Connect with us

Hi, what are you looking for?

Accessories review

[Review] ASUS ZenBook Flip S UX370UA โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่บางที่สุดในโลก ราคา 63,900 บาท

ล่าสุดทางทาง ASUS เปิดตัว ZenBook Flip S UX370UA รุ่นล่าสุด ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว ที่สวยงามในตัวเครื่องที่หรูหราและกะทัดรัด ทำให้ตเครื่องนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่สง่างามไร้กาลเวลา ผลิตจากการขึ้นรูปอลูมิเนียมเพียงชิ้นเดียวเพื่อความแข็งแกร่ง

ASUS ZenBook ก็ถือว่าเป็น Ultrabook Series ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับการใช้งานแบบพกพาไปทำงานนอกบ้านตามสถานที่ต่างๆ ด้วยรูปลักษณะภายนอก วัสดุบอดี้ งานประกอบภายนอกที่จัดได้ว่าเนี๊ยบ เรียบหรู และแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังมาพร้อมกับสเปคและประสิทธิภาพที่มาให้นั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว แถมยังมีแบตเตอรรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมถึงมาตรฐานการรับประกันเต็ม 2 ปีอีกด้วย  ทำให้โน๊ตบุ๊คตระกูล ZenBook ได้รับความนิยมและเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับใครที่อยากได้ Ultrabook นั่นเองครับ

และล่าสุดทางทาง ASUS เปิดตัว ZenBook Flip S UX370UA รุ่นล่าสุด ด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว ที่สวยงามในตัวเครื่องที่หรูหราและกะทัดรัด ทำให้ตเครื่องนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่สง่างามไร้กาลเวลา ผลิตจากการขึ้นรูปอลูมิเนียมเพียงชิ้นเดียวเพื่อความแข็งแกร่งแต่บางถึง 10.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 1.1 กิโลกรัม ทำให้พกพาไปกับคุณได้ทุกที่ทุกเวลา และด้วยการผลิตจากอลูมิเนียมเกรดสูงที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน จึงมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงมากขึ้นถึง 50% ซึ่งประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core i7-7500U ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD PCIe ขนาด 512 GB, USB 3.1 type C จำนวน 2 พอร์ต และ Fringerprint sensor ระบบเสียงลำโพงของ Harman/Kardon ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งตัวเครื่อง ASUS ZenBook Flip S สนนราคาอยู่ที่ 63,900 บาท

Advertisement

Specification

ในเรื่องของสเปคของตัว ASUS ZenBook Flip S UX370UA ซึ่งเป็นตัวเครื่องที่ทีมงานได้มารีวิวนั้นในส่วนของ CPU เลือกใช้เป็น Intel Core i7-7500U ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.70 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 3.50 GHz แบบ 2 Core/ 4 Thread ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 620 ที่ติดมาใน CPU จาก Intel ตระกูล Kabylake พร้อมติดตั้ง Ram ขนาด 8 GB DDR3L เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD PCIe มีมาให้ขนาด 512 GB มาพร้อมความเร็วสูง ใช้จอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS ซึ่งจอเป็นแบบ Corning Gorilla Glass แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit มาให้ด้วย เรียกได้ว่ากับเป็น 2-in-1 โน๊ตบุ๊คตัวระดับท๊อปๆ เลยทีเดียวครับ

ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ มี USB 3.1 Type-C  จำนวน 2 พอร์ต พร้อม Fringerprint sensor นอกจากนี้ตัวเครื่องในกล่องยังแถมอแดปเตอร์แปลงสาย ASUS Mini dock แปลงจาก USB C to HDMI, USB Type C และ USB 3.0 Type A อย่างละหนึ่งช่องมา รวมถึงปากกา ASUS Pen ที่ใช้สำหรับงานวาดเขียนมาให้ด้วย นอกจากกนี้ในกล่องยังมีกระเป๋าหนังอย่างดีมาให้สำหรับใส่โน๊ตบุ๊คอีกด้วย การเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับ Wireless 802.11ac และ Bluetooth 4.1 พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์แท้ ซึ่งสนนราคา 63,900 บาท ประกัน 2 ปีเต็ม

Hardware / Design

Asus Zenbook 14

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากแบบ NanoEdge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา ซึ่งตัวเครื่องมีความหนาเพียง 10.9 มม. และน้ำหนักเพียง 1.1 กิโลกรัม

