ถือว่าประสบความจำเสร็จจริงๆ จากการนำเสนอซีรีส์ OMEN ของทาง HP ที่เป็น Gaming Notebook หรือ Gaming Desktop โดยมาพร้อมประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยม ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัยให้ความแข็งแรง ทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก รวมไปถึงการรับประกัน เรียกได้ว่าได้มีการพัฒนาโดยตลอดตั้งแต่ OMEN รุ่นแรกๆ จนมาถึง HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่นี้ ที่ก่อนหน้าทีมงาน NotebookSPEC ได้เคยรีวิวไปแล้วสำหรับรุ่นเริ่มต้นราคา 33,990 บาท (ชมรีวิว)
แต่สำหรับสเปกรุ่นท็อปจะเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) รุ่นล่าสุด Gen 7 Kaby Lake จึงทำให้การใช้งานของคุณจะลื่นไหล รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญมาพร้อมกับการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมด้วย SSD M.2 NVMe ความจุ 128GB ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงพอตัว นอกเหนือจากนั้นยังได้หน้าจอพาเนล IPS และ Windows 10 ในราคา 39,990 บาทเท่านั้น
VDO Review
Specification
สเปคเต็มๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ แบ่งเป็น 3 สเปกด้วยกัน ที่หลักๆ แล้วเลือกติดตั้งชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) Gen 7 Kaby Lake ศักยภาพสูง มีกราฟฟิกการ์ดแยกเกมมิ่งอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) สำหรับรุ่นท็อปสุด โดยมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 960M และ GTX 970M พอตัว รองรับการเล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นๆ ทั้งหมด
นอหเหนือจากนี้ได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลความจุ 1 TB 7200 RPM หรือถ้าเป็นตัวกลางขึ้นไปก็จะได้ SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVME ได้อีก 1 ตัวความจุ 128GB โดยมีแรม DDR4 ขนาด 4GB หนึ่งแถว (เราควรอัพเกรดเป็น 8GB) ตอบรับกับการใช้งานได้ดีในทุกรูปแบบทั้งเกม ทำงาน หรือบันเทิง ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลิขสิทธิ์ ทำให้เราพร้อมใช้งานได้ทันทีในครั้งแรกของการเปิดเครื่อง
หน้าจอแสดงผล HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านพาเนลจอ IPS ให้ความสวยงามสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป มีกล้องเว็บแคมมุมกว้าง และมีไมค์ดิจิตอลแบบคู่ตัดเสียงรบกวนในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือมี USB 3.1 Type-C แล้ว พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac
มิติของตัวเครื่อง HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่มาในขนาดที่ดูเป็น Gaming Notebook มากกว่าเดิม บนน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.6 กิโลกรัมสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 33,990 บาท ส่วนรุ่นกลางจะมีราคา 36,990 บาทโดยเพิ่ม SSD M.2 เข้ามา และตัวท็อปสุดจะตีบวกเพิ่มการ์ดจอเป็น GTX 1050Ti ที่แรงขึ้นประมาณ 20% แน่นอนว่าทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านและบริการ HP SmartFriend เวลา 1 ปีอีกด้วย
โดยสเปก HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ แบบออกเป็น 3 รุ่นได้ดังต่อไปนี้
- Intel Core i7-7700HQ + GTX 1050 (4GB) + RAM 4GB + HDD 1TB ราคา 33,990 บาท
- Intel Core i7-7700HQ + GTX 1050 (4GB) + RAM 4GB + HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 36,990 บาท
- Intel Core i7-7700HQ + GTX 1050Ti (4GB) + RAM 4GB + HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 39,990 บาท
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม (แม้จะหนักขึ้นก็ตาม) ด้วยความโดดเด่นที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน โดย HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม โดยฝาหลังของตัวเครื่องเป็นสัญลักษณ์รูปตัว X แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตาด้านบน ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบเคฟล่าด้านซ้ายและขวาสากมือที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนด้านล่างจะมีคำว่า OMEN อยู่ วัสดุส่วนนี้เป็นพลาสติกทั้งหมด
ส่วนดีไซน์อื่นๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ก็ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกัน ซึ่งมีการออกแบบที่เกมมิ่งมากๆ อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการปรับปรุงใหม่ที่ทั้งสวยงามด้วยโลโก้ OMEN ช่องดูดลมเย็น รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ที่ดูแล้วมั่นคง รวมไปถึงฝาหลังสามารถถอดมาอัพเกรดหรือทำความสะอาดง่ายขึ้นอีกด้วย เพียงไขน๊อต 10 ตัวและค่อยๆ ดึงขึ้นเท่านั้น
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสีแดงจากแป้นคีย์บอร์ดแบบใหม่ ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า OMEN อยู่เหนือแป้นคีย์บอร์ด ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน ด้านขวาจะเป็น BANG & OLUFSEN การันตีด้านคุณภาพเสียง รวมถึงมีการใช้บานพับแบบแกนเดียวขนาดใหญ่ ที่ดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด พร้อมยกหน้าจอให้ระดับสูงกว่าเดิม ทำให้มุมมองการใช้งานดียิ่งขึ้น
สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ต้องบอกว่างานดีกว่ารุ่นก่อนหน้ามาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจังเกมมิ่งมากกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็น Gaming Notebok ที่ไม่ได้มีติดตั้งไดร์ฟออฟติคอล DVD มาให้ ที่จะว่าไปคนก็ไม่ค่อยได้ใช้กันแล้วล่ะ
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นแดงพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด แน่นอนว่ามาพร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad ด้านขวา ในส่วนของไฟ LED Backlit สีแดงก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว เห็นได้ชัดว่าดูเป็นเกมมิ่งมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญปุ่ม WASD ยังออกแบบแตกต่างด้วยปุ่มสีแดง ตัวหนังสือสีขาวพร้อมไฟสีขาว ที่เราสามารถเลือกเปิดไฟทั้งหมด หรือเปิดเฉพาะ WASD ก็สามารถทำได้
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยมีสัมผัสที่หนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ฟิลลิ่งในการกดดีขึ้น พร้อมเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 15.6″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญพาเนลยังเป็น IPS คุณภาพสูง ให้การแสดงผลที่สมจริงแบบสุดๆ มุมมองกว้างเกือบ 180 องศา ทำให้สีสันแทบไม่เพี้ยนเลย เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ชมภาพยนตร์ ดูวีดีโอ Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ หรือพวกที่เป็นพาเนล TN ทั่วไปมาก เรียกได้ว่า HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ยังทำได้ดีเมื่อเทียบ Gaming Notebook ในราคาใกล้เคียงกันทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP OMEN 15 ปี 2017 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 63% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันได้ดีประมาณหนึ่ง ภาพนี้จะแสดงเป็นตารางที่จะบ่งบอกถึงค่าความสว่างต่อคอนทราสต์ที่ได้ อย่างแรกที่เห็นก็คือความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 239.7 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนขวาเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านล่างซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 20% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
จุดเด่นก็ยังหนีไม่พ้นระบบเสียงและการออกแบบลำโพง จากการติดตั้งลำโพงคุณภาพดีมีตะแกรงสีแดงบริเวณใต้ตัวเครื่องด้านหน้าทั้งซ้ายและขวาจำนวน 2 ตัว ทำงานแบบสเตอริโอ โดยใช้ระบบเสียงด้วย BANG & OLUFSEN ซึ่งได้ให้การแบ่งทิศทางเสียงด้านซ้ายขวา อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต, Mini DisplayPort และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แบบแยกไมค์หูฟังหรือไมค์อย่างเดียว แน่นอนว่ามี SD Card Reader เป็นมาตรฐาน พร้อมพอร์ต LAN ตัวเต็ม รวมไปถึงในตอนนี้มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ แล้ว รวบไปถึงรองรับการชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตอีกด้วย ทั้ง Type-C และ Type-A เลย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.6 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักที่ไม่เกิน 3 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก (แต่กนัดกว่ารุ่นก่อนหน้า) แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ
Inside / Upgrade
การเปิดตัวเครื่องHP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ เพื่อที่จะทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาดภายในตัวเครื่องนั้นถือว่าสามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกว่า OMEN 15 รุ่นก่อนหน้ามากๆ การแกะฝาใต้ตัวเครื่องสามารถทำได้ไม่ยากเพียงคายน็อตจำนวน 10 ตัว ซึ่งจะมีอยู่ 2 ตัวน็อตจะอยู่ยึดไว้กับตัวเครื่องไม่หลุดออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงตัวล็อคฝาจากบริเวณบานพับ ไล่มาจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ได้ (แต่ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังนะ เดี๋ยวเขี้ยวล็อคจะหักเอา)
