หลังจากที่ประสบความสำเร็จด้วยการใช้ระยะเวลาหนึ่งกับ Surface Pro ที่มาดังเอาตอนรุ่นที่ 4 หลังจากนั้นทาง Microsoft เองก็ได้เปิดตัวSurface Book โน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมกับความสามารถแบบ 2-in-1 ที่เน้นเรื่องความแรงและการพกพาสำหรับการทำงานเป็นหลัก ตลอดจนล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการเปิดตัว Surface Laptop เข้ามาในไลน์เพิ่มอีกหนึ่ง ซึ่งผลิตภัณฑ์ Surface แต่ละไลน์นั้นค่อนข้างจะมีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ
ถึงกระนั้นก็ตามแต่มันก็ยังเป็นการยากอยู่ดีครับที่เราจะมานั้งเลือกว่ารุ่นไหนที่จะใช่กับเรา ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอแนะนำ Surface แต่ละรุ่นเพื่อที่ว่าท่านผู้อ่านจะได้นำไปใช้ในการปรับแต่งการเลือกซื้ออุปกรณ์ในซีรีส์ Surface ให้เหมาะสมกับการใช้งานและคุ้มค่ากับเงินที่ต้องเสียไปให้มากที่สุด เพื่อที่ว่าท่านจะได้สบายใจว่าเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะกับการใช้งานจริงๆ ครับ
Surface Book
สำหรับ Surface Book นั้นถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ในรุ่นระดับบนของทาง Microsoft ครับ ด้วยการที่ Microsoft วางไลน์ของ Surface Book ไว้สำหรับตลาดบนดังนั้นมันจึงมีสเปคที่แรงกว่า Surface ในรุ่นอื่นๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับความสามารถในการถอดหน้าจอออกมาเพื่อที่จะได้สามารถใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ตได้ แต่นั่นก็กลายเป็นว่ามันเป็นฟีเจอร์ที่มากเกินไปสักหน่อยทำให้ผู้ใช้หลายๆ รายไม่ค่อยได้ใช้ Surface Book แบบถอดหน้าจอออกมาใช้งานครับ
ถ้าพูดถึงการใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คนั้น Surface Book ก็ไม่ได้ดูครบถ้วนสมบูรณ์เสมือนกับเป็นโน๊ตบุ๊คทั่วไปครับ ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะครับเพียงแต่ว่าเมื่อเทียบสเปคกับโน๊ตบุ๊คทั่วไปแล้ว ถึงแม้ว่า Surface Book จะมาพร้อมกับสเปคที่แรงที่ในในซีรีส์ Surface แต่มันก็ไม่ได้แรงเท่ากับโน๊ตบุ๊คอื่นๆ จริงๆ ครับ
การใช้งาน Surface Book เมื่อถอดเฉพาะส่วนหน้าจอมาใช้งานแบบแท็บเล็ตนั้น คุณจะสามารถใช้งานมันได้ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นซึ่งนั่นถือว่าเป็นหนึ่งในข้อเสียของ Surface Book แบบที่ถอดหน้าจอออกมาใช้งาน แถมจุดที่ทำให้การใช้งานแบบนี้ไม่น่าใช้งานเข้าไปใหญ่ก็คือการที่มันไม่ได้มากพร้อมกับฐานตั้งหน้าจอโดยเฉพาะ ดังนั้นแล้วการทำงานในรูปแบบแท็บเล็ตแบบถอดหน้าจอของ Surface Book จึงถือว่าไม่เข้าท่าเท่าไรครับ
อีกเหตุผลหนึ่งที่การใช้งาน Surface Book แบบแท็บเล็ตไม่ค่อยจะน่าโสภามากเท่าไรนักก็เนื่องมาจากว่าระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นมีแอปพลิเคชันสำหรับการใช้งานแบบแท็บเล็ตที่ไม่ค่อยจะมากเท่าไรนัก ตรงจุดนี้แล้วเมื่อมองว่ามันเป็นแท็บเล็ตมันจะไม่สามารถสู้กับ iPad Pro ที่สามารถใช้งานและให้ประสบการณ์ในรูปแบบแท็บเล็ตได้ดีกว่าครับ
การใช้งาน Surface Book ให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดนั้นคงไม่หนีไปจากการใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คครับ แต่ก็นั่นแหละครับ ในผู้ใช้บางคนอาจจะไม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีเท่าไรนักเนื่องจากว่าส่วนของหน้าจอของ Surface Book นั้นมีน้ำหนักที่ค่อนข้างจะมาก(เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป) เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คจริงๆ โดยถึงฐานตั้งจะได้รับการออกแบบมาดีแต่การใช้งานเครื่องที่หน้าจอมีน้ำหนักสูงก็อาจจะทำให้ท่านไม่สบายใจเท่าไรนักเมื่อต้องจัดเก็บอุปกรณ์ครับ
เมื่อใช้งาน Surface Book แบบโน๊ตบุ๊ค เรื่องของหน้าจอที่สัมผัสได้นั้นก็กลายมาเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ไม่ได้ถูกใช้งานไปซะอย่างนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วปัญหานี้ไม่ได้เปิดขึ้นกับ Surface Book เท่านั้นแต่มันเกิดขึ้นกับโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบสัมผัสได้ครับ การใช้เมาส์และคีย์บอร์ดดูจะเป็นอะไรที่สะดวกสบายมากกว่าครับ
จุดสุดท้ายที่ทำให้ Surface Book ดูไม่น่าใช้งานก็คือเรื่องของน้ำหนักที่เจ้า Surface Book ซึ่งมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.5 นิ้วนั้น มันจะมีน้ำหนักมากกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาที่มาพร้อมกับหน้าจอ 13 นิ้วเหมือนกัน แถม Surface Book ที่น่าใช้งานจริงๆ ก็เป็นรุ่นที่มาพร้อมกับกราฟิกการ์ดแบบแยกซึ่งก็มีราคาค่อนข้างสูง แต่นั่นก็ทำให้ Surface Book มีระยะเวลาในการใช้งานรวมๆ แล้วได้แค่ประมาณ 7 ชั่วโมงกว่าเท่านั้นครับ
SURFACE PRO
สำหรับ Surface Pro นั้นถือว่าเกิดมาเป็นแท็บเล็ตมากกว่าที่จะเป็นโน๊ตบุ๊ค ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะสามารถใช้งานในรูปแบบโน๊ตบุ๊คได้เช่นเดียวกัน แต่ขนาดหน้าจอของมันนึ้งก็ไม่ได้ใหญ่มากเท่าไรจนท่านจะสามารถนั่งทำงานนานๆ โดยไม่ต้องเพ่งสายตาไปที่หน้าจอได้ครับ Surface Pro 4 รุ่นแรกนั้นมาพร้อมกับระยะการใช้งานแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ราวๆ 4 ชั่วโมง ส่วนรุ่นอัพเกรดปี 2017 นั้นจะมาพร้อมกับการปรับแต่งดีไซน์เล็กน้อย พร้อมด้วยการรองรับ Surface Pen ที่น่าใช้งานมากกว่า แถมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็ยังอยู่ที่ราวๆ 7 ชั่วโมงกว่าครับ
จุดที่น่าเสียดาย้เป็นอย่างมากก็คือ Surface Pro รุ่นที่มาพร้อมกับ Core i7 นั้นเวลาใช้งานไปแล้วท่านจะได้ยินเสียงพัดลมระบายอากาศค่อนข้างที่จะดังอยู่พอสมควร(ไม่เกิดขึ้นกับรุ่นที่มาพร้อมกับ Core i5) ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือว่าทำงานหนักๆ อย่าง Photoshop โดยต่อเชื่อมกับมอนิเตอร์ภายนอก เสียงพัดลมของ Surface Pro 4 รุ่น Core i7 จะดังมากจนทำให้ใครหลายๆ คนไม่พอใจได้ครับ(แต่ถ้าใช้งานทั่วไปก็ไม่ได้ยินเสียงนะครับ)
ด้วยความที่เปิดมาเป็นแท็บเล็ต Surface Pro จึงมาพร้อมกับฐานตั้งหน้าจอ แต่ฐานตั้งหน้าจอนั้นก็เป็นปัญหาเนื่องจากว่ามันไม่ได้แข็งแรงมากเท่าไรนัก และถึงแม้ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วที่ในการใช้งานเป็นแท็บเล็ตถือว่าทำได้สบายๆ แต่ทว่าฮาร์ดแวร์ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเครื่องนั้นก็มีน้ำหนักพอสมควรซึ่งการใช้มือถือหรือวางใช้งานบนหน้าตักนั้นคงไม่สามารถทำได้นานมากนัก
Surface Pro 2017 มาพร้อมกับการใช้งาน Surface Pen(ซึ่งวางจำหน่ายแยกต่างหาก) ที่จะว่าไปแล้วไม่น่าจะมีทุกคนที่ใช้งานโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าท่านไม่ได้ทำสายงานทางด้านการออกแบบแล้ว Surface Pen ก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรในการใช้งานเลยหล่ะครับ จุดนี้นั้นคงต้องดูความต้องการของตัวท่านเองด้วยครับว่าต้องการใช้งานในรูปแบบไหนหรือสาขาอาชีพของท่านมีความจำเป็นต้องใช้งาน Surface Pen หรือไม่ครับ
อย่างที่บอกไปครับว่า Surface Pro ค่อนข้างที่จะหนักอยู่ โดยเมื่อรวมกับ Type Cover แล้วคุณจะต้องถือเครื่องที่มีนำหนักราวๆ 1.05 kg ซึ่งการถือเพื่อใช้งานอาจจะมีปัญหาเพราะทำให้แขนล้าได้ แต่มันก็ยังถือว่ามีน้ำหนักน้อยทำให้การพกพาไปใช้งานนอกสถานที่นั้นคุณจะรู้สึกสบายมากกว่าการใช้ Surface Book อย่างแน่นอนครับ
SURFACE LAPTOP
ถ้า Surface Pro เปิดมาพร้อมกับการเป็นแท็บเล็ต Surface Laptop นั้นก็เกิดมาพร้อมกับการเป็นโน็ตบุ๊คเต็มตัวครับ อย่างไรก็ตามแต่ข้อเสียของ Surface Laptop นั้นก็คือการที่มันมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการรุ่นเล็กอย่าง Windows 10 S ที่คุณสามารถลงแอปพลิเคชันได้จากทาง Windows Store เท่านั้นซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ครับว่าใน Windows Store นั้นมีอะไรให้ลงไม่มากเท่าไรครับ(โชคยังดีที่คุณจะยังสามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Pro ได้ฟรีๆ ครับ)
จุดเด่นของ Surface Laptop นั้นอยู่ที่มันมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงาม รูปร่างน้ำหนักพอๆ กับ MacBook Air ดังนั้นเรื่องการพกพาจึงสามารถไว้วางใจได้ว่าค่อนข้างที่จะสะดวก แถมทาง Microsoft เองนั้นยังสร้างความแตกต่างให้กับ Surface Laptop ด้วยการเลือกสีหลากหลายซึ่งไม่ค่อยได้เห็นนักในตลาดโน๊ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งจุดนี้เองน่าจะเป็นตัวสร้างความสนใจให้กับผู้ใช้โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียนนักศึกษาครับ
ปัญหาของ Surface Laptop ที่ผู้ใช้งานน่าจะต้องมีกลัวกันบ้างก็คือในส่วนของฐานคีย์บอร์ดที่ใช้วัสดุเป็นผ้า ที่เราเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่ามันจะทนทานได้มากถึงขนาดไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องความสบายในการวางมือแล้วนั้นก็ต้องยอมรับหล่ะครับว่าผัานั้นจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่าวัสดุอื่นๆ (จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เคยมีคนเทียบกับ Type Cover ที่มาพร้อมกับผ้าซึ่งใช้ไปไม่นานเท่าไรก็จะพบรอยเปื้อนเกิดขึ้นมาครับ)
Suraface Laptop มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.5 นิ้วที่สามารถแสดงสีสันได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังมาพร้อมกับ USB Type-C ที่เริ่มมีอุปกรณ์ออกมารองรับมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบปฎิบัติการ Windows 10 S นั้นทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ Surface Laptop สามารถอยู่ได้ถึง 8 ชั่วโมงสบายๆ ดังนั้นเรื่องการพกไปใช้งานเข้าคลาสเรียนต่างๆ หรือจะเป็นการทำงานก็ถือว่าสามารถอยู่ให้คุณทำงานได้สบายๆ ในหนึ่งวันครับ ดังนั้นแล้วหากคุณอยากได้โน๊ตบุ๊คเพียวๆ แล้ว Surface Laptop น่าจะตอบโจทย์ให้คุณได้ดีที่สุดในกลุ่มของผลิตภัณฑ์สาย Surface ล่ะครับ
สรุปแล้วคุณควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ Surface ถึงจะเหมาะกับการทำงานมากที่สุด
อย่างที่บอกไปครับ Surface Book, Surface Pro และ Surface Laptop นั้นค่อนข้างจะมีความเหมื่อนกันในหลายๆ ด้านแต่การใช้งานของมันนั้นก็แตกต่างกันไป มาดูสรุปกันดีกว่าครับว่าในความเป็นจริงแล้วคุณน่าจะซื้อ Surface ไหนเพื่อที่จะได้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
- Surface Pro : ถ้าคุณต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่สามารถจะทำงานบนตักหรือพกไปใช้บนเตรียงได้ ด้วยอายุการใช้งานราวๆ 7 ชั่วโมง(สำหรับรุ่น Core i5) บนหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว Surface Pro เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณครับ และสำหรับผู้ใช้ที่ทำงานสายด้านกราฟิก Surface Pro ยังตอบโจทย์ให้คุณได้ด้วย Surface Pen(ที่ต้องซื้อแยกต่างหาก) อีกด้วยครับ
- Surface Book : ถ้าคุณต้องการโน๊ตบุ๊คที่ทรงพลังในการทำงาน และไม่สนใจว่าน้ำหนักของมันจะกมากน้อยแค่ไหน อายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ได้ที่ราวๆ 7 ชั่วโมง บนหน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว พร้อมด้วยการถอดหน้าจอเพื่อที่จะสามารถนำงานของคุณไปนำเสนอได้ บวกกับการรองรับ Surface Pen สำหรับงานทางด้วนกราฟิก Surface Book คือคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคุณครับ
- Surface Laptop : ถ้าคุณต้องการเครื่องโน๊ตบุ๊คแบบทั่วไปซึ่งมาพร้อมกับดีไซน์และสไตล์ที่แตกต่าง สามารถใช้งานได้ทั้งวันด้วยอายุแบตเตอรี่การใช้งานราวๆ 8 ชั่วโมง มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.5 นิ้วแถมยังรองรับ Surface Pen อีกด้วย Surfacr Laptop คือสิ่งที่เหมาะสมสำหรับคุณครับ
ที่มา : theverge