ส่วนงานดีไซน์บอดี้สีของตัวเครื่องนั้นเป็นสี Blue Royal วัสดุที่ใช้ในการผลิตทำจากอลูมิเนียมอัลลอยเกรดยานอวกาศระดับพรีเมี่ยม (Aerospace-grade) ซึ่งโลหะเกรดนี้มีความแข็งแรงมากกว่าโลหะอัลลอยธรรมดาถึง 50% แสดงถึงความอุตสาหะเอาใจใส่ในรายละเอียดของการดีไซน์

Asus Zenbook 13

โดยการออกแบบ ZenBook Flip S ใช้ความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมและการผลิตขั้นสูง ด้วยรูปร่างที่บางและเบาทำให้เราคิดค้นบานพับแบบ ErgoLift ซึ่งเป็นบานพับที่เป็นแกนพับ 2 อันซ้ายขวา สามารถพับได้สุดทางเพื่อที่จะรักษารูปทรงเพรียวบางของตัวเครื่อง โดยพับได้แบบ 360 องศา ฝาหลังดีไซน์ที่เป็นรูปวงกลมเข้าสู่จุดศูนย์กลางอย่างสวยงาม พร้อมมีโลโก้ ASUS สีทองอยู่ตรงกลางตามมาตราฐาน ส่วนรูช่องระบายความร้อนจะอยู่ทางด้านซ้ายตัวเครื่อง

งานดีไซน์ด้านในตัวเครื่องหน้าจอจะเป็นสีดำ พร้อมหน้าจอสัมผัสที่เป็น Corning Gorilla Glass แข็งแรง มีโลโก้ ASUS ZenBook อยู่ตรงกลางล่าง ส่วนบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นสี Blue Royal เหมือนกับบอดี้ภายนอก ติดตั้งคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานให้ได้ เราจึงจำเป็นต้องสร้างขอบตัวเครื่องที่บางยิ่งขึ้น และเราได้เพิ่มเส้นสายลวดลายไว้ที่ขอบมุมเพื่อเพิ่มสัมผัสของความหรูหราขี้นไปอีกขั้น ทำให้ ASUS ZenBook Flip S UX370UA มีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น บนโครง Unibody แบบโลหะชิ้นเดียวที่ลงตัวสุดๆ

Keyboard / Touchpad

Asus Zenbook 16

ทางด้านของคีย์บอร์ดของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกน้ำเงินเข้ากับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรเหลืองตัดกับปุ่ม ซึ่งมีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ เป็นแบบ Chiclet มีความหนา 1.0 mm ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น สัมผัสนุ่ม มีระยะห่างของปุ่มกำลังพอดี้ เพื่อให้มีความรู้สึกที่สะดวกสบายในการพิมพ์ กดแรงๆ ก็ไม่มีอาการแป้นยวบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สามารถปรับได้ 3 ระดับ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานจะสะท้อนออกมาทางฟอนต์สีเหลืองดูสวยงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ปุ่มเปิดเครื่องกับปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงจะไปอยู่ที่ด้านข้างฝั่งขวากลืนไปกับตัวเครื่อง รวมถึงมี Fingerprint sensor มาให้ด้วย

ตัวทัชแพดมีขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกิดไปเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะดูฝืดๆ สักหน่อย ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร รวมไปถึงยังมีสแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านข้างฝั่งขวาไว้ใช้งานร่วมกับ Windwos Hello ได้อีกด้วย

Screen / Speaker

Asus Zenbook 23

ASUS ZenBook Flip S UX370UA ได้ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว เป็นแบบจอกระจกมีขอบที่บางมากเพียง 6.11 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS พื้นที่หน้าจอ 80% และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 13.3 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุด และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่ง แต่น่าเสียดายที่กล้อง Webcam ตัวนี้ให้ความละเอียดมาแค่ VGA เท่านั้น

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง 2 ตัว ระบบเสียง Harman/Kardon ให้ที่เสียงที่ดีมาก ผ่านตัวซอฟต์แวร์ ASUS SonicMaster ทั้งในเรื่องของเสียงเบสที่มีน้ำหนัก เสียงกลางที่สมดุล และเสียงแหลมที่ออกมาใสๆ พูดเลยว่ามีโน๊ตบุ๊คเพียงไม่กี่รุ่นที่ทำเสียงออกมาดีได้ขนาดนี้  ซึ่งตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น 2 ตัว ทำให้เสียงที่ออกมามีเสียงดังฟังชัด แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดีเลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่มก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

ASUS UX370UA s3 bright 313

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันดีมากเลยทีเดียว ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 313 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อข้างสว่างเลยทีเดียว เหมาะสำหรับใช้ในงานตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบบนตรงกลางกับกลางจอ 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านล่างซ้ายที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าได้ว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ

Connector / Thin And Weight

Asus Zenbook 26

มาดูในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA ซึ่งมีพอร์ต USB 3.1 type C จำนวน 2 พอร์ต โดยตัวเครื่องจะใช้พอร์ตนี้สำหรับชาร์จไฟเข้าเครื่องและต่อออกจอแยก,  Fringerprint sensor และรูหูฟังกับไมค์แบบ Combo 1 ช่อง ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่ม่ีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้ นอกจากนี้ในกล่องยังได้แถมอแดปเตอร์ ASUS Mini dock ที่สามารถแปลงให้ USB Type C to HDMI, USB type C และ USB type A มาให้ด้วย และปากกา ASUS Pen ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวาดเขียนรองรับแรงกดได้ถึง 1024 ระดับ

ส่วนขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา มีขนาด 1.09 x 3.13 x 2.18 cm. โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.1 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้วที่บางที่สุดในโลก ส่วนของตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วคาดว่าน่าจะมีหนักรวมกันราวๆ ไม่เกิน 1.3 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเองครับ

Performance / Software

ASUS ZenBook Flip S UX370UA  ใช้ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7500U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.70 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.50 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็พอรองรับได้ในระดับหนึ่ง และมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR3L Bus 2133 อีกด้วย

ASUS UX370UA CPU1  ASUS UX370UA CPU2

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้น แต่ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

ASUS UX370UA GPU

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ASUS UX370UA cine

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD PCIe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจแบบสุดๆ และมีขนาดความจุถึง 512 GB กับความเร็วระดับในการ Read 3302 MB/s และ Write 1603 MB/s ถือว่าเร็วสุดๆ ไปเลยครับ

ASUS UX370UA disk

นอกจากนี้ทีมงานยังได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยโปรแกรม PCMark 10 มาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง

ASUS UX370UA pcmark

ดูจากคะแนนรวมที่ได้ถึง 3283 คะแนน ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ในส่วนของ essentials การใช้งานพื้นฐานได้คะแนน 7407 คะแนน Productivity การทำงานเอกสารก็ได้คะแนน 5923 คะแนน และสุดท้ายกับ Digital Content Creation ที่วัดเรื่องของการตกแต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอ ได้คะแนนไป 2191 คะแนน อาจจะได้ไม่เยอะนักในส่วนนี้เพราะไม่มีการ์ดจอแยกและ CPU เป็นแค่รหัส U แต่ดูโดยรวมทั้งหมดทั้งสามอย่างก็ถือว่าค่อนข้างสูงอยู่ดีครับ

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบ lithium-polymer มีขนาด 5,000 mAh ถือว่าให้มาเยอะมากเลยทีเดียว สามารถทำงานต่อเนื่องดู YouTube ผ่าน Wi-fi ได้ยาวนานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาทีด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีชาร์จไฟด้วยความรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ชาร์จไฟได้ถึง 60% ภายในเวลาเพียง 49 นาทีอีกด้วย

ASUS UX370UA batt 5000

ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 45 องศา แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 87 องศาในส่วนของ CPU เรียกได้การระบายความร้อนสามารถทำได้ดีพอใช้  ซึ่งบอดี้ตัวเครื่องอาจจะร้อนซักหน่อยเพราะการที่ใช้โลหะ ส่วนเรื่องเสียงรบกวนจากระบบระบายความร้อนนั้นก็พอมีให้ได้ยินบ้าง เฉพาะเมื่อใช้งานหนักๆ เท่านั้น

ASUS UX370UA temp

Conclusion / Award

Asus Zenbook 36

สรุปสำหรับ ASUS ZenBook Flip S UX370UA ถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการโน๊ตบุ๊คทีเดียว เพราะมาพร้อมทั้งความบางเฉียบ ดีไซน์โดดเด่น และที่สำคัญได้ติดตั้งหน้าจอสัมผัสที่รองรับแรงกดได้ถึง 1024 ระดับ สามารถใช้งานสร้างสรรค์รูปภาพได้ดีเลยทีเดียว สเปคตัวเครื่องก็ไม่ธรรมดาที่ให้ทั้ง CPU ที่เป็น Intel Core i7-7500U + Ram 8 GB + SSD 512 GB ความเร็วสูง อีกทั้งตัวเครื่องยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่เป็น USB 3.1 Type-C มาให้ถึง 2 ช่อง และมี Fingerprint sensor ใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

