ในวงการแต่ละวงการนั้นย่อมที่จะมีจุดบอด ของแต่ละวงการกันอยู่แล้วอย่างแน่นอน สำหรับวงการ eSports ก็เช่นเดียวกันโดยการแข่งขั้นมันก็มีช่องโหว่ที่สามารถจะเป็นจุดได้เปรียบแต่ในการแข่งขั้นนั้นมักจะออกกฏมาสั่งห้ามนำจุดตรงนั้นมาแข่งขั้นกันอยู่แล้ว แต่ในบางครั้งก็มีผู้เล่นจำนวนหนึ่งที่พยายามจะแหกกฏและใช้จุดบอดตรงนี้เป็นบันไดสู่ชัยชนะที่ไม่ค่อยน่าพอใจกันสักเท่าไหร่
Cheater คืออะไร ?
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับเหล่า Cheater กันก่อนโดย Cheater แปลเป็นไทยแบบตรงๆ จะแปลได้ว่า 18 มงกุฏ แต่ถ้าในสำหรับวงการเกมแล้วจะแปลว่าเหล่า Gamer ที่พยายามใช้จุดบอดของเกมเพื่อให้เราได้เปรียบในเกมนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่นกันใช้ Bug เพื่อทำให้ศัตรูไม่เห็นเรา หรือ การใช้โปรแกรมในการเข้าไปแก้ไขค่าในเกมทำให้การเล่นของเราได้เปรียบมากขึ้นนั้นเอง
โดย Cheater แปลกันง่ายๆ ก็คือการโกงนั้นเอง โดยการโกงนั้นก็จะมีตั้งแต่เกมที่เป็นออฟไลน์ จนไปถึงเกมออนไลน์ โดยถึงแม้บางเกมอาจจะมีการโกงอย่างโจงแจ้ง ยกตัวอย่างเช่น Konami Code อันนี้ก็ไม่น่าเป็นอะไรแต่ที่แย่ก็คือการโกงในเกมออนไลน์ รวมไปถึงเกมออฟไลน์ที่ไม่ได้มีระบบมาเอื่อในจุดนี้นั้นเอง
Cheater กัับ eSports
รายการแข่งขั้นในหลายๆรายการนั้นเรียกได้ว่ามีเงินรางวัลที่ล่อตาล่อใจพอสมควรเลยทีเดียว และ รวมไปถึงผู้เล่นบางคนที่ต้องการจะมีชื่อเสียงในวงการเกมโดยการพาทีมตัวเองเข้าสู่รอบ Offline ที่จะช่วยเป็นหน้าเป็นตาให้แกทีมก็มีอยู่ไม่น้อยจึงเกิดทำให้ผู้เล่นบางคนเลือกเส้นทางผิดๆโดยการใช้โปรแกรมโกงในการเล่นเพื่อที่จะให้ตัวเองนั้นสามารถเป็นจุดเด่นในการแข่งนั้นๆ ได้
โดยตามกฏนั้นการที่มีผู้เล่นในทีมคนใดคนหนึงในโปรแกรมช่วยเล่นก็จะตัดสิทธิ์การแข่งขั้นของผู้เล่นทั้งทีม แถมในบางเกมอาจจะมีการแบนห้ามผู้เล่นทีมนั้น(ทั้งทีม!!) ในการเข้าแข่งขั้นตลอดชีพหรือตามระยะเวลาที่กำหนดเลยก็มี
การตรวจสอบเหล่า Cheater ในการแข่งขั้น
การตรวจสอบเหล่า Cheater นั้นถือว่าเป็นไปได้ยากในการแข่งขั้นกับบางเกม เพราะว่าบางตัวเกมนั้นไม่ได้มีระบบป้องกันโปรแกรมโกงเหล่านี้ที่ดีนัก หรือ ตัวโปรแกรมโกงนั้นอัพเดททันสมัยอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นไปได้ยากที่จะป้องกันสิ่งเหล่านี้ถึงแม้ว่าตัวเกมจะมีระบบ Report อยู่ก็ตาม แต่ตัวระบบ Report นั้นก็ไม่ได้ส่งผลในทันที
