อีกหนึ่งการ์ดจอที่มีคนรอคอยกันมากที่สุดจ่ายค่าย AMD กับการ์ดจอ RADEON RX VEGA รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม VEGA และแรมแบบ HBM2 ที่มีแบนด์วิดท์สูงมาก ซึ่งเป็นจุดเด่นของการ์ดจอตัวท๊อปจาก AMD สานต่อความแรงจากการ์ดจอตัวท๊อปรุ่นพี่ R9 FURY ที่มีแรมแบบ HBM1 แน่นอนว่า VEGA นั้นมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงกว่า ความแรงที่มากกว่า และเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า เหมาะสำหรับการประมวลผลภาพ การเล่นเกม และประกอบคอมพิวเตอร์จดสเปคในระดับ Hi-end
AMD RADEON RX VEGA 64 คือการ์ดจอรุ่นท๊อปของ RX VEGA โดยรุ่นที่นำมาทดสอบในครั้งนี้จะเป็นการ์ดจอแบบ Reference ที่ใช้ชุดระบายความร้อนแบบดั้งเดิมจาก AMD ที่ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบคงเดิมที่ถูกใช้มาตั้งแต่รุ่น R9 300 series แต่ VEGA 64 มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า ที่สามารถเทียบกับการ์ดจอระดะรับสูงของอีกค่ายได้แบบสูสี ด้วยพลังในการประมวลผลของสถาปัตยกรรม VEGA และแรมแบนด์วิดท์สูง ทำ VEGA 64 ยังคงเป็นการ์ดจอที่ยังคงแสดงจุดยืนของ AMD ได้อย่างชัดเจน ในด้านประสิทธิภาพในราคา 25,900 บาท
Specification
RADEON RX VEGA 64 จะมาพร้อมกับ Stream Processors 4096 หน่วย ความเร็ว Base Clock 1247 MHz / Boost Clock 1546 MHz ส่วนจุดขายหลักคือ RAM 8GB ที่มีปริมาณในการส่งข้อมูลระหว่าง RAM กับ GPU ที่มีค่า Memory Bandwidth 484 GB/s ตามมาตรฐานความเร็วของ HBM 2 ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ ถ้าเทียบกับการ์ดจอที่ใช้แรมแบบธรรมดา ในส่วนของการกินไฟมีค่า TDP 295W ถือว่าค่อนข้างสูงกว่าค่ายคู่แข่งในระดับหนึ่งถ้าเทียบกับการ์ดจอในระดับเดียวกัน
Package and Bundle
AMD RADEON RX VEGA 64 สำหรับตัว Package จะมาเป็นแบบ Press Kit จาก AMD ที่ส่งมอบให้สื่อมารีวิว ซึ่งมันก็จะดูอลังการไปสักหน่อย โดยหน้าตาตัวกล่องนั้นมาในรูปโฉมกล่องโทนสี ดำ-แดง ขนาดใหญ่และหนักกว่ากล่องการ์ดจอทั่ว ๆ ไป และผิวกล่องนั้นอมขี้มือมาก คนมือเปียกห้ามจับเด็ดขาด จับนิดจับหน่อยเป็นรอยมือเพียบ เมือ Unbox กล่องภายนอกออกจะเจอกับกล่องสีดำที่สามารถกางออกมาเป็นฐานได้ ซึ่งเป็น Package ที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน
เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะเจอผลึกคริสตัลทรงลูกบาศมีโฮโลแกรมโลโก้ VEGA อยู่ภายในพร้อมคู่มือแนะนำตัวการ์ดและกล่องอีก 2 กล่อง ในส่วนกล่องใบเล็กนั้นจะบรรจุ ชิป VEGA ตัวเดโม่ไว้โชว์สื่อ พร้อมกับริชแบนด์ และสติ๊กเกอร์ VEGA เป็นของที่ระลึก ส่วนกล่องตรงกลางนั้นคือกล่องการ์ดจอ เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับการ์ดจอที่นอนสงบนิ่งอยู่ภายใน โดยรวมแล้วถือว่า AMD ออกแบบ Package ได้น่าประทับใจไม่แพ้กับ Package RYZEN Threadripper ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้
Design
Design ของ RX VEGA 64 นั้นเรียกได้ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยในตัวการ์ดแบบ RFE. ซึงมาพร้อมกับซิงก์ยาวทรงกล่องดินสอที่มาพร้อมกับพัดลม Blower ซึ่งโมเดลนี้ถูกใช้มาอย่างยาวนานขตั้งแต่การ์ดจอรุ่น R9 300 Series แต่ก็ถือว่ายังเป็นโมเดลที่สวยค่อนข้างคลาสสิกไปแล้ว โดยรายละเอียดบนตัวการ์ดรุ่นนี้จะมาพร้อมกับชุดระบายความร้อนที่มีตัว Cover ผลิตจากวัสดุพลาสติก ABS ส่วนผิวหน้าเป็นแบบเคลือบยาง พื้นผิวลายจุดทั่วทั่วตัวการ์ด พร้อมกับโลโก้ RADEON ทั้งหน้าหน้าและด้านขาง ซึ่งส่วนด้านข้างนั้นมีไฟ LED สีแดงอยู่ภายในด้วย ส่วนพัดลมนั้นมีโลโก้ตัว R ที่ย่อมาจากคำว่า RADEON
ส่วนข้างหลังนั้นมาพร้อมกับ Black-plate สีดำสนิด เจาะช่องเว้นว่างด้านหลังชิป GPU เพื่อการระบายความร้อน ในส่วนตรงพอร์ตไฟเลี้ยงมีไฟ LED ติดตั้งมาเพื่อบอกอัตตราการโหลดกระแสไฟ โดยมีสวิชเปิดปิดและเปลี่ยนสีอยู่ที่ด้านข้างเป็นลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการ์ดจอตัวนี้ ส่วนพอร์ตไฟเลี้ยงนั้นมาพร้อมกับ 8 Pin 2 พอร์ต เพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟได้ถึง 295W หรือมากกว่านั้นเกือบ ๆ 400W ได้แบบสบาย ๆ ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อนั้นมาพร้อมกับ Display Port 3 พอร์ต และ HDMI 1 พอร์ต ซึ่งการ์ดจอทรงนี้อากาศร้อนจะถูกเป่าออกทางด้านหลังตัวการ์ดทั้งหมด ทำให้ไม่มีความร้อนสะสมในเคส
Performance
สเปคที่ใช้ในการทดสอบการ์ดจอ AMD Radeon™ RX VEGA 64 นั้นได้เลือกใช้ CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง i7 7700k เพื่อให้การ์ดจอสามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุดโดยไม่เกิดอาการคอขวด
- CPU Intel Core i7 7700K
- M/B Biostar Z270 GT4
- RAM Corsair Vengeance 16 GB DDR4
- SSD Kingston Hyper X Predator 480GB M.2
- GPU AMD Radeon™ RX VEGA 64
- PSU COUGAR CMX 1200W
ส่วนสเปคของการ์ดจอจากโปรแกรม GPU-Z กับการ์ดจอ VEGA 64 ที่ใช้สภาปัตยกรรม VEGA มี Stream Processor 4096 หน่วย รองรับ Direct X 12 มีแรม 8GB HBM2, Bus Widh 2048 Bit, Bandwidth 483.8 GB/s และ Memory Speed 945 MHz ส่วนความเร็ว Base Clock 1630 MHZ
การทดสอบกับโปรแกรม FurMark บนความละเอียดระดับ Full HD สามารถทำคะแนนในการทดสอบได้ 7,638 คะแนน เฟรมเรทเฉลี่ย 127 FPS มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า RX 580 ถึง 2 เท่า
การทดสอบแรกกับโปรแกรม 3DMark ในการทดสอบ Fire Strike ซึ่งเป็นการทดสอบที่มักนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการทดสอบการ์ดจอ หรือทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกในระดับสูงบนความละเอียดระดับ Full HD ซิ่งคอมพิวเตอร์ที่เราได้ใช้ทำการทดสอบร่วมกับการ์ดจอ VEGA 64 สามารถทำคะแนนรวมได้ 17,500 คะแนน โดยเป็นคะแนนด้านกราฟฟิกในส่วนของ Graphic Score 21,981 คะแนน ถือว่าคะแนนรวมสูสีกับการ์ดจอ GTX 1080 เลยทีเดียว
การทดสอบ 3DMark Fire Strike Ultra เป็นการทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกในระดับ 4K ซึ่งการ์ดจอ RX VEGA 64 ทำคะแนน Graphic 5,326 คะแนน ส่วนเฟรมเรทเฉลี่ยได้ที่ประมาณ 20-30 FPS สำหรับกราฟฟิกความละเอียดระดับ 4K ถ้าหากเป็นการเล่นเกมควรใช้ความละเอียดที่ Full HD จะเหมาะกว่า แต่ถ้าหากเป็นการดูหนัง หรือต่อหน้าจอ 4K ก็สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ
การทดสอบ 3DMark Time Spy เป็นการทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกบน DX 12 ซึ่งการ์ดจอ RX VEGA 64 ทำคะแนน Graphic 6,942 คะแนน บนเฟรมเรทเฉลี่ยได้ที่ประมาณ 40-50 FPS ถือว่าตอบสนองเกมที่รองรับ DX 12 ได้ดีเยี่ยมซึ่งมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า GTX 1080
สำหรับอุณหภูมิสูงสุดที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม Furmark และเปิดพัดลมโหมดออโต้ จะสังเกตได้ว่าการ์ดจอมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 74 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวการ์ดจะรักษาอุณหภูมิไม่ให้เกิน 85 องศาเซลเซียส ซึ่งชุดระบายความร้อนแบบ Ref. ค่อนข้างที่จะเสียงดังไปสักเล็กน้อยจากพัดลมโบลเวอร์ แต่ถือว่าก็สามารถจัดการเรื่องความร้อนได้อยู่หมัด
ในส่วนของการทดสอบเล่นเกมสามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหาในทุก ๆ แนวเกมด้วยกราฟฟิกระดับสูงสุดบนความละเอียด Full HD ในเกมระดับล่างถึงปานกลาง เช่นเกม PUBG, H1Z1, CSGO หรือ Overwatch ซึ่งสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นด้วยเฟรมเรทเฉลี่ยระดับ 100 FPS+ ในส่วนของเกมระดับสูง ๆ
ซึ่งในการทดสอบเราเน้นเกมที่ต้องการสเปคคอมในระดับสูงมากทั้งสิ้น เช่นเกม Battlefield 1, GTA V, Tomb Rider สามารถปรับกราฟฟิกได้สุดหมดรวมไปถึง Anti-aliasing เพื่อความสวยงามของกราฟฟิก โดยให้กราฟฟิกอยู่ในช่วง 50-70 FPS แต่การเล่นเกมในระดับ 4K นั้นค่อนข้างทำเฟรมเราออกมาได้ต่ำถ้าหากปรับกราฟฟิกในระดับสูง
Conclusions and Awards
AMD Radeon RX VEGA 64 คือการ์ดจอที่ถูกออกแบบมาให้อยู่ในระดับ Hi-End ทั้งตัวชุดระบายความร้อน ประสิทธิภาพ การเล่นเกม การ OC รวมถึงการออกแบบตัวการ์ดโดยรวม ทำออกมาได้น่าประทับใจ ถึงแม้ว่าหน้าตาตัวการ์ดยังคงใช้รูปแบบเดิม แต่มันก็ยังคงมีสเน่ห์อย่างแปลกประหลาด แต่ในส่วนของการกินไฟที่มาถึง 295W นั้นอาจจะเป็นจุดด่างใหญ่ ๆ ที่ทำให้ใคร ๆ หลายคนต้องชะงักเลยทีเดียว แต่กลับกัน อุณหภูมิค่อนข้างที่จะต่ำถึงแม้จะใช้ชุดระบายความร้อนแบบ Ref. เชื่อว่าห้าหากใช้ชุดระบายความร้อนที่ออกแบบโดยค่ายต่าง ๆ จะทำให้มันเย็นได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน
สรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ AMD Radeon RX VEGA 64 คือการ์ดจอที่มีจุดเด่นคือแรมความเร็วสูง และการกินไฟที่สูงมาก ซึ่งทำให้การ์ดจอรุ่นนี้มีประสิทธิภาพสูง OC ได้ไกลและแรงมาก เหมาะสำหรับการนำไปเล่นเกมที่กราฟฟิกระดับสูง รวมถึงการทำงานด้านต่าง ๆ เช่นตัดต่อวีดีโอ ซึ่งการ์ดจอรุ่นนี้ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานในหลาย ๆ ด้าน และแน่นอนว่า VEGA 64 นั้นสามรถเทียบได้กับ GTX 1080 แต่ถ้าหากถามว่ารุ่นไหนคุ้มกว่า ก็คงต้องดูเกมที่เล่นด้วย เพราะบางเกม VEGA 64 สามารถทำเฟรมเรทได้สูงกว่า และราคาค่าตัวของมันอยู่ที่ 25,900 บาทถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการ์ดจอระดับ Hi-End
ข้อดี
- ปรับกราฟฟิกเกมระดับ Full HD สุดหมดทุกอย่างได้แบบสบาย ๆ
- รองรับเกมบน DX12 ได้ดีเยี่ยม
- Overclock ได้ไกล
ข้อสังเกต
- กินไฟค่อนข้างมาก
AWARD
Best Technology เหนือกว่าค่ายอื่นด้วย HBM2 หรือ High Bandwidth Memory 2 ที่มีอยู่ในเฉพาะการ์ดจอ AMD รุ่นท๊อปเท่านั้น ซึ่งแบนวิดธ์ที่กว้างทำให้สามารถส่งข้อมูลได้ไว ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนการ์ดจอค่ายค่ายอื่นที่นิยมใช้แรมแบบ GDDR5
Best Performance ประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงที่สามารถปรับกราฟฟิกได้สุดหมดบนเฟรมเรทระดับ 60FPS+ รวมถึงสามารถเล่นเกมในระดับ 4K ได้สบาย ๆ ส่วนการ Overclock ก็ยังสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับเป็นการ์ดจอในระดับ Hiend จาก AMD ที่หลาย ๆ คนรอคอย
Specification
RADEON RX VEGA 64 จะมาพร้อมกับ Stream Processors 4096 หน่วย ความเร็ว Base Clock 1247 MHz / Boost Clock 1546 MHz ส่วนจุดขายหลักคือ RAM 8GB ที่มีปริมาณในการส่งข้อมูลระหว่าง RAM กับ GPU ที่มีค่า Memory Bandwidth 484 GB/s ตามมาตรฐานความเร็วของ HBM 2 ซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ ถ้าเทียบกับการ์ดจอที่ใช้แรมแบบธรรมดา ในส่วนของการกินไฟมีค่า TDP 295W ถือว่าค่อนข้างสูงกว่าค่ายคู่แข่งในระดับหนึ่งถ้าเทียบกับการ์ดจอในระดับเดียวกัน
Package and Bundle
AMD RADEON RX VEGA 64 สำหรับตัว Package จะมาเป็นแบบ Press Kit จาก AMD ที่ส่งมอบให้สื่อมารีวิว ซึ่งมันก็จะดูอลังการไปสักหน่อย โดยหน้าตาตัวกล่องนั้นมาในรูปโฉมกล่องโทนสี ดำ-แดง ขนาดใหญ่และหนักกว่ากล่องการ์ดจอทั่ว ๆ ไป และผิวกล่องนั้นอมขี้มือมาก คนมือเปียกห้ามจับเด็ดขาด จับนิดจับหน่อยเป็นรอยมือเพียบ เมือ Unbox กล่องภายนอกออกจะเจอกับกล่องสีดำที่สามารถกางออกมาเป็นฐานได้ ซึ่งเป็น Package ที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน
เมื่อเปิดกล่องออกมาก็จะเจอผลึกคริสตัลทรงลูกบาศมีโฮโลแกรมโลโก้ VEGA อยู่ภายในพร้อมคู่มือแนะนำตัวการ์ดและกล่องอีก 2 กล่อง ในส่วนกล่องใบเล็กนั้นจะบรรจุ ชิป VEGA ตัวเดโม่ไว้โชว์สื่อ พร้อมกับริชแบนด์ และสติ๊กเกอร์ VEGA เป็นของที่ระลึก ส่วนกล่องตรงกลางนั้นคือกล่องการ์ดจอ เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับการ์ดจอที่นอนสงบนิ่งอยู่ภายใน โดยรวมแล้วถือว่า AMD ออกแบบ Package ได้น่าประทับใจไม่แพ้กับ Package RYZEN Threadripper ที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้
Design
Design ของ RX VEGA 64 นั้นเรียกได้ว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยในตัวการ์ดแบบ RFE. ซึงมาพร้อมกับซิงก์ยาวทรงกล่องดินสอที่มาพร้อมกับพัดลม Blower ซึ่งโมเดลนี้ถูกใช้มาอย่างยาวนานขตั้งแต่การ์ดจอรุ่น R9 300 Series แต่ก็ถือว่ายังเป็นโมเดลที่สวยค่อนข้างคลาสสิกไปแล้ว โดยรายละเอียดบนตัวการ์ดรุ่นนี้จะมาพร้อมกับชุดระบายความร้อนที่มีตัว Cover ผลิตจากวัสดุพลาสติก ABS ส่วนผิวหน้าเป็นแบบเคลือบยาง พื้นผิวลายจุดทั่วทั่วตัวการ์ด พร้อมกับโลโก้ RADEON ทั้งหน้าหน้าและด้านขาง ซึ่งส่วนด้านข้างนั้นมีไฟ LED สีแดงอยู่ภายในด้วย ส่วนพัดลมนั้นมีโลโก้ตัว R ที่ย่อมาจากคำว่า RADEON
ส่วนข้างหลังนั้นมาพร้อมกับ Black-plate สีดำสนิด เจาะช่องเว้นว่างด้านหลังชิป GPU เพื่อการระบายความร้อน ในส่วนตรงพอร์ตไฟเลี้ยงมีไฟ LED ติดตั้งมาเพื่อบอกอัตตราการโหลดกระแสไฟ โดยมีสวิชเปิดปิดและเปลี่ยนสีอยู่ที่ด้านข้างเป็นลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการ์ดจอตัวนี้ ส่วนพอร์ตไฟเลี้ยงนั้นมาพร้อมกับ 8 Pin 2 พอร์ต เพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟได้ถึง 295W หรือมากกว่านั้นเกือบ ๆ 400W ได้แบบสบาย ๆ ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อนั้นมาพร้อมกับ Display Port 3 พอร์ต และ HDMI 1 พอร์ต ซึ่งการ์ดจอทรงนี้อากาศร้อนจะถูกเป่าออกทางด้านหลังตัวการ์ดทั้งหมด ทำให้ไม่มีความร้อนสะสมในเคส
Performance
สเปคที่ใช้ในการทดสอบการ์ดจอ AMD Radeon™ RX VEGA 64 นั้นได้เลือกใช้ CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง i7 7700k เพื่อให้การ์ดจอสามารถแสดงประสิทธิภาพออกมาได้สูงสุดโดยไม่เกิดอาการคอขวด
- CPU Intel Core i7 7700K
- M/B Biostar Z270 GT4
- RAM Corsair Vengeance 16 GB DDR4
- SSD Kingston Hyper X Predator 480GB M.2
- GPU AMD Radeon™ RX VEGA 64
- PSU COUGAR CMX 1200W
ส่วนสเปคของการ์ดจอจากโปรแกรม GPU-Z กับการ์ดจอ VEGA 64 ที่ใช้สภาปัตยกรรม VEGA มี Stream Processor 4096 หน่วย รองรับ Direct X 12 มีแรม 8GB HBM2, Bus Widh 2048 Bit, Bandwidth 483.8 GB/s และ Memory Speed 945 MHz ส่วนความเร็ว Base Clock 1630 MHZ
การทดสอบกับโปรแกรม FurMark บนความละเอียดระดับ Full HD สามารถทำคะแนนในการทดสอบได้ 7,638 คะแนน เฟรมเรทเฉลี่ย 127 FPS มีประสิทธิภาพที่สูงกว่า RX 580 ถึง 2 เท่า
การทดสอบแรกกับโปรแกรม 3DMark ในการทดสอบ Fire Strike ซึ่งเป็นการทดสอบที่มักนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการทดสอบการ์ดจอ หรือทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกในระดับสูงบนความละเอียดระดับ Full HD ซิ่งคอมพิวเตอร์ที่เราได้ใช้ทำการทดสอบร่วมกับการ์ดจอ VEGA 64 สามารถทำคะแนนรวมได้ 17,500 คะแนน โดยเป็นคะแนนด้านกราฟฟิกในส่วนของ Graphic Score 21,981 คะแนน ถือว่าคะแนนรวมสูสีกับการ์ดจอ GTX 1080 เลยทีเดียว
การทดสอบ 3DMark Fire Strike Ultra เป็นการทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกในระดับ 4K ซึ่งการ์ดจอ RX VEGA 64 ทำคะแนน Graphic 5,326 คะแนน ส่วนเฟรมเรทเฉลี่ยได้ที่ประมาณ 20-30 FPS สำหรับกราฟฟิกความละเอียดระดับ 4K ถ้าหากเป็นการเล่นเกมควรใช้ความละเอียดที่ Full HD จะเหมาะกว่า แต่ถ้าหากเป็นการดูหนัง หรือต่อหน้าจอ 4K ก็สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ
การทดสอบ 3DMark Time Spy เป็นการทดสอบประสิทธิภาพกราฟฟิกบน DX 12 ซึ่งการ์ดจอ RX VEGA 64 ทำคะแนน Graphic 6,942 คะแนน บนเฟรมเรทเฉลี่ยได้ที่ประมาณ 40-50 FPS ถือว่าตอบสนองเกมที่รองรับ DX 12 ได้ดีเยี่ยมซึ่งมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า GTX 1080
สำหรับอุณหภูมิสูงสุดที่ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม Furmark และเปิดพัดลมโหมดออโต้ จะสังเกตได้ว่าการ์ดจอมีอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 74 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวการ์ดจะรักษาอุณหภูมิไม่ให้เกิน 85 องศาเซลเซียส ซึ่งชุดระบายความร้อนแบบ Ref. ค่อนข้างที่จะเสียงดังไปสักเล็กน้อยจากพัดลมโบลเวอร์ แต่ถือว่าก็สามารถจัดการเรื่องความร้อนได้อยู่หมัด
ในส่วนของการทดสอบเล่นเกมสามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหาในทุก ๆ แนวเกมด้วยกราฟฟิกระดับสูงสุดบนความละเอียด Full HD ในเกมระดับล่างถึงปานกลาง เช่นเกม PUBG, H1Z1, CSGO หรือ Overwatch ซึ่งสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นด้วยเฟรมเรทเฉลี่ยระดับ 100 FPS+ ในส่วนของเกมระดับสูง ๆ
ซึ่งในการทดสอบเราเน้นเกมที่ต้องการสเปคคอมในระดับสูงมากทั้งสิ้น เช่นเกม Battlefield 1, GTA V, Tomb Rider สามารถปรับกราฟฟิกได้สุดหมดรวมไปถึง Anti-aliasing เพื่อความสวยงามของกราฟฟิก โดยให้กราฟฟิกอยู่ในช่วง 50-70 FPS แต่การเล่นเกมในระดับ 4K นั้นค่อนข้างทำเฟรมเราออกมาได้ต่ำถ้าหากปรับกราฟฟิกในระดับสูง
Conclusions and Awards
AMD Radeon RX VEGA 64 คือการ์ดจอที่ถูกออกแบบมาให้อยู่ในระดับ Hi-End ทั้งตัวชุดระบายความร้อน ประสิทธิภาพ การเล่นเกม การ OC รวมถึงการออกแบบตัวการ์ดโดยรวม ทำออกมาได้น่าประทับใจ ถึงแม้ว่าหน้าตาตัวการ์ดยังคงใช้รูปแบบเดิม แต่มันก็ยังคงมีสเน่ห์อย่างแปลกประหลาด แต่ในส่วนของการกินไฟที่มาถึง 295W นั้นอาจจะเป็นจุดด่างใหญ่ ๆ ที่ทำให้ใคร ๆ หลายคนต้องชะงักเลยทีเดียว แต่กลับกัน อุณหภูมิค่อนข้างที่จะต่ำถึงแม้จะใช้ชุดระบายความร้อนแบบ Ref. เชื่อว่าห้าหากใช้ชุดระบายความร้อนที่ออกแบบโดยค่ายต่าง ๆ จะทำให้มันเย็นได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน
สรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ AMD Radeon RX VEGA 64 คือการ์ดจอที่มีจุดเด่นคือแรมความเร็วสูง และการกินไฟที่สูงมาก ซึ่งทำให้การ์ดจอรุ่นนี้มีประสิทธิภาพสูง OC ได้ไกลและแรงมาก เหมาะสำหรับการนำไปเล่นเกมที่กราฟฟิกระดับสูง รวมถึงการทำงานด้านต่าง ๆ เช่นตัดต่อวีดีโอ ซึ่งการ์ดจอรุ่นนี้ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานในหลาย ๆ ด้าน และแน่นอนว่า VEGA 64 นั้นสามรถเทียบได้กับ GTX 1080 แต่ถ้าหากถามว่ารุ่นไหนคุ้มกว่า ก็คงต้องดูเกมที่เล่นด้วย เพราะบางเกม VEGA 64 สามารถทำเฟรมเรทได้สูงกว่า และราคาค่าตัวของมันอยู่ที่ 25,900 บาทถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการ์ดจอระดับ Hi-End
ข้อดี
- ปรับกราฟฟิกเกมระดับ Full HD สุดหมดทุกอย่างได้แบบสบาย ๆ
- รองรับเกมบน DX12 ได้ดีเยี่ยม
- Overclock ได้ไกล
ข้อสังเกต
- กินไฟค่อนข้างมาก
AWARD
Best Technology เหนือกว่าค่ายอื่นด้วย HBM2 หรือ High Bandwidth Memory 2 ที่มีอยู่ในเฉพาะการ์ดจอ AMD รุ่นท๊อปเท่านั้น ซึ่งแบนวิดธ์ที่กว้างทำให้สามารถส่งข้อมูลได้ไว ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนการ์ดจอค่ายค่ายอื่นที่นิยมใช้แรมแบบ GDDR5
Best Performance ประสิทธิภาพในการเล่นเกมระดับสูงที่สามารถปรับกราฟฟิกได้สุดหมดบนเฟรมเรทระดับ 60FPS+ รวมถึงสามารถเล่นเกมในระดับ 4K ได้สบาย ๆ ส่วนการ Overclock ก็ยังสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับเป็นการ์ดจอในระดับ Hiend จาก AMD ที่หลาย ๆ คนรอคอย