การใช้งาน Torrent เพื่อแจกจ่ายสื่อต่างๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของตัวจริงนั้นในปัจจุบันถือว่ามีความผิดเป็นอย่างมากครับ ดังนั้นแล้วเจ้าของลิขสิทธิ์ก็ได้ทำการร่วมกับผู้รักษากฎหมายเพื่อทำการปิดเว็บไซต์ Torrent กันมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ดูเหมือนจะหยุดผู้ปล่อยสื่อผิดลิขสิทธิ์ไม่ได้ล่ะครับเนื่องจากพวกเขาได้ค้นพบหนทางใหม่ในการแจกจ่ายสื่อซึ่งนั่นก็คือ Cloud Storage ครับ
ส่วนใหญ่แล้วผู้ปล่อยจะนิยมใช้บริการ Cloud Storage อย่าง Google Drive, Dropbox และ Mega กันเป็นอย่างมากครับ ซึ่งแน่นอนครับว่าผิดกันซะขนาดนี้ด้วยการรับแจ้งของ DMCA ที่ให้ Gadgets 360 เป็นผู้ตรวจให้อีกครั้งหนึ่ง(เป็นการแจ้งจากผู้ประสงค์ดีเพื่อขอให้ตรวจสอบ) ซึ่งจากการปิดนั้นจะพบว่า Google Drive เป็น Cloud Storage ที่มีสื่อผิดลิขสิทธิ์เยอะและโดนปิดไปมากที่สุดครับ(DMCA ได้รับการแจ้งว่าใน Google Drive นั้นมีไฟล์ที่ผิดกฎหมายอยู่กว่า 5,000 รายการเมื่อเดือนก่อน พอมาเดือนนี้เหลือแค่เพียง 200-300 กว่าๆ เท่านั้นครับ)
สิ่งที่น่าสนใจก็คือทำไม Google Drive ถึงได้กลายเป็น Cloud Storage ที่มีผู้ปล่อยสื่อผิดลิขสิทธิ์ใช้เป็นที่ปล่อยของกันเยอะแยะมากมายและโดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพยนตร์แบบเต็มเรื่อง ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว Google Drive ก็มีบริการ Youtube สำหรับการปล่อยคริปหรือวีดีโอต่างๆ ให้บริการอยู่แล้ว และที่สำคัญทาง Google เองก็มีทีมงานที่ตรวจสอบไฟล์หรือสื่อที่ผิดกฎหมายที่ถูกตั้งขึ้นมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่เท่าที่ผ่านมาก็เป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดีเลยครับว่าทีมงานนี้ของทาง Google เองกลับไม่สามารถทำงานได้ตามที่หวังไว้
ส่วนหนึ่งที่เป็นหลักฐานเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนก็คือ Youtube เองนั้นมีการทำงานที่ดีมากๆ เนื่องจากถึงแม้ว่าจะเป็นไฟล์ความละเอียดสูงแถมผู้ใช้ยังมีการเชื่อมต่อที่ความเร็วต่ำ ทว่าผู้ใช้ก็คงสามารถที่จะเปิดคลิปหรือวีดีโอได้ดีอย่างไม่มีปัญหา อีกอย่างหนึ่งนั้น Youtube เองก็เฃื่อมต่อกับ Google Drive ได้เป็นอย่างดี โดยหากผู้อัปโหลดวีดีโอผิดกฎหมายขึ้นไปแบบ unlisted ในตัวเว็บ Youtube เองก็ไม่มีใครที่สามารถจะหาวีดีโอดังกล่าวได้ วิธีที่เหลือก็คือผู้ปล่อยทำการเชื่อมลิงค์วีดีโอกังกล่าวนั้นไปที่ Google Drive และแจกลิงค์ให้กันในช่องทางลับ แค่นี้ก็จับไม่ได้แล้วครับ
Dropbox, OneDrive และ Mega เองนั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก Google Drive มากสักเท่าไรครับ ทว่าตัวแลกการจัดการการแชร์บน Cloud Storage ของทั้ง 3 บริการนั้นมีไม่ค่อยมากเท่าไรในระดับที่เรียกได้ว่าแตกต่างจาก Google Drive อย่างสิ้นเชิงทำให้เห็นได้ว่าบริการทั้ง 3 นั้นไม่ได้รับความนิยมในการปล่อยสื่อที่ผิดลิขสิทธิ์สักเท่าไรครับ Google Drive เองนั้นมีขำขอให้ลบสื่อออกมากถึง 4,700 เฉพาะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเดือนเดียวเท่านั้น กลับกันแล้ว Mega นั้นมีการแจ้งอยู่ที่ 100 กว่าๆ เท่านั้น(ในขณะที่ OneDrive กับ Dropbox มีน้อยกว่านี้)
สำหรับเว็บให้บริการวีดีโอสรีมมิ่งนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็น YouTube, Vimeo และ Dailymotion ก็ได้รับแจ้งว่ามีสื่อผิดลิขสิทธิ์มากเช่นเดียวกัน แต่ทว่าจากตัวเลขการแจ้งนั้นพบว่าบริการทั้ง 3 อย่างนั้นไม่ได้ถูกใช้งานเพื่อเป็นที่ปล่อยสื่อที่ผิดลิขสิทธิ์มากเท่าไรนัก ซึ่งในจุดนี้ดูเหมือนกับว่าทางผู้ปล่อยสื่อผิดลิขสิทธิ์นั้นจะหันหน้าไปใช้บริการที่ตรวจยากกว่าอย่างเช่นเว็บไซต์สื่อโป้เปลือยเป็นต้นครับ
หากถามว่าทำไมถึงต้องเป็น Google Drive ที่เป็นบริการที่ถูกใช้ปล่อยสื่อละเมิดลิขสิทธ์มากที่สุดนั้นก็เนื่องมาจากว่าการเปิดบัญชี Google นั้นสามารถที่จะทำได้อย่างง่ายดายครับ แถมที่สำคัญแล้วนั้นเพียงแค่บัญชีเดียวนั้นต่างก็สามารถที่จะนำไปใช้งานร่วมกับบริการอื่นๆ ได้อย่างเช่น Drive และ Youtube ที่คนสามารถเข้าถึงกันได้อย่างมากมายครับ
นอกไปจากนั้นแล้ว Google Drive เองยังมีหน้าตาการใช้งานของหน้าเว็บที่ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกันกับบริการ Cloud Storage อื่นๆ แถมมันสามารถที่จะอัปโหลดข้อมูลขึ้นไปได้อย่างมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสื่อมีเดียเช่นภาพยนตร์เป็นต้น ในส่วนของเอกสารนั้นก็สามารถที่จะทำได้อย่างง่ายดายเพื่อที่จะเขียนหรือให้ลิงค์ของเว็บไซต์ที่จะทำการแจกจ่ายให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปโหลดสื่อที่ผิดกฎหมายหรือกระทั่งไฟล์ Torrent เป็นต้นครับ อีกจุดหนึ่งที่ Google Drive ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากนั่นก็คือผู้ใช้จะได้พื้นที่ให้ใช้ฟรีๆ มากถึง 15 GB เลยครับ
ลิงค์ของ Google Drive และลิงค์ไฟล์ของบริการอื่นนั้นจะถูกนำลงไปโพสแชร์ที่ Forums หรือแม้แต่ Groups บน Facebook อย่างมากมาย โดยตอนในช่อง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้นทาง Gadget 360 ได้ค้นพบที่ปล่อยลิงค์ดังกล่าวนี้ใน Facebook groups มากมาย แถมในกลุ่มต่างๆ เหล่านั้นยังมีผู้ที่มาร้องขอไฟล์ภาพยนตร์หรือโชว์บงนทีวีใหม่ๆ เรื่อยๆ ครับ
Jon(ผู้เกี่ยวข้องที่ขอปิดนามสกุลเอาไว้) บอกว่าการที่ผู้คนเริ่มหันไปใช้ Google Drive และ Cloud Storage กันมากขึ้นก็เนื่องมาจากการล่มสลาย(หรือถูกปิดนั่นแหละครับ) ของเว็บไซต์ Torrent มีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น KickassTorrents, ExtraTorrent, Shaanig, Yify Torrents และเว็บ torrent อื่นๆ ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านคน(อ้างอิงจาก SimilarWeb) ถูกผิดกันเรื่อยๆ ครับ
เมื่อมีการปิดตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เว็บ Torrent ที่เหลืออยู่ต่างก็เพิ่มการป้องกันภัยไม่ให้ตัวเองโดนปิดตามไปด้วยยกตัวอย่างเช่นการจะสมัครสมาชิกใหม่นั้นจำเป็นที่จะต้องมีผู้ที่ใช้งานอยู่ก่อนแล้วชักชวนเข้ามา รวมไปถึงผู้ใช้รายใหม่ๆ นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการปล่อยสื่อที่ผิดกฎหมายด้วยซึ่งถือว่าเป็นการคัดเลือกผู้ใช้บนเว็บ Torrent ที่ให้ประสิทธิภาพค่อนข้างมากครับ
ถามว่าเว็บ torrent ที่เป็นเว็บเปิดแบบที่ผู้ใช้ไม่ต้องสมัครสมาชิกก่อนนั้นมีอยู่บ้างไหม คำตอบนั้นบอกได้เลยครับว่ายังคงมีอยู่ให้เห็นกันได้ทั่วไป อย่างไรก็ตามแต่แล้วด้วยความที่เป็นเว็บเปิด เว็บไซต์ Torrent ต่างๆ เหล่านั้นก็มีของไม่พึงประสงค์แจกให้ผู้ใช้งานด้วยเหมือนกันไม่ว่าจะเป็น pop up หน้าเว็บโฆษณา แถมยังมีการแถม malware มาให้ผู้ใช้อีกซึ่งนั่นทำให้ประสบการการใช้งานของผู้ใช้แย่มากถึงขั้นเลิกใช้ไปเองครับ
ทั้งนี้ทางตัวแทนจาก Google ได้บอกเอาไว้ครับว่าทาง Google เองนั้นก็ให้ความสำคัญกับเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าการแจกไฟล์ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นผิดนโยบายของทาง Google เองอยู่แล้วแต่ทว่าทาง Google เองนั้นก็ไม่ได้บอกไว้ว่าจะทำการจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งคงต้องคอยติดตามดูกันต่อไปล่ะครับ
ที่มา : gadgets.ndtv.com