Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

[Review] Dell Inspiron 7577 Gaming Notebook ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ราคาเริ่มต้น 31,900 บาท มี Thunderbolt 3

Dell Inspiron 7577 ที่จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีการอัพเกรดดีไซน์การออกแบบ รวมไปถึงมีพอร์ต Thunderbolt 3 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดจากทาง Intel อย่าง Core i7-7700HQ และการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti แรมมาตรฐานเป็น DDR4 ขนาด 8GB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน

Dell Inspiron 7577 ที่จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีการอัพเกรดดีไซน์การออกแบบ รวมไปถึงมีพอร์ต Thunderbolt 3 โดยเป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก Dell Inspiron 7567 ก็ว่าได้ แน่นอนว่านั่นก็มาจากการที่ Dell มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งต่อยอดความสำเร็จที่มีอยู่อย่างตลอดเวลา ที่สำคัญด้วยบริการ Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก วันทำการ (On-site Sevice) ระยะเวลา 2 ปีเต็มด้วย ทำให้มั่นใจได้เลย บริการหลังการขายของ Dell นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน 

Dell Inspiron 7577 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดจากทาง Intel อย่าง Core i7-7700HQ และการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti  แรมมาตรฐานเป็น DDR4 ขนาด 8GB มีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS แบบด้าน ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 31,900 บาท ไปจนถึง 39,900 บาท

Advertisement

VDO Review

Specification

Dell Inspiron 7577 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย แต่ตัวที่ NotebookSPEC เป็นรุ่นบน ใช้ชิปประมวลผลเป็นIntel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB ที่ 5400 RPM และได้ติดตั้ง SSD แบบ M.2 SATA 3 ความจุ 128GB ไว้ด้วย (อัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้) ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 หนึ่งแถว อัพเกรดได้ 16GB ทันที ระบบปฎิบัติการเป็น Ubuntu

นอกจากนี้ Dell Inspiron 7577 ทุกรุ่น มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps), HDMI, 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac

สนนราคา Dell Inspiron 7577 รุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 31,900 บาทได้สเปก Intel Core i5-7300HQ + GTX 1050 + RAM 4GB + HDD 1TB และ 39,900 บาท คือรุ่นที่เรานำมารีวิว ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น Dell Premium Support แบบ On-site Service เป็นเวลา 2 ปี จาก Dell Thailand เช่นกัน

Hardware / Design

Dell Inspiron 7577 Review 1

การออกแบบต่างๆ ของ Dell Inspiron 7577 ดูแปลกตาไปมากกว่า Dell Inspiron 7567 แม้ว่าเค้าโครงเหลี่ยมมุมได้ DNA มาจาก Dell รุ่นก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนในเรื่องของพื้นผิวและดีไซน์บางอย่างบางตำแหน่งไ่เหมือนเดิม แต่แง่ของดีไซน์โดยรวมแล้ว ก็ยังแฝงความดุดันรวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่นหนาเหมือนเดิม !!! ยังคงมีความเยี่ยมยอดตามมาตรฐาน Dell

การออกแบบโมเดลของ Dell Inspiron 7577 บอกได้เลยว่ามีโครงสร้างโดยรวมเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสีสันแนวเดิมอย่าง สีเงินดำ Matte Black หรือสีแดง Beijing Red ที่เชื่อว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คนทีเดียว วัสดุก็จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูงตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยต่างที่จะเป็นแบบเรียบๆ ไม่เหมือนกับ Dell Inspiron 7567 ที่จะเป็นซอฟต์ทัช ฉะนั้นเรื่องเป็นรอยสบายใจหายห่วงได้

Dell Inspiron 7577 Review 39

สำหรับ Dell Inspiron 7577 สีน้ำดำ Matte Black ที่เราเลือกมารีวิวนั้น จะเห็นว่าตัวเครื่องภายนอกจะเป็นสีดำด้านส่วนท้ายเป็นสีเทา โลโก้ฝาหลังก็จะเป็นสีแดงมันวาว ส่วนตัวเครื่องด้านในรวมไปถึงฝาใต้เครื่องเครื่องจะเป็นลักษณะสีดำเช่นกัน โดยใต้หน้าจอยังมีโลโก้ Dell สีเงินสวยงาม ซึ่ง Dell Inspiron 7577 มีน้ำหนัก 2.65 กิโลกรัม ที่สำคัญคือติดตั้ง Thunderbolt 3 พอร์ตการเชื่อมต่อความเร็วสูง มาในโน๊ตบุ๊คระดับนี้ด้วย

หน้าจอของ Dell Inspiron 7577  จะเป็นแบบบานพับเดียวดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณนึง มีกล้อง Web Cam และไมค์ อยู่ขอบด้านบนด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่แบบคู่สองพัดลม ครีบฟินที่ดำเน้นเรียบๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสม เรียกได้ว่าในส่วนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจากรุ่นก่อน จากสองช่องแยกจากกัน เป็นช่องแนวยาวพาดผ่านตัวเครื่องแทน

Dell Inspiron 7577 Review 55

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 2 ช่องด้านล่างด้วย พร้อมลำโพงซับวูฟเฟอร์ใต้เครื่อง ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตตัวเดียว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ อย่างไรก็ตามแม้ Dell Inspiron 7577 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลัก แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ อะไรก็แล้วแต่เลย

Keyboard / Touchpad

Dell Inspiron 7577 Review 13

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบคล้ายกับ Dell Inspiron 7567 รุ่นเดิม ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยเป็นไฟสีขาวดูแล้วสวยงาม ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ขอบเป็นสีแดง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น มีเส้นแบ่งเป็นสีแดง การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell Inspiron 7577 Review 27

Dell Inspiron 7577 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2017 พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ โดยถ้าเป็นรุ่นสเปกที่อย่าง Core i5 + GTX 1050 จะได้หน้าจอพาเนลเป็น IPS เช่นเดียวกัน ตรงนี้ถือว่าดีกว่า Dell Vostro 7570

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 7577 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

sp4

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 63% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 235 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 235 cd/m2 แต่สำหรับช่องขอบจอบนตรงกลางด้านบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 13% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้า (Waves MaxxAudio Pro) ระบบเสียง Waves MaxxAudio Pro ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2 ชาแนล (Dell Inspiron 7567 จะมีซัพวูฟเฟอร์ด้วย) อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องทางซ้ายและขวา ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Dell Inspiron 7577 Review 49

ส่วนในการเชื่อมต่อและการบันทึกข้อมูลต่างๆ Dell Inspiron 7577 รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 (40 Gbps) รวมไปถึง HDMI V.2 with 4K Display support , 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare, Kensington lock slot , 2-in-1 SD(UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac ถือว่ารองรับได้ดีตามมาตรฐาน

Dell Inspiron 7577 เลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps) มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า รวมไปถึงต่อจอแยก หรือต่อการ์ดจอแยกก็ยังได้ ต่างจาก Dell Vostro 7570 ที่ติดตั้ง VGA มาให้ คาดว่าเป็น ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า Dell Inspiron 7577 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.65 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมทีเดียว

Performance / Software

c1  c2

โดย Dell Inspiron 7577 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 (2 แถว 4GB) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้แบบสบายๆ

g1   g2

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ พูดตรงๆ ง่ายๆ ก็คือแรงกว่า GTX 970M ด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

cine 1

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ssd 1

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 มาตรฐาน SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 552.6MB/s และเขียนที่ 312.2MB/s

hdd

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 55.9 MB/s และสูงสุดที่ 253.3 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 189.3 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 5.74 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่เหนือมาตรฐานของฮาร์ดดิสก์

gametest7577

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบ และ SSD ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งกว่า

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V (Best)/ Battlefield 1 (Ultra)/ Ghost Recon Wildlands (Very High) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด เว้นแต่ Ghost Recon Wildlands ที่ปรับเป็นเพียง High เท่านั้น (มากกว่านี้เฟรมเรทจะต่ำกว่า 30fps) ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น 120Hz เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ โดยไม่เปิด V-Sync

วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic), DOTA 2 (Best) ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยไม่ต่ำ 50 เฟรมเช่นกัน พูดได้เลยว่าลื่นไหลหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอนก็สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ต่อมาดูเกมเกม PUBG (Ultra) กันบ้างซึ่งทางทีมงานได้ปรับเป็นแบบ High ซึ่งตัว Dell Inspiron 7577 ก็สามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นในระดับหนึ่ง ซึ่งพบอาการโหลดฉากไม่ทัน บ้านตึกเป็นดินน้ำมัน โดยต้องใช้เวลาโหลดเพิ่มอีกจากกระโดดร่มถึงพื้นประมาณ 20 วินาที ถึงจะเข้าบ้านได้ และมีอาการกระตุกนิดหน่อยเวลาเล่น โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเกมได้เรนเดอร์ฉากเสร็จทั้งหมดซึ่งเวลาประมาณ 2 นาทีครับ

dell

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Inspiron 7577 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

Battery / Heat / Noise

batt1

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell Inspiron 7577 เครื่องนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 3300 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 7 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก)

temp2

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 85 – 95 องศาเซลเซียส และการ์ดจอไม่เกิน 63 – 73 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเสียงไม่ดังเลยเมื่อใช้งานหนักๆ ถือว่าไม่รบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม

Conclusion / Award

Dell Inspiron 7577 Review 32

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell Inspiron 7577 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คทำงานแต่เล่นเกมได้สบายในราคาคุ้มค่า จากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจาก Vostro รุ่นก่อนหน้า ได้เป็นอย่างดีด้วยประสิทธิภาพที่แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า ส่วนดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมงส่งผลได้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดยิ่งกว่า

ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตในเรื่องการระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย รวมไปถึงมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในรุ่นสเปกใกล้เคียงกัน แต่ถ้าดูราคา งานประกอบ สเปก และการมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้แล้ว ก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าซื้อที่สุดอีกรุ่นนึงช่วงปลายปี 2017 นี้ก็ว่าได้ (แต่ Dell Vostro 7570 ได้สเปกเหมือนกัน ได้ราคาที่ถูกกว่า 5,000 บาท)

Dell Inspiron 7577 Review 42

Dell Inspiron 7577 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานที่เน้นเล่นเกมเป็นหลักด้วยดีไซน์การออกแบบและสเปกเกมมิ่ง หรือผู้ที่รักความบันเทิงและมัลติมีเดีย ส่วนทำงานทั่วๆ ไปนั้นสบายๆ อยู่แล้ว ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell Inspiron 7577 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ซึ่งถ้าใครเน้นเล่นเกมและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ ล่ะก็ แนะนำให้ดูเป็น Alienware ไปเลยก็ได้ครับ

Dell Inspiron 7577 Review 37

จุดเด่น

  • เป็น Gaming Notebook ดีไซน์ใหม่ งานประกอบแน่นๆ มาตราฐาน Dell
  • ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7 และการ์ดจอ GTX 1050Ti
  • ติดตั้ง SSD M.2 SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง)
  • ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดีระดับนึง
  • การอัพเกรดทำได้ง่ายมากๆ ด้วยฝาใต้เครื่องมีน็อตตัวเดียว
  • เป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง มาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 ความเร็วสูง
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 7 ชั่วโมง
  • ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม Dell Premium Support  ซ่อมตรงถึงที่ ในอีก วันทำการ (On-site Sevice)

ข้อสังเกต

  • ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อยในสเปกใกล้เคียงกัน
  • ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกัน
  • การระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 7577 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของDell Inspiron Gaming โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 7577 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

award_use_2_create_12

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ขนาด 4GB DDR5 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย

award use 2 create 05

VDO Review

Specification

Dell Inspiron 7577 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อย แต่ตัวที่ NotebookSPEC เป็นรุ่นบน ใช้ชิปประมวลผลเป็นIntel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB ที่ 5400 RPM และได้ติดตั้ง SSD แบบ M.2 SATA 3 ความจุ 128GB ไว้ด้วย (อัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้) ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 หนึ่งแถว อัพเกรดได้ 16GB ทันที ระบบปฎิบัติการเป็น Ubuntu

นอกจากนี้ Dell Inspiron 7577 ทุกรุ่น มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนล IPS ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps), HDMI, 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac

สนนราคา Dell Inspiron 7577 รุ่นเริ่มต้นจะอยู่ที่ 31,900 บาทได้สเปก Intel Core i5-7300HQ + GTX 1050 + RAM 4GB + HDD 1TB และ 39,900 บาท คือรุ่นที่เรานำมารีวิว ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น Dell Premium Support แบบ On-site Service เป็นเวลา 2 ปี จาก Dell Thailand เช่นกัน

Hardware / Design

Dell Inspiron 7577 Review 1

การออกแบบต่างๆ ของ Dell Inspiron 7577 ดูแปลกตาไปมากกว่า Dell Inspiron 7567 แม้ว่าเค้าโครงเหลี่ยมมุมได้ DNA มาจาก Dell รุ่นก่อนหน้านี้ แต่เปลี่ยนในเรื่องของพื้นผิวและดีไซน์บางอย่างบางตำแหน่งไ่เหมือนเดิม แต่แง่ของดีไซน์โดยรวมแล้ว ก็ยังแฝงความดุดันรวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่นหนาเหมือนเดิม !!! ยังคงมีความเยี่ยมยอดตามมาตรฐาน Dell

การออกแบบโมเดลของ Dell Inspiron 7577 บอกได้เลยว่ามีโครงสร้างโดยรวมเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมสีสันแนวเดิมอย่าง สีเงินดำ Matte Black หรือสีแดง Beijing Red ที่เชื่อว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คนทีเดียว วัสดุก็จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูงตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยต่างที่จะเป็นแบบเรียบๆ ไม่เหมือนกับ Dell Inspiron 7567 ที่จะเป็นซอฟต์ทัช ฉะนั้นเรื่องเป็นรอยสบายใจหายห่วงได้

Dell Inspiron 7577 Review 39

สำหรับ Dell Inspiron 7577 สีน้ำดำ Matte Black ที่เราเลือกมารีวิวนั้น จะเห็นว่าตัวเครื่องภายนอกจะเป็นสีดำด้านส่วนท้ายเป็นสีเทา โลโก้ฝาหลังก็จะเป็นสีแดงมันวาว ส่วนตัวเครื่องด้านในรวมไปถึงฝาใต้เครื่องเครื่องจะเป็นลักษณะสีดำเช่นกัน โดยใต้หน้าจอยังมีโลโก้ Dell สีเงินสวยงาม ซึ่ง Dell Inspiron 7577 มีน้ำหนัก 2.65 กิโลกรัม ที่สำคัญคือติดตั้ง Thunderbolt 3 พอร์ตการเชื่อมต่อความเร็วสูง มาในโน๊ตบุ๊คระดับนี้ด้วย

หน้าจอของ Dell Inspiron 7577  จะเป็นแบบบานพับเดียวดูแล้วแข็งทนทานกางหน้าจอได้ประมาณนึง มีกล้อง Web Cam และไมค์ อยู่ขอบด้านบนด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่แบบคู่สองพัดลม ครีบฟินที่ดำเน้นเรียบๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสม เรียกได้ว่าในส่วนนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนจากรุ่นก่อน จากสองช่องแยกจากกัน เป็นช่องแนวยาวพาดผ่านตัวเครื่องแทน