โดยเมื่อแกะฝาครอบด้านหลังเครื่องออกแล้วเราก็จะเห็นฮาร์ดแวร์ต่างๆ กระจายตัวกันไป ซึ่งในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่เราสามารถทำการอัพเกรดได้เองนั้นก็จะมีหน่วยความจำแรม รวมไปถึงแหล่งเเก็บข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 HDD และ M.2 slot (รองรับ PCIe/NVMe SSD) ซึ่งทีมงานได้อัพเกรดแรมเป็น 8GB ด้วยการเพิ่มแรม 4GB ไปอีกหนึ่งแถว แต่ SSD ไม่มีมีการอัพเกรด (ช่องข้างๆ แรมทางขวา) นอกเหนือจากนี้ก็จะเห็นในส่วนของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4550 mAh และชุดระบายความร้อนด้วยพัดลมสองตัวอีกด้วย
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 บัส 2400 MHz (เดิมๆ มาเพียง 4GB)
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 970M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว อย่างเกมออฟไลน์หนักๆ ปรับกลางๆ สูงๆ เล่นได้สบาย ส่วนเกมออนไลน์ถ้าไม่หนักมากปรับสุดก็แตะ 60 เฟรมขึ้นไปได้ไม่ยาก
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 7200 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 60.2MB/s และสูงสุดที่ 144.6MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 104.5MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.2 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 แบบ NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1516MB/s และเขียนที่ 232MB/s ซึ่งถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับความเร็วในการเขียน แต่ในการใช้งานทั่วไปก็ดีกว่าฮาร์ดดิสป์ปกติมากแล้ว
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ HP OMEN 15 ปี 2017 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 7 เกม โดยรุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้รับมาทดสอบจากทางร้าน Advice โดยเป็นรุ่นตัวท็อปราคา 39,990 บาท แต่ทางทีมงานได้ทำการอัพเกรดในส่วนของแรมเป็น 8GB ไปเรียบร้อยแล้ว เอาว่าไปชมกันเลยดีกว่า
ทดสอบเกมออฟไลน์กินทรัพยากรพอตัวอย่าง Ghost Recon Wildlands (High) / Battlefield 1 (Ultra) /GTA V (High) / Rise of the Tomb Raider (Ultra) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด
อีก 3 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic)/ DOTA 2 (Best)/ PUBG (Ultra) ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ (เว้นแต่ PUBG ที่เฟรมเรทจะต่ำหน่อย เพราะเกมค่อนข้างหนัก) สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
ซึ่งเมื่อเทียบกับผลการทดสอบในส่วนของ HP OMEN 15 ปี 2017 สเปกการ์ดจอ GTX 1050 จะเห็นได้ชัดว่าตัวท็อปสามารถทำเฟรมเรทได้ดียิ่งกว่า ประมาณ 5 – 10 + เฟรมเรท ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่แล้วแต่เกม หรือบางเกมอาจจะมีเฟรมเรทไม่ได้ต่างกันนัก
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP OMEN 15 รุ่นใหม่ปี 2017 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
นอกเหนือจากนั้นยังมีโปรแกรม OMEN Command Center ที่ช่วยแจ้งสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ รวมไปถึงแรมว่าใช้งานขณะนี้ใช้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือบอกส่วนของอุณหภูมิเครื่องด้วยว่าร้อนเย็นแค่ไหน โดยอีกส่วนจะเป็นการแจ้งสถานะการเชื่อมต่อต่อินเตอร์เน็ต และตัว Network Booster ที่ช่วยในการดาวน์โหลดอัพโหลดแต่ละโปรแกรมดยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวดูแล้วเหมือนกับว่าซอฟต์แวร์ตัวนี้อาจจะยังทำไม่เสร็จ 100% คาดว่าในอนาคตน่าจะมีการอัพเดทเพิ่มเติมฟีเจอร์ขึ้นมาอีก
Battery / Heat / Noise
HP OMEN 15 ปี 2017 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,550 mAh โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย (ปรับเป็นโหมด Power Saver) โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บหรือชมวีดีโอ Youtube ได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งเทียบแล้วสามารถที่จะทำเวลาใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ใช้สเปกเดียวกันอย่าง Core i7-7700HQ + GTX 1050Ti ด้วยกัน
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลและการ์ดจอเข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านบน (เหนือแป้นคีย์บอร์ด) แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีขึ้นจริงๆ กว่ารุ่นก่อน อันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนทำได้น่าประทับใจอยู่ จากการที่มีพัดลมสองตัว พร้อมฮีตไปป์สองเส้นเป่าออกด้านหลัง และเทคโนโลยี HP Cool Sense ช่วยจัดการ
ส่วนของอุณหภูมิภายในของ HP OMEN 15 ปี 2017 อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 31 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 85 – 90 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวล ส่วนการ์ดจอสูงสุดอยู่ที่ 77 องศาเท่านั้น (ร้อนกว่ารุ่น GTX 1050 ประมาณ 5 องศา) ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง ยังไงกรณีก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย เอาว่าระบบระบายความร้อนของ HP OMEN 15 ปี 2017 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2017 ทีเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานหนัก อย่างการเล่นเกมหรือเรนเดอร์ไฟล์ เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นจะดังขึ้นมา (แต่เบากว่ารุ่นก่อน) ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2017 ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น การอัพเกรดที่ง่ายกว่าเดิม ในรุ่นราคาตัวท็อปที่ 39,990 บาทแต่จะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย (แม้แรมอาจจะให้มาน้อยไปหน่อยในการเล่นเกม แต่ก็อัพเกรดได้ไม่ยาก)
เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Core i7-7700HQ พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1050Ti (GDDR5 4GB) และแรม DDR4 อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 128GB มาให้พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD IPS ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook ที่ยอดนิยมที่สุดรุ่นนึงก็ว่าได้
เรื่องของการออกแบบที่ HP OMEN 15 ปี 2017 ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ OMEN ที่เป็น Gaming Notebook ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ (WASD เป็นไฟสีขาวปุ่มสีแดง) ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี และการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง และอื่นๆ ยิ่งชี้ตอกย้ำความคุ้มค่าของ HP OMEN 15 ปี 2017 เป็นอย่างดี
ที่สำคัญ HP OMEN 15 ปี 2017 ยังได้ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ปุ่มทิศทางลูกศรที่เล็กเกินไป ทำให้บางคนกดไม่สะดวก รวมถึงมี USB 3.1 Type-C 3.1 ติดตั้งมาให้แล้ว ซึ่งก็ถือว่าทำการบ้านมาดีทีเดียว เอาว่าเพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่าย HP ชั้นนำกันได้เลย รวมไปถึงถ้ารุ่นเริ่มต้นในราคา 33,990 บาทยังแรงไม่พอ ก็สามารถดูเป็นรุ่นกลางที่มาพร้อมกับแรม 4GB และ SSD M.2 ความจุ 128GB มาให้ก็ได้ ในราคาเพียง 36,990 บาท ส่วนถ้าจะไปให้สุดก็ลองดูเป็นรุ่นท็อปไปเลยก็ได้ 39,990 บาท ได้ทั้ง SSD 128GB และการ์ดจอเป็น NIVIDA Geforce GTX 1050Ti ตัวแรงไปเลย
ข้อดี
- ดีไซน์สวยดุดัน วัสดุดี สวยงามตามาสไตล์ OMEN by HP
- งานประกอบดีเรียบร้อย ถอดฝาหลังอัพเกรดและทำความสะอาดได้ง่าย
- สเปคสูงด้วย Core i7-7700HQ + GTX 1050Ti + SSD
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง ยกสูงกว่ารุ่นก่อน
- คีย์บอร์ดใช้งานดียิ่งขึ้น มีลูกเล่นส่วนของ WASD เป็นไฟสีขาว
- ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง BANG & OLUFSEN
- รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 และแรมมาตรฐาน DDR4
- มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้แล้ว
- ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
- HP On site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีกว่าเดิม
ข้อสังเกต
- น้ำหนักเยอะกว่ารุ่นก่อน
- ทุกสเปกให้แรมมาแค่ 4GB ยังไงก็จำเป็นต้องเพิ่ม 8GB เพื่อใช้งานเล่นเกม
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง HP OMEN 15 ปี 2017 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ OMEN by HP มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน HP OMEN 15 ปี 2017 จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Multimedia
ระบบเสียง BANG & OLUFSEN อีกกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปบนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ HP OMEN 15 ปี 2017 จะได้รางวัลนี้ไป
Best Value
เป็น Gaming Notebook ราคา 33,990 บาท ที่ให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 มาให้พร้อมใช้งาน เรียกได้ว่าได้ทั้งสเปคสูงอย่างCore i7-7700HQ และการ์ดจอระดับ GTX 1050 และหน้าจอ Full HD พาเนล IPS ขนาด 15.6 นิ้ว เล่นเกมได้เต็มอารมณ์ พร้อมประกัน On-site 2 ปีอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีงบประมาณจำกัด แต่มองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มๆ เล่นเกมลื่นๆ อยู่แล้วละก็ HP OMEN 15 ปี 2017 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
Best Performance
HP OMEN 15 ปี 2017 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมแรมเริ่มต้นขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 NVMe ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
VDO Review
Specification
สเปคเต็มๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ แบ่งเป็น 3 สเปกด้วยกัน ที่หลักๆ แล้วเลือกติดตั้งชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) Gen 7 Kaby Lake ศักยภาพสูง มีกราฟฟิกการ์ดแยกเกมมิ่งอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) สำหรับรุ่นท็อปสุด โดยมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 960M และ GTX 970M พอตัว รองรับการเล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นๆ ทั้งหมด
นอหเหนือจากนี้ได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลความจุ 1 TB 7200 RPM หรือถ้าเป็นตัวกลางขึ้นไปก็จะได้ SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVME ได้อีก 1 ตัวความจุ 128GB โดยมีแรม DDR4 ขนาด 4GB หนึ่งแถว (เราควรอัพเกรดเป็น 8GB) ตอบรับกับการใช้งานได้ดีในทุกรูปแบบทั้งเกม ทำงาน หรือบันเทิง ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลิขสิทธิ์ ทำให้เราพร้อมใช้งานได้ทันทีในครั้งแรกของการเปิดเครื่อง
หน้าจอแสดงผล HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านพาเนลจอ IPS ให้ความสวยงามสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป มีกล้องเว็บแคมมุมกว้าง และมีไมค์ดิจิตอลแบบคู่ตัดเสียงรบกวนในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือมี USB 3.1 Type-C แล้ว พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac
มิติของตัวเครื่อง HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่มาในขนาดที่ดูเป็น Gaming Notebook มากกว่าเดิม บนน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.6 กิโลกรัมสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 33,990 บาท ส่วนรุ่นกลางจะมีราคา 36,990 บาทโดยเพิ่ม SSD M.2 เข้ามา และตัวท็อปสุดจะตีบวกเพิ่มการ์ดจอเป็น GTX 1050Ti ที่แรงขึ้นประมาณ 20% แน่นอนว่าทุกรุ่นมาพร้อมการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านและบริการ HP SmartFriend เวลา 1 ปีอีกด้วย
โดยสเปก HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ แบบออกเป็น 3 รุ่นได้ดังต่อไปนี้
- Intel Core i7-7700HQ + GTX 1050 (4GB) + RAM 4GB + HDD 1TB ราคา 33,990 บาท
- Intel Core i7-7700HQ + GTX 1050 (4GB) + RAM 4GB + HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 36,990 บาท
- Intel Core i7-7700HQ + GTX 1050Ti (4GB) + RAM 4GB + HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 39,990 บาท
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ต้องบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม (แม้จะหนักขึ้นก็ตาม) ด้วยความโดดเด่นที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน โดย HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม โดยฝาหลังของตัวเครื่องเป็นสัญลักษณ์รูปตัว X แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตาด้านบน ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบเคฟล่าด้านซ้ายและขวาสากมือที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนด้านล่างจะมีคำว่า OMEN อยู่ วัสดุส่วนนี้เป็นพลาสติกทั้งหมด
ส่วนดีไซน์อื่นๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ก็ถือว่าน่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยด้านหลังได้มีการวางตำแหน่งช่องระบายความร้อนแบบคู่แยกซ้ายขวาออกจากกัน ซึ่งมีการออกแบบที่เกมมิ่งมากๆ อีกทั้งใต้ตัวเครื่องก็มีการปรับปรุงใหม่ที่ทั้งสวยงามด้วยโลโก้ OMEN ช่องดูดลมเย็น รวมไปถึงยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ที่ดูแล้วมั่นคง รวมไปถึงฝาหลังสามารถถอดมาอัพเกรดหรือทำความสะอาดง่ายขึ้นอีกด้วย เพียงไขน๊อต 10 ตัวและค่อยๆ ดึงขึ้นเท่านั้น
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน วัสดุจะเป็นอลูมิเนียมแบบขัดลายสวยงามให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ตัดด้วยไฟสีแดงจากแป้นคีย์บอร์ดแบบใหม่ ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี อีกทั้งยังมีคำว่า OMEN อยู่เหนือแป้นคีย์บอร์ด ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่ม Power มีไฟเมื่อเปิดใช้งาน ด้านขวาจะเป็น BANG & OLUFSEN การันตีด้านคุณภาพเสียง รวมถึงมีการใช้บานพับแบบแกนเดียวขนาดใหญ่ ที่ดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด พร้อมยกหน้าจอให้ระดับสูงกว่าเดิม ทำให้มุมมองการใช้งานดียิ่งขึ้น
สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ต้องบอกว่างานดีกว่ารุ่นก่อนหน้ามาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือจะเอาไปทำงานเล่นอินเตอร์เน็ตก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความดุดันและจริงจังเกมมิ่งมากกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็น Gaming Notebok ที่ไม่ได้มีติดตั้งไดร์ฟออฟติคอล DVD มาให้ ที่จะว่าไปคนก็ไม่ค่อยได้ใช้กันแล้วล่ะ
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นแดงพร้อมฟอนต์ที่ดูเข้ากับตัวเครื่อง อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด แน่นอนว่ามาพร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad ด้านขวา ในส่วนของไฟ LED Backlit สีแดงก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว เห็นได้ชัดว่าดูเป็นเกมมิ่งมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญปุ่ม WASD ยังออกแบบแตกต่างด้วยปุ่มสีแดง ตัวหนังสือสีขาวพร้อมไฟสีขาว ที่เราสามารถเลือกเปิดไฟทั้งหมด หรือเปิดเฉพาะ WASD ก็สามารถทำได้
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยมีสัมผัสที่หนืดเล็กน้อย ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกซ้ายขวา ทำให้ฟิลลิ่งในการกดดีขึ้น พร้อมเด้งรับกับนิ้วเป็นอย่างดี การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 15.6″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญพาเนลยังเป็น IPS คุณภาพสูง ให้การแสดงผลที่สมจริงแบบสุดๆ มุมมองกว้างเกือบ 180 องศา ทำให้สีสันแทบไม่เพี้ยนเลย เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ชมภาพยนตร์ ดูวีดีโอ Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ หรือพวกที่เป็นพาเนล TN ทั่วไปมาก เรียกได้ว่า HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ ยังทำได้ดีเมื่อเทียบ Gaming Notebook ในราคาใกล้เคียงกันทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ HP OMEN 15 ปี 2017 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS ทางทีมงานเลยถือโอกาสทดสอบหน้าจอแบบละเอียดๆ ด้วยเครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite พร้อมทั้งคาลิเบรทหน้าจอให้สีสันมีความตรงความเป็นจริงมากที่สุด ซึ่งเมื่อคาลิเบรตแล้วเราก็เลือกโปรไฟล์ที่เราได้คาลิเบรทเอาไว้ ผลที่ได้หลังจากที่คาลิเบรทก็คือคอนทราสต์มีการไล่โทนที่กว้างขึ้น รวมไปถึงมีสีสันและอุณหภูมิสีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน จากโทนเย็นกลายเป็นโทนอุ่น
โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 63% ดูจากที่เส้นสีของหน้าจอจะเป็นสีแดง เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันได้ดีประมาณหนึ่ง ภาพนี้จะแสดงเป็นตารางที่จะบ่งบอกถึงค่าความสว่างต่อคอนทราสต์ที่ได้ อย่างแรกที่เห็นก็คือความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 239.7 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าขอบจอด้านบนขวาเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับขอบจอด้านล่างซ้ายเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปถึงระดับ 20% เลยทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนน 3.5 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
จุดเด่นก็ยังหนีไม่พ้นระบบเสียงและการออกแบบลำโพง จากการติดตั้งลำโพงคุณภาพดีมีตะแกรงสีแดงบริเวณใต้ตัวเครื่องด้านหน้าทั้งซ้ายและขวาจำนวน 2 ตัว ทำงานแบบสเตอริโอ โดยใช้ระบบเสียงด้วย BANG & OLUFSEN ซึ่งได้ให้การแบ่งทิศทางเสียงด้านซ้ายขวา อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 3 พอร์ต, Mini DisplayPort และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แบบแยกไมค์หูฟังหรือไมค์อย่างเดียว แน่นอนว่ามี SD Card Reader เป็นมาตรฐาน พร้อมพอร์ต LAN ตัวเต็ม รวมไปถึงในตอนนี้มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ แล้ว รวบไปถึงรองรับการชาร์จไฟไปยังอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตอีกด้วย ทั้ง Type-C และ Type-A เลย
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2.6 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีน้ำหนักที่ไม่เกิน 3 กิโลกรัม ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่หนักจนเกินไปนัก (แต่กนัดกว่ารุ่นก่อนหน้า) แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ
Inside / Upgrade
การเปิดตัวเครื่องHP OMEN 15 ปี 2017 รุ่นใหม่ เพื่อที่จะทำการอัพเกรดหรือทำความสะอาดภายในตัวเครื่องนั้นถือว่าสามารถทำได้ค่อนข้างง่ายกว่า OMEN 15 รุ่นก่อนหน้ามากๆ การแกะฝาใต้ตัวเครื่องสามารถทำได้ไม่ยากเพียงคายน็อตจำนวน 10 ตัว ซึ่งจะมีอยู่ 2 ตัวน็อตจะอยู่ยึดไว้กับตัวเครื่องไม่หลุดออกมา จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงตัวล็อคฝาจากบริเวณบานพับ ไล่มาจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายก็ได้ (แต่ก็ต้องทำด้วยความระมัดระวังนะ เดี๋ยวเขี้ยวล็อคจะหักเอา)
โดยเมื่อแกะฝาครอบด้านหลังเครื่องออกแล้วเราก็จะเห็นฮาร์ดแวร์ต่างๆ กระจายตัวกันไป ซึ่งในส่วนของฮาร์ดแวร์ที่เราสามารถทำการอัพเกรดได้เองนั้นก็จะมีหน่วยความจำแรม รวมไปถึงแหล่งเเก็บข้อมูลทั้งฮาร์ดดิสก์ SATA 2.5 HDD และ M.2 slot (รองรับ PCIe/NVMe SSD) ซึ่งทีมงานได้อัพเกรดแรมเป็น 8GB ด้วยการเพิ่มแรม 4GB ไปอีกหนึ่งแถว แต่ SSD ไม่มีมีการอัพเกรด (ช่องข้างๆ แรมทางขวา) นอกเหนือจากนี้ก็จะเห็นในส่วนของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 4550 mAh และชุดระบายความร้อนด้วยพัดลมสองตัวอีกด้วย
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 บัส 2400 MHz (เดิมๆ มาเพียง 4GB)
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050Ti ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 970M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว อย่างเกมออฟไลน์หนักๆ ปรับกลางๆ สูงๆ เล่นได้สบาย ส่วนเกมออนไลน์ถ้าไม่หนักมากปรับสุดก็แตะ 60 เฟรมขึ้นไปได้ไม่ยาก
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 7200 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 60.2MB/s และสูงสุดที่ 144.6MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 104.5MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.2 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว ทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2 แบบ NVMe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 1516MB/s และเขียนที่ 232MB/s ซึ่งถือว่าน้อยไปหน่อยสำหรับความเร็วในการเขียน แต่ในการใช้งานทั่วไปก็ดีกว่าฮาร์ดดิสป์ปกติมากแล้ว
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ HP OMEN 15 ปี 2017 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 7 เกม โดยรุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้รับมาทดสอบจากทางร้าน Advice โดยเป็นรุ่นตัวท็อปราคา 39,990 บาท แต่ทางทีมงานได้ทำการอัพเกรดในส่วนของแรมเป็น 8GB ไปเรียบร้อยแล้ว เอาว่าไปชมกันเลยดีกว่า
ทดสอบเกมออฟไลน์กินทรัพยากรพอตัวอย่าง Ghost Recon Wildlands (High) / Battlefield 1 (Ultra) /GTA V (High) / Rise of the Tomb Raider (Ultra) ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด
อีก 3 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch (Epic)/ DOTA 2 (Best)/ PUBG (Ultra) ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ (เว้นแต่ PUBG ที่เฟรมเรทจะต่ำหน่อย เพราะเกมค่อนข้างหนัก) สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
ซึ่งเมื่อเทียบกับผลการทดสอบในส่วนของ HP OMEN 15 ปี 2017 สเปกการ์ดจอ GTX 1050 จะเห็นได้ชัดว่าตัวท็อปสามารถทำเฟรมเรทได้ดียิ่งกว่า ประมาณ 5 – 10 + เฟรมเรท ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่แล้วแต่เกม หรือบางเกมอาจจะมีเฟรมเรทไม่ได้ต่างกันนัก
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP OMEN 15 รุ่นใหม่ปี 2017 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
นอกเหนือจากนั้นยังมีโปรแกรม OMEN Command Center ที่ช่วยแจ้งสถานะการทำงานของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผลและการ์ดจอ รวมไปถึงแรมว่าใช้งานขณะนี้ใช้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือบอกส่วนของอุณหภูมิเครื่องด้วยว่าร้อนเย็นแค่ไหน โดยอีกส่วนจะเป็นการแจ้งสถานะการเชื่อมต่อต่อินเตอร์เน็ต และตัว Network Booster ที่ช่วยในการดาวน์โหลดอัพโหลดแต่ละโปรแกรมดยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวดูแล้วเหมือนกับว่าซอฟต์แวร์ตัวนี้อาจจะยังทำไม่เสร็จ 100% คาดว่าในอนาคตน่าจะมีการอัพเดทเพิ่มเติมฟีเจอร์ขึ้นมาอีก
Battery / Heat / Noise
HP OMEN 15 ปี 2017 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4,550 mAh โดยเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย (ปรับเป็นโหมด Power Saver) โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บหรือชมวีดีโอ Youtube ได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งเทียบแล้วสามารถที่จะทำเวลาใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คเล่นเกมที่ใช้สเปกเดียวกันอย่าง Core i7-7700HQ + GTX 1050Ti ด้วยกัน
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้นชิปประมวลผลและการ์ดจอเข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านบน (เหนือแป้นคีย์บอร์ด) แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีขึ้นจริงๆ กว่ารุ่นก่อน อันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนทำได้น่าประทับใจอยู่ จากการที่มีพัดลมสองตัว พร้อมฮีตไปป์สองเส้นเป่าออกด้านหลัง และเทคโนโลยี HP Cool Sense ช่วยจัดการ
ส่วนของอุณหภูมิภายในของ HP OMEN 15 ปี 2017 อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 31 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 85 – 90 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวล ส่วนการ์ดจอสูงสุดอยู่ที่ 77 องศาเท่านั้น (ร้อนกว่ารุ่น GTX 1050 ประมาณ 5 องศา) ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง ยังไงกรณีก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย เอาว่าระบบระบายความร้อนของ HP OMEN 15 ปี 2017 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2017 ทีเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานหนัก อย่างการเล่นเกมหรือเรนเดอร์ไฟล์ เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นจะดังขึ้นมา (แต่เบากว่ารุ่นก่อน) ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ HP OMEN 15 ปี 2017 ทั้งการเล่นเกมหลากหลายเกม รวมไปถึงทำงานและความบันเทิงดูหนังฟังเพลง บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้น รวมไปถึงระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้น การอัพเกรดที่ง่ายกว่าเดิม ในรุ่นราคาตัวท็อปที่ 39,990 บาทแต่จะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย (แม้แรมอาจจะให้มาน้อยไปหน่อยในการเล่นเกม แต่ก็อัพเกรดได้ไม่ยาก)
เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Core i7-7700HQ พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1050Ti (GDDR5 4GB) และแรม DDR4 อีกทั้งยังมี SSD แบบ M.2 NVMe ความจุ 128GB มาให้พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังมีหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD IPS ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน สมกับเป็น Gaming Notebook ที่ยอดนิยมที่สุดรุ่นนึงก็ว่าได้
เรื่องของการออกแบบที่ HP OMEN 15 ปี 2017 ทำได้ดีมาก ฉีกรูปแบบเดิมๆ ออกไป ด้วยดีไซน์สไตล์ OMEN ที่เป็น Gaming Notebook ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟแบบพิเศษ (WASD เป็นไฟสีขาวปุ่มสีแดง) ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี และการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง และอื่นๆ ยิ่งชี้ตอกย้ำความคุ้มค่าของ HP OMEN 15 ปี 2017 เป็นอย่างดี
ที่สำคัญ HP OMEN 15 ปี 2017 ยังได้ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ปุ่มทิศทางลูกศรที่เล็กเกินไป ทำให้บางคนกดไม่สะดวก รวมถึงมี USB 3.1 Type-C 3.1 ติดตั้งมาให้แล้ว ซึ่งก็ถือว่าทำการบ้านมาดีทีเดียว เอาว่าเพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่าย HP ชั้นนำกันได้เลย รวมไปถึงถ้ารุ่นเริ่มต้นในราคา 33,990 บาทยังแรงไม่พอ ก็สามารถดูเป็นรุ่นกลางที่มาพร้อมกับแรม 4GB และ SSD M.2 ความจุ 128GB มาให้ก็ได้ ในราคาเพียง 36,990 บาท ส่วนถ้าจะไปให้สุดก็ลองดูเป็นรุ่นท็อปไปเลยก็ได้ 39,990 บาท ได้ทั้ง SSD 128GB และการ์ดจอเป็น NIVIDA Geforce GTX 1050Ti ตัวแรงไปเลย
ข้อดี
- ดีไซน์สวยดุดัน วัสดุดี สวยงามตามาสไตล์ OMEN by HP
- งานประกอบดีเรียบร้อย ถอดฝาหลังอัพเกรดและทำความสะอาดได้ง่าย
- สเปคสูงด้วย Core i7-7700HQ + GTX 1050Ti + SSD
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง ยกสูงกว่ารุ่นก่อน
- คีย์บอร์ดใช้งานดียิ่งขึ้น มีลูกเล่นส่วนของ WASD เป็นไฟสีขาว
- ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง BANG & OLUFSEN
- รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 และแรมมาตรฐาน DDR4
- มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้แล้ว
- ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
- HP On site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีกว่าเดิม
ข้อสังเกต
- น้ำหนักเยอะกว่ารุ่นก่อน
- ทุกสเปกให้แรมมาแค่ 4GB ยังไงก็จำเป็นต้องเพิ่ม 8GB เพื่อใช้งานเล่นเกม
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง HP OMEN 15 ปี 2017 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ OMEN by HP มาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน HP OMEN 15 ปี 2017 จากการที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเดิม ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คเกมเมอร์รุ่นใหม่ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Multimedia
ระบบเสียง BANG & OLUFSEN อีกกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปบนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ HP OMEN 15 ปี 2017 จะได้รางวัลนี้ไป
Best Value
เป็น Gaming Notebook ราคา 33,990 บาท ที่ให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 มาให้พร้อมใช้งาน เรียกได้ว่าได้ทั้งสเปคสูงอย่างCore i7-7700HQ และการ์ดจอระดับ GTX 1050 และหน้าจอ Full HD พาเนล IPS ขนาด 15.6 นิ้ว เล่นเกมได้เต็มอารมณ์ พร้อมประกัน On-site 2 ปีอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีงบประมาณจำกัด แต่มองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มๆ เล่นเกมลื่นๆ อยู่แล้วละก็ HP OMEN 15 ปี 2017 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
Best Performance
HP OMEN 15 ปี 2017 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมแรมเริ่มต้นขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 NVMe ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล