นักวิจัยชาวญี่ปุ่นจาก National Institute of Information and Communications Technology (NICT) ได้ออกมาเผยถึงความสำเร็จในการส่งข้อมูลผ่านสาย Multi-core Fiber ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 53.3 Tbps ซึ่งสูงกว่าสถิติก่อนหน้าถึง 4 เท่าด้วยกัน โหลดวิเดียวเต็มฮาร์ดดิสก์ไม่รู้กี่ลูก
ในการทดสอบครั้งนี้ได้ทำบน Fiber Segment ด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ 28km Segment ที่มี 19 Cores, 10km Segment ที่มี 19 Cores และ 2km Segment ที่มี 7 Cores โดยอุปกรณ์ Switch ที่มารองรับนี้จะต้องมีความเร็วในการทำ Switching ที่ 80 Nanocsecond จึงจะประสบความสำเร็จ
สำหรับคลื่นแสงที่ใช้ส่งสัญญาณนั้น ได้ทำการตั้งค่าเอาไว้ให้ใช้ 64 Wavelength Channel, ทำการ Modulate ที่ 32 Giga Baud พร้อมกับทำ Polarization Division Multiplexing (PDM) Quadrature Phase Shift Keying (QPSK) ทำให้มีความเร็วถึง 53.3Tbps ได้
การประสบความสำเร็จในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญสำหรับวงการ Data Center ในอนาคต เพราะสาย Fiber เหล่านี้สามารถนำไปใช้งานภายใน Data Center และเชื่อมต่อระหว่าง Data Center ได้ อีกทั้งการเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูลได้สำเร็จนี้ก็จะช่วยลดพลังงานที่ต้องใช้ในการส่งข้อมูลต่อ Bit ลง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่สำคัญไม่น้อยทีเดียว
ที่มา : theregister