จากกรณีที่มัลแวร์ Wannacry โจมตีไปทั่วโลกโดยเฉพาะที่ US และ UK ซึ่งโดนหนักกว่าใครเขาเพื่อนนั้นทำให้ตอนนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เข้ามาดูเรื่องของความปลอดภัยในการจู่โจมทางโลกไซเบอร์อย่างเป็นทางการและถือว่ามีความสำคัญในระดับแรกๆ ที่ต้องดำเนินการป้องกันทั้ง Wannacry เองและการโจมตีต่างๆ บนโลกไซเบอร์ในอนาคตครับ
สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการโจมตีในโลกไซเบอร์ทั่วโลกนั้นก็เกิดขึ้นมาจากการไม่มีความพร้อมในการป้องกันมากสักเท่าไรนักซึ่งในที่นี้นั้นหมายถึงกระทรวงต่างๆ ของรัฐบาล(สหรัฐฯ) เองก็ไม่ได้มีการป้องกันเรื่องความปลอดภัยในเรื่องดังกล่าวนี้ อย่างไรก็ตามแต่วิกฤต Wannacry นั้นก็ทำให้กระทรวงตื่นตัวและมีการกระตุ้นให้ทาง Microsoft จัดการในเรื่องความความปลอดของ Windows ให้มากขึ้นกว่าเดิมครับ
ตามข้อมูลนั้นที่ Terry Halvorsen ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายข้อมูลสารสนเทศของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุเอาไว้ว่าทางกระทรวงต่างๆ จะใช้ระบบป้องกันความปลอดภัยของตัวเองโดยเทคโนโลยีดังกล่าวนั้นก็จะไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาจากตอนแรกที่ได้มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยครับ ซึ่งนั่นทำให้การป้องกันนั้นล้าสมัย
ทั้งนี้ในการเพิ่มความปลอดภัยดังกล่าวนั้นจำเป็นที่จะต้องเร่งให้ Microsoft เป็นผู้จัดการครับ สาเหตุนั้นก็มาจากการที่ใน Pentagon นั้นใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 10 ถึงเกือบ 90% เลยทีเดียว John Zangardi ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของกระทรวงกลาโหม บอกเอาไว้ว่าตัวเขาเองนั้นมีหน้าที่ในการพลักดันให้ในองค์กรใช้ Windows 10 ซึ่งถือว่าเป็นความสำคัญในลำดับต้นๆ ครับ
เพื่อให้ภายใน Pentagon มีความปลอดภัยมากขึ้นดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมมือกับ Microsoft เพื่อที่จะทำให้ระบบปฎิบัติการ Windows 10 มาพร้อมกับความปลอดภัยมากที่สุด งานนี้ก็เพื่อที่จะรับมือการจู่โจมทางโลกไซเบอร์โดยเฉพาะเนื่องจากว่านี่เป็นการจู่โจมในโลกปัจจุบันและอนาคตซึ่งคงไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ไปตามหาตัวผู้กระทำผิดเพื่อจัดการเหมือนอย่างเคยดังนั้นแล้วการร่วมมือเพื่อสร้างความปลอดภัยในระบบปฎิบัติการเองกับทาง Microsoft จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากครับ
หมายเหต – อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ก็ได้มีการเตรียมตัวให้พนักงานพร้อมกับการรับมือด้วยการโจมตีในโลกไซเบอร์ด้วยครับ
ที่มา : mspoweruser