Dell Inspiron 7577 Review 55

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องดูดลมเย็นอีก 2 ช่องด้านล่างด้วย พร้อมลำโพงซับวูฟเฟอร์ใต้เครื่อง ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตตัวเดียว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ นอกจากที่อัพเกรดได้ไม่ยากแล้ว ยังทำความสะอาดได้สะดวกสบายอีกด้วย

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความแรงและเรียบหรูเอาไว้ อย่างไรก็ตามแม้ Dell Inspiron 7577 จะอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell ที่เน้นสายเกมเมอร์เป็นหลัก แต่ใครจะเอาไปทำงานเบาๆ หรือทำงานหนักๆ อะไรก็แล้วแต่เลย

Keyboard / Touchpad

Dell Inspiron 7577 Review 13

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบคล้ายกับ Dell Inspiron 7567 รุ่นเดิม ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยเป็นไฟสีขาวดูแล้วสวยงาม ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ขอบเป็นสีแดง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น มีเส้นแบ่งเป็นสีแดง การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

Dell Inspiron 7577 Review 27

Dell Inspiron 7577 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2017 พาเนลเป็น IPS คุณภาพดี มุมมองกว้าง พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ โดยถ้าเป็นรุ่นสเปกที่อย่าง Core i5 + GTX 1050 จะได้หน้าจอพาเนลเป็น IPS เช่นเดียวกัน ตรงนี้ถือว่าดีกว่า Dell Vostro 7570

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Dell Inspiron 7577 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

sp4

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 63% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันแค่พอใช้เท่านั้น ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 235 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางจอเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ที่ 235 cd/m2 แต่สำหรับช่องขอบจอบนตรงกลางด้านบนเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 13% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 4 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite

ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้า (Waves MaxxAudio Pro) ระบบเสียง Waves MaxxAudio Pro ให้เสียงคมชัด เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2 ชาแนล (Dell Inspiron 7567 จะมีซัพวูฟเฟอร์ด้วย) อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องทางซ้ายและขวา ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Dell Inspiron 7577 Review 49

ส่วนในการเชื่อมต่อและการบันทึกข้อมูลต่างๆ Dell Inspiron 7577 รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 (40 Gbps) รวมไปถึง HDMI V.2 with 4K Display support , 3 x USB 3.1 Gen 1 (5 Gbps) with PowerShare, Kensington lock slot , 2-in-1 SD(UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac ถือว่ารองรับได้ดีตามมาตรฐาน

Dell Inspiron 7577 เลือกติดตั้ง Thunderbolt 3 (40 Gbps) มาให้ด้วย ซึ่งหน้าตาจะเหมือนกับ USB Type-C แต่ว่าสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วกว่า รวมไปถึงต่อจอแยก หรือต่อการ์ดจอแยกก็ยังได้ ต่างจาก Dell Vostro 7570 ที่ติดตั้ง VGA มาให้ คาดว่าเป็น ส่วนการพกพาเองก็ถือว่า Dell Inspiron 7577 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.65 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมทีเดียว

Performance / Software

c1  c2

โดย Dell Inspiron 7577 มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงเท่าชิปประมวลผล Desktop ก็ว่าได้ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 (2 แถว 4GB) ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้แบบสบายๆ

g1   g2

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ พูดตรงๆ ง่ายๆ ก็คือแรงกว่า GTX 970M ด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

cine 1

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ssd 1

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 มาตรฐาน SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 552.6MB/s และเขียนที่ 312.2MB/s

hdd

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 55.9 MB/s และสูงสุดที่ 253.3 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 189.3 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 5.74 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่เหนือมาตรฐานของฮาร์ดดิสก์

gametest7577

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบ และ SSD ทำให้มีประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งกว่า

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V (Best)/ Battlefield 1 (Ultra)/ Ghost Recon Wildlands (Very High) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด เว้นแต่ Ghost Recon Wildlands ที่ปรับเป็นเพียง High เท่านั้น (มากกว่านี้เฟรมเรทจะต่ำกว่า 30fps) ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น 120Hz เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ โดยไม่เปิด V-Sync

วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic), DOTA 2 (Best) ค่าเฟรมเรทไม่เฉลี่ยไม่ต่ำ 50 เฟรมเช่นกัน พูดได้เลยว่าลื่นไหลหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นฉากบวก ฉากตะลุมบอนก็สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ต่อมาดูเกมเกม PUBG (Ultra) กันบ้างซึ่งทางทีมงานได้ปรับเป็นแบบ High ซึ่งตัว Dell Inspiron 7577 ก็สามารถเล่นได้ค่อนข้างลื่นในระดับหนึ่ง ซึ่งพบอาการโหลดฉากไม่ทัน บ้านตึกเป็นดินน้ำมัน โดยต้องใช้เวลาโหลดเพิ่มอีกจากกระโดดร่มถึงพื้นประมาณ 20 วินาที ถึงจะเข้าบ้านได้ และมีอาการกระตุกนิดหน่อยเวลาเล่น โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อเกมได้เรนเดอร์ฉากเสร็จทั้งหมดซึ่งเวลาประมาณ 2 นาทีครับ

dell

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ Dell Inspiron 7577 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง Dell SupportAssistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

Battery / Heat / Noise

batt1

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell Inspiron 7577 เครื่องนี้มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 3300 mAh แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 7 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก)

temp2

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผลอยู่ที่ไม่เกิน 85 – 95 องศาเซลเซียส และการ์ดจอไม่เกิน 63 – 73 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเสียงไม่ดังเลยเมื่อใช้งานหนักๆ ถือว่าไม่รบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม

Conclusion / Award

Dell Inspiron 7577 Review 32

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell Inspiron 7577 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คทำงานแต่เล่นเกมได้สบายในราคาคุ้มค่า จากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจาก Vostro รุ่นก่อนหน้า ได้เป็นอย่างดีด้วยประสิทธิภาพที่แรงเหนือชั้นยิ่งกว่า ส่วนดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ ยังคงสมบูรณ์เหมือนเดิม แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า 7 ชั่วโมงส่งผลได้ประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดยิ่งกว่า

ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตในเรื่องการระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย รวมไปถึงมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในรุ่นสเปกใกล้เคียงกัน แต่ถ้าดูราคา งานประกอบ สเปก และการมีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้แล้ว ก็ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่น่าซื้อที่สุดอีกรุ่นนึงช่วงปลายปี 2017 นี้ก็ว่าได้ (แต่ Dell Vostro 7570 ได้สเปกเหมือนกัน ได้ราคาที่ถูกกว่า 5,000 บาท)

Dell Inspiron 7577 Review 42

Dell Inspiron 7577 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานที่เน้นเล่นเกมเป็นหลักด้วยดีไซน์การออกแบบและสเปกเกมมิ่ง หรือผู้ที่รักความบันเทิงและมัลติมีเดีย ส่วนทำงานทั่วๆ ไปนั้นสบายๆ อยู่แล้ว ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell Inspiron 7577 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ซึ่งถ้าใครเน้นเล่นเกมและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ ล่ะก็ แนะนำให้ดูเป็น Alienware ไปเลยก็ได้ครับ

Dell Inspiron 7577 Review 37

จุดเด่น

  • เป็น Gaming Notebook ดีไซน์ใหม่ งานประกอบแน่นๆ มาตราฐาน Dell
  • ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7 และการ์ดจอ GTX 1050Ti
  • ติดตั้ง SSD M.2 SATA 3 (รองรับการอัพเกรดเป็น SSD NVMe ได้ภายหลัง)
  • ได้หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพดีระดับนึง
  • การอัพเกรดทำได้ง่ายมากๆ ด้วยฝาใต้เครื่องมีน็อตตัวเดียว
  • เป็นโน๊ตบุ๊คราคาไม่แพง มาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 3 ความเร็วสูง
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 7 ชั่วโมง
  • ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม Dell Premium Support  ซ่อมตรงถึงที่ ในอีก วันทำการ (On-site Sevice)

ข้อสังเกต

  • ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปเล็กน้อยในสเปกใกล้เคียงกัน
  • ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกัน
  • การระบายความร้อนที่อุณหภูมิสูงไปเล็กน้อย

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 7577 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของDell Inspiron Gaming โน๊ตบุ๊คสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 7577 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

award_use_2_create_12

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ขนาด 4GB DDR5 รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย

award use 2 create 05

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

ถ้าเรื่องน้ำหนักและดีไซน์เกมมิ่งไม่เป็นปัญหาและพร้อมลงทุนกับโน๊ตบุ๊คดีๆ สักเครื่อง ก็อยากแนะนำให้มาเลือกดูโน๊ตบุ๊คเล่นเกมคอมมาร์ท 2024 เอาไว้ใช้เป็นคอมส่วนตัวสักเครื่อง เพราะนอกจากมันจะเล่นเกมได้ดีสมหน้าที่แล้ว ทางผู้ผลิตเองก็ติดตั้งซีพียู, จีพียูแยกพร้อมชุดระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงมาให้ ทำให้ทำงานได้ทุกแบบตั้งแต่งานออฟฟิศทั่วไปจนงานระดับครีเอเตอร์อย่างตัดต่อภาพกับวิดีโอได้ดีมาก ถ้าห่วงเรื่องดีไซน์ว่ามันจะดึงดูดสายตาคนอื่นเกินไป ก็มีตัวเลือกเป็นรุ่นพรีเมี่ยมหน้าตาเรียบหรูให้เลือกซื้อ นอกจากนี้ข้อดีของการซื้โน๊ตบุ๊คเล่นเกมคอมมาร์ท 2024 นอกจากของแถมและส่วนลดแล้ว การได้เลือกดูสินค้าไอทีจากหน้าร้าน ได้จับตัวจริงเช็คว่าสินค้าไม่มีปัญหาก่อนรับเครื่องได้ไม่พอ ยังหาซื้อหน่วยความจำมาอัปเกรดเพิ่มก่อนกลับบ้านและรับของสมนาคุณได้อีกหลายชิ้นอีกด้วยAdvertisement จะซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกมคอมมาร์ท 2024 ต้องดูเรื่องอะไรบ้าง? ข้อดีของการซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นเกมคอมมาร์ท 2024 นอกจากมีตัวเลือกเยอะแล้ว ยังสั่งอัปเกรด...

COMMART

ส่งท้ายปลายปี กับมหกรรมสินค้าไอทีสุดยิ่งใหญ่ของประเทศอย่าง Commart ครั้งนี้มาในชื่อ Commart Tech X Pro ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขปลายปี 2024 และ MSI หนึ่งในแบรนด์ที่อยู่คู่กับงานนี้มาโดยตลอด ครั้งนี้ได้ทำการขนกองทัพโน้ตบุ๊กตัวแรงสเปคสูงพร้อมโปรโมชั่นความคุ้มค่ากับดีล โปรเด็ด รุ่นโดน ลดสูงสุด 37% และของพรีเมี่ยมจัดเต็มรวมมูลค่าสูงสุดกว่า 10,800 บาท มารอให้แฟนๆ MSI ได้ขนกลับบ้านภายในงาน Commart tech X...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

Buyer's Guide

แม้ตัวเครื่องจะเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบา ออกแบบมาเน้นให้น้ำหนักเบาพกพาง่ายแบตเตอรี่ทนทาน แต่ถ้าเครื่องนั้นใช้ซีพียู AMD Ryzen 8000 Series นอกจากทำงานออฟฟิศได้ลื่นไหลและมี NPU เข้ามาช่วยเร่งการประมวลผล AI ในโปรแกรมต่างๆ ยังช่วยปรับแต่ง Workloads ให้ดีขึ้นด้วย การปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมเป็น AMD Zen 4 ซึ่งนอกจากพลังประมวลผลต่อคอร์จะดีขึ้น เทียบกับ Zen 3 ใน...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก