Connect with us

Hi, what are you looking for?

Buyer's Guide

[Special] USB-C พอร์ตเปลี่ยนโลก (อีกครั้ง) กับรูปแบบเชื่อมต่อความเร็วสูง ที่มาพร้อมมาตราฐานที่แตกต่าง

ลองย้อนนึกถึงเมื่อสัก 20-30 ปีก่อนพอร์ต USB-A ถือว่าเป็นพอร์ตเปลี่ยนโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยความสะดวกในการใช้งาน ขนาดที่กะทัดรัดกว่า serial และ parallel Port สามารถใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดเมาส์ ปริ้นเตอร์

USB typeC 11851 1

ลองย้อนนึกถึงเมื่อสัก 20-30 ปีก่อนพอร์ต USB-A ถือว่าเป็นพอร์ตเปลี่ยนโลกเลยก็ว่าได้ ด้วยความสะดวกในการใช้งาน ขนาดที่กะทัดรัดกว่า serial และ parallel Port สามารถใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดเมาส์ ปริ้นเตอร์ และอื่นๆอีกมากมาย พัฒนามาตั้งแต่เวอร์ชั่น 1 เวอร์ชั่น 2 ซึ่งถือว่าเป็นพอร์ตที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด มาถึงปัจจุบันเวอร์ชั่น 3.1 ที่มีความสูงมาก และที่สำคัญคือกว่าเป็น universal คือความเป็นสากลที่แม้จะเป็น USB 3.1 ก็ยังสามารถใช้งานกับอุปกรณ์เก่าๆได้หมด

Advertisement

T3

แต่ด้วยเทคโนโลยีของ USB เองก็มีขีดจำกัดทั้งด้านเทคโนโลยี และกายภาพ ที่พัฒนาไปไม่ได้มากกว่านี้เท่าไรนัก และโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆที่บางเบาลง การติดตั้งพอร์ต USB ก็ยังถือว่ามีขนาดที่ใหญ่เกินไป ไม่สะดวกต่อการใช้งานเท่าไรนัก จึงปรับมาเป็นพอร์ตแบบ USB-C ที่มีขนาดเล็กลงเพียง 1 ใน 3 ของพอร์ต USB-A ทำให้สามารถติดตั้งบนโน๊ตบุ๊คบางเบาหรือแม้กระทั่ง Tablet ก็ยังได้ อีกทั้งยังสามารถเสียบด้านไหนของพอร์ตก็ได้ ด้วยการออกแบบสมมาตร ไม่ว่าเสียบด้านไหน

บนโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตบางรุ่นยังออกแบบให้สามารถชาร์ตผ่านพอร์ต USB-C ได้ด้วย โดยนอกจากชาร์ตแล้วยังสามารถสลับมาโอนถ่ายข้อมูลต่อแฟรชไดร์ฟหรืออุปกรณ์อื่นๆได้ด้วย หรือจะต่อกับ Docking เพื่อชาร์ตและส่งข้อมูลไปที่ Docking เพื่อต่อจอภาพเสริม หรืออุปกรณ์อื่นๆได้พร้อมๆกันในสายเส้นเดียวซึ่งถือว่าสะดวกมาก

more speed

โดยเทคโนโลยีของ USB-C จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ ตามชิปเซ็ตเสริมบนเมนบอร์ดคือแบบ USB 2.0-3.1 และแบบ thunderbolt 3

  • แบบ USB หรือก็คือการเอาเทคโนโลยีพอร์ต USB ปรกติมาย่อส่วนนั่นเอง โดยจะมีทั้งแบบ USB 2.0 ซึ่งจะนิยมใช้ในสมาร์ทโฟนราคาประหยัด หรือ USB 3.0/3.1 ที่จะใช้ในโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่ของตลาด ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดในทางทฤษฎีถึง 10Gbps (หรือ1.2GB/s) หรือเร็วกว่า USB 2.0 ราวๆ 10 เท่าได้
  • แบบ Thunderbolt 3 เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของพอร์ต thunderbolt ที่พัฒนามาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากนัก ด้วยพอร์ตที่ไม่ค่อยมีอุปกรณ์รองรับ (ใช้รูปแบบพอร์ต Mini Display Port) จึงนิยมใช้ในอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น แต่ใน Thunderbolt 3 ได้เพิ่มรูปแบบการเชื่อมต่อมาเป็น USB-C ทำให้สามารถรองรับอุปกรณ์บนเทคโนโลยี USB ธรรมดา และยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ Thunderbolt ได้อีกด้วย ความเร็วสูงสุดในทางทฤษฎีถึง 40Gbps หรือเร็วกว่า USB 3.1 ถึง 4 เท่า ทำให้สามารถใช้พอร์ตเดียวทำงานได้หลายอย่างและมากกว่า นอกจากจะต่อ Docking เพื่อชาร์ตและ Hub USB ไปพร้อมๆกันได้แล้ว ยังสามารถต่อกับ Docking พิเศษที่เป็นการ์ดจอภายนอกได้ด้วย

HP Omen Series 6

OMEN Accelerator ที่มาพร้อม USB-C แบบ Thunderbolt 3 ทำให้ต่อการ์ดจอภายนอกและยังเป็น HUB ได้ด้วย

ส่วนเครื่องไหนใช้ USB-C เทคโนโลยีไหนต้อง ต้องเช็คกับทางผู้ผลิตด้วย โดยเครื่องส่วนใหญ่การันตีได้เลยว่าเป็น USB 3.1 โดยเฉพาะในโน๊ตบุ๊คราคาประหยัด หรือโน๊ตบุ๊ค Gaming บางรุ่น แต่สำหรับ Thunderbolt 3 นั้นมักจะอยู่ใน Ultrabook ราคาสูงที่ใช้การชาร์ตผ่านพอร์ต USB-C โดยตรง หรือโน๊ตบุ๊ค Gaming ตัวท๊อปๆ เพราะต้องติดตั้งชิปเซ็ตเสริมทำให้ตัวเครื่องมีราคาสูงขึ้นไปอีก

ถ้าถามถึงอนาคตของพอร์ต USB-C ต้องบอกว่ามันคือพอร์ตให้อนาคตจริงๆละ เพราะว่าโน๊ตบุ๊คหรืออุปกรณ์อื่นๆและสมาร์ทโฟนเองก็จะเปลี่ยนมาใช้งานพอร์ตนี้กันมากขึ้น โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่รุ่นใหม่ๆเป็น USB-C กันหมดแล้ว ในส่วนของคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆเอง ก็ได้มีการเพิ่มพอร์ต USB-C เข้ามา แต่ก็ยังคงพอร์ต USB-A แบบเก่าไว้อยู่ด้วย เพราะอุปกรณ์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะแฟลชไดร์ฟ อุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆยังเป็นแบบ USB-A กันอยู่มาก ซึ่งคงอีกนานอย่างน้อยๆ 4-5 ปีที่ USB-C จะมาแทนทั้งหมด อีกทั้งการรองรับทั้ง 2 เทคโนโลยีอย่างมาตรฐาน USB และ Thunderbolt 3 ในรูปแบบการเชื่อมต่อเดียวยังช่วยให้สามารถพัฒนาอุปกรณ์พวกได้หลากหลายอีกมาก

satechi aluminum type c pro hub adapter for 2016 macbook pro 13e2809d and 15e2809d

แต่แน่นอนว่าซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ถ้ามีพอร์ต USB-C ย่อมดีกว่าแน่นอนอย่างน้อยๆก็เพิ่มพอร์ตการใช้งาน USB ได้อีกพอร์ต แต่ช่วงแรกอาจจะยังต้องจำเป็นหา HUB USB-C มาต่อพวกก่อนซึ่งยังมีราคาสูงอยู่ ซึ่งสุดท้ายอุปกรณ์ส่วนใหญ่ก็ยังต่อผ่านพอร์ต USB-A อยู่ดี เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีพอร์ต USB-C ก็ไม่ต้องซีเรียดไปครับ ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็หาสายแปลงมาต่อก็ใช้ได้ ไม่มีก็ไม่ต้องเดือดร้อนอะไร ถ้ามีได้ก็ดี :3

สายแปลงพอร์ต USB-C แบบต่างๆ

1

  • USB-C to USB-C สายเคเบิลนี้มาพร้อมกับปลั๊ก USB-C ที่ปลายทั้งสองด้าน จึงพร้อมรองรับการใช้งานในอนาคตตั้งแต่วันนี้ ด้วยความสามารถถ่ายโอนกระแสไฟฟ้า ข้อมูล และเนื้อหามัลติมีเดียระหว่างระบบใหม่กับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB-C สายนี้รองรับความเร็วสูงสุด 10 Gbps และสามารถชาร์จอุปกรณ์ USB-C ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 20 โวลต์และกระแสไฟสูงสุด 3 แอมป์ (กำลังไฟสูงสุด 60 วัตต์)

2

  • สายชาร์จ USB-A to USB-C เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายโอนกระแสไฟฟ้าและข้อมูลระหว่างระบบที่มีอยู่ซึ่งมีพอร์ต USB-A (ชนิดที่ใช้บนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและแล็ปท็อป คีย์บอร์ด และเมาส์ส่วนใหญ่) กับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มีพอร์ต USB-C สายนี้สามารถชาร์จระบบและอุปกรณ์ USB-C ที่มีแรงดันไฟฟ้า 5 โวลต์และกระแสไฟสูงสุด 3 แอมป์ (กำลังไฟส่งออกสูงสุด 15 วัตต์) และยังรองรับความเร็วในการรับส่งข้อมูลของ USB 2.0 สูงถึง 480 Mbps

3

  • สาย USB-A to USB-C ใคร ๆ ก็รู้จัก USB Type A ซึ่งเป็นสาย USB รุ่นดั้งเดิมที่มีปลั๊กทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งยังคงใช้งานกับคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อปแทบทุกรุ่นในขณะนี้ สายเคเบิลนี้ถ่ายโอนกระแสไฟฟ้าและข้อมูลระหว่างระบบที่มีอยู่ทั้งหมดที่มีพอร์ต USB-A กับอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มีพอร์ต USB-C สายนี้รองรับความเร็วสูงสุด 10 Gbps และสามารถชาร์จระบบและอุปกรณ์ USB-C ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 5 โวลต์และกระแสไฟสูงสุด 3แอมป์ (กำลังไฟส่งออกสูงสุด 15 วัตต์)
  • สายชาร์จ USB-C to Micro USB-B ชาร์จและซิงค์ระหว่างระบบใหม่ที่มีพอร์ต USB-C กับอุปกรณ์ที่มีอยู่ซึ่งมีพอร์ต Micro USB-B 2.0 สายนี้สามารถชาร์จอุปกรณ์ Micro USB-B 2.0 ที่มีแรงดันไฟฟ้า 5 โวลต์และกระแสไฟสูงสุด 3 แอมป์ (กำลังไฟส่งออกสูงสุด 15 วัตต์) และรองรับความเร็วในการรับส่งข้อมูลของ USB 2.0

6

  • สาย USB-C to Micro USB-B ชาร์จและซิงค์ระหว่างระบบใหม่ที่มีพอร์ต USB-C กับอุปกรณ์ที่มีอยู่ซึ่งมีพอร์ต Micro USB-B 3.1 สายนี้รองรับความเร็วสูงสุด 10 Gbps และสามารถชาร์จอุปกรณ์ Micro USB-B 3.1 ที่มีแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 5 โวลต์และกระแสไฟสูงสุด 3 แอมป์ (กำลังไฟส่งออกสูงสุด 15 วัตต์)
  • สายชาร์จ USB-C to Mini USB-B ชาร์จและซิงค์ระหว่างระบบใหม่ที่มีพอร์ตUSB-C กับอุปกรณ์ที่มีอยู่ซึ่งมีพอร์ต Mini USB-B ชาร์จอุปกรณ์ Mini USB-B ที่มีแรงดันไฟฟ้า 5 โวลต์และกระแสไฟสูงสุด 500 มิลลิแอมป์ (กำลังไฟส่งออก 250 วัตต์) และยังรองรับความเร็วในการรับส่งข้อมูลของ USB 2.0

7

  • สายเครื่องพิมพ์ USB-C to USB-B เชื่อมต่อระบบใหม่ที่มีพอร์ต USB-C เข้ากับอุปกรณ์ที่มีอยู่ซึ่งมีพอร์ต USB-B 2.0 รวมทั้งเครื่องพิมพ์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก ชาร์จอุปกรณ์ USB-B 2.0 ที่มีแรงดันไฟฟ้า 5 โวลต์และกระแสไฟสูงสุด 3 แอมป์ (กำลังไฟส่งออก 15 วัตต์) และยังรองรับความเร็วในการรับส่งข้อมูลของ USB 2.0

8

  • อะแดปเตอร์ USB-C to USB-A เชื่อมต่อระบบใหม่ที่มีพอร์ต USB-C เข้ากับสายเคเบิลหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงที่มีอยู่ด้วยหัวต่อ USB-A มาตรฐาน

9

  • อะแดปเตอร์ USB-C to Gigabit Ethernet เชื่อมต่อระบบใหม่ที่มีพอร์ต USB-C เข้ากับเครือข่าย Gigabit Ethernet

 

Click to comment

บทความน่าสนใจ

รีวิว MSI

MSI Venture 15 AI ในบอดี้เรียบหรู มีความแรงจาก Intel Core Ultra 100 Series ไว้ให้ผู้ใช้ลุยงานได้สบายๆ ถ้า MSI Modern เป็นโน๊ตบุ๊คน้องเล็กเพื่อนักเรียนนักศึกษาและ MSI Prestige เป็นพี่ใหญ่รุ่นพรีเมี่ยมเพื่อหัวหน้าและผู้บริหาร MSI Venture 15 AI ก็เป็นชายกลางของมหาชนผู้มองหาโน๊ตบุ๊คสักเครื่องที่สเปกและคุณภาพดีกว่าเครื่องเก่า...

Buyer's Guide

ประสบการณ์ทำงานอย่างหนึ่งซึ่งโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสทำได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป อย่างแรกคือผู้ใช้เอานิ้วแตะเลือกโปรแกรมและไฟล์ต่างๆ บนหน้าจอระบบปฏิบัติการได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้เมาส์หรือทัชแพดแต่เป็นมือของเราแตะเลือกสิ่งที่ต้องการบนหน้าจอคอมไปได้เลย เวลารีบหรือไม่อยากเอาเมาส์ออกมาใช้งานให้เสียเวลา และพอเป็นหน้าจอสัมผัสแล้วก็มักมีปากกาสไตลัสติดมาให้ด้วยเผื่อจังหวะไหนจำเป็นต้องเขียนจดอะไรบางอย่างก็ทำได้ทันที ช่วยให้ชีวิตการทำงานสะดวกขึ้นหลายเท่า อย่างไรก็ตามโน๊ตบุ๊คจอสัมผัสเป็นโน๊ตบุ๊คกลุ่มคาบเกี่ยวกับโน๊ตบุ๊คพับจอได้ซึ่งได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นบางรุ่นก็จะพับหน้าจอกลับเป็นแท็บเล็ตได้แต่ในครั้งนี้ก็จะมีรุ่นแบบฝาพับธรรมดาแบบ Clamshell เข้ามาเผื่อเป็นทางเลือกให้คนไม่ต้องการพับจอแต่อยากได้จอสัมผัสจะได้มีตัวเลือกมากขึ้นAdvertisement เรื่องน่ารู้ก่อนซื้อโน๊ตบุ๊คจอสัมผัส 6 โน๊ตบุ๊คจอสัมผัสน่าใช้ แตะใช้งานง่ายไม่ง้อเมาส์ ทำงานสะดวกสุดๆ 1. Microsoft Surface Laptop 7 (38,490 บาท) CPU Qualcomm...

Buyer's Guide

ข้อดีของการใช้หน้าจอคอม 32 นิ้ว นอกจากมีพื้นที่กว้างมองเห็นสุดสายตาทั้งสองข้างจนได้จมดิ่งเข้าไปกับคอนเทนต์และงานบนหน้าจอได้เต็มอิ่มแล้ว ผู้ผลิตหลายเจ้าก็ใส่ฟีเจอร์ต่างๆ มาให้หน้าจอนี้หลากหลายอย่างตั้งแต่ภายนอกอย่างเป็นหน้าจอโค้งให้โอบรับมุมสายตาได้ดีขึ้น สู่ภายในอย่างเลือกพาเนลหน้าจอคุณภาพ ค่า Refresh Rate มากกว่าจอทั่วไป, ติดตั้งชิปแสดงผลและปรับแต่งให้เข้าโปรโตคอลลดอาการภาพฉีกขาดอย่าง NVIDIA G-SYNC และ AMD FreeSync หรือแม้แต่มีระบบ VRR (Variable Refresh Rate) สำหรับต่อเครื่องเกมคอนโซลแทนทีวีได้เสริมเข้ามาให้เป็นจอหลักประจำโต๊ะของเกมเมอร์ได้ แต่จอคอม...

Buyer's Guide

Portable Monitor จอพกพาเป็นจอคอมประเภทหนึ่งที่ออกแบบให้มีขนาดเล็กพอให้ใส่กระเป๋าเป้ไปใช้งานนอกบ้านหรือสำนักงานได้ และต่อกับโน๊ตบุ๊คที่มี USB-C Full Function หรือ Thunderbolt ด้วยสายแบบเดียวกันได้ หรือใช้เป็นจอตั้งโต๊ะคอมสำหรับคนมีโต๊ะคอมส่วนตัวไม่กว้างเท่าไหร่ด้วยสาย Mini-HDMI to HDMI พ่วงสาย USB-C เพื่อจ่ายกระแสให้หน้าจอนี้สักนิดก็ใช้ได้ไม่ต่างจากหน้าจอทั่วไป ทีเด็ดของหน้าจอเหล่านี้นอกจากเรื่องการพกพาก็ปรับตั้งใช้งานได้ทั้งวางแนวนอนหรือตั้งก็เลือกเอาตามสะดวกได้ แถมในช่วงไม่กี่ปีนี้ก็มีดีไซน์แปลกแหวกแนวออกมาให้เลือกซื้อมากขึ้น ไม่ใช่แค่เป็นจอธรรมดาหมุนแนวตั้งหรือนอนได้อย่างเดียวแต่เป็นจอบานคู่วางแนวนอนสองจอซ้อนกันหรือเป็นแบบสวมเข้ากับหน้าจอโน๊ตบุ๊คเลยก็มีให้เลือก เรื่องประโยชน์คงไม่ต้องสาธยายมาก เพราะการมีหน้าจอคอมพิวเตอร์เพิ่มก็มีพื้นที่ Desktop กว้างกว่าเดิมให้เปิดโปรแกรมใช้งานได้มากขึ้น...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก