ในทุก ๆ ปีเกมประเภทแข่งรถก็ไม่เคยห่างหายไปเลยยังคงมีเกมใหม่ ๆ หรือเกมภาคต่อปล่อยออกมาให้เกมเมอร์สายซิ่งตีนผีให้เล่นกันอยู่ตลอดและในปี 2017 ก็เช่นเดียวกันและลามไปในปีหน้า 2018 ด้วยที่ยังมีเกมแนวแข่งรถเตรียมปล่อยออกมาให้เสียเงินไปเล่นกันแต่จะมีเกมอะไรบ้างวันนี้ได้รวบรวมมาแล้ว 9 เกมที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ครับ (ทั้งคอนโซลและ PC)
NASCAR Heat 2 (PlayStation 4 , Xbox One)
วางจำหน่าย: 13 กันยายน 2017
พบกับการแข่งขันรถยนต์ NASCAR ความเร็วสูงที่พกพาสนามใหม่ ๆ ให้ได้เลือกเล่นกันหลายรูปแบบเช่นสนามปกติ , สนามรูปทรงวงรี และสนามดินแรลลี่ มีโหมด Career ที่ละเอียดมีระบบปรับแต่งรถเข้าร่วมทีมเพื่อไต่อันดับสู่มือหนึ่งของวงการหรือถ้าหากเล่น Multiplayer ผู้เล่นจะสามารถแบ่งหน้าจอเล่นได้ 2 คนครับ
WRC 7 (PlayStation 4 , Xbox One , PC)
วางจำหน่าย: 15 กันยายน
หากคุณเบื่อกับการแข่งขันบนทางเรียบนี่คือเกมที่น่าจะตอบโจทย์ของคุณครับกับเกมที่เน้นแข่งขันบนทางดินสไตล์แรลลี่ คุณจะได้แข่งขันใน 13 ประเทศ 52 สเตจมีรถให้เลือกมากมายและทีมให้คุณได้เลือกสังกัดกว่า 55 ทีม จุดเด่นของเกมนี้จะอยู่ที่ระบบฟิสิกส์ความสมจริงของรถการขับเคลื่อนและมีระบบ Multiplayer ที่สามารถแบ่งหน้าจอเล่นได้
Project CARS 2 (PlayStation 4 , Xbox One , PC)
วางจำหน่าย: 22 กันยายน 2017
เกมแข่งรถจาก Bandai Namco ที่จะนำผู้เล่นเข้าสู่สนามแข่งเซอร์กิตพกพารถแข่งระดับไอคอนชื่อดังกว่า 180 คันแบบถูกลิขสิทธิ์ ตัวเกมจะมีระบบเด่นที่เรียกว่า LiveTrack 3.0 สภาพอากาศ/พื้นผิวจะส่งผลต่อการขับขี่ของคุณแบบ Real-Time คุณจะได้เจอทั้งสภาพอากาศที่แจ่มใสและเลวร้ายแถมยังรองรับแว่น VR อีกด้วย
Forza Motorsport 7 (Xbox One , PC)
วางจำหน่าย: 3 ตุลาคม 2017
เกมแข่งรถที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับกับภาพ 4K โดยเฉพาะพร้อมกับสภาพอากาศทุกรูปแบบในสนามที่ผู้เล่นจะต้องเผชิญไม่ว่าจะเป็นพายุ , ฝนตกหนัก , โคลนสาดกระจาย ซึ่งจะส่งผลต่อการขับขี่มันจะทำให้คุณรู้สึกว่าต้องคอยระมัดรัวังตลอดเวลาเหมือนขับรถอยู่จริง ๆ สำหรับเกมนี้คุณสามารถเล่นได้บน Xbox One และ PC แต่ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 เท่านั้น
Gran Turismo Sport (PlayStation 4)
วางจำหน่าย: 16 ตุลาคม 2017
เกมแข่งรถในตระกูล Gran Turismo ที่ยังเน้นย้ำจุดแข็งในเรื่องของกราฟิกเกมที่สมจริงไม่ว่าจะเป็นสภาพสนามแข่ง/รถหรือการขับขี่ของรถแข่งแต่ละรุ่นจะให้ฟีลลิ่งที่แตกต่างกันโดยภาคนี้จะไม่ใช่ภาคต่ออย่างเป็นทางการแต่จะเป็นเกมภาคแยก Spin-Off ออกมาซึ่งจะให้ความสำคัญที่ระบบ Online เล่นหลายคนมากกว่าเหมาะกับคนที่ชอบแข่งขันกับความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง
Need for Speed Payback (PlayStation 4 , Xbox One , PC)
วางจำหน่าย: 10 พฤศจิกายน 2017
ซีรี่ส์เกมแข่งรถสุดเก่าแก่ที่ยังไม่ตายจากไปไหนกับภาคล่าสุด Payback ที่คุณจะได้ขับรถแข่งขันในเมืองขับรถหนีตำรวจเหมือนเคยพร้อมกับรถซิ่งหลายยี่ห้อชั้นนำ มีโหมดแต่งรถพร้อมชุดแต่งหลายสำนักและเนื้อเรื่องที่เร้าใจมากขึ้นโดยผู้เล่นจะได้ทำภารกิจขโมยรถยนต์สุดหรูพร้อมกับต้องหลบหนีการตามล่าจากแก๊งมาเฟีย
The Crew 2 (PlayStation 4 , Xbox One , PC)
วางจำหน่าย: 16 มีนาคม 2017
เดินหน้าสานต่อความมันส์กับ The Crew 2 ที่ใส่จัดเต็มความเป็น Open World มีระบบการเล่นที่จิ๊ดจ๊าดขึ้นเมื่อคุณสามารถขับยานพาหนะได้มากกว่ารถยนต์เช่นขับเรือ , ขับเครื่องบิน , ขี่มอเตอร์ไซค์วิบาก โดยที่คุณสามารถสลับสับเปลี่ยนได้ทันทีจะแข่งขันแบบออนไลน์หรือจะแข่งเก็บแต้มเอารางวัลก็ย่อมได้หากคุณมันส์ไปกับภาคแรกในภาคที่ 2 จะเพิ่มดีกรีความระห่ำอีกเท่าตัว
Gravel (PlayStation 4 , Xbox One , PC)
วางจำหน่าย: ต้นปี 2018
เกมแข่งรถในรูปแบบออฟ-โรดลงน้ำลุยดินเป็นหลัก ข้อดีของเกม Gravel คือจะได้แข่งขันในสนามแข่งที่จำลองมาจากของจริงตั้งแต่ยุโรปไปจวบจนถึงอเมริกาจะได้สัมผัสสภาพแวดล้อมที่สวยงามอุดมไปด้วยธรรมชาติ มีโหมดให้เล่นทั้ง Offline และ Online แข่งขันกับบอทหรือผู้เล่นตัวเป็น ๆ ด้วยกันได้
GTR 3 (PlayStation 4 , Xbox One , PC)
วางจำหน่าย: ปี 2018
เกมแข่งรถซิมูเลเตอร์ในตำนานที่เตรียมคัมแบ็คในปี 2018 จะมาพร้อมระบบเกมอันสมจริงการแข่งขัน 24 ชั่วโมงอันดุเดือด ระบบสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการขับขี่ ระบบความเสียหาย AI ที่พัฒนาความฉลาดขึ้นและตัวเกมยังได้รับการพัฒนาด้วยเอ็นจิ้น Unreal 4 จึงรับประกันได้เลยว่าภาพกราฟิกจะให้ความคมชัดสวยงามสมจริงอย่างแน่นอน
ที่มา: IGN