[Review] Acer Aspire V Nitro โน๊ตบุ๊คจอ 17 สเปค i7-7700HQ + GTX 1060 6GB + Tobii Eye + Finger Print ราคา 49,900 บาท

VDO Review

Specification

Acer Aspire V Nitro ตัวที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้มาทดสอบจะมีชื่อเต็มๆ ว่า Acer Aspire V Nitro VN7-793G โดยสนนราคาอยู่ที่ 49,900 บาท สเปคเลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพสุดแรงไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD M.2 ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR4 bus 2400 อัพเกรดได้สูงสุด 32 GB

ส่วนจอแสดงผลเป็นแบบด้านขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง ขอบเขตสี 95% sRGB และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพง 4 ตัวให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Acer TrueHarmonyTM และ Dolby AudioTM Premium ทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น

ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.0, 1 x USB  Type-C Thunderbolt 3,  2 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5 mm, Microphone 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac รุ่นใหม่

นอกจากนี้ Acer Aspire V Nitro ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด็ดที่โน๊ตบุ๊คน้อยรุ่นนักจะมีกับฟังก์ชัน Tobii Eye Tracking ที่เป็นฟังก์ชันตรวจจับสายตา, Finger Print สำหรับสแกนลายนิ้วมือรักษาความปลอดภัย, DustDefender พัดลมหมุนย้อนกลับเป่าฝุ่นออกจากตัวเครื่อง และที่เด็ดเลยคือการรับประกันของ Acer Aspire V Nitro เป็นแบบ On-site Service 3 ปีเต็มอีกด้วย

• อ่านหน้าสเปคเต็ม Acer Aspire V Nitro VN7-793G 

Hardware / Design

ดีไซน์ของตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro นั้นค่อนข้างคล้ายกับรุ่นเก่าในปีที่แล้ว โดยเน้นเรื่องรูปทรงภายนอกที่ดูเรียบหรูสีดำล้วน วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นฝานอกหรือบอดี้ตรงฐานคีย์บอร์ดวัสดุจะเป็นโลหะทั้งหมด ซึ่งบอกได้เลยว่าสวยงามตามสไตล์ Acer งานประกอบเนี้ยบ ดูดีแบบเรียบง่าย โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีเทาที่แกนฝาพับ ซึ่งเป็นไปตามดีไซน์ปัจจุบันประจำรุ่น Aspire ในปี 2017 ที่ออกมาใหม่ ในหลายๆ รุ่นทั้ง Aspire 3, 5, 7

ส่วนของผิวฝาบนจะเป็นสีดำด้าน พร้อมลายกราฟิคเทกเจอร์เป็นแนวเส้นตั้งตรงตลอดทั้งฝาตัวเครื่อง ด้วยเทคโนโลยี Nanoimprint Lithography (NIL) ให้การสัมผัสที่ดูผิวจะหยาบๆ จะได้จับถือได้ถนัดมือไม่ลื่น โดยรวมก็ถือว่าดูดีงานมีคุณภาพ พร้อมกับโลโก้ Acer สีเงินตรงกลางฝาบน แต่ก็มีข้อสังเกตนิดหนึ่งคือเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว ต้องหมั่นขยันเช็คสักนิดหากเวลาจับแล้วมือมีเหงื่อออก

ด้านใต้ตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro วัสดุที่ใช้ก็เป็นอลูมิเนียมที่มีผิวสัมผัสเป็นแบบซอฟต์ทัช ซี่งมีการเซาะร่องระบายความร้อนตามจุดต่างๆ และมีรูสี่เหลี่ยมเล็กๆ 2 รูซึ่งเป็นรู DustDefender ที่จะใช้การเป่าพัดลมหมุนย้อนกลับไล่ฝุ่นจากด้านในตัวเครื่อง ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานตัวผลิตภัณฑ์ได้ ตัวแกนฝาพับเป็นสีเงินเทาขนาดใหญ่พร้อมมีตัวอักษร Aspire V Nitro ดูโดดเด่นไม่น้อยเลยทีเดียว ด้านหลังก็จะมีรูประบายความร้อนสองจุดซ้ายขวากับพัดลมสองตัวแบบแยกกัน ส่วนด้านในตรงแกนฝาพับก็จะมีแถบกระจกที่เป็น Tobii Eye Tracking นั่นเองครับ

การแกะอัพเกรดตัวเครื่องจำเป็นต้องแกะฝาหลังออกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรด HDD, Ram หรือ SSD ก็ทำได้ง่ายค่อนข้างยากเลยทีเดียว ถ้าคนไม่เชี่ยวชาญคงต้องให้ทางร้านหรือช่างที่ชำนาญทำให้แล้วละครับ ไม่แนะนำให้ให้ทำเองเพราะเครื่องอาจจะเป็นรอยและหมดประกันได้หากสติ๊กเกอร์มีการฉีกขาด

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ด Acer Aspire V Nitro จะเป็นแบบ Full Size ที่มี Numpad มาให้ด้วย พร้อมไฟสีแดงแบบที่สามารถเปิดปิดได้ (ปรับระดับไม่ได้) คล้ายกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ความสว่างก็ถือว่าโอเคใช้งานตอนกลางคืนได้ดี ส่วนการใช้งาน การพิมพ์สัมผัสจัดว่าโอเคมากเลยทีเดียว มีการเด้งที่มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เหมาะกับการพิมพ์งานเอกสาร อีเมล์ต่างๆ หรือจะเอามาเล่นเกมก็ไม่มีปัญหา เล่นได้สบายๆ งานประกอบก็แข็งแรง กดแรงๆ ที่แป้นพิมพ์ก็ไม่มีการอ่อนยวบยาบให้เห็นแต่อย่างใด ปุ่มเปิดปิดจะอยู่ที่มุมบนขวา พร้อมมีสกีน Black Edition อยู่ที่มุมล่างขวา

ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด แถมยังมีปุ่ม Finger Print ที่ใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อใช้กับระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

Screen / Speaker

Acer Aspire V Nitro มาพร้อมหน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) แบบ ComfyView ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงาม โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว และจากการทดสอบของทีมงานหน้าจอ Acer Aspire V Nitro มีขอบเขตการแสดงสีอยู่ที่ 95% sRGB ถือว่าสูงมาก เหมาะกับการใช้งานตกแต่งภาพ เล่นเกม หรือดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ไม่มีปัญหา

ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Aspire V Nitro นั้นจะมีด้วยกัน 4 ตัวโดยจะอยู่ทางมุมซ้ายและขวาด้านล่างตัวเครื่อง ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้ยินซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่ดีมากอย่างหนึ่งบน Acer Aspire V Nitro ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Acer TrueHarmonyTM และ Dolby AudioTM Premium ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ตินิดหนึ่งตรงที่ไม่มีซับวูฟเฟอร์มาให้ด้วยเหมือนยี่ห้ออื่นๆ ที่ราคาระดับเดียวกัน

Connector / Thin And Weight

Acer Aspire V Nitro จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายเอนเตอร์เทนขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.0(เป็นแบบ Fast Charge 1 พอร์ต), 1 x USB Type-C Thunderbolt 3, 2 x USB 2.0, HDMI, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Gigabit Ethernet), รูไมค์โครโฟนขนาด 3.5 mm และรูหูฟังขนาด 3.5 mm แยกกัน เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน เหลือเฟืออีกต่างหาก ยิ่งมีพอร์ต Thunderbolt 3 ทำให้ดูโดดเด่นกว่าโน๊ตบุ๊คที่ราคาระดับใกล้เคียงกันมากๆ เลยทีเดียวครับ

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac MU-MIMO รูปแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับสัญญานแบบ 5 GHz ขนาดของ Acer Aspire V Nitro จะอยู่ที่ 423 mm x 296 mm x 27.62 mm และมีน้ำหนักที่ค่อนข้างหนักสักหน่อย เพราะเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 17.3 นิ้วทำให้มีน้ำหนักถึง 3.2 กิโลกรัม หากรวมอแดปเตอร์ด้วยแล้วทำให้มีน้ำหนักประมาณ 3.5 – 3.6  กิโลกรัมเลยทีเดียว ดังนั้นหากจะพกพาไปไหน ควรใช้กระเป๋าแบบสะพานไหล่สองข้างจะดีกว่าครับจะได้ไม่ปวดไหล่

Performance / Software

สำหรับตัว Acer Aspire V Nitro มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ และมาพร้อมแรมภายในขนาด 8 GB DDR4 บัส 2400 MHz (รองรับสูงสุด 32 GB)

  

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง ส่วน การ์ดจอแยกใช้รุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ขนาด 6 GB ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ สามารถนำเอาไปเล่นเกมแบบ Full HD ปรับสุดได้ทุกเกมสบายๆ แถมยังรองรับเทคโนโลยี VR ในอนาคตอีกด้วย

  

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 39.5 MB/s และสูงสุดที่ 139.2 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 97.9 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 20.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกม เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างมีคะแนน FPS มากกว่า 30 FPS ขึ้นไปทุกเกม ดูจากกราฟได้เลยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จากทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Ghost Recon Wildlands / Battlefield 1 /GTA V / PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30 FPS เลย เรียกได้ว่าเหลือๆ แต่อาจจะมีอาการแลคบ้างเล็กน้อยกับเกม PUBG เพราะ ปรับสุดทุกอย่างและตัวเกมลงใน HDD ปกติ ทำให้บ้านมีอาการเป็นดินน้ำมันและจะกระตุกหน่อยๆ เพราะโหลดฉากไม่ทัน แต่พอโหลดฉากอะไรเสร็จแล้ว (หลังจากโดดร่มประมาณ 20 วินาที) ก็จะเล่นได้ลื่นๆ ปกติเลย ส่วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยระดับ 60 เฟรมขึ้นไปพูดได้เลยว่าเล่นได้ลื่นๆ หายห่วง

มาดูในส่วนขอว Acer Care Center (ต้องดาวน์โหลดมาเพิ่มเอง) ซึ่งเป็นโปรแกรมจัดการเครื่องที่คอยเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟต์แวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็สามารถจัดการได้เลย

นอกเหนือจะการทดสอบเล่นเกมแล้วทีมงานเรายังได้ทดสอบการใช้งาน Tobii Eye Tracking ด้วยกับเกมเดโม่ที่มีมาให้ในตัวเครื่อง ซึ่งการจับสายตาทำได้ดีมาก รู้สึกถึงการได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้ลองมาก่อน โดยในอนาคตคาดว่าคงจะมีเกมที่ใช้ Eye Tracking กันมากขึ้นครับ

สุดท้ายกับการทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Aspire V Nitro ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder 5 Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งผลที่ได้น่าประทับใจมากๆ

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน 95% sRGB และ 71% AdobeRGB อีกด้วย ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง สีเขียวจะเป็นกรอบ sRGB ส่วนสีม่วงจะเป็น AdobeRGB เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันได้กว่าโน๊ตบุ๊คจอ IPS ทั่วไปพอสมควรความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้

ต่อมาจะเป็นผลสรุปของหน้าจอของ Acer Aspire V Nitro ว่ามีประสิทธิภาพดีแค่ไหน โดยมีคะแนนแต่ละอย่างเต็ม 5 คะแนน จากรูปจะเห็นได้ว่าหน้าจอเครื่องนี้มีค่าสี Gamut, Tone Response และค่า Contrast ได้เต็ม 5 คะแนน ส่วนค่าอื่นๆ คะแนนก็เฉลี่ยกันไป ซึ่งหากดูคะแนนสรุปทั้งหมดจอ Acer Aspire V Nitro เครื่องนี้ได้คะแนนรวมถึง 4 คะแนน ถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

Battery / Heat / Noise

Acer Aspire V Nitro นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4,605 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ให้มาค่อนข้างน้อยหากเทียบกับหน้าจอขนาด 17.3 โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพการใช้งานสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บดูท่องเว็บดู YouTube ได้ราวๆ 2 ชั่วโมง 15 นาที ถือว่าค่อนข้างน้อยกว่าพวกหน้าจอ 15.6 นิ้วรุ่นอื่นพอสมควร แนะนำวาหากจะนำไปใช้ทำงานข้างนอกควรพกอแดปเตอร์ชาร์จไปด้วย

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ ตัวเครื่องจะไปร้อนสะสมอยู่ที่ด้านบนคีย์บอร์ดซึ่งเป็นจุดระบายความร้อนนั่นเองครับ ซึ่งจากการทดสอบอุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้อยู่ที่ 95 องศาสำหรับ CPU และ 85 องศาสำหรับ GPU ครับ (ทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศา)

Conclusion / Award

สรุป Acer Aspire V Nitro ก็บอกเลยได้ว่าโน๊ตบุ๊คสายเอนเตอร์เทนเครื่องนี้ค่อนข้างที่ครบครันในทุกๆ ด้านเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของการออกแบบที่ทำได้ดีเรียบง่ายลงตัว แลดูพรีเมียมสมกับเป็นรุ่นท๊อปของซีรีส์ Nitro ถึงแม้วางจะไม่ได้วางตัวเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงก็ตาม แต่หากมอง7ดูที่สเปคที่ตัวเครื่องให้มาสังเกตได้ว่าค่อนข้างจัดเต็มเลยทีเดียวทั้ง CPU i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1060 6 GB ที่ให้มากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นเสียอีก รวมถึงตัวคีย์บอร์ดเองที่มีไฟแสดงผลสีแดงสไตล์เกมเมอร์

เช่นเดียวกับงานประกอบและวัสดุต่างๆ ของตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro ที่บอกได้เลยว่าค่อนข้างเนี้ยบ และวัสดุบอดี้ภายนอกเป็นโลหะแข็งแรงทนทานแน่นอน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่จัดเต็มมากทั้งหน้าจอ 17.3 นิ้ว Full HD IPS ขอบเขตสี 95% sRGB, พอร์ต Thunderbolt 3, Tobii Eye Tracking, Finger Print และ DustDefender เสมือนกับรุ่นพี่ตัวท๊อปซีรีย์เกมมิ่งที่เป็น Predator G9 ขึ้นไป รวมถึงการเล่นเกมต่างๆ ก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว

ส่วนของสังเกต  Acer Aspire V Nitro ก็พอมีเหมือนกันคือ เรื่องของน้ำหนักที่มีน้ำหนักเยอะพอสมควร การระบายความร้อนก็ยังไม่ได้ไม่ค่อยดีหนัก รวมถึงแบตเตอร์รี่ที่ใช้งานได้ค่อนข้างน้อยไปหน่อยหากเทียบกับรุ่นอื่นๆ แต่หากมองในเรื่องของราคา Acer Aspire V Nitro ตัวนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้วกับ 49,900 บาทที่ได้ฟีเจอร์มากมายขนาดนี้ รวมถึงได้ประกัน On-site Service 3 ปีจัดเต็ม พูดเลยว่าคุ้มค่ามากๆ กับเงินที่ได้จ่ายไปครับ

ข้อดี

• ดีไซน์สวยงาม วัสดุบอดี้เป็นโลหะ งานประกอบเนี้ยบแข็งแรง
• สเปคแรงจัดเต็มเหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค i7-7700HQ + GTX 1060 6 GB + Ram 8 GB
• หน้าจอแสดงผล 17.3 นิ้ว แบบ Full-HD IPS ขอบเขตสี 95% sRGB
• ลำโพง 4.0 Channel ตัวที่เหนือกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น
• คีย์บอร์ดแบบมีไฟ Backlit สีแดงสวยงาม
• พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 2.0/3.0 ให้มาอย่างละ 2 ช่อง และมีพอร์ต Thunderbolt 3 ด้วย
• มีฟีเจอร์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มากกว่ารุ่นอื่นอย่าง Tobii Eye Tracking, Finger Print และ DustDefender
• ประกัน On-site Service 3 ปีเต็ม

ข้อสังเกต

• น้ำหนักค่อนข้างหนักไปหน่อย
• ระบบระบายความร้อนยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก
• แบตเตอร์รี่ให้มาค่อนข้างน้อยหากเทียบกับขนาดหน้าจอ
• ไม่มี SSD m.2 และ Windows 10 มาพร้อมตัวเครื่อง

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่ง Acer Aspire V Nitro ที่เราได้ Review ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Multimedia

ด้วย Acer Aspire V Nitro มีลำโพงที่ตัวเครื่องให้มาถึง 4.0 ตัวที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ บนซอฟแวร์เสียงอย่าง TrueHarmonyTM และ Dolby AudioTM Premium ให้เสียงดีมาก อีกทั้งหน้าจอแสดงผล 17.3 นิ้ว IPS และสเปคของระบบภายในตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro ที่สมบูรณแบบทำให้ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเป็นเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือจะใช้ทำงานแบบมืออาชีพก็ทำได้

Best Performance

Acer Aspire V Nitro มาพร้อมมีสเปคแรงมากๆ ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อม Ram ตัวเครื่องขนาด 8 GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 bus 2400 และรองรับ SSD แบบ M.2 ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหา

Best Technology

Acer Aspire V Nitro เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ทั้งพอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3, Tobii Eye Tracking ฟังก์ชันตรวจจับสายตา, Finger Print สแกนลายนิ้วมือ และ DustDefender เป่าฝุ่นออกจากตัวเครื่อง เรียกว่าจัดเต็มสมกับเป็นรุ่นท๊อปของซีรีส์ Nitro เลยทีเดียว

VDO Review

Specification

Acer Aspire V Nitro ตัวที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้มาทดสอบจะมีชื่อเต็มๆ ว่า Acer Aspire V Nitro VN7-793G โดยสนนราคาอยู่ที่ 49,900 บาท สเปคเลือกใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพสุดแรงไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1 TB 5400 รอบ พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD M.2 ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8 GB แบบ DDR4 bus 2400 อัพเกรดได้สูงสุด 32 GB

ส่วนจอแสดงผลเป็นแบบด้านขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยงามทุกมุมมอง ขอบเขตสี 95% sRGB และในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพง 4 ตัวให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง Acer TrueHarmonyTM และ Dolby AudioTM Premium ทำให้เสียงที่ได้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น

ตัวหน้าจอยังมาพร้อมกล้อง Webcam แบบ HD และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัวแบบตัดเสียง ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.0, 1 x USB  Type-C Thunderbolt 3,  2 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5 mm, Microphone 3.5 mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac รุ่นใหม่

นอกจากนี้ Acer Aspire V Nitro ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด็ดที่โน๊ตบุ๊คน้อยรุ่นนักจะมีกับฟังก์ชัน Tobii Eye Tracking ที่เป็นฟังก์ชันตรวจจับสายตา, Finger Print สำหรับสแกนลายนิ้วมือรักษาความปลอดภัย, DustDefender พัดลมหมุนย้อนกลับเป่าฝุ่นออกจากตัวเครื่อง และที่เด็ดเลยคือการรับประกันของ Acer Aspire V Nitro เป็นแบบ On-site Service 3 ปีเต็มอีกด้วย

• อ่านหน้าสเปคเต็ม Acer Aspire V Nitro VN7-793G 

Hardware / Design

ดีไซน์ของตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro นั้นค่อนข้างคล้ายกับรุ่นเก่าในปีที่แล้ว โดยเน้นเรื่องรูปทรงภายนอกที่ดูเรียบหรูสีดำล้วน วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นฝานอกหรือบอดี้ตรงฐานคีย์บอร์ดวัสดุจะเป็นโลหะทั้งหมด ซึ่งบอกได้เลยว่าสวยงามตามสไตล์ Acer งานประกอบเนี้ยบ ดูดีแบบเรียบง่าย โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีเทาที่แกนฝาพับ ซึ่งเป็นไปตามดีไซน์ปัจจุบันประจำรุ่น Aspire ในปี 2017 ที่ออกมาใหม่ ในหลายๆ รุ่นทั้ง Aspire 3, 5, 7

ส่วนของผิวฝาบนจะเป็นสีดำด้าน พร้อมลายกราฟิคเทกเจอร์เป็นแนวเส้นตั้งตรงตลอดทั้งฝาตัวเครื่อง ด้วยเทคโนโลยี Nanoimprint Lithography (NIL) ให้การสัมผัสที่ดูผิวจะหยาบๆ จะได้จับถือได้ถนัดมือไม่ลื่น โดยรวมก็ถือว่าดูดีงานมีคุณภาพ พร้อมกับโลโก้ Acer สีเงินตรงกลางฝาบน แต่ก็มีข้อสังเกตนิดหนึ่งคือเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายเลยทีเดียว ต้องหมั่นขยันเช็คสักนิดหากเวลาจับแล้วมือมีเหงื่อออก

ด้านใต้ตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro วัสดุที่ใช้ก็เป็นอลูมิเนียมที่มีผิวสัมผัสเป็นแบบซอฟต์ทัช ซี่งมีการเซาะร่องระบายความร้อนตามจุดต่างๆ และมีรูสี่เหลี่ยมเล็กๆ 2 รูซึ่งเป็นรู DustDefender ที่จะใช้การเป่าพัดลมหมุนย้อนกลับไล่ฝุ่นจากด้านในตัวเครื่อง ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานตัวผลิตภัณฑ์ได้ ตัวแกนฝาพับเป็นสีเงินเทาขนาดใหญ่พร้อมมีตัวอักษร Aspire V Nitro ดูโดดเด่นไม่น้อยเลยทีเดียว ด้านหลังก็จะมีรูประบายความร้อนสองจุดซ้ายขวากับพัดลมสองตัวแบบแยกกัน ส่วนด้านในตรงแกนฝาพับก็จะมีแถบกระจกที่เป็น Tobii Eye Tracking นั่นเองครับ

การแกะอัพเกรดตัวเครื่องจำเป็นต้องแกะฝาหลังออกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรด HDD, Ram หรือ SSD ก็ทำได้ง่ายค่อนข้างยากเลยทีเดียว ถ้าคนไม่เชี่ยวชาญคงต้องให้ทางร้านหรือช่างที่ชำนาญทำให้แล้วละครับ ไม่แนะนำให้ให้ทำเองเพราะเครื่องอาจจะเป็นรอยและหมดประกันได้หากสติ๊กเกอร์มีการฉีกขาด

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ด Acer Aspire V Nitro จะเป็นแบบ Full Size ที่มี Numpad มาให้ด้วย พร้อมไฟสีแดงแบบที่สามารถเปิดปิดได้ (ปรับระดับไม่ได้) คล้ายกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ความสว่างก็ถือว่าโอเคใช้งานตอนกลางคืนได้ดี ส่วนการใช้งาน การพิมพ์สัมผัสจัดว่าโอเคมากเลยทีเดียว มีการเด้งที่มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เหมาะกับการพิมพ์งานเอกสาร อีเมล์ต่างๆ หรือจะเอามาเล่นเกมก็ไม่มีปัญหา เล่นได้สบายๆ งานประกอบก็แข็งแรง กดแรงๆ ที่แป้นพิมพ์ก็ไม่มีการอ่อนยวบยาบให้เห็นแต่อย่างใด ปุ่มเปิดปิดจะอยู่ที่มุมบนขวา พร้อมมีสกีน Black Edition อยู่ที่มุมล่างขวา

ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด แถมยังมีปุ่ม Finger Print ที่ใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อใช้กับระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย

Screen / Speaker

Acer Aspire V Nitro มาพร้อมหน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) แบบ ComfyView ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงาม โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก ซึ่งดูรวมๆ แล้งทั้งสีสันและความคมชัดจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว และจากการทดสอบของทีมงานหน้าจอ Acer Aspire V Nitro มีขอบเขตการแสดงสีอยู่ที่ 95% sRGB ถือว่าสูงมาก เหมาะกับการใช้งานตกแต่งภาพ เล่นเกม หรือดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ไม่มีปัญหา

ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Aspire V Nitro นั้นจะมีด้วยกัน 4 ตัวโดยจะอยู่ทางมุมซ้ายและขวาด้านล่างตัวเครื่อง ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้ยินซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่ดีมากอย่างหนึ่งบน Acer Aspire V Nitro ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ Acer TrueHarmonyTM และ Dolby AudioTM Premium ก็สามารถทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ตินิดหนึ่งตรงที่ไม่มีซับวูฟเฟอร์มาให้ด้วยเหมือนยี่ห้ออื่นๆ ที่ราคาระดับเดียวกัน

Connector / Thin And Weight

Acer Aspire V Nitro จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสายเอนเตอร์เทนขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.0(เป็นแบบ Fast Charge 1 พอร์ต), 1 x USB Type-C Thunderbolt 3, 2 x USB 2.0, HDMI, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Gigabit Ethernet), รูไมค์โครโฟนขนาด 3.5 mm และรูหูฟังขนาด 3.5 mm แยกกัน เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน เหลือเฟืออีกต่างหาก ยิ่งมีพอร์ต Thunderbolt 3 ทำให้ดูโดดเด่นกว่าโน๊ตบุ๊คที่ราคาระดับใกล้เคียงกันมากๆ เลยทีเดียวครับ

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac MU-MIMO รูปแบบมาตราฐานใหม่ที่รองรับสัญญานแบบ 5 GHz ขนาดของ Acer Aspire V Nitro จะอยู่ที่ 423 mm x 296 mm x 27.62 mm และมีน้ำหนักที่ค่อนข้างหนักสักหน่อย เพราะเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 17.3 นิ้วทำให้มีน้ำหนักถึง 3.2 กิโลกรัม หากรวมอแดปเตอร์ด้วยแล้วทำให้มีน้ำหนักประมาณ 3.5 – 3.6  กิโลกรัมเลยทีเดียว ดังนั้นหากจะพกพาไปไหน ควรใช้กระเป๋าแบบสะพานไหล่สองข้างจะดีกว่าครับจะได้ไม่ปวดไหล่

Performance / Software

สำหรับตัว Acer Aspire V Nitro มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ และมาพร้อมแรมภายในขนาด 8 GB DDR4 บัส 2400 MHz (รองรับสูงสุด 32 GB)

  

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง ส่วน การ์ดจอแยกใช้รุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1060 ขนาด 6 GB ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050/1050Ti แบบรู้สึกได้ สามารถนำเอาไปเล่นเกมแบบ Full HD ปรับสุดได้ทุกเกมสบายๆ แถมยังรองรับเทคโนโลยี VR ในอนาคตอีกด้วย

  

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1 TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 39.5 MB/s และสูงสุดที่ 139.2 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 97.9 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 20.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกม เรียกได้ว่าปรับสุดทุกอย่างมีคะแนน FPS มากกว่า 30 FPS ขึ้นไปทุกเกม ดูจากกราฟได้เลยครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จากทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Ghost Recon Wildlands / Battlefield 1 /GTA V / PUBG ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30 FPS เลย เรียกได้ว่าเหลือๆ แต่อาจจะมีอาการแลคบ้างเล็กน้อยกับเกม PUBG เพราะ ปรับสุดทุกอย่างและตัวเกมลงใน HDD ปกติ ทำให้บ้านมีอาการเป็นดินน้ำมันและจะกระตุกหน่อยๆ เพราะโหลดฉากไม่ทัน แต่พอโหลดฉากอะไรเสร็จแล้ว (หลังจากโดดร่มประมาณ 20 วินาที) ก็จะเล่นได้ลื่นๆ ปกติเลย ส่วนอีก 2 เกมออนไลน์ที่ทีมงานเล่นกันเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยระดับ 60 เฟรมขึ้นไปพูดได้เลยว่าเล่นได้ลื่นๆ หายห่วง

มาดูในส่วนขอว Acer Care Center (ต้องดาวน์โหลดมาเพิ่มเอง) ซึ่งเป็นโปรแกรมจัดการเครื่องที่คอยเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟต์แวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็สามารถจัดการได้เลย

นอกเหนือจะการทดสอบเล่นเกมแล้วทีมงานเรายังได้ทดสอบการใช้งาน Tobii Eye Tracking ด้วยกับเกมเดโม่ที่มีมาให้ในตัวเครื่อง ซึ่งการจับสายตาทำได้ดีมาก รู้สึกถึงการได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยได้ลองมาก่อน โดยในอนาคตคาดว่าคงจะมีเกมที่ใช้ Eye Tracking กันมากขึ้นครับ

สุดท้ายกับการทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Aspire V Nitro ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder 5 Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งผลที่ได้น่าประทับใจมากๆ

โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน 95% sRGB และ 71% AdobeRGB อีกด้วย ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง สีเขียวจะเป็นกรอบ sRGB ส่วนสีม่วงจะเป็น AdobeRGB เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันได้กว่าโน๊ตบุ๊คจอ IPS ทั่วไปพอสมควรความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้

ต่อมาจะเป็นผลสรุปของหน้าจอของ Acer Aspire V Nitro ว่ามีประสิทธิภาพดีแค่ไหน โดยมีคะแนนแต่ละอย่างเต็ม 5 คะแนน จากรูปจะเห็นได้ว่าหน้าจอเครื่องนี้มีค่าสี Gamut, Tone Response และค่า Contrast ได้เต็ม 5 คะแนน ส่วนค่าอื่นๆ คะแนนก็เฉลี่ยกันไป ซึ่งหากดูคะแนนสรุปทั้งหมดจอ Acer Aspire V Nitro เครื่องนี้ได้คะแนนรวมถึง 4 คะแนน ถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

Battery / Heat / Noise

Acer Aspire V Nitro นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4,605 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ให้มาค่อนข้างน้อยหากเทียบกับหน้าจอขนาด 17.3 โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพการใช้งานสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บดูท่องเว็บดู YouTube ได้ราวๆ 2 ชั่วโมง 15 นาที ถือว่าค่อนข้างน้อยกว่าพวกหน้าจอ 15.6 นิ้วรุ่นอื่นพอสมควร แนะนำวาหากจะนำไปใช้ทำงานข้างนอกควรพกอแดปเตอร์ชาร์จไปด้วย

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ ตัวเครื่องจะไปร้อนสะสมอยู่ที่ด้านบนคีย์บอร์ดซึ่งเป็นจุดระบายความร้อนนั่นเองครับ ซึ่งจากการทดสอบอุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้อยู่ที่ 95 องศาสำหรับ CPU และ 85 องศาสำหรับ GPU ครับ (ทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 25 องศา)

Conclusion / Award

สรุป Acer Aspire V Nitro ก็บอกเลยได้ว่าโน๊ตบุ๊คสายเอนเตอร์เทนเครื่องนี้ค่อนข้างที่ครบครันในทุกๆ ด้านเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของการออกแบบที่ทำได้ดีเรียบง่ายลงตัว แลดูพรีเมียมสมกับเป็นรุ่นท๊อปของซีรีส์ Nitro ถึงแม้วางจะไม่ได้วางตัวเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงก็ตาม แต่หากมอง7ดูที่สเปคที่ตัวเครื่องให้มาสังเกตได้ว่าค่อนข้างจัดเต็มเลยทีเดียวทั้ง CPU i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GTX 1060 6 GB ที่ให้มากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นเสียอีก รวมถึงตัวคีย์บอร์ดเองที่มีไฟแสดงผลสีแดงสไตล์เกมเมอร์

เช่นเดียวกับงานประกอบและวัสดุต่างๆ ของตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro ที่บอกได้เลยว่าค่อนข้างเนี้ยบ และวัสดุบอดี้ภายนอกเป็นโลหะแข็งแรงทนทานแน่นอน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่จัดเต็มมากทั้งหน้าจอ 17.3 นิ้ว Full HD IPS ขอบเขตสี 95% sRGB, พอร์ต Thunderbolt 3, Tobii Eye Tracking, Finger Print และ DustDefender เสมือนกับรุ่นพี่ตัวท๊อปซีรีย์เกมมิ่งที่เป็น Predator G9 ขึ้นไป รวมถึงการเล่นเกมต่างๆ ก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว

ส่วนของสังเกต  Acer Aspire V Nitro ก็พอมีเหมือนกันคือ เรื่องของน้ำหนักที่มีน้ำหนักเยอะพอสมควร การระบายความร้อนก็ยังไม่ได้ไม่ค่อยดีหนัก รวมถึงแบตเตอร์รี่ที่ใช้งานได้ค่อนข้างน้อยไปหน่อยหากเทียบกับรุ่นอื่นๆ แต่หากมองในเรื่องของราคา Acer Aspire V Nitro ตัวนี้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้วกับ 49,900 บาทที่ได้ฟีเจอร์มากมายขนาดนี้ รวมถึงได้ประกัน On-site Service 3 ปีจัดเต็ม พูดเลยว่าคุ้มค่ามากๆ กับเงินที่ได้จ่ายไปครับ

ข้อดี

• ดีไซน์สวยงาม วัสดุบอดี้เป็นโลหะ งานประกอบเนี้ยบแข็งแรง
• สเปคแรงจัดเต็มเหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค i7-7700HQ + GTX 1060 6 GB + Ram 8 GB
• หน้าจอแสดงผล 17.3 นิ้ว แบบ Full-HD IPS ขอบเขตสี 95% sRGB
• ลำโพง 4.0 Channel ตัวที่เหนือกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น
• คีย์บอร์ดแบบมีไฟ Backlit สีแดงสวยงาม
• พอร์ตการเชื่อมต่อ USB 2.0/3.0 ให้มาอย่างละ 2 ช่อง และมีพอร์ต Thunderbolt 3 ด้วย
• มีฟีเจอร์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มากกว่ารุ่นอื่นอย่าง Tobii Eye Tracking, Finger Print และ DustDefender
• ประกัน On-site Service 3 ปีเต็ม

ข้อสังเกต

• น้ำหนักค่อนข้างหนักไปหน่อย
• ระบบระบายความร้อนยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก
• แบตเตอร์รี่ให้มาค่อนข้างน้อยหากเทียบกับขนาดหน้าจอ
• ไม่มี SSD m.2 และ Windows 10 มาพร้อมตัวเครื่อง

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่มขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ในระดับราคาใกล้เคียงกัน ซึ่ง Acer Aspire V Nitro ที่เราได้ Review ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Multimedia

ด้วย Acer Aspire V Nitro มีลำโพงที่ตัวเครื่องให้มาถึง 4.0 ตัวที่เหนือกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ บนซอฟแวร์เสียงอย่าง TrueHarmonyTM และ Dolby AudioTM Premium ให้เสียงดีมาก อีกทั้งหน้าจอแสดงผล 17.3 นิ้ว IPS และสเปคของระบบภายในตัวเครื่อง Acer Aspire V Nitro ที่สมบูรณแบบทำให้ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเป็นเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือจะใช้ทำงานแบบมืออาชีพก็ทำได้

Best Performance

Acer Aspire V Nitro มาพร้อมมีสเปคแรงมากๆ ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB GDDR5) พร้อม Ram ตัวเครื่องขนาด 8 GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 bus 2400 และรองรับ SSD แบบ M.2 ทำให้สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหา

Best Technology

Acer Aspire V Nitro เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ทั้งพอร์ตเชื่อมต่อ Thunderbolt 3, Tobii Eye Tracking ฟังก์ชันตรวจจับสายตา, Finger Print สแกนลายนิ้วมือ และ DustDefender เป่าฝุ่นออกจากตัวเครื่อง เรียกว่าจัดเต็มสมกับเป็นรุ่นท๊อปของซีรีส์ Nitro เลยทีเดียว