โดยส่วนใหญ่นั้นก็จะเป็นหน้าที่ของเหล่าผู้เล่น และกรรมการที่ต้องคอยตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา ส่วนผู้เล่นที่ข้องใจในการแข่งขั้นแมทช์ไหนก็สามารถนำหลักฐาน Replay มาใช้เพื่อยื่นยันได้นั้นเอง แต่ในด้านการลงโทษนั้นก็แล้วแต่ส่วนของผู้จัดว่าจะมีการลงโทษอย่างไร
การใช้โปรแกรมโกงในการแข่งขั้น
สำหรับประเทศไทยนั้นก็จะมีมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมโกงในการแข่งขั้นก็มีจับแบนกันไปบาง ในหลายๆครั้งอาจจะไม่มีการประกาศออกมาเป็นทางการ แต่ถ้าจะให้เห็นตัวอย่างละก็ต้องเป็นการแบนทีม X-senses Team จากการแข่งขั้นรายการ SteelSeries ARCTIS Amateur CS:GO จากการใช้โปรแกรมในการช่วยเล่น (อ้างอิง : GameGeek ) โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโออย่างชัดเจนจึงทำให้โดนแบนไปเป็นระยะเวลา 500 ปี หรือ ตลอดซีพนั้นเอง และ คนอืนๆในทีมยังโดนแบนตามไปด้วย เน่าตัวเดียวตายยกตี้ กันเลยทีเดียว
ในส่วนของการแข่งขั้นระดับโลก ก็เคยมีผู้เล่นที่อยู่ทีมที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของโลกได้ถูกแบนจากการแข่งขั้นของ Value ไปนั้นก็คือ KQLY จากทีม Titan ของเกม CS:GO นั้นเองโดยจุดที่น่าสงสัยนั้นก็คือเกมระหว่าง Titan กับ VP โดยทาง KQLY ได้ทำการ กระโดดและใช้ปืน USP ยิงไปที่หัวของ Pasha จึงทำให้หลายๆคนมองจุดนี้ว่าอาจเป็นการใช้โปรแกรมช่วยเล่นได้ จนสุดท้าย ทาง Value ก็นำไปตรวจสอบและถูกแบนในที่สุด ( อ้างอิง : Youtube )
เหล่า Cheater ส่งผลอะไรต่อวงการ
เหล่า Cheater ส่งผลต่อการแข่งขั้นแบบเต็มๆเลยละครับ เพราะว่าถ้ารายการไหนที่ผู้เล่นที่ใช้โปรแกรมช่วยเล่นสามารถทะลุเข้ามาในการแข่งขั้นรอบลึกๆได้นั้นจะทำให้ผู้จัดรายการนั้นเสียความน่าเชื่อถือไป และ นอกจากนั้นยังทำให้วงการ eSports ของประเทศนั้นๆความน่าเชื่อถือลดลง และ ที่ชัดๆเลยก็คือจุดเด่นที่เรียกว่า การแข่งขั้น นั้นจะหายไปเลย เพราะว่าเหล่า Cheater จะพยายามหาทุกวิธีในการเอาชนะ ที่ไม่ใช่การแก้เกมหรือการพัฒนาฝีมือตนเอง
ดังนั้นการแก้เกมจึงหายไป เหลือแค่การแก้โปรแกรม เฉยๆ และเหล่า Cheater ก็มักจะสร้างความหนักใจให้กับเหล่าผู้จัดได้พอสมควร เพราะว่าคงไม่มีใครที่อยากจะแบนผู้เล่นในทีมคนอืน ที่ไม่รู้เรื่องนี้ ทั้งๆที่มีปลาเน่าเพียงตัวเดียวเท่านั้นดังนั้นถ้าอยากให้วงการไปไกลกว่านี้ เลิกใช้โปรแกรมช่วยเล่นซะ แล้วเปลี่ยนมาใช้ฝีมือช่วยกันเถอะ!!!