผู้ใช้งานทั่วไปและลูกค้าภาคธุรกิจต่างๆ”
Viveport VR (ไวฝ์พอร์ท วีอาร์)
ครั้งนี้ถือเป็นการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของ Viveport แหล่งรวมซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มทางด้าน VR นับตั้งแต่เปิดให้บริการมา โดย Viveport VR เวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่นี้ได้ทำการปรับรูปแบบวิธีที่ผู้ใช้งานใช้ในการค้นหาหรือเลือกซื้อคอนเทนต์ VR ต่างๆ บนแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้งานสามารถชมตัวอย่างพรีวิวคอนเทนต์ “VR Previews” ได้แบบ 360 องศาก่อนที่จะทำการซื้อหรือลงทะเบียน ปัจจุบันใน Viveport VR มีจำนวนคอนเทนต์ให้เลือกมากกว่า 450 คอนเทนต์
ริการ์ด สตีเบอร์ ประธานบริหาร Viveport กล่าวว่า “รูปโฉมใหม่ของแพลตฟอร์ม Viveport VR เราได้ทำการปรับรูปแบบวิธีที่ผู้ใช้งานใช้ในการค้นหาและเลือกซื้อคอนเทนต์ VR ซึ่งถือว่าเป็นการนำเทคโนโลยี VR มาประยุกต์ใช้อย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มปฎิสัมพันธ์กับคอนเทนต์มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นเหมือนช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผู้พัฒนา VR คอนเทนต์ต่างๆ ได้แสดงพรีวิวตัวอย่างคุณภาพและประสิทธิภาพของคอนเทนต์ตนเองด้วย”
Vive Video อัพเกรดฟีเจอร์ใหม่ พร้อมรองรับวิดีโอคอนเทนต์ Vimeo
Vive Video (ไวฝ์ วิดีโอ) เวอร์ชั่นอัพเกรดใหม่เพื่อให้การค้นหาคอนเทนต์วิดีโอ VR ต่างๆ ง่ายมากขึ้นและผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องบันทึกไฟล์วิดีโออีกต่อไป ซึ่งนอกจากฟีเจอร์ใหม่ๆ และอัพเกรดหน้าตา User Interface รูปแบบใหม่แล้ว ยังสามารถรองรับวิดีโอคอนเทนต์จาก VIMEO ซึ่งเป็นผู้นำด้านการดาวน์โหลดวิดีโอคุณภาพสูงที่มีผู้พัฒนาวิดีโอมากกว่า 50 ล้านวิดีโอทั่วโลก โดยใน Vive Video รูปแบบใหม่นี้ ผู้ใช้งานสามารถทำการค้นหาและรับชมวิดีโอคอนเทนต์ผ่านตัวแว่น VR ได้เลย
Vive Video เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับการดาวน์โหลดมากที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุดบนระบบ SteamVR ที่ผู้ใช้งานสามารถรับชมวิดีโอแบบ 180 องศาและ 360 องศา พร้อมเปิดให้ใช้งานได้ Vive และแพลตฟอร์ม Daydream
ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั่วไป เหล่าเกมเมอร์ และลูกค้าองค์กรธุรกิจให้ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ HTC Vive เวอร์ชั่นปัจจุบันจะยังคงมีวางจำหน่าย ควบคู่ไปกับเวอร์ชั่นอัพเกรด Vive Pro ที่จะออกวางจำหน่ายในปีนี้
สำหรับรูปภาพและรายละเอียดข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติม สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.vive.com/us/pr/newsroom-gallery