VDO REVIEW : Intel Core i7 8700K
มาแล้ว Intel Core i7 Generation 8 Coffee Lake โดยในรุ่นนี้แตกต่างจากรุ่นที่ผ่านมาในอดีต ด้วยการเพิ่ม Core เข้ามา อีก 2 Core เป็น 6 Core 12 Thread บนเทคโนโลยีการผลิตเดิมที่ 14 นาโนเมตร ส่งผลให้มันมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นอย่างมากแบบผิดหูผิดตา แรงขึ้นแบบไม่มีกั๊กเหมือน Gen6 มา Gen 7 แต่ในส่วนประสิทธิภาพที่บอกว่าแรง มันจะแรงสักแค่ไหน มีอะไรเพิ่มเข้ามา ต้องติดตาม
INTEL i7-8700K Specification https://notebookspec.com/pc-cpu/INTEL-i7-8700K/283
- INTEL i7-8700K
- Socket LGA1151-v2
- CPU Core / Thread 6/12
- Frequency 3.70 GHz
- Turbo 4.70 GHz
- CPU Bus 8 GT/s DMI3
- Architecture 14nm
- Cache L2 12 x 256KB
- Cache L3 12MB
- Power Peak 95W
หน้าตาของ CPU นั้นยังคงมีรูปแบบเดิม ขนาดเหมือนเดิมกับ CPU Socket 1151 รุ่นอื่น ๆ แต่ภายในได้มี DIE แตกต่างออกไปด้วยสถาปัตยกรรม Coffee Lake นั้นจะมีขนาดความกว้างพอ ๆ กับ Kaby Lake แต่ความยาวนั้นจะมีความยาว 151 mm² ซึ่งยาวกว่า Kaby Lake ที่มีขนาด 126 mm² ส่วนด้านหลังมีการจัดเรียงใหม่เนื่องจากสถาปัตยกรรมได้เปลี่ยนไปทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Socket LGA 1151-v1 เหมือน Sky lake และ Kaby Lake ได้
หน้าตาของ Socket LGA 1151 V2 ที่รองรับ Coffee LAKE โดยเฉพาะ
สเปคที่ใช้ในการทดสอบ
- Intel Core i7-8700K
- Ram Corsair Vengeance 16GB DDR4 Bus 3200
- M/B ASUS Prime Z370 A
- SSD Kingston HyperX 480GB M.2
- GPU GTX 980Ti HOF
- PSU Cougar 1200W 80+ Bronze
สเปคจากโปรแกรม CPU-Z กับ i7-8700K จะมีความเร็ว Base Clock 3.7 GHz และ Boost Clock 4.7 GHz ส่วนของ Chache L3 มีขนาดที่มากถึง 12MB การกินไฟอยู่ที่ 95W ในส่วนของ Code Name ยังคงเห็นเป็น Kaby Lake อยู่ เนื่องจากยังเป็นตัวทดลองที่ส่งให้ทางสื่อเทสไม่ใช่เวอร์ชันที่ขายจริง ส่วนของแรมที่ใช้เป็นแบบ Dual Channel 16GB BUS 3200MHz XMP 2.0
สำหรับการ Benchmark กับโปรแกรม CPUZ เทียบกับ CPU i7 7700K โดย i7-8700K มีประสิทธิภาพรวมที่เหนือกว่าถึง 56% และ 2% สำหรับความแรงแบบ Single Thread และเมื่อเทียบกับ CPU AMD RYZEN 7 1700X จะมีคะแนนที่ไกล้เคียงกันมากต่างกันเพียง 3% และแน่นอนว่า Single Thread ของ i7-8700K สูงกว่าถึง 4% ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพที่สูงมาก ๆ สำหรับ i7-8700K ในส่วนประสิทธิโดยรวมที่แรงขึ้นกว่ารุ่นเก่า i7-7700K อย่างเห็นได้ชัด
การทดสอบประสิทธิภาพ i7-8700K กับโปรแกรม Cinebench R15 ซึ่งประสิทธิภาพที่ทำได้ถือว่ายอดเยี่ยม โดยสามารถทำคะแนนในการเรนเดอร์ภาพได้คะแนน 1465 CB ซึ่งเหนือกว่า i7-7700K ที่ทำคะแนนได้เพียง 998 CB เท่านั้น แต่คะแนนก็ยังน้อยกว่า Ryzen 7 1700X ไม่ถึง 100 คะแนน ถือว่าคู่นี้สูสีอย่างมาก
การทดสอบ 3D Mark Fire Strike กับ i7-8700K สามารถทำคะแนน Physics ได้ 21103 คะแนน มากกว่าคู่แข่งอย่าง Ryzen 7 1700X อยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งการประมวลผลเกี่ยวกับกราฟฟิกในระดับ Full HD ถือว่า Intel ทำได้เหนือกว่า
การทดสอบ 3D Mark Time Spy กับ i7-8700K สามารถทำคะแนน CPU Score ได้ 8049 คะแนน น้อยกว่า Ryzen 7 1700X อยู่ถึง 1000 คะแนน ซึ่งการทำงานบน DirectX 12 ในการทดสอบนี้ ถือว่า Intel ยังตอบสนองได้ไม่ดีมากนักเนื่องจากมีจำนวน Core และ Thread ที่น้อยกว่า
ส่วนการทดสอบอุณหภูมิสูงสุดของ i7-8700K กับโปรแกรม Furmark และวัดอุณหภูมิจากโปรแกรม HWMonitor ซึ่งอุณหภูมิสูงสดนั้นน่าตกใจอย่างมากเพราะว่าสูงถึง 100 องศาเซลเซียส ชุดระบายความร้อนที่ใช้ก็เป็นเป็น Deep Cool ไม่ใช่ซิงก์เดิม คาดว่าระบบตรวจจับอุณหภูมิน่าจะผิดปกติในตัวทดสอบ ซึ่งการทดสอบความร้อนต้องเทสจากการใช้งานจริงเป็นหลัก
การทดสอบประสิทธิภาพในการเล่นเกมนั้นได้ทำการทดสอบกับ CPU i7 8700K และการ์ดจอ GTX 980 Ti ในเกม Rise Of Tomb Rider บนกราฟฟิกระดับสูงที่สุด ปรับสุดหมดทุกอย่าง ความละเอียด Full HD โดยสามารถทำเฟรมเรทได้ประมาณ 60-68 FPS กับการทำงานของ CPU ที่ 7%-18% อุณหภูมิของ CPU อยู่ในระดับ ต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส
ถัดมากับเกม PUBG ซึ่งกินทรัพยากรณ์เครื่องค่อนข้างมากและใช้งาน CPU ค่อนข้างหนัก การทดสอบครั้งแรกใช้กราฟฟิกระดับสูงที่สุดบนความละเอียด Full HD เฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 70-80 FPS อุณหภูมิของ CPU ต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส การทำงานของ CPU โดยรวมอยู่ที่ 15% – 25%
โดยรวมแล้ว Intel Core i7-8700K รุ่นใหม่ตัวนี้ถือเป็น CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า i7-7700K รุ่นเก่าเป็นอย่างมาก ด้วยราคาค่าตัวที่สูงกว่าถึง 2,000 บาท แต่ก็ยังถูกกว่า RYZEN 7 1700X อยู่ประมาณ 500 บาทซึ่งราคา i7 8700K ถือว่าสมเหตุสมผลเป็นอย่างมากเมื่อเทียบประสิทธิภาพต่อราคาที่คุ้มค่ามากกว่า Intel Gen 7 ทั้งราคาและประสิทธิภาพไม่ได้ต่างกันเท่าไรแล้วเมื่อเทียบกับค่าย AMD แน่นอนว่า Intel พยายามแข่งอย่างเต็มที่ทั้งด้านราคาและความคุ้มค่าหลังจากที่โดน RYZEN ออกมาแย่งตลาดไป
ส่วนด้านประสิทธิภาพในการใช่งานนั้น แน่นอนว่า i7-8700K นั้นมาพร้อมกับความสามารถในด้าน Single Thread ที่สูงกว่า CPU ระดับเดียวกันในรุ่นอื่น ๆ ซึ่งจะได้เปรียบในเรื่องการใช้งานด้าน Entertainment เช่นเล่นการดูหนังแบบ 4K หรือการเล่นเกมที่สามารถทำเฟรมเรทได้สูงกว่า และการที่มี 6 Core 12 Thread ทำให้การทำงานด้าน Multi Tasking ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ใครที่อยากจะนำไปเล่นเกมด้วยและสตรีมมิ่งเกมด้วย i7-8700K ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับด้านการเล่นเกมเป็นหลัก แต่ด้านการใช้งานทั่ว ๆ รวมถึงการตัดต่อออกแบบก็สามารถทำได้ดี แต่ก็ไม่ที่สุดสำหรับ CPU ในระดับเดียวกัน
ข้อดี
- มีความคุ้มค่าในด้านประสิทธิภาพต่อราคาที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ i7-7700K
- 6 Core 12 Thread สามารถทำงานด้าน Multi Tasking ได้ดีขึ้น
- ทำเฟรมเรทในการเล่นเกมได้สูงมากด้วย Single Core ที่มีประสิทธิภาพสูง
ข้อสังเกต
- เมนบอร์ดยังมีราคาแพง