หลังจากที่งาน Commart ผ่านพ้นไปในช่วงต้นเดือน หลายๆ คนอาจจะยังสองจิตสองใจ เพราะเริ่มเห็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้ซีพียูใหม่ Intel Gen8 เข้ามาเป็นตัวเลือกมากขึ้น อย่างน้อยๆ ก็มี 4-5 รุ่นในตลาด แถมราคายังเริ่มที่ 20,000 บาท แต่ที่น่าสนใจคือ บางร้านลดราคาโน๊ตบุ๊คเหล่านี้ลงไปอีก เหลือแค่ 17,xxx บาท ก็ยังมี แต่สิ่งที่ค้างคาใจใครหลายคนก็คือ มันแรงกว่า Intel Gen7 มากน้อยเพียงใด วันนี้เรามาไขคำตอบด้วยผลทดสอบเล็กๆ กันครับ
ในวันนี้ก็มีข้อมูลจากทาง Laptopmag ที่ได้ทดสอบการทำงานบางส่วนมาให้ได้ชมกัน โดยใช้ซีพียู Intel Gen8 หรือที่เรียกว่า Kaby Lake Refresh นำมาเทียบกับ Intel Gen7 กับความแตกต่างทางกายภาพบางส่วนที่สร้างความน่าสนใจให้กับโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ นี้ ซึ่งแน่นอนว่า Gen8 ได้เปรียบเรื่องของแกนหลักที่มากขึ้นกว่าเดิมเท่าตัว
ด้วยการเพิ่มจาก 2 Core มาเป็น 4 Core และเพิ่ม Clock speed ขึ้นมาบางส่วน ปรับปรุงให้รองรับกับการทำงานในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับการทำงานแบบมัลติทาส์กกิ้งหรือประมวลผลหลายๆ งานพร้อมกัน โดยเมื่อดูจากเงื่อนไขในการทดสอบ จะเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่าง Intel Gen8 และ Gen7 บนโน๊ตบุ๊ค Acer Swift 3 หน้าจอแสดงผล 1080p มีแรม 8GB และ SSD 256GB และใช้ซีพียู Core i5-8250U และอีกรุ่นจะเป็นซีพียู Gen7 Core i5-7200U นั่นเอง แต่องค์ประกอบเดียวกัน
ส่วนอีกตัวอย่างในการทดสอบจะเปรียบเทียบกันระหว่าง Dell XPS 13s (1080p, 8GB, 256GB) ที่ใช้ซีพียูใหม่ Core i7-8550U และรุ่นที่เป็น Core i7-7500U
ในการทดสอบบน Geekbench 4 ในส่วนของ Synthetic performance ผลที่ได้คือในรุ่นที่เป็น Intel Gen8 จากบน Swift 3 ทำคะแนนได้ 14,175 สูงสุดอยู่ที่ 92% ดีกว่าในรุ่นเดิม และใน XPS 13 ที่ใช้ Core i7-8550U ทำได้ดีกว่า 62% จากโมเดลเดิมที่ใช้ Core i7-7500U
ในการทดสอบ Spreadsheets หากคุณเป็นคนที่ใช้งานด้านเอกสารจำนวนมาก ร่วมกับ Excel คุณน่าจะต้องลการ Intel Gen8 ในการทำงานมากกว่า เวลาที่ลองรันทดสอบมาโครเพื่อจับคู่รายชื่อและที่อยู่มากกว่า 65,000 ชุด ปรากฏว่า Intel Gen7 บน Swift 3 ทำเสร็จสิ้นในเวลา 2 นาที 36 วินาที แต่ในโมเดลใหม่ที่ใช้ซีพียูใหม่ Gen8 กลับใช้เวลาเพียง 1.32 นาทีเท่านั้น ต่างกันถึง 70% เลยทีเดียว ส่วนที่ได้จาก XPS 13 ที่ใช้ Intel Gen8 นั้น ทำได้เร็วกว่า เพราะใช้เวลาทำเสร็จสิ้นเพียง 1.08 นาที เร็วกว่า Gen7 ที่ใช้เวลา 2.30 นาทีเลยทีเดียว
Excel ใช้แกนหลักในการประมวลผลได้ตามที่ซีพียูมีในการทำงาน แต่ถ้าโปรแกรมที่คุณใช้อยู่รองรับการทำงานเพียงคอร์เดียว ก็อาจจะไม่เห็นความต่างมากนัก เพราะเมื่อทดลองด้วยซอฟต์แวร์อย่าง OpenOffice Calc ในการจับคู่ชื่อและที่อยู่ 20,000 ชุด ปรากฏว่า Intel Gen8 บน Swift 3 และ XPS 13 ต่างกันกับ Gen7 เพียง 10% เท่านั้นเอง
ส่วนการถอดรหัสหรือแปลงไฟล์วีดีโอ Intel Gen8 ก็เปล่งประกายในการถอดรหัสวีดีโอจากคลิปได้อย่างชัดเจน โดยที่ Intel Gen7 ที่อยู่บน Swift 3 ใช้เวลาแปลงไฟล์
จาก 4K มาเป็น 1080p ด้วยการใช้โปรแกรมยอดนิยมอย่าง Habdbrake อยู่ถึง 30 นาที ส่วน Swift 3 ที่ใช้ซีพียูใหม่ Gen8 นั้นทำเสร็จสิ้นในเวลา 19.37 นาทีเท่านั้น เร็วกว่าถึง 53% ส่วน XPS 13 ที่ใช้ Gen8 ก็ไม่ได้เร็วไปกว่า Core i5 Gen8 มากนัก คืออยู่ที่ 19.35 นาที แต่ก็เร็วกว่าโมเดลที่ใช้ Gen7 Core i7-7500U ที่ทำได้ราวๆ 31.36 นาที
ในด้านของกราฟฟิก สำหรับกราฟฟิก Intel Integrate GPU ที่มีมาในซีพียู Gen8 รุ่นใหม่นี้ อาจไม่ได้ให้ผลที่ดีนักสำหรับการเล่นเกมระดับไฮเอนด์ โดยในการทดสอบ 3DMark Ice Storm Unlimited บน Swift 3 ที่ใช้ Core i5-8250U ทำคะแนนได้ 79,980 ส่วนโมเดลที่เป็น Gen7 Core i5-7200U ทำได้ 57,409 และสำหรับ XPS 13 Core i7-8550U ทำได้ที่ 81,837 มากกว่าโมเดลที่ใช้ Core i7-7500U ซึ่งอยู่ที่ 72,507 เท่านั้น
โดยสรุปความคุ้มค่าที่ได้จากซีพียูใหม่ Intel Gen8 น่าจะอยู่ที่กลุ่มคนที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมที่รองรับมัลติทาส์ก ใช้งานได้หลายๆ คอร์ หากคุณใช้งานเหล่านี้ การเลือกโน๊ตบุ๊ค Intel Gen8 ก็จะเป็นคำตอบที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องดูกันอีกในหลายๆ การทดสอบ ที่อาจจะทำให้ Gen8 แสดงศักยภาพได้มากกว่านี้ และเป็นการยืนยันถึงความคุ้มค่าอย่างแท้จริงต่อไป
ที่มา : Intel Gen8 Mobile