Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

[Review] ASUS ZenBook 3 UX430 โน๊ตบุ๊คบางเบาหน้าจอ 14″ ในตัวเครื่อง 13″ มีการ์ดจอแยก ในราคา 41,900 บาท

ล่าสุดทางทาง Asus เปิดตัว ZenBook 3 UX430 ออกมาหลายรุ่นด้วยกัน เป็นโน๊ตบุ๊คตัวเครื่องเทียบเท่าพวกขนาด 13 นิ้ว แต่กลับมาพร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว ที่ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเบาเล็กกระทัดรัด ขอบจอก็บางเฉียบ บอดี้อลูมิเนียมทั้งตัว

หลังจากที่ ASUS ได้เปิดตัว Ultrabook ซีรีส์ ZenBook มาแล้วหลากรุ่นกับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับการใช้งานแบบพกพาไปทำงานนอกสถานที่ต่างๆ ทั้งด้วยสเปคประสิทธิภาพที่มาให้ค่อนข้างดีและมีแบตเตอรรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน รวมถึงมาตรฐานการบริการรรับประกันระยะเวลา 2 ปี ทำให้เจ้า Asus ZenBook ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนถึงทุกวันนี้

ล่าสุดทางทาง Asus เปิดตัว ZenBook 3 UX430 ออกมาหลายรุ่นด้วยกัน เป็นโน๊ตบุ๊คตัวเครื่องเทียบเท่าพวกขนาด 13 นิ้ว แต่กลับมาพร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว ที่ดูหรูหรา มาพร้อมกับขนาดตัวเครื่องที่บางเบาเล็กกระทัดรัด ขอบจอก็บางเฉียบ บอดี้อลูมิเนียมทั้งตัว ส่วนสเปคภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7 และการ์ดจอแยก GeForce 940MX ใส่แรมขนาด 8GB DDR4 สำหรับความละเอียดหน้าจอก็เป็นระดับ Full HD ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง สนนราคา ASUS ZenBook 3 UX430 อยู่ที่ 41,900 บาทเท่านั้น

Advertisement

Specification

สเปคภายในของตัว ASUS ZenBook 3 UX430 จะคล้ายกับกลุ่มโน๊ตบุ๊คทั่วไป โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพ CPU ภายในเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-7500U ความเร็ว 2.7 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 2.9 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 2 คอร์ 4 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 7 (Kaby Lake) รุ่นล่าสุด

ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce 940MX ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 ความจุสูง 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ายังมีไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาวให้อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวนี้สนนราคาอยู่ที่ 41,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปีเต็ม

Hardware / Design

Asus Zenbook 3

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ZenBook 3 UX430 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากแบบ Nano Edge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก แต่ก็ยังใส่จอขนาด 14 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คมาตรฐานจากแบรนด์อื่นๆ มาให้อยู่ดี ในน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัมเท่านั้น

เรียกได้ว่ากระทัดรัดเหมาะต่อการพกพา ด้วยดีไซน์ของขอบจอที่บางเพียง 7.18 มิลลิเมตร และสีของตัวเครื่องมีความงดงามดั่งคริสตัล ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ เรียกได้ว่าพัฒนาจากรุ่นก่อนๆ ออกมาได้ดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แกนพับหน้าจอขนาดใหญ่ดูแข็งแรงสุดๆ

Asus Zenbook 28

ตัวเครื่องโดยรวมจะเป็นอลูมิเนียมแทบทั้งหมด (ยกเว้นฝาหลังที่เป็นกระจก) ทำให้มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย

ASUS ZenBook 3 UX430 พร้อมกับสีสันที่สวยงามถึง 4 แบบที่เข้ากับสไตล์ของเรา – Royal Blue, Rose Gold*, Quartz Gray และ Shimmer Gold และฝาครอบแบบ อลูมิเนียมอัลลอย ที่มีลวดลายเมแทลลิกส์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ ASUS ที่มีลักษณะแบบโลหะปั่นขึ้นรูป ดีไซน์ที่เป็นรูปวงกลมเข้าสู่จุดศูนย์กลางอย่างสวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเซน ซึ่งถูกประดับด้วยการเคลือบที่สวยงาม ดุจคริสตัล ที่ทำขึ้นโดยใช้เทคนิคขึ้นสูงที่เรียกว่า nano-imprinting การเคลือบสีมันวาวด้วย เทคโนโลยีขั้นสูง แบบพิเศษนี้ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความหรูหราให้กับ ZenBook UX430 ของเรา* สี Rose Gold ไม่มีจัดจำหน่ายในประเทศไทย

นอกจากนี้ใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่มีช่องระบายอากาศให้เห็นเลย สำหรับ ASUS ZenBook 3 UX430ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงตัวสติกเกอร์ Windows 10 ก็จะติดอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องนี้เช่นกัน

Keyboard / Touchpad

Asus Zenbook 24

ทางด้านของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดีมีระยะห่างของปุ่ม ขนาด 1.4 มม. เพื่อให้ความรู้สึกที่สะดวกสบายในการพิมพ์ การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ซึ่งปุ่มกดแล้วรู้สึกว่าไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป และไม่มีอาการกดแรงๆ แล้วแป้นยวบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะดูฝืดๆ สักหน่อย ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร รวมไปถึงยังมีสแกนลายน้ำมือไว้ใช้งานร่วมกับ Windwos Hello เพื่อเข้าใช้งาน Windows 10 อีกด้วย

Screen / Speaker

Asus Zenbook 29

ASUS ZenBook 3 UX430 ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 14 นิ้ว มีขอบที่บางมากเพียง 6 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS การแสดงผลของสีเป็นแบบ 100% sRGB และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 14 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุด และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Asus Zenbook 15

มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Gen 1 จำนวนหนึ่งพอร์ท ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ทที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ท USB 3.1 Type C มาให้อีกหนึ่งพอร์ทด้วยสำหรับการรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ

ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอจะมีพอร์ท  micro-HDMI มาให้ ส่วนใครที่ต้องการใช้พอร์ท VGA ตัว ASUS ZenBook 3 UX430 ก็มีอแดปเตอร์แปลง micro-HDMI to VGA มาให้ด้วย รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน SD Card จะอยู่ด้านขวาตัวเครื่อง นอกเหนือจากนี้ยังมีอแดปเตอร์ USB to Lan มาให้ด้วยสำหรับใครที่ต้องการเชื่อมต่อ Internet ผ่านสาย Lan

น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.25 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง

Performance / Software

win

ASUS ZenBook 3 UX430 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7500U ซึ่งเป็นชิปประมวลแบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.7 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.9 GHz นะครับ เป็น CPU แบบ 2 Core 4 Threads เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ ในระดับหนึ่ง มาพร้อม Ram On Board ภายในขนาด 8GB Bus 2133

cpu1 2   cpu2 1

ด้านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้จะมีสองตัวด้วยกัน คือการ์ดจอออนบอร์ดและการ์ดจอแยกจาก NVIDIA ซึ่งการ์ดจอออนบอร์ดจะเป็น Intel HD Graphic 620 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก Nvidia GeForce 940MX  ขนาด 2 GB DDR3 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงไม่ว่าจะตัดต่อหนังหรือจะเล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง แม้อาจจะไม่แรงมากเทียบเท่าพวก GTX แต่ก็พอเพียงกับการใช้งานเล่นเกมประเภทออนไลน์ได้อยู่

gpu1 2   gpu2 1

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

cine 2

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 มาตรฐาน SATA 3 ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung กับความเร็วระดับ Read: 557 MB/s – Write: 525 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุน แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ssd2

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1  ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับต่ำสุด ภาพก็สวยงามตามท้องเรื่อง ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กัยการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้ว่าต้องยอมว่าภาพอาจจะไม่สวยหรือละเอียดมาก แต่ก็พอที่จะเล่นแก้ขัดไปได้

game

อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ แต่ก็ปรับภาพค่อนข้างต่ำ ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 45 ขึ้นไปตลอด (แต่ก็มีแอบร่วงบ้าง) สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง

  • Battlefield 1 HD – Low
  • Overwatch FHD – Low
  • DOTA 2 FHD – Fast

Battery / Heat / Noise

batt 1

แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook 3 UX430 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3 Cell สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) ส่วนช่องระบายของเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวนี้จะอยู่ด้านบนบริเวณแกนพับหน้าจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอลูมิเนียมของเครื่องเวลาพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

temp 2

ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 33 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 86 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS ZenBook 3 UX430 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีพอควร ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Asus ที่ออกแบบมาค่อนข้างดี อีกทั้งบอดี้อลูมิเนียมช่วยระบายความร้อน และเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลงทำให้ใช้พลังงานน้อยลงไปด้วย

Conclusion / Award

Asus Zenbook 4

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS ZenBook 3 UX430 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล ZenBook ได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น Ultrabook ระดับสูงของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับ

Asus Zenbook 17

ทางด้านราคาเริ่มต้นสำหรับตัว ASUS ZenBook 3 UX430 ตัวท๊อปที่นำมารีวิวเป็น Core i7 ก็สนนราคาที่ 41,900 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องชิปประมวลผล แรมและฮาร์ดดิสก์ที่มากว่า แต่ส่วนอื่นๆ ก็เหมือนกันหมด อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา ASUS ZenBook 3 UX430 จะมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่ก็เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบและมีหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่มีขนาดบอดี้ น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.2.5 กิโลกรัมและบางเพียง 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาหรูหราสเปกได้ราคาไม่แพงมากนัก ก็ลองดูเป็น ASUS ZenBook 3 UX430 เชื่อได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เมื่อเทียบราคากับสิ่งที่ได้

Asus Zenbook 26

จุดเด่น

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 13.3 นิ้ว
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยสด งดงามมาก
  • หน้าจอแสดงผลแบบ 100% sRGB
  • ขอบจอบางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพิ่มความโดดเด่น
  • Blacklit Keyboard สวยงามใช้งานได้จริง
  • น้ำหนักเบากว่าเดิม วัสดุตัวเครื่องคุณภาพสูงทั้งตัว
  • แบตเตอรรี่ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงเมื่อนำมาเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี USB 3.1 Type-C มาให้ด้วย
  • ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง
  • มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือ ใช้งานผ่านทาง Windows Hello
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งาน
  • ประกัน 2 ปี

ข้อสังเกต

  • ราคาสูงเมื่อเทียบกับสเปก แต่ได้ความพรีเมียมแทน

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook 3 UX430 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ZenBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนในASUS ZenBook 3 UX430 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ สีบอดี้ออกเทาๆ ชมพูๆ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังมีขอบจอบางสุดๆ อีกด้วย

award_use_2_create_12

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.25 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ

 

award_use_2_create_23

Specification

สเปคภายในของตัว ASUS ZenBook 3 UX430 จะคล้ายกับกลุ่มโน๊ตบุ๊คทั่วไป โดยมาพร้อมขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พาเนลคุณภาพสูงอย่าง IPS ซึ่งให้สีสันที่สวยสมจริง มุมมองกว้างถึง 170 องศา ด้านประสิทธิภาพ CPU ภายในเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-7500U ความเร็ว 2.7 GHz ที่สามารถเร่งการทำงานไปได้ถึง 2.9 GHz โดยเป็นชิปประหยัดพลังงานพิเศษ แบบ 2 คอร์ 4 เทรด ซึ่งแน่นอนว่าให้ทั้งความแรงและใช้งานได้ยาวนาน เป็นสถาปัตยกรรม Intel Core i Gen 7 (Kaby Lake) รุ่นล่าสุด

ส่วนแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 8GB DDR4 ซึ่งพอเพียงกับการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดก็เป็น NVIDIA GeForce 940MX ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานรองรับ 3 มิติได้ดี เล่นเกมออนไลน์ได้สบายๆ สำหรับฮาร์ดดิสก์แบบ SSD M.2 ความจุสูง 512GB ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wireless AC ด้วย อีกทั้งยังมีน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ในส่วนของกล้องด้านหน้ายังมีไฟคีย์บอร์ด Backlit สีขาวให้อีกด้วย ซึ่งเจ้าตัวนี้สนนราคาอยู่ที่ 41,900 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปีเต็ม

Hardware / Design

Asus Zenbook 3

ดีไซน์การออกแบบโดยรวมของ ASUS ZenBook 3 UX430 นั้นจะดูเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วอื่นๆ อยู่พอสมควร เนื่องด้วยมีขอบจอที่บางมากแบบ Nano Edge ทำให้ตัวเครื่องดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา แต่ทั้งนี้ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะเล็ก แต่ก็ยังใส่จอขนาด 14 นิ้วเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คมาตรฐานจากแบรนด์อื่นๆ มาให้อยู่ดี ในน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัมเท่านั้น

เรียกได้ว่ากระทัดรัดเหมาะต่อการพกพา ด้วยดีไซน์ของขอบจอที่บางเพียง 7.18 มิลลิเมตร และสีของตัวเครื่องมีความงดงามดั่งคริสตัล ทำให้มีความโดดเด่นมากๆ เรียกได้ว่าพัฒนาจากรุ่นก่อนๆ ออกมาได้ดูทันสมัยและเรียบง่ายมากยิ่งขึ้น ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แกนพับหน้าจอขนาดใหญ่ดูแข็งแรงสุดๆ

Asus Zenbook 28

ตัวเครื่องโดยรวมจะเป็นอลูมิเนียมแทบทั้งหมด (ยกเว้นฝาหลังที่เป็นกระจก) ทำให้มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา โดยตัวเครื่องภายนอกทั้งฝาหลังและด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นอลูมิเนียม ส่งผลให้เวลาที่เราเอามือมาวางบนคีย์บอร์ดจะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนือชั้นกว่าวัสดุทั่วๆ ไป แถมเป็นรอยนิ้วมือค่อนข้างยากอีกด้วย

ASUS ZenBook 3 UX430 พร้อมกับสีสันที่สวยงามถึง 4 แบบที่เข้ากับสไตล์ของเรา – Royal Blue, Rose Gold*, Quartz Gray และ Shimmer Gold และฝาครอบแบบ อลูมิเนียมอัลลอย ที่มีลวดลายเมแทลลิกส์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ ASUS ที่มีลักษณะแบบโลหะปั่นขึ้นรูป ดีไซน์ที่เป็นรูปวงกลมเข้าสู่จุดศูนย์กลางอย่างสวยงามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเซน ซึ่งถูกประดับด้วยการเคลือบที่สวยงาม ดุจคริสตัล ที่ทำขึ้นโดยใช้เทคนิคขึ้นสูงที่เรียกว่า nano-imprinting การเคลือบสีมันวาวด้วย เทคโนโลยีขั้นสูง แบบพิเศษนี้ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความหรูหราให้กับ ZenBook UX430 ของเรา* สี Rose Gold ไม่มีจัดจำหน่ายในประเทศไทย

นอกจากนี้ใต้เครื่องก็เรียกได้ว่าไม่มีช่องระบายอากาศให้เห็นเลย สำหรับ ASUS ZenBook 3 UX430ในการท่ายเทความร้อนออกไปจากช่องทางใต้หน้าจอ ทำให้สเปกแรงแบบนี้ก็ยังถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็วน่าประทับใจ แม้จะมีพัดลมเพียงตัวเดียวก็สามารถจัดการความร้อนภายในได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงตัวสติกเกอร์ Windows 10 ก็จะติดอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องนี้เช่นกัน

Keyboard / Touchpad

Asus Zenbook 24

ทางด้านของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบมาให้ปุ่มมีขนาดใหญ่พอดีกับนิ้วมือ ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ในส่วนการสัมผัสให้การสัมผัสที่นุ่มกำลังดีมีระยะห่างของปุ่ม ขนาด 1.4 มม. เพื่อให้ความรู้สึกที่สะดวกสบายในการพิมพ์ การตอบสนองทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วกันและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด ซึ่งปุ่มกดแล้วรู้สึกว่าไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป และไม่มีอาการกดแรงๆ แล้วแป้นยวบให้เห็นแต่อย่างใด แถมมีไฟ Backlit สีขาว สามารถปรับได้ 3 ระดับ ปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมบนขวากลืนไปกับคีย์บอร์ด

ตัวทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ดีไซน์ออกมาแบบไม่มีปุ่มแยกเป็นชิ้นเดียวทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่การสัมผัสเลื่อนนิ้วไปมาจะดูฝืดๆ สักหน่อย ส่วนตัวซอฟต์แวร์ที่ให้มาสามารถควบคุมจัดการได้ดี ใช้งานแบบมัลติทัชได้ลื่นไหลพอสมควร รวมไปถึงยังมีสแกนลายน้ำมือไว้ใช้งานร่วมกับ Windwos Hello เพื่อเข้าใช้งาน Windows 10 อีกด้วย

Screen / Speaker

Asus Zenbook 29

ASUS ZenBook 3 UX430 ได้ติดตั้งหน้าจอด้านขนาด 14 นิ้ว มีขอบที่บางมากเพียง 6 มิลลิเมตร ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD Panel IPS การแสดงผลของสีเป็นแบบ 100% sRGB และมีมุมมองกว้างถึง 178 องศา ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คจอ 14 นิ้วที่ให้สีที่สวยที่สุด สมจริงที่สุด และการที่ใส่ยางขอบจอแบบติดเนียนตามตลอดแนวขอบจอเลย ทำให้ช่วยซับแรงกระแทกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น

ตัวลำโพงเป็นแบบสเตอริโอเลือกใช้ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง มีทั้งเสียงเบสที่มีน้ำหนัก ไม่ใช่ใส่แต่เสียงกลาง เสียงแหลมออกมาอย่างเดียว โดยตัวลำโพงจะอยู่บริเวณใต้ตัวเครื่องซ้ายและขวาลักษณะยิงลงพื้น ทำให้เสียงที่ค่อนข้างดังพอสมควร แยกรายละเอียดได้ซ้ายขวาได้ดี โดยรวมถือในส่วนของลำโพงถือว่าทำออกได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทั้งในคุณภาพเสียงที่ได้และเสียงดังฟังชัดเพียงพอจะออกไปในนอกสถานที่ได้ ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

Asus Zenbook 15

มาดูในส่วนของการเชื่อมต่อกันบ้าง หลักๆ แล้วถือว่ามีความครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพอร์ต USB 3.1 Gen 1 จำนวนหนึ่งพอร์ท ไว้สำหรับการเชื่อมต่อกับแฟลชไดร์ฟหรือฮาร์ดดิสก์ภายนอกไว้ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว พอร์ต USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ทที่ไว้เชื่อมต่อกับเมาส์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และมีพอร์ท USB 3.1 Type C มาให้อีกหนึ่งพอร์ทด้วยสำหรับการรองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ

ทางด้านพอร์ทการเชื่อมต่อหน้าจอจะมีพอร์ท  micro-HDMI มาให้ ส่วนใครที่ต้องการใช้พอร์ท VGA ตัว ASUS ZenBook 3 UX430 ก็มีอแดปเตอร์แปลง micro-HDMI to VGA มาให้ด้วย รูเชื่อมต่อหูฟังเป็นแบบ Combo ไมค์และหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ส่วนช่องอ่าน SD Card จะอยู่ด้านขวาตัวเครื่อง นอกเหนือจากนี้ยังมีอแดปเตอร์ USB to Lan มาให้ด้วยสำหรับใครที่ต้องการเชื่อมต่อ Internet ผ่านสาย Lan

น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.25 กิโลกรัม และตัวอแดปเตอร์ที่ชาร์จเองก็มีขนาดเล็ก กะทัดรัดซึ่งเมื่อรวมเข้าไปด้วยกันแล้วน่าจะมีหนักราวๆ ไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม ถือว่ามีน้ำหนักที่มีความเบามากๆ เลยทีเดียว เพราะปกติแล้วโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งแน่นอนว่าออกแบบมาเพื่อตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง

Performance / Software

win

ASUS ZenBook 3 UX430 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7500U ซึ่งเป็นชิปประมวลแบบประหยัดพลังงาน มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.7 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.9 GHz นะครับ เป็น CPU แบบ 2 Core 4 Threads เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ ในระดับหนึ่ง มาพร้อม Ram On Board ภายในขนาด 8GB Bus 2133

cpu1 2   cpu2 1

ด้านของการ์ดจอที่ติดตั้งมาให้จะมีสองตัวด้วยกัน คือการ์ดจอออนบอร์ดและการ์ดจอแยกจาก NVIDIA ซึ่งการ์ดจอออนบอร์ดจะเป็น Intel HD Graphic 620 สำหรับประมวลผลทั่วไปเช่นดูหนังหรือฟังเพลง ส่วนการ์ดจอแยกจาก Nvidia GeForce 940MX  ขนาด 2 GB DDR3 สามารถรองรับการประมวลผลกราฟิกระดับสูงไม่ว่าจะตัดต่อหนังหรือจะเล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง แม้อาจจะไม่แรงมากเทียบเท่าพวก GTX แต่ก็พอเพียงกับการใช้งานเล่นเกมประเภทออนไลน์ได้อยู่

gpu1 2   gpu2 1

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

cine 2

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD แบบ M.2 มาตรฐาน SATA 3 ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung กับความเร็วระดับ Read: 557 MB/s – Write: 525 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุน แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ssd2

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1  ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับต่ำสุด ภาพก็สวยงามตามท้องเรื่อง ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กัยการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว แม้ว่าต้องยอมว่าภาพอาจจะไม่สวยหรือละเอียดมาก แต่ก็พอที่จะเล่นแก้ขัดไปได้

game

อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ แต่ก็ปรับภาพค่อนข้างต่ำ ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 45 ขึ้นไปตลอด (แต่ก็มีแอบร่วงบ้าง) สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง

  • Battlefield 1 HD – Low
  • Overwatch FHD – Low
  • DOTA 2 FHD – Fast

Battery / Heat / Noise

batt 1

แบตเตอรี่ของ ASUS ZenBook 3 UX430 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3 Cell สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) ส่วนช่องระบายของเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวนี้จะอยู่ด้านบนบริเวณแกนพับหน้าจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับกรอบอลูมิเนียมของเครื่องเวลาพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

temp 2

ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 33 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 86 องศาเซลเซียส นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ ASUS ZenBook 3 UX430 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีพอควร ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Asus ที่ออกแบบมาค่อนข้างดี อีกทั้งบอดี้อลูมิเนียมช่วยระบายความร้อน และเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลงทำให้ใช้พลังงานน้อยลงไปด้วย

Conclusion / Award

Asus Zenbook 4

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นที่ทุกๆ คนให้ความสนใจอย่าง ASUS ZenBook 3 UX430 ที่ต่อยอดความสำเร็จตระกูล ZenBook ได้เป็นอย่างดีมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็น Ultrabook ระดับสูงของทาง ASUS ที่ทุกคนต่างในการยอมรับ

Asus Zenbook 17

ทางด้านราคาเริ่มต้นสำหรับตัว ASUS ZenBook 3 UX430 ตัวท๊อปที่นำมารีวิวเป็น Core i7 ก็สนนราคาที่ 41,900 บาท ซึ่งเหนือกว่าในเรื่องชิปประมวลผล แรมและฮาร์ดดิสก์ที่มากว่า แต่ส่วนอื่นๆ ก็เหมือนกันหมด อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีราคา ASUS ZenBook 3 UX430 จะมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่ก็เหนือกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยการที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเทียบและมีหน้าจอขนาด 14 นิ้ว แต่มีขนาดบอดี้ น้ำหนัก มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้วทั่วไป ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.2.5 กิโลกรัมและบางเพียง 15.9 มิลลิเมตรเท่านั้น

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คบางเบาหรูหราสเปกได้ราคาไม่แพงมากนัก ก็ลองดูเป็น ASUS ZenBook 3 UX430 เชื่อได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เมื่อเทียบราคากับสิ่งที่ได้

Asus Zenbook 26

จุดเด่น

  • เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 14 นิ้ว แต่มีขนาดตัวเครื่องเล็กเทียบเท่ารุ่นหน้าจอ 13.3 นิ้ว
  • หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Full HD พาเนล IPS ให้สีสันที่สวยสด งดงามมาก
  • หน้าจอแสดงผลแบบ 100% sRGB
  • ขอบจอบางพิเศษกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพิ่มความโดดเด่น
  • Blacklit Keyboard สวยงามใช้งานได้จริง
  • น้ำหนักเบากว่าเดิม วัสดุตัวเครื่องคุณภาพสูงทั้งตัว
  • แบตเตอรรี่ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงเมื่อนำมาเล่นอินเตอร์เน็ตดู Youtube
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี USB 3.1 Type-C มาให้ด้วย
  • ลำโพง Harman/ Kardon ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง
  • มาพร้อมสแกนลายนิ้วมือ ใช้งานผ่านทาง Windows Hello
  • มี Windows 10 แท้มาให้พร้อมใช้งาน
  • ประกัน 2 ปี

ข้อสังเกต

  • ราคาสูงเมื่อเทียบกับสเปก แต่ได้ความพรีเมียมแทน

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง ASUS ZenBook 3 UX430 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ ZenBook มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนในASUS ZenBook 3 UX430 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ สีบอดี้ออกเทาๆ ชมพูๆ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ แถมยังมีขอบจอบางสุดๆ อีกด้วย

award_use_2_create_12

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา ทั้งในความบางเพียง 15.9 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.25 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ

 

award_use_2_create_23

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

AMD

เราปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้ว และโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ติดตั้งชิปเซ็ต AMD Ryzen AI NPU ก็เริ่มหาซื้อได้ง่ายขึ้น มีตัวเลือกมากมายแถมซอฟท์แวร์หรือส่วนเสริม AI จากบริษัทชั้นนำก็มีให้ใช้งานมากขึ้นรวมทั้ง Microsoft ก็รับลูก จับมือกับผู้พัฒนาซีพียูปรับแต่ง Windows 11 ให้ใช้งานกับซีพียูรุ่นใหม่มี NPU ได้ดีขึ้นและมีฟังก์ชั่นตรวจจับการทำงานเพิ่มเข้ามาใน Task Manager เป็นพิเศษ ทำให้ผู้ใช้ดูได้ว่าชิปเซ็ตใหม่นี้ทำงานตอนไหนบ้าง อย่างไรก็ตามชิปนี้ถูกออกแบบมาใช้ทำงานเฉพาะอย่าง ปกติมักไมเ่ห็นคอร์นี้ทำงานบ่อยนักจนบางคนเกิดกังขาว่าชิปเซ็ตตัวนี้มันสมคำโฆษณาหรือเปล่า?...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก