Connect with us

Hi, what are you looking for?

Accessories review

Review – RAZER ELECTRA v2 หูฟังเริ่มต้นมือใหม่ น้ำหนักเบา เสียงเอฟเฟกต์เร้าใจ ในราคาคุ้ม 2,000 ต้นๆ

สำหรับเกมเมอร์แล้ว คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่า การได้คอมเครื่องแรงๆ มาจัดตี้ลงดันกันในวันหยุดแบบยาวๆ แค่นี้ก็สุขสุดๆ แล้ว เพราะหลายๆ คนก็รอวันหยุดที่จะได้สนุกกับเพื่อนๆ แม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม แต่อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เมาส์ คีย์บอร์ด และหูฟัง ที่เข้ามามีส่วนช่วยเพิ่มอรรถรส

สำหรับเกมเมอร์แล้ว คงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่า การได้คอมเครื่องแรงๆ มาจัดตี้ลงดันกันในวันหยุดแบบยาวๆ แค่นี้ก็สุขสุดๆ แล้ว เพราะหลายๆ คนก็รอวันหยุดที่จะได้สนุกกับเพื่อนๆ แม้จะอยู่ที่บ้านก็ตาม แต่อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เมาส์ คีย์บอร์ด และหูฟัง ที่เข้ามามีส่วนช่วยเพิ่มอรรถรส ทั้งในเรื่องรูป สัมผัสและเสียงได้อย่างเต็มอิ่ม โดยเฉพาะเรื่องเสียง ดูจะเป็นสิ่งสำคัญที่เกมเมอร์ให้ความสำคัญไม่แพ้อุปกรณ์อื่นๆ เลยทีเดียว เพราะให้ทั้งความเร้าใจ และบอกถึงสิ่งที่อยู่รอบข้างได้ดีทีเดียว

RAZER Electra v2 1

Advertisement

RAZER ELECTRA v2 เป็นหูฟังอีกรุ่นหนึ่งจากค่าย RAZER ที่หลายคนชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์ กับโลโก้สีเขียวสดใส ซึ่งวางจำหน่ายสินค้าที่เป็นเกมมิ่งเกียร์ที่รู้จักกันดีทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเองมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเมาส์ คีย์บอร์ดหรือหูฟัง รวมถึงแผ่นรองเมาส์และอื่นๆ เช่นเดียวกับหูฟัง ที่นำมารีวิวกันในวันนี้ ในชื่อ Electra v2 ที่ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการเล่นเกมได้ทั้งบนพีซีและเครื่องคอนโซล ซึ่งเวลานี้ Electra v2 ออกมา 2 ซีรีส์ด้วยกันคือ Electra v2 ปกติและในเวอร์ชั่น Electra v2 USB

โดยทั้ง 2 รุ่นมีความใกล้เคียงกัน คุณสมบัติส่วนใหญ่เกือบจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด ต่างกันแค่การเชื่อมต่อในแบบ USB และ คอนเน็กเตอร์แบบ 3.5mm เท่านั้นเอง โดยออกมาตอบโจทย์ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ด้วยตัวขับขนาดใหญ่ 40mm Neodymium magnet รองรับระบบเสียง 7.1-channel สำหรับคนที่ชอบเล่นเกมแอ็คชั่น ให้สัมผัสเสียงรอบทิศทาง ไมโครโฟนแบบไมค์บูม ถอดออกได้ พร้อมโครงอลูมิเนียม น้ำหนักเบา และครอบหูฟังฟองน้ำหุ้มด้วยหนังเทียม จึงช่วยลดเสียงรบกวนภายนอก และใส่สบาย กระชับศีรษะมากขึ้น

Specification

At a glance

  • 40 mm drivers
  • 7.1 Virtual Surround Sound
  • Multiplatform compatibility
  • Removable boom mic
  • 3.5 mm combined audio jack (PC | Mac | PS4™ | Xbox One® | Switch | Mobile Devices)

Headphones

  • Frequency response: 20 Hz – 20 kHz
  • Impedance: 32 ± 15% Ω
  • Sensitivity: 105 ± 3dB
  • Max input power: 50 mW
  • Drivers: 40 mm with Neodymium magnets
  • Cable length: 1.3 m / 4.27 ft.
  • Approximate weight: 278 g / 0.61 lbs

Microphone (Removeable boom mic)

  • Frequency response: 100 Hz – 10 kHz
  • Signal-to-noise ratio: >= 50 dB
  • Sensitivity (@1 kHz): -41 ± 3 dB
  • Pick-up pattern: Unidirectional

Controls on headset

  • Volume up / down, mic mute

 

รูปลักษณ์และฟังก์ชั่น

RAZER Electra v2 2

แพ็คเกจของ RAZER Electra v2 ยังคงดูสะดุดตา ถ้ามองบนชั้นวางจะดูโดดเด่นทีเดียว ด้วยโทนสีเขียว-ดำ ที่เป็นเอกลักษณ์ และโชว์ตัวหูฟังของจริงไว้อีกครึ่งหนึ่ง ให้เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

RAZER Electra v2 3

ด้านหลังบอกรายละเอียดและฟีเจอร์ของหูฟังไว้อย่างครบครันเลยทีเดียว

RAZER Electra v2 4 RAZER Electra v2 5

ทาง RAZER ออกแบบแพ็คเกจไว้แน่นหนา แต่ก็ใส่ใจรายละเอียด ผู้ใช้แค่ดึงสติ๊กเกอร์ที่ทำเป็นรอยปะเอาไว้ออกมา จากนั้นก็ดึงกล่องใสออกจากกล่องกระดาษได้แล้ว

RAZER Electra v2 6

RAZER Electra v2 7

องค์ประกอบภายในหลักๆ มีอยู่ด้วยกัน 2 ส่วนคือ คู่มือและสติ๊กเกอร์ และส่วนที่เป็นตัวหูฟัง RAZER Electra v2

RAZER Electra v2 10

RAZER Electra v2 11

ภายในกล่องใส จะมีหูฟังที่ล็อคเข้ากับแพ็คเกจเป็นอย่างดี ภายในจะประกอบด้วยตัวหูฟัง มีสายสีเขียว ยาวประมาณ 1.3m และสายต่อ Mic/ Speaker อีกราวๆ 1m ขยาย 3.5mm เพื่อยืดระยะ

RAZER Electra v2 12

RAZER Electra v2 13

ที่คาดศีรษะด้านบน เป็นอลูมิเนียมสีดำ เป็นแบบโครงโลหะ 2 ชั้น เป็นตัวช่วยรั้งโครงสร้าง ให้เข้ากับศีรษะในขนาดต่างๆ ให้กระชับ ตรงจุดนี้ทำได้ดี เพราะเมื่อสวมแล้วแน่นมากทีเดียว รวมถึงช่วยกระจายน้ำหนักได้ดีพอสมควร

RAZER Electra v2 30

ที่รองศีรษะด้านใต้เป็นแบบฟองน้ำ หนาราวๆ 5mm มีรูระบายอากาศมาในตัว รองรับน้ำหนักจากโครงสร้างมากระจายไปทั่วศีรษะ สวมใส่สบาย เรียกว่าแม้จะดูแบบเรียบง่าย แต่ก็ใส่สบายดี เพียงแต่บางคนอาจจะชอบที่เป็นแบบหุ้มหนัง ที่ดูนุ่มนวลขึ้น

RAZER Electra v2 19

RAZER Electra v2 18

ระยะการรั้งของครอบศีรษะและโครงสร้าง ดึงลงมาได้ลึกทีเดียว โดยถ้าเป็นศีรษะผู้ชายทั่วไป ใส่ได้สบาย

RAZER Electra v2 31

การรั้งตัวของโครงสร้างด้านข้าง เพื่อให้มีความยืดหยุ่น ดึงได้มากกว่า 3cm เลยทีเดียว จึงรองรับศีรษะที่มีขนาดใหญ่ได้ไม่ยาก

RAZER Electra v2 14

ครอบหูเป็นแบบสี่เหลี่ยมที่อาจดูแปลกตาไปบ้าง เรียกว่าฉีกรูปแบบของหูฟังแบบเดิมๆ จาก RAZER ที่มักจะเห็นเป็นแบบทรงกลมเป็นส่วนใหญ่ จะมีรุ่นใหม่ๆ อย่าง Tiamat ที่เป็นสี่เหลี่ยมเช่นกัน แต่บอกไว้ก่อนว่า โลโก้ด้านข้างนี้ จะเป็นแบบลวดลายธรรมดา ไม่ได้เรืองแสงออกมาแต่อย่างใด

RAZER Electra v2 15

ตัวหูฟังน้ำหนักค่อนข้างเบา อยู่ที่ประมาณ ไม่ถึง 300g เท่านั้น จึงใส่สบายมากๆ ไม่มีแรงกดทับให้เสียอารมณ์ สำหรับคนที่ชอบการใส่แบบสบายๆ

RAZER Electra v2 16

ครอบหูฟังจะบิดตัวได้เล็กน้อยเท่านั้น  แม้จะดูเป็นข้อจำกัด แต่ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้กระชับต่อการสวมใส่ สำหรับคนที่ต้องเคลื่อนไหวบ่อยๆ

RAZER Electra v2 17

ปุ่มด้านข้างจะเป็นปุ่มเปิด-ปิดเสียง และปรับ Volume +/- ใช้การเลื่อนขึ้นลง ซึ่งหลายๆ คนอาจจะชื่นชอบมากกว่าที่เป็นแบบหมุนเลื่อนขึ้น-ลง อีกทั้งอยู่บนตัวหูฟัง การปรับใช้ก็ง่ายขึ้น

RAZER Electra v2 20

แจ๊ค 3.5mm และสายต่อสีเขียวสดใส ยาวมากกว่า 1.3m และยังมีสายพ่วงสำหรับต่อ Mic/Speaker มาด้วย จึงยืดระยะให้กับการใช้งานได้ดี

RAZER Electra v2 21

หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมตัวขับแบบแม่เหล็กนีโอไดเมียมขนาด 40mm ซึ่งถือเป็นขนาดที่อยู่ในหูฟังระดับเดียวกัน ให้คุณภาพในด้านของเสียงได้ดี

RAZER Electra v2 22

มาพร้อมฟองน้ำที่มีความนุ่มนวล และยังหุ้มด้วยหนัง ทำให้สวมสบายขึ้น โดยเฉพาะคนที่ขี้รำคาญ น่าจะถูกใจหูฟังรุ่นนี้ นอกจากนี้หากใส่พอดีกับใบหู ก็ยังลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อีกด้วย นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจของหูฟังจาก RAZER รุ่นนี้

RAZER Electra v2 25

RAZER Electra v2 23 RAZER Electra v2 24

ตัวหูฟังมาพร้อมไมโครโฟนแบบแยก ที่มีอัตราตอบสนองไว และยังถอดออกได้เมื่อไม่ใช้งาน ด้วยการต่อเข้ากับช่องแจ๊ค 3.5mm ตรงหูฟังด้านซ้าย และมีฝาปิดยางมาให้

RAZER Electra v2 26

เรื่องของดีไซน์และการออกแบบ ต้องบอกว่าในภาพรวมทำได้ดีทีเดียว วัสดุค่อนข้างลงตัวกับราคา แต่ยังความสวยงามไว้ได้ดี โดยเฉพาะการตัดขอบสีเขียว เพื่อเป็นเอกลักษณ์

 

Conclusion

RAZER Electra v2 29

ในแง่ของความโดดเด่นบน RAZER ELECTRA v2 รุ่นนี้ อาจไม่ได้อยู่ที่เรื่องของรูปลักษณ์ เพราะโครงสร้างยังเป็นแบบพื้นฐานที่เราพบเห็นกันทั่วไป ซึ่งไม่ได้หวือหวามากมาย อีกทั้ง RAZER ยังเลือกใช้บอดี้แบบสี่เหลี่ยม ที่ดูฉีกออกไปจากหูฟังรุ่นผ่านๆ มา ทำให้แฟนๆ อาจดูแปลกตาไปเล็กน้อย เพียงแต่ยังมีโทนสีเขียวมาเป็นเส้นดึงสายตา

ความรู้สึกในการสวมใส่เป็นอีกไฮไลต์หนึ่งบนหูฟัง ELECTRA v2 เพราะด้วยน้ำหนักที่เบา เมื่อบวกกับโครงสร้างที่ไม่สร้างให้แข็งเกินไป มีความยืดหยุ่น จึงกระชับศีรษะ เมื่อบวกกับครอบหูฟังที่หุ้มหนังมาด้วย ยิ่งรู้สึกสบาย ใช้งานแบบหมุนศีรษะไปมาได้สะดวก จะมีเพียงครอบหูฟัง ที่อาจจะขยับได้นิดหน่อย ไม่ได้หมุนได้เยอะนัก

ส่วนเรื่องคุณภาพเสียงน่าจะตอบโจทย์เกมเมอร์และกลุ่มที่ชอบการดูหนังได้ดี เพราะให้โทนเสียงทุ้มและเบสที่หนักหน่วง ทำให้ได้อรรถรสในแง่ของเอฟเฟกต์ เช่น เสียงระเบิด รถกระแทกชนกันหรือแม้กระทั่งการปะทะกันของโลหะต่างๆ ที่จัดว่าเต็มอิ่มเลยทีเดียว ไม่ว่าจะลองในเกม NFS Payback, PUBG หรือใน Tomb Rider ก็ตาม แต่เสียงแหลมกับรายละเอียดต่างๆ ยังไม่จัดเจนนัก แต่ก็ทำได้ดี เมื่อเทียบกับหูฟังในราคาไล่เลี่ยกัน

ส่วนที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง 7.1-channel ที่น่าจะเป็นส่วนสำคัญของ ELECTRA v2 รุ่นนี้ เพราะสามารถเก็บทิศทางเสียงของศัตรูได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะคนที่ชอบแนวเกม Action ฟาดฟันเลือดท่วมหรือยิงกันหูดับ ก็จะพอเช็คระยะหรือทิศทางศัตรูที่เข้ามาใกล้ได่ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับ PUBG หรือ Overwatch และเกมอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน ที่ตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน

ด้วยพื้นฐานคุณภาพที่มีมาอย่างยาวนานของ RAZER ก็ยังสร้างความเชื่อมั่นได้เสมอมา เช่นเดียวกับหูฟังรุ่นนี้ กับราคาเริ่มต้น 2 พันกว่าบาท แต่ให้คุณภาพได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะภาพรวมของการออกแบบและฟังก์ชั่น ที่ให้ความคุ้มค่า เหมาะกับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาหูฟังตัวแรกหรือจะเริ่มต้นกับหูฟังคุ้มๆ RAZER ELECTRA v2 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าลงทุน

 

จุดเด่น

  • น้ำหนักเบา สวมใสสบาย กระจายน้ำหนักได้ดี
  • ให้เสียงเบสหนักแน่น เหมาะกับการเล่นเกม
  • ครอบหูฟังนุ่มนวล ลดเสียงรบกวนได้ดี

ข้อสังเกต

  • จุดปรับระยะต่างๆ อาจจำกัดไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหรือครอบหูฟัง
  • ไม่มีเรื่องของแสงสีมาให้บนตัวหูฟัง

Price : ประมาณ 2,190 บาท

Contact : RAZER ELECTRA v2

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

หูฟังไร้สายเล่นเกม 8 รุ่นงบ 3,000 บาท ใส่สบาย แบตอึด เสียงคมชัด Surround ตัดเสียงรบกวนปี 2023 รุ่นไหนโดน หูฟังไร้สายสำหรับคอเกมที่จัดมาให้เป็นแนวทางทั้ง 8 รุ่นในปี 2023 นี้ รวมมาให้ทั้งในเรื่องของราคาที่จับต้องได้ และมีดีไซน์ไม่ธรรมดา จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว Action, MOBA หรือ...

Buyer's Guide

อยากฟังเพลงให้ฟิน ตอนนี้ต้องมีหูฟังบลูทูธเด็ดๆ ติดกระเป๋าเอาไว้สักตัวแล้วแหละ! หูฟังบลูทูธเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาหลายปีแล้วตั้งแต่ใช้ต่อมือถือคุยโทรศัพท์ทั่วไป พัฒนาจนมีสายคล้องคอแบบ Neckband ที่สายออกกำลังกายชื่นชอบเพราะถอดหูฟังก์ไม่หล่นหายเพราะสายช่วยรั้งตัวสายหูฟังไว้ จนกระทั่งเทคโนโลยีการย่อชิ้นส่วนก้าวหน้าเป็นอย่างมากก็ทำให้หูฟังบลูทูธแบบ True Wireless ก็ถือกำเนิดขึ้นในโลกในที่สุด สำหรับหูฟังบลูทูธแบบ True Wireless หลายคนอาจคิดว่า Apple AirPods เป็น TWS รุ่นแรกของโลก ซึ่งผิดถนัดเพราะ AirPods รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปี 2016...

CONTENT

โน๊ตบุ๊ค ไม่มีเสียง 7 วิธีแก้ปัญหาใช้คอมแล้วเสียงดับ เสียงหาย แก้ตรงไหน ตั้งค่าเสียงใหม่ 2023 โน๊ตบุ๊ค ไม่มีเสียง อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นได้ทั้งบน Windows 10 หรือ Windows 11 นั้น บางครั้งไม่ได้เป็นเพราะฮาร์ดแวร์เสียหรือลำโพงพัง แต่อาจจะเกิดจากซอฟต์แวร์ที่ใช้ และการตั้งค่าอื่นที่เกี่ยวข้องกัน โดยเฉพาะ Sound settings...

Gaming Gear

HyperX Cloud III หูฟังนุ่มสวมสบาย 2023 เสียงรอบทิศทาง DTS X เพื่อคอเกมเล่นได้ทุกแนว HyperX Cloud III ต้องเรียกว่าเป็นหูฟังเกมมิ่ง ที่นำเอาความสำเร็จจาก Cloud series มาต่อยอด โดยการเสริมความคล่องตัว และฟีเจอร์หลายจุดเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มนวล สวมสบาย อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ มิติที่ดูกระชับ น้ำหนักเบาลง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก