Volvo เป็นผู้ผลิตรถยนต์อีกรายที่มุ่งมั่นกับการสร้างรถยนต์แบบไร้คนขับ หรือ Driverless-car และจำเป็นต้องนำรถไปวิ่งทดสอบบนสภาพท้องถนนที่หลากหลาย เช่นเดียวกับบริษัทที่ให้บริการรถรับส่งอย่าง Uber และ Waymo ที่ได้นำระบบรถไร้คนขับของตัวเอง ไปวิ่งทดสอบบนท้องถนนในหลายๆ รัฐของสหรัฐอเมริกา
เพื่อดูว่าระบบรถไร้คนขับของพวกเขา สามารถรับมือกับสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ และระบบถนนที่หลากหลายได้หรือไม่ และอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงของระบบรถไร้คนขับคือ สัตว์ป่าที่ดูไปดูมาก็น่ารักดี อย่างเจ้า จิงโจ้
และสิ่งที่เป็นความท้าทายอย่างแท้จริงของระบบรถไร้คนขับคือ สัตว์ป่าที่มีอยู่ตามธรรมชาติ พวกมันชอบเดินตัดถนนอย่างไม่ระวังตัว และสัตว์ที่มีความท้าทายที่สุดก็คือ จิงโจ้ สัตว์พื้นเมืองของออสเตรเลีย เพราะมันเคลื่อนที่ด้วยการกระโดด และการกระโดดนี่เอง ที่หลอกให้ระบบเซ็นเซอร์ของรถเกิดความสับสนเรื่องระยะห่าง และเป็นปัญหาที่ผู้ออกแบบรถยนต์ไร้คนขับ ต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เพราะจิงโจ้ เป็นสัตว์ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนนท้องถนนได้มากกว่าสัตว์ป่าประเภทอื่นๆ ของออสเตรเลีย
โดย Volvo ได้ทำการทดสอบระบบรถยนต์ไร้คนขับบนท้องถนนในประเทศออสเตรเลียมาเป็นระยะเวลาเกิน 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวิธีการที่รับมือกับจิงโจ้อย่างได้ผล
โดยคุณ David Pickett เจ้าหน้าที่ของ Volvo ประจำประเทศออสเตรเลีย ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ว่า “ในจังหวะที่จิงโจ้กระโดดตัวลอยอยู่กลางอากาศ ระบบเซ็นเซอร์จะตรวจจับตำแหน่งเหมือนว่ามันอยู่ไกลตัวรถมากๆ และเมื่อมันลงสู่พื้น ระบบเซ็นเซอร์จะตรวจจับตำแหน่งได้ว่ามันอยู่ใกล้รถ จิงโจ้เลยหลอกให้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางของรถ เกิดความสับสนเป็นอย่างมาก”
และการตรวจจับตำแหน่งของสัตว์ที่ผิวหนังปกคลุมไปด้วยขน ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย แถมจิงโจ้ที่อยูบนท้องถนนยังมีท่วงท่าที่หลากหลาย ทั้งท่านั่ง ท่ายืน และท่าการเคลื่อนไหว ซึ่งการเปลี่ยนท่าทาง ทำให้รูปทรงของมันเปลี่ยนไป และทำให้เซ็นเซอร์เกิดปัญหาในการตรวจจับตำแหน่งของมัน
เมื่อทีมนักวิจัยของ Volvo เดินทางมาถึงเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า Tidbinbilla ของประเทศออสเตรเลียเมื่อ 18 เดือนที่แล้ว พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจิงโจ้จะสร้างปัญหาให้กับระบบรถยนต์ไร้คนขับได้มากขนาดนี้ และพวกเขาเคยประสบความสำเร็จกับการออกแบบระบบเซ็นเซอร์ ให้รับมือกับกวางมูส ที่ชอบเดินตัดถนนในประเทศสวีเดนได้แล้ว
แต่อย่างไรก็ดี คุณ David Pickett ให้รายละเอียดว่า ปัญหากับ จิงโจ้ จะไม่ทำให้กำหนดการเปิดตัวรถยนต์ไร้คนขับ สู่ตลาดออสเตรเลียต้องล่าช้าออกไปแต่อย่างใด และเราจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน
ที่มา : digitaltrends thaiware