Asus Zenbook 35

นอกจากนี้ในกล่องยังแถม ASUS Mini dock ซึ่งเป็น HUB ไปเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อที่มีทั้ง USB 3.0 type A, HDMI และ USB 3.1 type C มาให้ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ครอบคลุมและให้ตัวเครื่องมีขนาดที่บางลงนั้นเอง อีกอย่างคือมี ASUS Pen ปากกาที่ใช้วาดภาพบนหน้าบวกกับซองหนังไว้สำหรับใส่ตัวเครื่องอย่างดีแถมมาให้อีกด้วย เรียกได้ว่า ASUS ใจป้ำสุดๆ

Asus Zenbook 4

ส่วนข้อสังเกตเครื่องนี้ก็พอมีอยู่บ้างคือตัวเครื่อง ASUS ZenBook Flip S UX370UA ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 ซึ่งเป็นพอร์ตจ่ายไฟแรง ถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง ไว้สำหรับต่อการ์ดจอเสริมหรือต่ออุปกรณ์อื่นๆ ในอนาคต และกล้อง Webcam ที่ให้ความละเอียดมาแค่ VGA ซึ่งถือว่าขัดใจมากๆ เพราะ Ultrabook ระดับนี่อย่างต่ำๆ ก็ต้อง HD กันแล้ว

Asus Zenbook 3

ถ้าถามว่า ASUS ZenBook Flip S UX370UA เหมาะกับบุคคลประเภทไหน ก็คงต้องตอบว่าเป็นคนที่ใช้งานทั่วไปเช่นการท่องเน็ต ดูหนังฟังเพลง ทำงานตกแต่งรูปเล็กน้อย รวมไปถึงอาจจะมีใช้งานหนักๆ อย่างเช่นนำมาตัดต่อภาพหรือวีดีโอก็พอทำได้บ้าง เพราะตัวเครื่องเลือกใช้ Intel Core i7 ถึงแม้จะเป็นรหัส U ก็พอตอบโจทย์ได้ในระดับหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งเลยคือเหมาะกับคนที่ชอบพกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ เพราะ ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและมีแบตเตอรรี่ที่ยาวนานนั่นเองครับ

ข้อดี

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีความบางที่สุดในโลก แถมเบามากเพียง 1.1 กิโลกรัม
  • ตัวเครื่องให้ความจุ SSD มากถึง 512 GB และเป็นแบบ PCIe ความเร็วสูง
  • หน้าจอความละเอียดสูงพับได้ 360 องศา พาเนล IPS ให้สีสันที่ดี มุมมองกว้าง พร้อมขอบเขตสี 94% sRGB
  • ดีไซน์การออกแบบสวยงาม งานประกอบมีความประณีต วัสดุแข็งแรง
  • มีไฟ Backlit Keyboard ที่ใช้งานได้อย่างสบายตา
  • แป้นคีย์บอร์ดมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าแป้นโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ
  • มีช่องทางเชื่อมต่อความเร็วสูง USB 3.1 Type-C ถึง 2 พอร์ต (ใช้ต่อจอแยกซับพอร์ตสูงสุด 4K และชาร์จไฟ)
  • ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้
  • บันเดิลมาพร้อมกับอแดปเตอร์แปลงเป็น USB 3.1 Type-C, USB 3.0, HDMI /ซอฟต์เคสสวยงาม/ ปากกา ASUS Pen

ข้อสังเกต

  • ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 3
  • กล้อง Webcam ความละเอียดแค่ VGA

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอสัมผัส 13.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook Flip S UX370UA ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

award_use_2_create_12

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS ZenBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS ZenBook Flip S UX370UA  ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรู ประกอบการงานการประกอบระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งความบางและความเบาของตัวเครื่องก็ถือว่าทำได้ดีกว่า Ultrabook ทั้งหมดอีกด้วย

Best Mobility

award_use_2_create_23

ส่วนของความสามารถในการพกพาก็อยู่ในระดับที่เจ๋งกว่าใครๆ ทั้งในความบางเพียง 10.9 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาแค่ 1.1 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะฮาร์ดแวร์ไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก เรียกได้ว่าในการพกพาไปไหนมา ก็ตอบโจทย์ทีเดียว เทียบเท่าแล้วหนักกว่าแท็บเล็ตเล็กน้อยเท่านั้นเอง

Specification

ในเรื่องของสเปคของตัว ASUS ZenBook Flip S UX370UA ซึ่งเป็นตัวเครื่องที่ทีมงานได้มารีวิวนั้นในส่วนของ CPU เลือกใช้เป็น Intel Core i7-7500U ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.70 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 3.50 GHz แบบ 2 Core/ 4 Thread ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 620 ที่ติดมาใน CPU จาก Intel ตระกูล Kabylake พร้อมติดตั้ง Ram ขนาด 8 GB DDR3L เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD PCIe มีมาให้ขนาด 512 GB มาพร้อมความเร็วสูง ใช้จอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนล IPS ซึ่งจอเป็นแบบ Corning Gorilla Glass แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit มาให้ด้วย เรียกได้ว่ากับเป็น 2-in-1 โน๊ตบุ๊คตัวระดับท๊อปๆ เลยทีเดียวครับ

ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ มี USB 3.1 Type-C  จำนวน 2 พอร์ต พร้อม Fringerprint sensor นอกจากนี้ตัวเครื่องในกล่องยังแถมอแดปเตอร์แปลงสาย ASUS Mini dock แปลงจาก USB C to HDMI, USB Type C และ USB 3.0 Type A อย่างละหนึ่งช่องมา รวมถึงปากกา ASUS Pen ที่ใช้สำหรับงานวาดเขียนมาให้ด้วย นอกจากกนี้ในกล่องยังมีกระเป๋าหนังอย่างดีมาให้สำหรับใส่โน๊ตบุ๊คอีกด้วย การเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับ Wireless 802.11ac และ Bluetooth 4.1 พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์แท้ ซึ่งสนนราคา 63,900 บาท ประกัน 2 ปีเต็ม

Hardware / Design

Asus Zenbook 14

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากแบบ NanoEdge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา ซึ่งตัวเครื่องมีความหนาเพียง 10.9 มม. และน้ำหนักเพียง 1.1 กิโลกรัม

ส่วนงานดีไซน์บอดี้สีของตัวเครื่องนั้นเป็นสี Blue Royal วัสดุที่ใช้ในการผลิตทำจากอลูมิเนียมอัลลอยเกรดยานอวกาศระดับพรีเมี่ยม (Aerospace-grade) ซึ่งโลหะเกรดนี้มีความแข็งแรงมากกว่าโลหะอัลลอยธรรมดาถึง 50% แสดงถึงความอุตสาหะเอาใจใส่ในรายละเอียดของการดีไซน์

Asus Zenbook 13

โดยการออกแบบ ZenBook Flip S ใช้ความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรมและการผลิตขั้นสูง ด้วยรูปร่างที่บางและเบาทำให้เราคิดค้นบานพับแบบ ErgoLift ซึ่งเป็นบานพับที่เป็นแกนพับ 2 อันซ้ายขวา สามารถพับได้สุดทางเพื่อที่จะรักษารูปทรงเพรียวบางของตัวเครื่อง โดยพับได้แบบ 360 องศา ฝาหลังดีไซน์ที่เป็นรูปวงกลมเข้าสู่จุดศูนย์กลางอย่างสวยงาม พร้อมมีโลโก้ ASUS สีทองอยู่ตรงกลางตามมาตราฐาน ส่วนรูช่องระบายความร้อนจะอยู่ทางด้านซ้ายตัวเครื่อง

งานดีไซน์ด้านในตัวเครื่องหน้าจอจะเป็นสีดำ พร้อมหน้าจอสัมผัสที่เป็น Corning Gorilla Glass แข็งแรง มีโลโก้ ASUS ZenBook อยู่ตรงกลางล่าง ส่วนบอดี้ตรงคีย์บอร์ดจะเป็นสี Blue Royal เหมือนกับบอดี้ภายนอก ติดตั้งคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานให้ได้ เราจึงจำเป็นต้องสร้างขอบตัวเครื่องที่บางยิ่งขึ้น และเราได้เพิ่มเส้นสายลวดลายไว้ที่ขอบมุมเพื่อเพิ่มสัมผัสของความหรูหราขี้นไปอีกขั้น ทำให้ ASUS ZenBook Flip S UX370UA มีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่น บนโครง Unibody แบบโลหะชิ้นเดียวที่ลงตัวสุดๆ

Keyboard / Touchpad

Asus Zenbook 16

ทางด้านของคีย์บอร์ดของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA นั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกน้ำเงินเข้ากับตัวเครื่องสกรีนตัวอักษรเหลืองตัดกับปุ่ม ซึ่งมีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ เป็นแบบ Chiclet มีความหนา 1.0 mm ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น สัมผัสนุ่ม มีระยะห่างของปุ่มกำลังพอดี้ เพื่อให้มีความรู้สึกที่สะดวกสบายในการพิมพ์ กดแรงๆ ก็ไม่มีอาการแป้นยวบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สามารถปรับได้ 3 ระดับ ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานจะสะท้อนออกมาทางฟอนต์สีเหลืองดูสวยงามเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ปุ่มเปิดเครื่องกับปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงจะไปอยู่ที่ด้านข้างฝั่งขวากลืนไปกับตัวเครื่อง รวมถึงมี Fingerprint sensor มาให้ด้วย

ตัวทัชแพดมีขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกิดไปเมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะดูฝืดๆ สักหน่อย ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร รวมไปถึงยังมีสแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านข้างฝั่งขวาไว้ใช้งานร่วมกับ Windwos Hello ได้อีกด้วย

Screen / Speaker

Asus Zenbook 23

ASUS ZenBook Flip S UX370UA ได้ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว เป็นแบบจอกระจกมีขอบที่บางมากเพียง 6.11 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS พื้นที่หน้าจอ 80% และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 13.3 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุด และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่ง แต่น่าเสียดายที่กล้อง Webcam ตัวนี้ให้ความละเอียดมาแค่ VGA เท่านั้น

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง 2 ตัว ระบบเสียง Harman/Kardon ให้ที่เสียงที่ดีมาก ผ่านตัวซอฟต์แวร์ ASUS SonicMaster ทั้งในเรื่องของเสียงเบสที่มีน้ำหนัก เสียงกลางที่สมดุล และเสียงแหลมที่ออกมาใสๆ พูดเลยว่ามีโน๊ตบุ๊คเพียงไม่กี่รุ่นที่ทำเสียงออกมาดีได้ขนาดนี้  ซึ่งตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น 2 ตัว ทำให้เสียงที่ออกมามีเสียงดังฟังชัด แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดีเลยทีเดียว เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่มก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน

การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น

ASUS UX370UA s3 bright 313

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 94% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันดีมากเลยทีเดียว ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 313 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อข้างสว่างเลยทีเดียว เหมาะสำหรับใช้ในงานตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบบนตรงกลางกับกลางจอ 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านล่างซ้ายที่ลดลงไปถึงระดับ 11% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 คะแนนถือว่าได้ว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวครับ

Connector / Thin And Weight

Asus Zenbook 26

มาดูในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA ซึ่งมีพอร์ต USB 3.1 type C จำนวน 2 พอร์ต โดยตัวเครื่องจะใช้พอร์ตนี้สำหรับชาร์จไฟเข้าเครื่องและต่อออกจอแยก,  Fringerprint sensor และรูหูฟังกับไมค์แบบ Combo 1 ช่อง ซึ่งน่าเสียดายที่ไม่ม่ีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้ นอกจากนี้ในกล่องยังได้แถมอแดปเตอร์ ASUS Mini dock ที่สามารถแปลงให้ USB Type C to HDMI, USB type C และ USB type A มาให้ด้วย และปากกา ASUS Pen ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถวาดเขียนรองรับแรงกดได้ถึง 1024 ระดับ

ส่วนขนาดของโน๊ตบุ๊คตัวนี้ถือว่ามีมิติที่ค่อนข้างเล็กและบางเบา มีขนาด 1.09 x 3.13 x 2.18 cm. โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.1 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 13.3 นิ้วที่บางที่สุดในโลก ส่วนของตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัด ซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วคาดว่าน่าจะมีหนักรวมกันราวๆ ไม่เกิน 1.3 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว ตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเองครับ

Performance / Software

ASUS ZenBook Flip S UX370UA  ใช้ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7500U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.70 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.50 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Thread ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็พอรองรับได้ในระดับหนึ่ง และมาพร้อม Ram ภายในขนาด 8 GB DDR3L Bus 2133 อีกด้วย

ASUS UX370UA CPU1  ASUS UX370UA CPU2

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้น แต่ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

ASUS UX370UA GPU

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ASUS UX370UA cine

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD PCIe ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจแบบสุดๆ และมีขนาดความจุถึง 512 GB กับความเร็วระดับในการ Read 3302 MB/s และ Write 1603 MB/s ถือว่าเร็วสุดๆ ไปเลยครับ

ASUS UX370UA disk

นอกจากนี้ทีมงานยังได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยโปรแกรม PCMark 10 มาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง

ASUS UX370UA pcmark

ดูจากคะแนนรวมที่ได้ถึง 3283 คะแนน ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ในส่วนของ essentials การใช้งานพื้นฐานได้คะแนน 7407 คะแนน Productivity การทำงานเอกสารก็ได้คะแนน 5923 คะแนน และสุดท้ายกับ Digital Content Creation ที่วัดเรื่องของการตกแต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอ ได้คะแนนไป 2191 คะแนน อาจจะได้ไม่เยอะนักในส่วนนี้เพราะไม่มีการ์ดจอแยกและ CPU เป็นแค่รหัส U แต่ดูโดยรวมทั้งหมดทั้งสามอย่างก็ถือว่าค่อนข้างสูงอยู่ดีครับ

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook Flip S UX370UA เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบ lithium-polymer มีขนาด 5,000 mAh ถือว่าให้มาเยอะมากเลยทีเดียว สามารถทำงานต่อเนื่องดู YouTube ผ่าน Wi-fi ได้ยาวนานได้ประมาณ 7 ชั่วโมง 30 นาทีด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีชาร์จไฟด้วยความรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ชาร์จไฟได้ถึง 60% ภายในเวลาเพียง 49 นาทีอีกด้วย

ASUS UX370UA batt 5000

ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 45 องศา แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 87 องศาในส่วนของ CPU เรียกได้การระบายความร้อนสามารถทำได้ดีพอใช้  ซึ่งบอดี้ตัวเครื่องอาจจะร้อนซักหน่อยเพราะการที่ใช้โลหะ ส่วนเรื่องเสียงรบกวนจากระบบระบายความร้อนนั้นก็พอมีให้ได้ยินบ้าง เฉพาะเมื่อใช้งานหนักๆ เท่านั้น

ASUS UX370UA temp

Conclusion / Award

Asus Zenbook 36

สรุปสำหรับ ASUS ZenBook Flip S UX370UA ถือได้ว่าเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการโน๊ตบุ๊คทีเดียว เพราะมาพร้อมทั้งความบางเฉียบ ดีไซน์โดดเด่น และที่สำคัญได้ติดตั้งหน้าจอสัมผัสที่รองรับแรงกดได้ถึง 1024 ระดับ สามารถใช้งานสร้างสรรค์รูปภาพได้ดีเลยทีเดียว สเปคตัวเครื่องก็ไม่ธรรมดาที่ให้ทั้ง CPU ที่เป็น Intel Core i7-7500U + Ram 8 GB + SSD 512 GB ความเร็วสูง อีกทั้งตัวเครื่องยังมีพอร์ตการเชื่อมต่อที่เป็น USB 3.1 Type-C มาให้ถึง 2 ช่อง และมี Fingerprint sensor ใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

Asus Zenbook 35

นอกจากนี้ในกล่องยังแถม ASUS Mini dock ซึ่งเป็น HUB ไปเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อที่มีทั้ง USB 3.0 type A, HDMI และ USB 3.1 type C มาให้ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ครอบคลุมและให้ตัวเครื่องมีขนาดที่บางลงนั้นเอง อีกอย่างคือมี ASUS Pen ปากกาที่ใช้วาดภาพบนหน้าบวกกับซองหนังไว้สำหรับใส่ตัวเครื่องอย่างดีแถมมาให้อีกด้วย เรียกได้ว่า ASUS ใจป้ำสุดๆ

Asus Zenbook 4

ส่วนข้อสังเกตเครื่องนี้ก็พอมีอยู่บ้างคือตัวเครื่อง ASUS ZenBook Flip S UX370UA ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 ซึ่งเป็นพอร์ตจ่ายไฟแรง ถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง ไว้สำหรับต่อการ์ดจอเสริมหรือต่ออุปกรณ์อื่นๆ ในอนาคต และกล้อง Webcam ที่ให้ความละเอียดมาแค่ VGA ซึ่งถือว่าขัดใจมากๆ เพราะ Ultrabook ระดับนี่อย่างต่ำๆ ก็ต้อง HD กันแล้ว

Asus Zenbook 3

ถ้าถามว่า ASUS ZenBook Flip S UX370UA เหมาะกับบุคคลประเภทไหน ก็คงต้องตอบว่าเป็นคนที่ใช้งานทั่วไปเช่นการท่องเน็ต ดูหนังฟังเพลง ทำงานตกแต่งรูปเล็กน้อย รวมไปถึงอาจจะมีใช้งานหนักๆ อย่างเช่นนำมาตัดต่อภาพหรือวีดีโอก็พอทำได้บ้าง เพราะตัวเครื่องเลือกใช้ Intel Core i7 ถึงแม้จะเป็นรหัส U ก็พอตอบโจทย์ได้ในระดับหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งเลยคือเหมาะกับคนที่ชอบพกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ เพราะ ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและมีแบตเตอรรี่ที่ยาวนานนั่นเองครับ

ข้อดี

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอสัมผัสขนาด 13.3 นิ้ว ที่มีความบางที่สุดในโลก แถมเบามากเพียง 1.1 กิโลกรัม
  • ตัวเครื่องให้ความจุ SSD มากถึง 512 GB และเป็นแบบ PCIe ความเร็วสูง
  • หน้าจอความละเอียดสูงพับได้ 360 องศา พาเนล IPS ให้สีสันที่ดี มุมมองกว้าง พร้อมขอบเขตสี 94% sRGB
  • ดีไซน์การออกแบบสวยงาม งานประกอบมีความประณีต วัสดุแข็งแรง
  • มีไฟ Backlit Keyboard ที่ใช้งานได้อย่างสบายตา
  • แป้นคีย์บอร์ดมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าแป้นโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ
  • มีช่องทางเชื่อมต่อความเร็วสูง USB 3.1 Type-C ถึง 2 พอร์ต (ใช้ต่อจอแยกซับพอร์ตสูงสุด 4K และชาร์จไฟ)
  • ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้
  • บันเดิลมาพร้อมกับอแดปเตอร์แปลงเป็น USB 3.1 Type-C, USB 3.0, HDMI /ซอฟต์เคสสวยงาม/ ปากกา ASUS Pen

ข้อสังเกต

  • ไม่มีพอร์ต Thunderbolt 3
  • กล้อง Webcam ความละเอียดแค่ VGA

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอสัมผัส 13.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook Flip S UX370UA ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

award_use_2_create_12

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ASUS ZenBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน ASUS ZenBook Flip S UX370UA  ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรู ประกอบการงานการประกอบระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งความบางและความเบาของตัวเครื่องก็ถือว่าทำได้ดีกว่า Ultrabook ทั้งหมดอีกด้วย

Best Mobility

award_use_2_create_23

ส่วนของความสามารถในการพกพาก็อยู่ในระดับที่เจ๋งกว่าใครๆ ทั้งในความบางเพียง 10.9 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาแค่ 1.1 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะฮาร์ดแวร์ไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก เรียกได้ว่าในการพกพาไปไหนมา ก็ตอบโจทย์ทีเดียว เทียบเท่าแล้วหนักกว่าแท็บเล็ตเล็กน้อยเท่านั้นเอง

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

รีวิว Asus

ASUS Vivobook S 15 S5507QA ความหวังใหม่ของคนทำงานด้วยพลัง Snapdragon X Elite และฟีเจอร์ครบเครื่อง! ถ้าพูดถึง Qualcomm ทุกคนย่อมคิดถึงชิปเซ็ตในสมาร์ทโฟนก่อน จนกระทั่งยักษ์แห่งวงการสมาร์ทโฟนจับมือกับเหล่ายักษ์แห่งวงการคอม ก็ได้เป็น ASUS Vivobook S 15 S5507QA โน๊ตบุ๊ค Copilot+ PC รุ่นแรกรับยุคแห่ง...

CONTENT

หลังจากที่มีการเปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่สำหรับโน้ตบุ๊กอย่าง AMD Ryzen AI 300 Series ไปเมื่องาน Computex 2024 ที่ผ่านมา โดยเน้นเรื่องของประสิทธิภาพ พลังกราฟิกที่สูงขึ้น และการรองรับระบบ AI ได้แบบเต็มศักยภาพกว่าที่เคย พร้อมกันนี้ก็มีการเปิดเผยตัวอย่างของโน้ตบุ๊กที่จะมาพร้อมกับชิปประมวลผลซีรีส์ใหม่นี้ออกมาด้วย

Buyer's Guide

หลังจาก Intel เปิดตัวซีรี่ส์ Core Ultra เมื่อปลายปี 2023 แล้ว ผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คก็นำชิปเซ็ตเหล่านี้มาใส่โน๊ตบุ๊คหลายรุ่นรวมถึงโน๊ตบุ๊คเล่นเกม Core Ultra 50000 บาทให้เลือกซื้อ ซึ่ง Intel Core Ultra นอกจากได้คอร์ประมวลผล 3 ชุด ได้แก่ P-Core ไว้รันโปรแกรมที่ใช้งานอยู่ เสริมด้วย...

CONTENT

ตั้งแต่หลังยุค Ryzen เป็นต้นมา CPU ของ AMD ก็เริ่มกลับเข้ามาอยู่ในโน้ตบุ๊กที่ขายในไทยมากขึ้น ด้วยตัวชิปเองที่มีประสิทธิภาพดี มีการใช้พลังงานที่เหมาะสม ประกอบกับแต่ละแบรนด์ผู้ผลิตก็ทำราคามาได้น่าสนใจขึ้นด้วย ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่าในช่วงกลางปี 2024 นี้มี CPU AMD สำหรับแพลตฟอร์มโมบายล์รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง พร้อมกับแนะนำโน้ตบุ๊ก AMD ที่น่าซื้อ สำหรับการใช้งานแต่ละแบบ Advertisement 1) AMD Ryzen...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก