ในช่วงปีนี้ที่ผ่านมาราคาของ Ethereum นั้นได้พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงมาก โดยพุ่งขึ้นมาแตะจุด ATH ที่ 400 ดอลลาร์ และนั่นก็กลายเป็นสาเหตุให้มีผู้คนหลายๆคนเริ่มกระโดดเข้ามาในตลาดการขุดเหรียญ Altcoin ตัวนี้ ด้วยการซื้อการ์ดจอ AMD และ Nvidia ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยหลังจากนั้น การขุดในลักษณะดังกล่าวก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายอย่างกว้างขวาง มากขนาดจนทำให้การ์ดจอถึงกับต้องขาดตลาดและมีราคาที่สูงมากขึ้น เพราะมีความต้องการที่มากขึ้น
อ้างอิงจากรายงานของ RBC Capital Markets นั้น การขยายตัวของตลาดการ์ดจอเพื่อการขุดเหรียญ altcoin ได้ทำให้ Nvidia ทำยอดขายได้ 100 ล้านดอลลาร์ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 11 วัน โดยยอดการซื้อขายดังกล่าวนั้นได้ส่งผลทำให้ตลาดหุ้นของ Nvidia และ AMD มีราคาสูงขึ้นตามด้วย ย้อนกลับไปในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นาย Jim Cramer หรือนักข่าวจากสำนัก CNBC ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจถึงการเติบโตของตลาดเหรียญคริปโตที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ราคาของ Ethereum ต่อเหรียญนั้นมีมูลค่าประมาณ 334.79 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาอยู่จุดต่ำสุดที่ 134.21 ดอลลาร์ในเดือนนี้ และในขณะที่กำลังรายงานข่าวอยู่นี้ ราคาของ 1 ETH อยู่ที่ 224.12 ดอลลาร์ อ้างอิงจากเว็บ coinmarketcap ซึ่งถึงแม้ว่าราคาจะเริ่มตีตัวกลับขึ้นมาแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่มก็บอกว่าราคามันยังต่ำเกินไปสำหรับนักขุดเหรียญตัวนี้ที่จะทำกำไรได้ในปริมาณที่มาก ซึ่งนั่นได้ส่งผลให้นักขุดเป็นจำนวนมากเริ่มหันมาทยอยขายการ์ดจอทิ้ง
เว็บข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีนามว่า Motherboard ได้ทำการค้นหาบนเว็บ ebay โดยใช้คำค้นหาว่า “Ethereum mining rigs” และได้ค้นพบว่าตัวเลขในการวางขายนั้นพุ่งขึ้นสูงกว่าที่แล้วมามาก โดยหากย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคมมันมีการตั้งขายเพียงแค่ 57 รายการเท่านั้น หลังจากนั้นก็เพิ่มมาเป็น 125 รายการในเดือนมิถุนายน และ เกือบ 300 รายการในเดือนนี้ และล่าสุดนี้เมื่อวานที่ 534 รายการขาย ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่ใครหลายๆ คนคาดการณ์ไว้มาก
บางคนอาจคิดว่าการออกมาขายชุดขุดเหรียญ Ethereum นั้นอาจจะสร้างกำไรได้มากกว่าการขุดเอง แต่ทว่าทาง Motherboard ได้ออกมารายงานว่าเขาได้ลองติดต่อสอบถามผู้ขายว่าทำไมถึงวางขาย และส่วนใหญ่ให้คำตอบว่าการขุดในตอนนี้ไม่ได้กำไรมากเท่าไรแล้ว จึงต้องขายทิ้ง อีกทั้งยังมีหนึ่งในนั้นที่บอก Motherboard ว่าเขาใช้การ์ดจอเพื่อขุด ETH ประมาณ 1 เดือน แต่ก็ต้องตัดสินใจขายมันทิ้งไป เพราะเขาต้องการเลิกทำธุรกิจนี้ ในขณะที่อีกคนกล่าวว่าเขามาทราบตอนหลังว่ามันไม่น่าจะคุ้มแล้ว
“ผมกำลังจะสร้างริกขุดเป็นของตัวเองเลย แต่มารู้ตอนหลังว่ามันขุดไม่คุ้มแล้ว”
มันเริ่มยากมากขึ้นที่จะทำกำไรจากการขุด
หากลองมองย้อนหลังแล้ว เหรียญ Ethereum นั้นมีการขึ้นราคาจาก 8 ดอลลาร์มาเป็น 400 ดอลลาร์ในปีนี้ และนั่นก็หมายถึงเหตุผลที่ใครๆก็หันมาแย่งกันขุดเหรียญดังกล่าว แต่กระนั้นก็มีนักขุดเป็นจำนวนไม่มากที่ทำการขุดได้กำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำจนสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้ โดยอ้างอิง ข้อมูลจาก Etherscan นั้น อัตราความยากของการขุด (mining difficulty) ได้พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยในปัจจุบันค่าความยากนั้นอยู่ที่ 1304.917 TH ซึ่งเมื่อเทียบกับของช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้น มันยังอยู่ที่แค่ 561.001 TH เท่านั้น
มากไปกว่านั้น นักขุดยังต้องจ่ายค่าไฟที่แพงหูฉี่ โดยค่าความยากที่มากขึ้นผสมกับการตกของราคาทำให้นักขุด Ethereum หลายๆคนต้องยอมถอนตัวออกจากตลาดเพื่อเอาตัวรอด (นี่ยังไม่นับผู้ที่กู้เงินเพื่อเอามาลงทุน) เนื่องจากการขุดในตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อสองถึงสามเดือนที่แล้ว โดยอ้างอิงจาก Motherboard นั้น การ์ดตัวที่สามารถขุดได้ 5 ดอลลาร์ต่อวันเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 2 ดอลลาร์ต่อวันเท่านั้น (หักล้างกับค่าไฟแล้ว)
ในขณะที่ผู้ที่ยังเชื่อมันในตัวเหรียญดังกล่าวก็ยังคงขุดต่อไป โดยเชื่อว่าถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำกำไรได้มากในตอนนี้ แต่ราคาของ Ethereum นั้นจะต้องเพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคตแน่นอน ในขณะที่คนอื่นส่วนใหญ่ไม่สามารถรอได้ และก็ต้องขายทิ้งเพื่ออำลาวงการไปในที่สุด
ที่มา : siamblockchain