เชื่อได้ว่าผู้ใช้ Mac ทุกคนนั้นคงต้องตื่นเต้นกันเป็นอย่างมากครับเมื่อทาง Apple ได้ใช้โอกาสในงาน WWDC 2017 เปิดตัวออกมาว่าทาง Apple นั้นได้ทำการสนับสนุนการใช้อุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงอย่างเต็มรูปแบบกับอุปกรณ์ของ Mac ทั้งหมด แต่ทว่าเรื่องนี้นั้นทาง Apple จะเอาจริงหรือไม่อย่างไรเราลองมาดูบทวิเคราะห์ของทาง The Verge กันครับ
ทั้ง Microsoft, Google และ Facebook นั้นต่างก็ได้นำเสนออุปกรณ์ AR และ VR ของตัวเองทั้งส่วนของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ออกมากันแล้วทั้งนั้นครับ ดังนั้นแล้วจะถือว่า Apple เป็นผู้ตามในเรื่องดังกล่าวก็คงจะไม่ผิดมากนัก สิ่งหนึ่งที่ต้องมาดูกันต่อไปนั่นก็คือว่าการออกรบในโลกเสมือนจริงของทาง Apple นั้นจะสามารถตามผู้ที่นำหน้าไปก่อนหรือไม่ มาลองดูกับครับว่าในงาน WWDC 2017 ทาง Apple ได้เปิดตัวอะไรที่เกี่ยวกับ VR ออกมาบ้าง
- Metal 2 : เวอร์ชันใหม่ของ API กราฟิกของทาง Apple ที่ได้เปิดให้ผู้พัฒนาสามารถที่จะใช้ระบบ macOS windowing system และทำการแรนเดอร์จากอุปกรณ์โดยตรงได้นั้น ทาง Apple ได้บอกเอาไว้ว่าการใช้งานอุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงจะมี latency ต่ำมากกว่าเดิมเป็นอย่างมากครับ
- ประกาศรองรับอุปกรณ์เขื่อมต่อกราฟิกการ์ดภายนอกอย่างเต็มรูปแบบ : นี่ถือว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้พัฒนาจะสามารถใช้งาน(รวมไปถึงผู้ใช้) กราฟิกการ์ดที่เชื่อมต่อภายนอกซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่ากราฟิกชิปบน Mac ทุกรุ่น ซึ่งแน่นอนครับว่านั่นย่อมทำให้การใช้งานอุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงมีประสิทธิภาพที่มากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก
- รองรับการใช้งาน SteamVR และ HTC Vive อย่างเต็มรูปแบบ : ในจุดนี้นั้นทาง Apple ได้ร่วมมือกับทาง Valve ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้เห็นได้ครับว่าจริงๆ แล้ว Apple เองก็สนใจเข้าสู่โลกเสมือนจริงมาสักพักแล้วเช่นเดียวกันครับ
- Unreal Engine 4 และ Unity : เอนจิ้นพัฒนาเกมทั้ง 2 นั้นได้มีการอัพเดทให้สามารถใช้งานคู่กับ Metal 2 ได้แล้ว ซึ่งนั่นทำให้ผู้พัฒนาสื่อเสมือนจริงสามารถที่จะใช้ macOS ในการพัฒนาผ่านเอนจิ้นทั้ง 2 ได้แล้วครับ
จุดเปลี่ยนที่ต้องกลับมาคิดกันนั้นก็คือเรื่องของการพัฒนาสื่อเสมือนจริงที่ทาง Apple นั้นเปิดโอกาสแค่เฉพาะการใช้งานกับ Metal 2 เท่านั้น ซึ่งแน่นอนครับว่านี่เป็นการจำกัดให้นักพัฒนาไม่สามารถใช้ API ที่มีใช้งานอยู่แล้วในตลาดได้ไม่ว่าจะเป็น Vulkan, OpenGL และ SteamVR ทำให้นักพัฒนาหลายๆ คนอาจจะไม่ต้องการปรับปรุงซอฟต์แวร์ของตัวเองให้รองรับกับ Metal 2 ที่มีใช้เฉพาะกับ macOS เท่านั้นครับ
อีกสิ่งหนึ่งที่ยังไม่สามารถแน่ใจได้นั้นก็คือ Apple จะให้การพัฒนาสื่อเสมือนจริง Metal 2 ไปทางด้านไหนกันแน่ เนื่องจากคำแถลงของ Apple ที่มีออกมานั้นบอกไว้แค่ว่าจะให้ประสบการณ์การใช้งานในแอปอย่าง Final Cut Pro สามารถที่จะใช้งานแบบ 360 องศาได้เท่านั้น ซึ่งนี่อาจจะไม่ได้ดึงดูดผู้บริโภคทั่วไปเท่าไรนัก แต่ก็ไม่แน่ครับว่าในอนาคตทาง Apple อาจจะมีการพัฒนา Metal 2 รุ่นใหม่ให้รองรับการใช้งานที่มากขึ้นครับ
ถ้า Apple คิดจะก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงไม่ว่าจะทั้ง AR หรือ VR นั้น Apple สามารถทำได้เพราะมีอุปกรณ์อยู่ในมืออยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือเครื่อง Mac ต่างๆ แต่ด้วยความไม่แน่นอนของ Apple และการดูไม่จริงจังเท่าไรเพราะค่อนข้างบีบผู้พัฒนานั้น เราเลยอาจจะได้เห็นการก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงของทาง Apple ที่ต้องใช้เวลาอีกยาวไกลครับ
ที่มา : theverge