ตอบโจทย์การใช้งานรอบด้านจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คจากทาง HP Pavilion Series ปี 2017 นี้กับในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่สวยงามดูล้ำกว่าโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่น โดย HP Pavilion x360 เป็น 2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ ที่แน่นอนว่ามาพร้อมกับคุณสมบัติและการใช้งานเหนือกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ด้วยความที่ว่าเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลาย เพราะบานพับได้ออกแบบให้พับได้ 360 องศาตรงตามชื่อรุ่น ส่วนชิปประมวลผลก็เป็น Intel Core i5-7200U มาพร้อมกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce 940MX และฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB พร้อมใช้งานทันทีด้วย Windows 10 แท้ สนนราคาอยู่ที่ 25,900 บาทเท่านั้นเอง
เรียกได้ว่า HP Pavilion x360 มาพร้อมสีสันที่สวยงาม ที่คล้ายๆ กับ HP Pavilion ปี 2017 โดยมีขนาดหน้าจอ 14″ แต่ตัวเครื่องเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3″ เท่านั้น จากการที่ดีไซน์ให้ขอบหน้าจอบางลงไปอีก แสดงผลที่ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ที่ดูแล้วสวยสมจริงสุดๆ แถมทัชกรีนได้ด้วย แน่นอนว่ามาพร้อมกับการรับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
Specification
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 ทีหลากหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่นที่เราได้รับมารีวิวนั้นจะเป็น 2-in-1 Notebook บางเบาหน้าจอที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 14 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.63 กิโลกรัม ทำให้การพกพาทำได้โดยง่าย
HP Pavilion x360 ปี 2017 ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-7200U ที่เป็นการทำงานแบบ 2 Core 2 Thread ความเร็ว 2.50GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 3.10GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 620 พร้อมด้วยการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce 940MX ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR4 (พร้อมอัพเกรดอีก 1 ช่องทันที) และฮาร์ดดิสก์แบบปกติที่ความจุ 1TB
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.1 และUSB 3.1 Type-C อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ สนนราคาอยู่ที่ 25,990 บาท มีรุ่นเริ่มต้นมีราคาเพียง 18,900 บาทเท่านั้น (หน้าจอ 11.6″) และรุ่นสูงสุดอยู่ที่ 34,900 บาท โดยทุกรุ่นมาพร้อม Windows 10 แท้
- Core i3-7100U / HD Graphics 620 / RAM 4GB / HDD 1TB / 11.6″ ราคา 18,900 บาท
- Core i3-7100U / NVIDIA 940MX / RAM 4GB / HDD 1TB / 14″ ราคา 22,900 บาท
- Core i5-7200U / NVIDIA 940MX / RAM 4GB / HDD 1TB / 14″ ราคา 25,900 บาท
- Core i7-7500U / NVIDIA 940MX / RAM 4GB / HDD 1TB / 14″ ราคา 34,900 บาท
Hardware / Design
HP Pavilion x360 ปี 2017 มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบใหม่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้นมีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบ เพราะตัวแอดมินโป้ง ก็ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นในรูปลักษณ์ที่ดูแล้วน่าจะดูมีค่าตัวที่แพงกว่านี้
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน เล่นสีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดสูงเช่นกัน
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง ส่วนความบางก็บางเพียง 19.9 มิลลิเมตรและเบาเพียง 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น
HP Pavilion x360 สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เรื่องของการระายความร้อนนั้นก็ออกแบบมาเป็นอย่างดีกับด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลมร้อนออกอยู่ ทำให้ไม่รบกวนเราเวลาที่ใช้งานเครื่อง
ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมที่สำคัญขนาดหน้าจอจาก 13.3 นิ้ว ก็ขยับมาเป็น 14 นิ้วแล้วด้วย ในมิติตัวเครื่องที่ใกล้เคียง เรียกได้ว่า HP ได้ก้าวไปอีกขั้นกับโน๊ตบุ๊คราคานี้สเปกแบบนี้
Keyboard / Touchpad
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Pavilion x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน๊ตบุ๊คทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อง ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ที่สำคัญยังมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่าง ไว้ใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้เป็นอย่างดี หรือจะปิดไว้ก็สามารถทำได้
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยมีสัมผัสที่หนืดเล็กน้อย มีลักษณะรูปแบบหน้าตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊คของทาง HP หลายๆ รุ่น ทั้งในเรื่องของสัดส่วนขนาด ที่เป็นวัสดุที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ซึ่งจากการใช้งานจริง พบว่าสามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture จริงๆ ที่มีและพร้อมใช้งานใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Pavilion x360 นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพดี ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกับความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ชมภาพยนตร์ ดูวีดีโอ Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
สำหรับระบบเสียงเป็น B&O Play และลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบแป้นคีย์บอร์ดด้านบนแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการที่มี HP Audio Boost ช่วยยกระดับประสบการณ์ระบบเสียง ด้วยเทคโนโลยีขยายสัญญาณ ที่ให้เสียงดัง คมชัด ในทุกมิติ แต่ถ้าใครอยากได้ที่กว่านี้คงต้องต่อลำโพงแยกหรือหูฟังแล้วล่ะ
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP Pavilion x360 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP Pavilion x360 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับใหม่ที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง บานพับสแตนเลสนี้ยังผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่า 25,000 ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศา อีกกว่า 7,000 ครั้ง อีกทั้งกลไกการทำงานเของฟันเฟืองเปิดปิดบานพับเหล็กกล้ายังช่วยป้องกันฝุ่นละออง ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ
บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i5 แต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก HP Pavilion x360 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต และพอร์ตยุคใหม่อย่าง USB 3.1 Type-C อีกหนึ่งพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกรุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน นอกเหนือจากนี้ก็มีช่องเสียบหูฟังหรือ SD Card Reader ก็มีครบครันในระดับนึง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาอยู่แล้ว (จะมีพอร์ตเยอะแยะได้ไง)
สำหรับที่ดูแล้วแปลกตาหน่อยก็จะเป็นส่วนของปุ่ม Windows ที่ติดตั้งไว้ขอบด้านข้างตัวเครื่อง รวมไปถึงยังมีปุ่มเปิดปิดและปุ่มเพิ่มลดเสียด้วย เรียกได้ว่ามีการออกแบบให้เราสามารถใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น จากการที่ HP Pavilion x360 สามารถใช้งานได้หลากหลายโหมด ส่วนเรื่องความบางเบาก็จัดอยู่ในมาตรฐานของ Ultrabook ได้ ทำให้พกพาไปใช้งานนอกสถานที่อย่างสะดวกสบาย
Performance / Software
HP Pavilion x360 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-7200U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.10 GHz ครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i5 HQ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce 940MX ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น Intel Core i รหัส U ซึ่งใช้กับรุ่นก่อนหน้านี้เแล้ว ก็ทำได้ดีกว่า ที่ถึงแม้จะไม่มากมายอะไร แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนาขึ้น
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 28.5MB/s และสูงสุดที่ 136.2MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 92.7MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 21.7 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้อยู่ในเกรดของฮาร์ดดิสก์ปกติ ยังไงแนะนำว่าอยากให้ลื่นไหลกว่านี้คงต้องติดตั้ง SSD เพิ่มแทน
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับต่ำสุด ภาพก็สวยงามตามท้องเรื่อง ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กัยการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้ว่าต้องยอมว่าภาพอาจจะไม่สวยหรือละเอียดมาก แต่ก็พอที่จะเล่นแก้ขัดไปได้
อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ แต่ก็ปรับภาพค่อนข้างต่ำ ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 45 ขึ้นไปตลอด (แต่ก็มีแอบร่วงบ้าง) สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
- Battlefield 1 HD – Low
- Overwatch FHD – Low
- DOTA 2 FHD – Fast
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion x360 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ HP Pavilion x360 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook หลายๆ เครื่อง ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3190 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 – 9 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร ส่วนช่องระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 จะอยู่ด้านล่างติดกับด้านท้ายของตัวเครื่อง ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 39 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีพอควร ส่วนเย็นสุดจะอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่า HP Pavilion x360 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีมากทีเดียว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก HP ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
HP Pavilion x360 รุ่นใหม่ชิปประมวลผล Intel Core i5-7200U จัดเป็น 2-in-i Notebook อีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นี้ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่พิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป หรือจะกล่าวว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายขึ้นของคนยุคนี้ก็ว่าได้
ที่มาพร้อมกับระบบเสียง B&O Play ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป รวมไปถึงการออกแบบดีไซน์ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างพลาสติกเกรดสูงรวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ทำให้ HP Pavilion x360 เป็น 2-in-i Notebook ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด แถมสนนราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วย เพียง 25,900 บาทเท่านั้น
ซึ่งใครที่กำลังมองหา 2-in-i Notebook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าเลือกสรรค์ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้นานประมาณเกือบ 9 ชั่วโมงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม HP Pavilion x360 ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยถ้าเทียบกับสเปกที่ได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing ได้ในทุกที่ทุกเวลา สนนราคามีตั้งแต่ 18,900 บาท ไปจนถึง 34,900 บาท ตามแต่กำลังทรัพย์และความจริงจังในการใช้งาน
จุดเด่น :
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- สเปกภายในเป็น Intel Core i5 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 14″ Full HD ให้ภาพสวยงามสมจริง
- ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
- วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน๊ตบุ๊คระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
- มาพร้อมระบบเสียงและลำโพง B&O Play
- รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
- HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
ข้อสังเกตุ :
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- น่าจะมีรุ่นที่มาพร้อม SSD ด้วย
- แรมน้อยไปหน่อย ควรเพิ่มเป็น 8GB (มี 2 ช่อง)
Best Design
HP Pavilion x360 ตัวเครื่องออกแบบได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานการดีไซน์ของ HP รวมทั้งวัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นที่ให้ทั้งความหรูหราและความแข็งแรงทนทานไปพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกเมื่อจับถือแล้วเหมือนกันกับ โน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญยังเป็นเสริมภาพลักษณ์ผู้ใช้ให้ดูดีไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน โดยการพับหน้าจอ 360 องศา
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะระบบไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
Specification
ในส่วนของสเปก HP Pavilion x360 ทีหลากหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่นที่เราได้รับมารีวิวนั้นจะเป็น 2-in-1 Notebook บางเบาหน้าจอที่เลือกใช้พาเนล IPS คุณภาพสูงให้มุมมองที่กว้างและสีสันสวยสมจริง กับขนาด 14 นิ้ว ที่มาพร้อมกับความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับมัลติทัชกรีนทำให้ใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.63 กิโลกรัม ทำให้การพกพาทำได้โดยง่าย
HP Pavilion x360 ปี 2017 ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i5-7200U ที่เป็นการทำงานแบบ 2 Core 2 Thread ความเร็ว 2.50GHz (เร่งไปได้สูงสุดที่ 3.10GHz) ส่วนกราฟิกภายในเป็น Intel HD Graphics 620 พร้อมด้วยการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce 940MX ด้านแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 4GB DDR4 (พร้อมอัพเกรดอีก 1 ช่องทันที) และฮาร์ดดิสก์แบบปกติที่ความจุ 1TB
สำหรับการเชื่อมต่อของตัวเครื่องนั้น HP Pavilion x360 ได้มีการติดตั้ง USB 3.1 และUSB 3.1 Type-C อีกทั้งรองรับการเชื่อมต่อ HDMI และมีช่องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรแบบมารตรฐาน การเชื่อมต่อแบบ Wireless LAN, LAN, Bluetooth ก็ครบครับ สนนราคาอยู่ที่ 25,990 บาท มีรุ่นเริ่มต้นมีราคาเพียง 18,900 บาทเท่านั้น (หน้าจอ 11.6″) และรุ่นสูงสุดอยู่ที่ 34,900 บาท โดยทุกรุ่นมาพร้อม Windows 10 แท้
- Core i3-7100U / HD Graphics 620 / RAM 4GB / HDD 1TB / 11.6″ ราคา 18,900 บาท
- Core i3-7100U / NVIDIA 940MX / RAM 4GB / HDD 1TB / 14″ ราคา 22,900 บาท
- Core i5-7200U / NVIDIA 940MX / RAM 4GB / HDD 1TB / 14″ ราคา 25,900 บาท
- Core i7-7500U / NVIDIA 940MX / RAM 4GB / HDD 1TB / 14″ ราคา 34,900 บาท
Hardware / Design
HP Pavilion x360 ปี 2017 มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบใหม่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คยุคปัจจุบันที่มาพร้อมสีสันที่สวยงามลงตัว อีกทั้งเชื่อได้ว่ายังโดนใจวัยรุ่นเพราะมีความโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ สำหรับ HP Pavilion x360 นั้นมีหน้าตาออกไปทางเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความหรูหราด้วยการเล่นกับการออกแบบที่มีความโค้งเว้ามีมิติในหลายๆ ส่วน เรียกได้ว่าสาวๆ หลายคนเห็นแล้วคงชอบ เพราะตัวแอดมินโป้ง ก็ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นในรูปลักษณ์ที่ดูแล้วน่าจะดูมีค่าตัวที่แพงกว่านี้
โดยวัสดุที่ทาง HP เลือกใช้ในบริเวณฝาหลังของเครื่องจะเป็นพลาสติกเกรดสูงตัดด้วยโลโก้ของ HP ที่เป็นสีเงินเงางามบริเวณกลางฝาหลัง ส่วนด้านในเครื่องบริเวณหน้าจอเป็นกระจกทั้งบาน เล่นสีขอบจอด้านในเป็นสีดำพร้อมด้วยยางรองขอบรอบตัวจอ สำหรับตัวเครื่องด้านในบริเวณรอบๆ แป้นพิมพ์ ที่พักมือ ใช้วัสดุอลูมิเนียมเกรดสูงเช่นกัน
นอกเหนือจากนี้ปุ่ม Power ยังได้ถูกออกแบบเอาไว้ขอบจอด้านนอกรวมไปถึงปุ่มปรับระดับเสียงด้วย ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่คุ้นตาเหมือนกับ Ultrabook รุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานจริงแล้วพบว่าสามารถใช้งานได้คล่องตัวและสะดวกมากๆ จากการที่มันเป็น 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศานั่นเอง ส่วนความบางก็บางเพียง 19.9 มิลลิเมตรและเบาเพียง 1.63 กิโลกรัมเท่านั้น
HP Pavilion x360 สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศา ส่งผลให้มีรูปแบบการใช้งานถึง 4 แบบด้วยกัน ประกอบไปด้วย Notebook / Stand / Tent / Tablet ส่งผลให้เป็นได้มากกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เรื่องของการระายความร้อนนั้นก็ออกแบบมาเป็นอย่างดีกับด้านล่างตัวเครื่องมีช่องลมร้อนออกอยู่ ทำให้ไม่รบกวนเราเวลาที่ใช้งานเครื่อง
ซึ่งโดยรวมแล้วสำหรับดีไซน์การออกแบบของ HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นั้น ให้ความสวยงามลงตัวมากกว่าเดิมที่สำคัญขนาดหน้าจอจาก 13.3 นิ้ว ก็ขยับมาเป็น 14 นิ้วแล้วด้วย ในมิติตัวเครื่องที่ใกล้เคียง เรียกได้ว่า HP ได้ก้าวไปอีกขั้นกับโน๊ตบุ๊คราคานี้สเปกแบบนี้
Keyboard / Touchpad
สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดและทัชแพดของ HP Pavilion x360 ก็เรียกได้ว่าแทบไม่แตกต่างจากการใช้งานในโน๊ตบุ๊คทั่วไป ด้วยขนาดใหญ่และมีความเหมาะสมกับขนาดตัวเครื่อง ด้วยคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ที่สำคัญยังมีไฟคีย์บอร์ดส่องสว่าง ไว้ใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้เป็นอย่างดี หรือจะปิดไว้ก็สามารถทำได้
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง โดยมีสัมผัสที่หนืดเล็กน้อย มีลักษณะรูปแบบหน้าตาเหมือนกับโน๊ตบุ๊คของทาง HP หลายๆ รุ่น ทั้งในเรื่องของสัดส่วนขนาด ที่เป็นวัสดุที่ทำออกมาได้ดี สามารถลากนิ้วได้ลื่น ไม่เกิดอาการสะดุดหรือหน่วงใดๆ ซึ่งจากการใช้งานจริง พบว่าสามารถตอบสนองการใข้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งในการใช้งานแบบปกติหรือใช้งานฟังก์ชันการทำงานแบบ Multi-Touch Gesture จริงๆ ที่มีและพร้อมใช้งานใน Windows 10 อย่างเต็มที่
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Pavilion x360 นั้นเป็นจอแบบพาเนล IPS ที่มีคุณภาพดี ทั้งในเรื่องของสีสันที่มีความสดใสสมจริงกับความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ชมภาพยนตร์ ดูวีดีโอ Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ เมื่อใช้งานการสัมผัสหน้าจอก็มีความลื่นไหลไม่มีสะดุด ส่งผลให้เวลาใช้งานเล่นเกมหรือทำงานก็สามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้องสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอเป็นกระจกทำให้สะท้อนแสงพอสมควร
สำหรับระบบเสียงเป็น B&O Play และลำโพงที่มีการติดตั้งเอาไว้บริเวณขอบแป้นคีย์บอร์ดด้านบนแบบสเตอริโอ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเสียงที่ได้จากโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้แล้ว เรียกได้ว่ามีความประทับใจในเรื่องคุณภาพเสียงพอสมควรเลยทีเดียว จากการที่มี HP Audio Boost ช่วยยกระดับประสบการณ์ระบบเสียง ด้วยเทคโนโลยีขยายสัญญาณ ที่ให้เสียงดัง คมชัด ในทุกมิติ แต่ถ้าใครอยากได้ที่กว่านี้คงต้องต่อลำโพงแยกหรือหูฟังแล้วล่ะ
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า HP Pavilion x360 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet ที่ทีมงานของเรานั้นนำไปใช้งานอะไรบ้าง และรูปลักษณ์เมื่อเปลี่ยนไปใช้โหมดต่างๆ นั้น จะมีลักษณะเป็นอย่างไร
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
อย่างไรก็ตามสำหรับ HP Pavilion x360 ก็ต้องบอกว่าวางใจได้เลยเรื่องความทนทาน เพราะมีการออกแบบบานพับใหม่ที่สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง บานพับสแตนเลสนี้ยังผ่านบททดสอบสุดทรหดด้วยการเปิดปิดกว่า 25,000 ครั้ง และการหมุนรอบ 360 องศา อีกกว่า 7,000 ครั้ง อีกทั้งกลไกการทำงานเของฟันเฟืองเปิดปิดบานพับเหล็กกล้ายังช่วยป้องกันฝุ่นละออง ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ
บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาไม่แพง และมีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าไม่แรงมากด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i5 แต่ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถเลือก HP Pavilion x360 เป็นหนึ่งใน 2-in-1 Notebook ที่จะตัดสินใจได้เลย
Connector / Thin And Weight
มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.0 จำนวนสองพอร์ต และพอร์ตยุคใหม่อย่าง USB 3.1 Type-C อีกหนึ่งพอร์ต ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกรุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงสามารถเชื่อมต่อออกหน้าจอภายนอกได้ง่ายๆ ผ่านทาง HDMI ขนาดมาตรฐาน นอกเหนือจากนี้ก็มีช่องเสียบหูฟังหรือ SD Card Reader ก็มีครบครันในระดับนึง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับโน๊ตบุ๊คที่เน้นความบางเบาอยู่แล้ว (จะมีพอร์ตเยอะแยะได้ไง)
สำหรับที่ดูแล้วแปลกตาหน่อยก็จะเป็นส่วนของปุ่ม Windows ที่ติดตั้งไว้ขอบด้านข้างตัวเครื่อง รวมไปถึงยังมีปุ่มเปิดปิดและปุ่มเพิ่มลดเสียด้วย เรียกได้ว่ามีการออกแบบให้เราสามารถใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น จากการที่ HP Pavilion x360 สามารถใช้งานได้หลากหลายโหมด ส่วนเรื่องความบางเบาก็จัดอยู่ในมาตรฐานของ Ultrabook ได้ ทำให้พกพาไปใช้งานนอกสถานที่อย่างสะดวกสบาย
Performance / Software
HP Pavilion x360 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-7200U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.10 GHz ครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i5 HQ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce 940MX ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น Intel Core i รหัส U ซึ่งใช้กับรุ่นก่อนหน้านี้เแล้ว ก็ทำได้ดีกว่า ที่ถึงแม้จะไม่มากมายอะไร แต่ก็ถือว่ามีการพัฒนาขึ้น
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 28.5MB/s และสูงสุดที่ 136.2MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 92.7MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 21.7 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้อยู่ในเกรดของฮาร์ดดิสก์ปกติ ยังไงแนะนำว่าอยากให้ลื่นไหลกว่านี้คงต้องติดตั้ง SSD เพิ่มแทน
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับต่ำสุด ภาพก็สวยงามตามท้องเรื่อง ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กัยการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้ว่าต้องยอมว่าภาพอาจจะไม่สวยหรือละเอียดมาก แต่ก็พอที่จะเล่นแก้ขัดไปได้
อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ แต่ก็ปรับภาพค่อนข้างต่ำ ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 45 ขึ้นไปตลอด (แต่ก็มีแอบร่วงบ้าง) สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
- Battlefield 1 HD – Low
- Overwatch FHD – Low
- DOTA 2 FHD – Fast
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion x360 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ HP Pavilion x360 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook หลายๆ เครื่อง ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3190 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 – 9 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร ส่วนช่องระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 จะอยู่ด้านล่างติดกับด้านท้ายของตัวเครื่อง ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 39 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 80 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP Pavilion x360 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีพอควร ส่วนเย็นสุดจะอยู่ที่ 27 องศาเซลเซียสเท่านั้น นับว่า HP Pavilion x360 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีมากทีเดียว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก HP ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
HP Pavilion x360 รุ่นใหม่ชิปประมวลผล Intel Core i5-7200U จัดเป็น 2-in-i Notebook อีกหนึ่งรุ่นจากทาง HP ที่สามารถแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ ซึ่งเป็นผลจากการมาของระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งรองรับระบบหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ จึงทำให้ผู้ผลิตต่างๆ ได้ส่งผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ซึ่ง HP Pavilion x360 รุ่นใหม่นี้ก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งสินค้าที่พิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป หรือจะกล่าวว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายขึ้นของคนยุคนี้ก็ว่าได้
ที่มาพร้อมกับระบบเสียง B&O Play ที่จัดได้ว่าให้อรรถรสของเสียงได้ดีกว่าลำโพงทั่วไป รวมไปถึงการออกแบบดีไซน์ที่ดูแล้วเรียบหรูและใช้วัสดุคุณภาพอย่างพลาสติกเกรดสูงรวมไปถึงมีประกันถึง 2 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน ทำให้ HP Pavilion x360 เป็น 2-in-i Notebook ที่มีความโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่งหลายๆ ตัวในตลาด แถมสนนราคายังไม่แพงจนเกินไปด้วย เพียง 25,900 บาทเท่านั้น
ซึ่งใครที่กำลังมองหา 2-in-i Notebook ซักตัวที่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานจริงจังหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าเลือกสรรค์ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการทำงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ ฟังเพลง หรือเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ รวมไปถึงจากการทดสอบทำให้ทราบข้อมูลว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้นานประมาณเกือบ 9 ชั่วโมงเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม HP Pavilion x360 ที่แม้ว่าดูราคาแล้วอาจจะสูงซักหน่อยถ้าเทียบกับสเปกที่ได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถที่หลากหลายแบบในหนึ่งเดียว ที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊ค และเป็นแท็บเล็ตได้เต็มรูปแบบ พร้อมที่จะ Work, Play & Sharing ได้ในทุกที่ทุกเวลา สนนราคามีตั้งแต่ 18,900 บาท ไปจนถึง 34,900 บาท ตามแต่กำลังทรัพย์และความจริงจังในการใช้งาน
จุดเด่น :
- เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีคุณสมบัติ 2-in-1 Notebook ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
- สเปกภายในเป็น Intel Core i5 มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป
- หน้าจอทัชกรีนขนาด 14″ Full HD ให้ภาพสวยงามสมจริง
- ติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นที่ช่วยสนับสนุนในการใช้งานมาให้
- วัสดุและงานประกอบถืออว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโน๊ตบุ๊คระดับสูงจาก HP
- มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สนับสนุนการใช้งานทัชกรีนอย่างเต็มที่
- มาพร้อมระบบเสียงและลำโพง B&O Play
- รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
- HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP
ข้อสังเกตุ :
- กระจกหน้าจอค่อนข้างสะท้อนกับแสงพอสมควร
- น่าจะมีรุ่นที่มาพร้อม SSD ด้วย
- แรมน้อยไปหน่อย ควรเพิ่มเป็น 8GB (มี 2 ช่อง)
Best Design
HP Pavilion x360 ตัวเครื่องออกแบบได้อย่างสวยงามตามมาตรฐานการดีไซน์ของ HP รวมทั้งวัสดุคุณภาพอย่างอะลูมิเนียมทั้งชิ้นที่ให้ทั้งความหรูหราและความแข็งแรงทนทานไปพร้อมๆ กัน ให้ความรู้สึกเมื่อจับถือแล้วเหมือนกันกับ โน๊ตบุ๊คระดับไฮเอนด์ ที่สำคัญยังเป็นเสริมภาพลักษณ์ผู้ใช้ให้ดูดีไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน โดยการพับหน้าจอ 360 องศา
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะระบบไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