Review – Linksys WRT32X Gaming เราเตอร์ที่เกิดมาเพื่อชาวเกมเมอร์โดยเฉพาะ

สำหรับเกมเมอร์ที่เป็นตัวจริงเสียงจริง นอกจาก PC ที่มีสเปคแรงๆ กับอุปกรณ์เกมมิ่งสุดเทพแล้ว อีกอย่าง ที่สำคัญมากเลยก็คืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ซึ่งปกติแล้วหากเกมเมอร์อยู่บ้านใช้เน็ตคนเดียวก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ทว่าในบ้านหนึ่งหลัง มีคนใช้เน็ตมากกว่าหนึ่งคนแน่นอน ทั้งดูซีรีส์ ฟังเพลง ดู YouTube โหลดบิต บอกเลยครับว่าหากเกมเมอร์เล่นเกมอยู่แล้วโดนดึงเน็ต คงจะหัวร้อน หงุดหงิดกันไม่น้อยเลยทีเดียว

และในบทความนี้เองทางทีมงาน NotebookSPEC มีโอกาสได้มารีวิวกับตัวเราเตอร์ Linksys WRT32X รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เป็นเราเตอร์สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะจะเป็นยังไงบ้าง จะแก้ปัญหาเน็ตแลคได้หรือไม่ ไปดูกันได้เลยครับ

สเปคเบื้องต้น

Input : 100-240V ~ 50-60Hz
Output : 12V, 3.0A
Wireless LAN Interface : 802.11a 802.11g 802.11n 802.11ac
Frequency Range : 1.8 GHz dual-core
Number Of LAN Port : 1x Gigabit WAN port 4x Gigabit LAN ports
Security : WPA2 128 bit AES link encryption
Dimensions : 245.87 x 193.80 x 51.82 mm
Weight : 798.00 g
Warranty : 3 Years
Price : 10,990 บาท

ดีไซน์

ดูตั้งแต่กล่องของตัว Linksys WRT32X บอกเลยครับว่าโครตพรีเมียมขนาดค่อนข้างใหญ่ กล่องสีดำ ด้านในบุฟองน้ำอย่างดี มีชั้นรองสองชั้น ด้านบนจะมีตัวเราเตอร์ส่วนด้านในจะเป็นอุปกรณ์เสริมด้านใน ซึ่งจะมีทั้งคู่มือ, สาย Lan, โค้ด WTFast และอแดปเตอร์สายชาร์จ

ในส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ จะอยู่ด้านหลังตัวเครื่องไล่จากซ้ายไปขวา ก็จะมีพอร์ต Ethernet จำนวน 4 พอร์ต, INTERNET, USB 3.0, USB eSATA, ปุุ่ม Reset, รูเสียบสายไฟ และปุ่มเปิดปิดเครื่อง

  

  

ลักษณะภายนอกตัวบอดีี้ของ Linksys WRT32X จะเป็นสีดำด้าน วัสดุเป็นพลาสติกเกรดเดียวกับระดับ Enterprise มีโลโก้ Linksys อยู่ด้านบนพร้อมช่องรูระบายอากาศ ซึ่งด้านล่างก็มีรูระบายอากาศด้วยเช่นกัน งานประกอบก็ทำได้ดี แน่นหนา แข็งแรง ไม่มีส่วนง่อนแง่น ส่วนเรื่องของขนาดก็ค่อนข้างใหญ่กว่าเราเตอร์ปกติที่แถมมากับค่ายอินเตอร์เน็ตทั่วไป ซึ่งดีไซน์โดยรวมบ ทำให้ WRT32X ตัวนี้ดูดี เสามีสี่เสาสามารถกระจายสัญญาณ

การใช้งาน

ด้วยเราเตอร์ WRT32X ที่มีฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะที่เรียกว่า “Killer Prioritization Engine” ที่ทาง Linksys พัฒนาร่วมกับ Rivet Networks โดยฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นทาง Linksys เคลมว่าสามารถช่วยลด Ping ได้ถึง 77% เลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากเราอยากใช้ฟีเจอร์นี้ให้เต็มประสิทธิภาพของตัว WRT32X นี้ ตัวเครื่อง PC ที่เราใช้จำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์ที่เป็น Killer Networking จาก Rivet Networks ด้วย เช่น โน๊ตบุ๊คของแบรนด์ Razer, Gigabyte, Alienware และ MSI

ซึ่งหลายคนอาจจะเกิดคำถาม หากเครื่อง PC หรือโน๊ตบุ๊คเราไม่มี Killer Networking จะสามารถใช้งาน WRT32X เครื่องนี้ได้รึเปล่า บอกเลยครับว่าใช้ได้เช่นกัน เพียงแต่จะใช้งานได้ไม่เต็มที่เท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบของทีมงานด้วยอินเตอร์เน็ตความเร็ว 100 MB ต่อเล่น DOTA 2 กับเครื่อง Alienware R4 ผ่าน WRT32X แล้วให้มีอุปกรณ์อีก 4 เครื่อง ดู YouTube โหลดไฟล์หนักๆ

ผลปรากฏว่า Ping คงที่ราวๆ ประมาณ 30-33 ส่วนค่า Loss อยู่ที่ 0-2 ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับเราเตอร์ของแถม ซึ่งค่า Ping 30-33 เท่ากัน แต่ค่า Loss นี่พุงไป 14-40 เลยทีเดียว บอกเลยครับว่าแลค กระตุก แน่นอน เล่นแทบไม่ได้

นอกจากนี้ทีมงานยังได้นำมาทดสอบกับโน๊ตบุ๊คธรรมดาที่ไม่มี Killer Networking ด้วยเช่นกัน ตัวแปรเหมือนเดิมจากที่ได้ทดสอบ ไปข้างต้นผลปรากฏว่า ใช้เราเตอร์ WRT32X ค่า Ping ก็จะอยู่ที่ประมาณ 30-33 เหมือนเดิม แต่ค่า Loss จะอยู่ที่ประมาณ 10-14 ซึ่งเริ่มมีอาการกระตุกให้เห็น แต่ถ้าหากใช้โน๊ตบุ๊คธรรม + เราเตอร์แถม ค่า Ping จะขึ้นมาอยู่ที่ 50-90 เลยทีเดียว และค่า Loss ก็จะอยู่ที่ 30-70 เลยครับ แลคจนเล่นไม่ได้แน่นอน เพราะโดนดึงเน็ตไปแบบไร้การจัดลำคัญความสำคัญนั่นเอง

สรุป

สำหรับเราเตอร์ WRT32X ก็ถือเป็นเราเตอร์เกมมิ่งตัวแรกของโลกที่ใช้สเปคซีพียูแบบ Dual Core ความเร็ว 1.8 GHz บนระบบของ Linux ที่มีความเสถียรและให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงเพื่อมุ่งเน้นให้ตอบสนองความต้องการในการเล่นเกมที่ลื่นไหล จากที่ได้ทดสอบมาก็สามารถใช้งานได้จริง เห็นผล แตกต่างจากเราเตอร์ธรรมดา แบบรู้สึกได้จริงๆ นอกจากนี้ตัว WRT32X ก็ยังมีเสาอากาศที่สามารถส่งสัญญาณได้ดี แถมยังส่งได้ระยะที่ไกลพอสมควรอีกด้วย จากการทดสอบมาวางเราเตอร์ไว้ที่ชั้น 1 ชั้น 3 ก็ยังสามารถใช้งานได้ดีเช่นกัน

หากถามว่าเราเตอร์ WRT32X ตัวนี้เหมาะกับใคร แน่นอนว่าคนธรรมดาทั่วไปอาจจะไม่ได้เหมาะนัก เพราะตัวเราเตอร์นี้ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์และราคาอาจจะค่อนข้างสูงสักหน่อย ซึ่งเหมาะกับนักกีฬาอีสปอร์ตหรือเกมเมอร์สายจริงจังที่ต้องการความเสถียรของอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมากนั่นเองครับ

ข้อดี

• เป็นเราเตอร์เกมมิ่งตัวแรกของโลกที่ใช้ Killer Networking
• การใช้งานเห็นผลได้ชัด เล่นเกมได้ลื่นไหล เสถียร แม้จะมีเครื่องอื่นมาใช้งานร่วมด้วยก็ตาม
• รองรับ WiFi 802.11 AC แบบ Wave 2 dual-band 3×3 พอร์ต และมีพอร์ต Lan ระดับกิกาบิตถึง 4 พอร์ต
• มีพอร์ต USB/eSATA สำหรับใช้โอนถ่ายข้อมูล

ข้อสังเกต

• ราคาค่อนข้างสูง