Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

[Review] ASUS ROG G20CI กับ Gaming Desktop PC ขนาดจิ๋วแต่เจ๋ง ดีไซน์ดุ ประสิทธิภาพแรงเวอร์ !!!

ASUS ROG G20CI นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Small Form Factor) ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับ Gaming Desktop PC ประกอบตัวแรง !!! มาพร้อมกับขนาดที่เล็กกว่าเคสพีซีทั่วไปหลายเท่า แน่นอนว่าเมื่อเป็น ASUS ROG

ASUS นำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อการเล่นเกม ROG (Republic of Gamers) รุ่นล่าสุดอย่าง ASUS ROG G20CI โดยมาพร้อมดีไซน์ใหม่โดนใจเกมเมอร์ที่สุด ออกแนวดุดันและติดตั้งไฟ RGB ที่เราสามารถปรับแต่งได้ ที่สำคัญด้วยขนาดที่จิ๋วแต่เจ๋ง ซึ่งความเจ๋งอยู่ที่เป็นการต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าในส่วนของสเปก รวมไปถึงคุณสมบัติต่างๆ ด้วย เรียกได้ว่าสมกับเป็นคอมพิวเตอร์ระดับฮาร์ดคอร์ของปี 2017 ทีเดียว

ASUS ROG G20CI นั้นเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Small Form Factor) ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับ Gaming Desktop PC ประกอบตัวแรง !!! มาพร้อมกับขนาดที่เล็กกว่าเคสพีซีทั่วไปหลายเท่า แน่นอนว่าเมื่อเป็น ASUS ROG แล้วนั้นเรื่องของการใช้งานสำหรับการเล่นเกมนั้นไว้ใจได้เลย เพราะใน ASUS ROG G20CI นั้นทาง ASUS จัดสเปคมาให้แรงแบบไม่ต้องเกรงใจขนาดของตัวเครื่องกันเลยทีเดียว อย่าง Intel Core i7-7700 + NVIDIA GeFroce GTX 1070 ที่สำคัญมาพร้อมเทคโนโลยีมากมาย

Advertisement

VDO Review

Specification

ASUS ROG G20CI ที่ทางทีมงาน NotebookSPEC ได้มาทดสอบ จะใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700 ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด บนความเร็ว 3.6 สูงสุดที่ 4.2 GHz ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงสำหรับ Gaming Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 ที่มาพร้อมกับแรม 8GB GDDR5 มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ 1TB 7200 RPM พร้อมติดตั้ง SSD แบบ NVMe M.2 ความจุ 128GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 พร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ใช้งานได้ทันที

ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ก็มาพร้อมกับการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1 , USB 3.0 พร้อมด้วยการเชื่อมต่อการแสดงผลอย่าง HDMI, DisplayPort รวมไปถึงการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงต่างๆ แบบครบๆ ทั้งดิจิตอลและอนาล็อค ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีทั้ง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth 4.0, Dual Band มิติของตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กโดยมีปริมาตรเพียง 9.5 ลิตร และหนักเพียง 6.38 กิโลกรัม สนนราคา ASUS ROG G20CI อยู่ที่ห้าหมื่นบาทขึ้นไปมาพร้อมชุดเมาส์คีย์บอร์ดบันเดิลพร้อมใช้งานทันที

Hardware / Design

ASUS ROG G20 - 2017 Review-1

ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่ง Gaming Desktop PC ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับ ASUS ROG G20CI ที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่สวยงามและแตกต่างจาก Desktop PC ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ด้วยรูปแบบของเคสมาตรฐาน FlexATX ที่เป็นเหล็กกล้าหุ้มด้วยโคลเวอร์พลาสติกเกรดดีเล่นสีสันตามสไตล์ของ ASUS ROG ที่เน้นไปทางสีเทาและสีแดงตัดกันอย่างลงตัว โดยมีขนาดมิติตัวเครื่องเคสที่ 104 x 340 x 358 และมีน้ำหนักอยู่ที่ 6.38 กิโลกรัม โดยมีปริมาณอยู่ที่ 9.5 ลิตรเท่านั้น ซึ่งมีขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป พอที่จะตั้งบนโต๊ะทำงานได้อย่างสบายๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับเคสพีซรทั่วไปจะเห็นว่ามีขนาดที่เล็กกว่าหลายเท่าทีเดียว

ASUS ROG G20CI เป็นการออกแบบ AvantGarde Design ลักษณะเป็นแนวตั้ง ตัวเคสเป็นพื้นผิวดำด้าน มีลวดลายสัญลักษณ์ที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากเผ่ามายันตลอดทั้งตัวเครื่อง อีกทั้งยังมี ASUS Aura LED Effects สามารถปรับแสงไฟเคส ที่มีให้เลือกมากถึง 8 ล้านสี ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกันคือ ด้านหน้าตัวเครื่องด้านซ้ายและขวา รวมไปถึงด้านล่างของตัวเครื่องที่เป็นการยิงแสงลงมากระทบที่โต๊ะ เรียกได้สวยงามและโดดเด่นจริงๆ แน่นอนว่าเราสามารถที่ปรับแต่งไฟ การวิ่งของไฟ ผ่านทางซอฟต์แวร์ได้อีกด้วย สะท้อนความเป็นตัวเอง ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกับผู้ใช้แล้ว

โดยมีปุ่ม Power อยู่ด้านหน้ามุมซ้านบนซ่อนอยู่ ที่สำคัญบริเวณขอบด้านบนส่วนหน้าของตัวเครื่องยังได้ติดตั้งพอร์ตการเชื่อมต่อเอาไว้อย่าง USB 3.1 Gen 1 ถึง 2พอร์ต พร้อมด้วยช่องต่อหูฟังแล้วไมค์  อีกทั้งด้านหน้าก็ยังมีช่อง DVD Drive ซ่อนอยู่ไว้รองรับการใช้งานเพื่อติดตั้งเกมหรือชมภาพยนต์หรือเพลงที่เป็น DVD หรือ CD ด้วย

ASUS ROG G20 - 2017 Review-17

ในส่วนของเรื่องระบบระบายความร้อนบน ASUS ROG G20CI นั้นเรียกได้ว่ามาพร้อมกับความรวดเร็วและเสียงที่เบามากๆ โดยใช้หลักการระบายความร้อนด้วยการนำพาความร้อนตามหลักการไหลเวียนของณหภูมิในรูปแบบของธรรมชาติ (Natural Convection Thermal Design) ด้วยอุโมงค์ไหลเวียนของอากาศที่ซ่อนอยู่จะสามารถเคลื่อนย้ายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีเสียงที่เบาด้วย จากการที่ดูดลมเย็นจะข้างล่างแล้วเป่าลมร้อนขึ้นด้านบน

ภายในตัวเครื่อง ASUS ROG G20CI จะมีพัดลมซ่อนอยู่ภายในสำหรับทำให้อากาศไหลเวียนเข้าและออกจากตัวเครื่องถึง 2 ตัวซึ่งพัดลมทั้ง 2 ตัวนี้เวลาทำงานจะให้เสียงที่เบามากๆ คือ ณ ตอนเครื่อง idle จะมีเสียงรบกวนอยู่ที่ 22 dB เท่านั้น ที่ต้องบอกว่าเสียงเบามากๆ หรือถ้าเน้นทำงานให้เต็มประสิทธิภาพก็สามารถเร่งพัดให้ทำงานได้ 100% เช่นกัน

ASUS ROG G20CI ก็ยังคงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการออกแบบที่ใส่ใจในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมพร้อมทั้งยังมีโหมด Eco Energy มาให้ผู้ใช้สามารถเลือกทำการใช้โหมดนี้ตอนใช้งานตัวเครื่องในช่วงเวลาปกติได้ซึ่ง ณ โหมดนี้นั้นตัวเครื่องจะมีอัตราการใช้พลังงานรวมทั้งหมดเพียงแค่ 10 W เท่านั้น (ดีกว่าคอมพิวเตอร์พีซีสำหรับการเล่นเกมในระดับเดียวกันถึง 50%)

Keyboard / Mouse

ASUS ROG G20 - 2017 Review-36

ส่วนของชุดเมาส์และคีย์บอร์ดของ ASUS ROG G20CI ที่บันเดิลมา เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Mouse, Gaming Keyboard รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน เพราะมันเป็นเพียงเมาส์และคีย์บอร์ดแบบสายธรรมดาเท่านั้น กับรูปแบบ Rubber Dome ซึ่งตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวขอบสีขาว โดยมีการออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่โดยโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ที่จะว่าไปแล้วก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ด้านการใช้งานในการพิมพ์ เหมาะมากๆ กับการใช้งานทั่วไป อีกทั้งยังมีปุ่มลัดต่างๆ ส่วนของเมาส์ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจแม้จะเป็นเพียงเมาส์ธรรมดาก็ตาม

อย่างไรก็ตามชุดบันเดิลที่มาพร้อมกับ ASUS ROG G20CI ก็จะมีเมาส์และคีย์บอร์ดของทาง ASUS ซึ่งต้องบอกว่าเป็นชุดเมาส์และคีย์บอร์ดทั่วไป ไม่ใช่ Gaming Gear ที่เป็นซีรีส์ ASUS ROG แต่อย่างใด จัดว่าน่าเสียดายเล็กน้อย ยังไงก็ตามเชื่อได้ว่านักเล่นเกมหลายคนคงต้องซื้อ Gaming Keyboard และ Gaming Mouse กันอีกทีแน่นอน

Connector / Thin And Weight

ASUS ROG G20 - 2017 Review-32
ในส่วนของระบบจ่ายไฟของ ASUS ROG G20CI จะเห็นความแตกต่างกับเคสทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดคือ จะเป็นอแดปเตอร์แยกสองชิ้นโดยมีเคสที่ยึดติดกัน โดยตัวเล็กจะจ่ายไฟที่ 180 Watt และตัวใหญ่จะจ่ายที่ 230Watt แน่นอนว่าช่องอแดปเตอร์หลังเครื่องจะมีช่องรูเล็กและรูใหญ่เช่นกัน ส่วน I/O Panel จะมาพร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อที่มากมาย ไล่จากบนลงล่างไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Gen 2 จำนวน 2 พอร์ต (รูเป็นสีเขียว) ถัดลงมาจะเป็น USB 3.1 Gen 1 จำนวน 4 พอร์ต และพอร์ต LAN ตัวเต็ม ต่อมาก็จะเป็นช่องเชื่อมต่อสัญญาณเสียงอนาล็อคต่างๆ และช่องสัญญาณเสียง SPDIF Digital Output รวมไปถึงยังมีพอร์ต USB 3.1 Gen 2 ที่เป็นฟอร์ม Type-C อีกหนึ่งพอร์ตด้วย (Support quick charge 3A/5V)

ปิดท้ายด้านหลังด้วยส่วนของการ์ดจอที่ประกอบไปด้วยช่องทางสัญญาณภาพออกไปว่าจะเป็น DVI, HDMI และ DisplayPort อันนี้ก็เลือกใช้งานตามการใช้งานหน้าจอของเราได้เลย ส่วนด้านหน้าก็อย่างที่บอกไปแล้วว่ามี USB 3.1 Gen 1 จำนวน 2 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังและไมค์

Performance / Software

winโดย ASUS ROG G20CI มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700 (รุ่นยอดนิยมบน Desktop) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 3.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.2 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าไปได้ไกลกว่ารุ่นธรรมดา มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

cpu1  cpu2

กราฟิกการ์ดจอแยกระดับบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB GDDR5 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีประกอบปกติเลย หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 980 อย่างสบายๆ ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แน่นอนว่าเห็นเครื่องเล็กๆ แบบนี้แต่ก็จัด NVIDIA GeForce GTX 1070 ยัดลงมาได้แย้่างสบายๆ

gpu

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

cine

เริ่มต้นทดสอบ ASUS ROG G20CI ความสามารถในการประมวลผลกราฟิก 3 มิติ  ด้วยโปรแกรม  3DMark 11 เวอร์ชั่นล่าสุดกับ “Fire Strike” สุดเลื่องลือ จากทาง Futuremark เรียกได้ว่าเป็น Benchmark ยอดนิยมที่ใครก็รู้จักแน่นอน เหมาะกับการใช้ทดสอบประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สุด โดยผลคะแนนก็แสดงให้เห็นถือความแรงที่ 7299 จัดว่าเป็นคอมพิวเตอร์เพื่อการเลนเกมระดับบนก็ว่าได้ ด้วยการที่ใช้ชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดรัดับสูง

 

3d

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกม บนความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700 ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1070 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึงมี SSD 128GB และฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / Battlefield 1 /For Horner / Ghost Recon Wildlands ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด รวมไปถึง Ghost Recon Wildlands ก็เป็นแบบ Ultra ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ (แต่แลกกับเฟรมเรทที่ลดลงมาต่ำกว่า 60) แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกรณีที่ใช้กับหน้าจอปกติกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น G-Sync 120Hz หรือ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ โดยไม่เปิด V-Sync

asus g20 fhd

ปิดท้ายด้วยเกมออนไลน์ DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 – 200 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ

รวมไปถึงยังได้ทดสอบที่บนความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล ปรับกราฟิกทั้งหมดสุดเช่นกัน จะเห็นว่ามีเฟรมเรทที่ลดลงพอสมควร แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่ อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ความพึงพอใจของแต่ละคนแล้ว แต่ส่วนตัวบทความละเอียดที่ 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) ถือว่าน่าพอใจมากๆ แล้ว กับความสวยงามและประสบการณ์การใช้งาน

asus g20 2k

นอกจากนี้ทาง ASUS ยังมีในส่วนของซอฟต์แวร์ Aegis 3 ที่เป็น Utility โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ รวมไปถึงแสดงผลต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ประสบการณ์ในการเล่นเกมของเรา ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เป็น

  • Device Information : ข้อมูลรายละเอียดของตัวเครื่อง
  • System Information : ข้อมูลระบบ
  • Aura : ปรับแต่งไฟ LED
  • Fan Control : ปรับค่ารอบพัดลม

aegis1

aegis2

aegis3

aegis4

aegis5

 

Heat / Noise

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส แม้ว่าอาจจะสูงกว่าพีซีประกอบ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้

ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเบาพอสมควร ทำให้ไม่รบกวนอะไรสำหรับคนที่เล่นเกมเลยถ้าเราตั้งเป็น Silence Mode หรือถ้าตั้งเป็น Performance Mode ก็จะเป็นการดังเป็นบางครั้งเท่านั้นกรณีใช้งานหนักๆ หรือตัวเครื่องต้องการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเย็นแล้วก็จะลดรอบพัดลมมาเงียบเหมือนเดิม ซึ่งแทบไม่ได้ยินเสียงก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับพีซีปกติถือว่าเบากว่ามากๆ

temp

Conclusion / Award

ASUS ROG G20 - 2017 Review-19

ASUS ROG G20CI เป็นมากกว่าคอมพิวเตอร์สำหรับการเล่นเกม ซึ่งมันก้าวเข้าสู่ความเป็น Gaming Desktop PC กับขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมมาก เรียกได้ว่าถ้าไปวางบนโต๊ะทำงานแล้วจัดสวยมุมให้สวยๆ จะทำให้ห้องดูงามล้ำ หรือจะวางใช้งานในห้องนั่งเล่นไว้ใช้งานงานคู่กับทีวีจอใหญ่ก็โดดเด่นขึ้นอีก ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งมีไฟ ASUS Aura LED Effects ที่สามารถปรับแต่งได้กว่า 8 ล้านสี แถมตัวพัดลมระบายความร้อนก็ยังทำได้เงียบสนิทด้วย

ซึ่งนอกจากความสวยงามและการออกแบบที่โดดเด่นแล้วยังมีประสิทธิภาพที่ไม่เป็นรองคอมพิวเตอร์เครื่องไหนด้วยประสิทธิภาพชิปประมวลผล  Intel Core i7-7700 และ NVIDIA GeForce GTX 1070 ทำให้สามารถรองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายรวมถึงการเล่นเกมอีกด้วย โดยมาพร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ห้าหมื่นบาท ซึ่งเอาเข้าจริงถือว่าราคาสูงกว่าพีซีหรือคอมประกอบทั่วไป แต่ได้ขนาดตัวเครื่องที่เล็ก พร้อมความพรีเมียมและฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามาแทนนั่นเอง

ASUS ROG G20 - 2017 Review-8

โดยรวมแล้ว ASUS ROG G20CI ถือว่าเป็น Gaming Desktop PC ที่น่าสนใจที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ด้วยชื่อชั้นของ ASUS ที่ทำ Gaming ตระกูล ROG และฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจในเรื่องการดีไซน์ออกแบบและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี แม้ว่าราคาค่าตัวนั้นจะสูงกว่าสเปกพีซีที่ใกล้เคียงกัน  แต่มั่นใจได้เลย ASUS ROG G20CI ก็มีคนที่สนใจจะจับจองเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน มาพร้อมประกัน 3 ปี ใช้งานได้อย่างสบายใจ

ข้อดี

  • ตัวเครื่องมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับ Gaming Desktop ทั่วไป
  • ดีไซน์สวยงามมีไฟ LED โดดเด่น งานประกอบแน่นๆ ตามสไตล์ของ ASUS
  • มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมจากชิป Core i7-7700 และการ์ดจอ GTX 1070
  • ฟีเจอร์การใช้งานที่มีมาให้อย่างมากมายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงขึ้น
  • พอร์ตการเชื่อมต่อมีครบครัน เพียงพอต่อการใช้งาน
  • พัดลมทำงานได้ค่อนข้างเงียบสนิท
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที
  • รับประกัน 3 ปี

ข้อสังเกตุ

  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์สเปคในระดับเดียวกัน
  • เมาส์ปละคีย์บอร์ดบันเดิลให้มาดูธรรมดาไปหน่อย

VDO Review

Specification

ASUS ROG G20CI ที่ทางทีมงาน NotebookSPEC ได้มาทดสอบ จะใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700 ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด บนความเร็ว 3.6 สูงสุดที่ 4.2 GHz ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงสำหรับ Gaming Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 ที่มาพร้อมกับแรม 8GB GDDR5 มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ 1TB 7200 RPM พร้อมติดตั้ง SSD แบบ NVMe M.2 ความจุ 128GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 พร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ใช้งานได้ทันที

ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ ก็มาพร้อมกับการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย USB 3.1 , USB 3.0 พร้อมด้วยการเชื่อมต่อการแสดงผลอย่าง HDMI, DisplayPort รวมไปถึงการเชื่อมต่อสัญญาณเสียงต่างๆ แบบครบๆ ทั้งดิจิตอลและอนาล็อค ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็จะมีทั้ง Wi-Fi 802.11 ac + Bluetooth 4.0, Dual Band มิติของตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กโดยมีปริมาตรเพียง 9.5 ลิตร และหนักเพียง 6.38 กิโลกรัม สนนราคา ASUS ROG G20CI อยู่ที่ห้าหมื่นบาทขึ้นไปมาพร้อมชุดเมาส์คีย์บอร์ดบันเดิลพร้อมใช้งานทันที

Hardware / Design

ASUS ROG G20 - 2017 Review-1

ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่ง Gaming Desktop PC ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับ ASUS ROG G20CI ที่มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่สวยงามและแตกต่างจาก Desktop PC ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ด้วยรูปแบบของเคสมาตรฐาน FlexATX ที่เป็นเหล็กกล้าหุ้มด้วยโคลเวอร์พลาสติกเกรดดีเล่นสีสันตามสไตล์ของ ASUS ROG ที่เน้นไปทางสีเทาและสีแดงตัดกันอย่างลงตัว โดยมีขนาดมิติตัวเครื่องเคสที่ 104 x 340 x 358 และมีน้ำหนักอยู่ที่ 6.38 กิโลกรัม โดยมีปริมาณอยู่ที่ 9.5 ลิตรเท่านั้น ซึ่งมีขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป พอที่จะตั้งบนโต๊ะทำงานได้อย่างสบายๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับเคสพีซรทั่วไปจะเห็นว่ามีขนาดที่เล็กกว่าหลายเท่าทีเดียว

ASUS ROG G20CI เป็นการออกแบบ AvantGarde Design ลักษณะเป็นแนวตั้ง ตัวเคสเป็นพื้นผิวดำด้าน มีลวดลายสัญลักษณ์ที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากเผ่ามายันตลอดทั้งตัวเครื่อง อีกทั้งยังมี ASUS Aura LED Effects สามารถปรับแสงไฟเคส ที่มีให้เลือกมากถึง 8 ล้านสี ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกันคือ ด้านหน้าตัวเครื่องด้านซ้ายและขวา รวมไปถึงด้านล่างของตัวเครื่องที่เป็นการยิงแสงลงมากระทบที่โต๊ะ เรียกได้สวยงามและโดดเด่นจริงๆ แน่นอนว่าเราสามารถที่ปรับแต่งไฟ การวิ่งของไฟ ผ่านทางซอฟต์แวร์ได้อีกด้วย สะท้อนความเป็นตัวเอง ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกับผู้ใช้แล้ว

โดยมีปุ่ม Power อยู่ด้านหน้ามุมซ้านบนซ่อนอยู่ ที่สำคัญบริเวณขอบด้านบนส่วนหน้าของตัวเครื่องยังได้ติดตั้งพอร์ตการเชื่อมต่อเอาไว้อย่าง USB 3.1 Gen 1 ถึง 2พอร์ต พร้อมด้วยช่องต่อหูฟังแล้วไมค์  อีกทั้งด้านหน้าก็ยังมีช่อง DVD Drive ซ่อนอยู่ไว้รองรับการใช้งานเพื่อติดตั้งเกมหรือชมภาพยนต์หรือเพลงที่เป็น DVD หรือ CD ด้วย

ASUS ROG G20 - 2017 Review-17

ในส่วนของเรื่องระบบระบายความร้อนบน ASUS ROG G20CI นั้นเรียกได้ว่ามาพร้อมกับความรวดเร็วและเสียงที่เบามากๆ โดยใช้หลักการระบายความร้อนด้วยการนำพาความร้อนตามหลักการไหลเวียนของณหภูมิในรูปแบบของธรรมชาติ (Natural Convection Thermal Design) ด้วยอุโมงค์ไหลเวียนของอากาศที่ซ่อนอยู่จะสามารถเคลื่อนย้ายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีเสียงที่เบาด้วย จากการที่ดูดลมเย็นจะข้างล่างแล้วเป่าลมร้อนขึ้นด้านบน

ภายในตัวเครื่อง ASUS ROG G20CI จะมีพัดลมซ่อนอยู่ภายในสำหรับทำให้อากาศไหลเวียนเข้าและออกจากตัวเครื่องถึง 2 ตัวซึ่งพัดลมทั้ง 2 ตัวนี้เวลาทำงานจะให้เสียงที่เบามากๆ คือ ณ ตอนเครื่อง idle จะมีเสียงรบกวนอยู่ที่ 22 dB เท่านั้น ที่ต้องบอกว่าเสียงเบามากๆ หรือถ้าเน้นทำงานให้เต็มประสิทธิภาพก็สามารถเร่งพัดให้ทำงานได้ 100% เช่นกัน

ASUS ROG G20CI ก็ยังคงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการออกแบบที่ใส่ใจในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวมพร้อมทั้งยังมีโหมด Eco Energy มาให้ผู้ใช้สามารถเลือกทำการใช้โหมดนี้ตอนใช้งานตัวเครื่องในช่วงเวลาปกติได้ซึ่ง ณ โหมดนี้นั้นตัวเครื่องจะมีอัตราการใช้พลังงานรวมทั้งหมดเพียงแค่ 10 W เท่านั้น (ดีกว่าคอมพิวเตอร์พีซีสำหรับการเล่นเกมในระดับเดียวกันถึง 50%)

Keyboard / Mouse

ASUS ROG G20 - 2017 Review-36

ส่วนของชุดเมาส์และคีย์บอร์ดของ ASUS ROG G20CI ที่บันเดิลมา เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Mouse, Gaming Keyboard รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน เพราะมันเป็นเพียงเมาส์และคีย์บอร์ดแบบสายธรรมดาเท่านั้น กับรูปแบบ Rubber Dome ซึ่งตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาวขอบสีขาว โดยมีการออกแบบมาให้มีขนาดใหญ่โดยโค้งรับกับนิ้วมือได้พอดี ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ที่จะว่าไปแล้วก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ด้านการใช้งานในการพิมพ์ เหมาะมากๆ กับการใช้งานทั่วไป อีกทั้งยังมีปุ่มลัดต่างๆ ส่วนของเมาส์ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดีน่าประทับใจแม้จะเป็นเพียงเมาส์ธรรมดาก็ตาม

อย่างไรก็ตามชุดบันเดิลที่มาพร้อมกับ ASUS ROG G20CI ก็จะมีเมาส์และคีย์บอร์ดของทาง ASUS ซึ่งต้องบอกว่าเป็นชุดเมาส์และคีย์บอร์ดทั่วไป ไม่ใช่ Gaming Gear ที่เป็นซีรีส์ ASUS ROG แต่อย่างใด จัดว่าน่าเสียดายเล็กน้อย ยังไงก็ตามเชื่อได้ว่านักเล่นเกมหลายคนคงต้องซื้อ Gaming Keyboard และ Gaming Mouse กันอีกทีแน่นอน

Connector / Thin And Weight

ASUS ROG G20 - 2017 Review-32
ในส่วนของระบบจ่ายไฟของ ASUS ROG G20CI จะเห็นความแตกต่างกับเคสทั่วไปอย่างเห็นได้ชัดคือ จะเป็นอแดปเตอร์แยกสองชิ้นโดยมีเคสที่ยึดติดกัน โดยตัวเล็กจะจ่ายไฟที่ 180 Watt และตัวใหญ่จะจ่ายที่ 230Watt แน่นอนว่าช่องอแดปเตอร์หลังเครื่องจะมีช่องรูเล็กและรูใหญ่เช่นกัน ส่วน I/O Panel จะมาพร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อที่มากมาย ไล่จากบนลงล่างไม่ว่าจะเป็น USB 3.1 Gen 2 จำนวน 2 พอร์ต (รูเป็นสีเขียว) ถัดลงมาจะเป็น USB 3.1 Gen 1 จำนวน 4 พอร์ต และพอร์ต LAN ตัวเต็ม ต่อมาก็จะเป็นช่องเชื่อมต่อสัญญาณเสียงอนาล็อคต่างๆ และช่องสัญญาณเสียง SPDIF Digital Output รวมไปถึงยังมีพอร์ต USB 3.1 Gen 2 ที่เป็นฟอร์ม Type-C อีกหนึ่งพอร์ตด้วย (Support quick charge 3A/5V)

ปิดท้ายด้านหลังด้วยส่วนของการ์ดจอที่ประกอบไปด้วยช่องทางสัญญาณภาพออกไปว่าจะเป็น DVI, HDMI และ DisplayPort อันนี้ก็เลือกใช้งานตามการใช้งานหน้าจอของเราได้เลย ส่วนด้านหน้าก็อย่างที่บอกไปแล้วว่ามี USB 3.1 Gen 1 จำนวน 2 พอร์ต พร้อมช่องต่อหูฟังและไมค์

Performance / Software

winโดย ASUS ROG G20CI มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700 (รุ่นยอดนิยมบน Desktop) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 3.6 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.2 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าไปได้ไกลกว่ารุ่นธรรมดา มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

cpu1  cpu2

กราฟิกการ์ดจอแยกระดับบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 มาพร้อมกับแรมขนาด 8GB GDDR5 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีประกอบปกติเลย หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 980 อย่างสบายๆ ตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว แน่นอนว่าเห็นเครื่องเล็กๆ แบบนี้แต่ก็จัด NVIDIA GeForce GTX 1070 ยัดลงมาได้แย้่างสบายๆ

gpu

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

cine

เริ่มต้นทดสอบ ASUS ROG G20CI ความสามารถในการประมวลผลกราฟิก 3 มิติ  ด้วยโปรแกรม  3DMark 11 เวอร์ชั่นล่าสุดกับ “Fire Strike” สุดเลื่องลือ จากทาง Futuremark เรียกได้ว่าเป็น Benchmark ยอดนิยมที่ใครก็รู้จักแน่นอน เหมาะกับการใช้ทดสอบประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่สุด โดยผลคะแนนก็แสดงให้เห็นถือความแรงที่ 7299 จัดว่าเป็นคอมพิวเตอร์เพื่อการเลนเกมระดับบนก็ว่าได้ ด้วยการที่ใช้ชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดรัดับสูง

 

3d

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกม บนความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700 ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1070 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึงมี SSD 128GB และฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง GTA V / Battlefield 1 /For Horner / Ghost Recon Wildlands ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด รวมไปถึง Ghost Recon Wildlands ก็เป็นแบบ Ultra ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ (แต่แลกกับเฟรมเรทที่ลดลงมาต่ำกว่า 60) แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกรณีที่ใช้กับหน้าจอปกติกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น G-Sync 120Hz หรือ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ โดยไม่เปิด V-Sync

asus g20 fhd

ปิดท้ายด้วยเกมออนไลน์ DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 100 – 200 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ

รวมไปถึงยังได้ทดสอบที่บนความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล ปรับกราฟิกทั้งหมดสุดเช่นกัน จะเห็นว่ามีเฟรมเรทที่ลดลงพอสมควร แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่ อันนี้ก็ต้องอยู่ที่ความพึงพอใจของแต่ละคนแล้ว แต่ส่วนตัวบทความละเอียดที่ 1920 x 1080 พิกเซล (Full HD) ถือว่าน่าพอใจมากๆ แล้ว กับความสวยงามและประสบการณ์การใช้งาน

asus g20 2k

นอกจากนี้ทาง ASUS ยังมีในส่วนของซอฟต์แวร์ Aegis 3 ที่เป็น Utility โดยเป็นลักษณะของแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่ช่วยเอื้ออำนวยในการปรับแต่งเพื่อการเล่นหรือทำงานโดยเฉพาะ รวมไปถึงแสดงผลต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ประสบการณ์ในการเล่นเกมของเรา ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เป็น

  • Device Information : ข้อมูลรายละเอียดของตัวเครื่อง
  • System Information : ข้อมูลระบบ
  • Aura : ปรับแต่งไฟ LED
  • Fan Control : ปรับค่ารอบพัดลม

aegis1

aegis2

aegis3

aegis4

aegis5

 

Heat / Noise

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ประมาณ 80 องศาเซลเซียส แม้ว่าอาจจะสูงกว่าพีซีประกอบ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้

ส่วนเสียงพัดลมก็ถือว่าเบาพอสมควร ทำให้ไม่รบกวนอะไรสำหรับคนที่เล่นเกมเลยถ้าเราตั้งเป็น Silence Mode หรือถ้าตั้งเป็น Performance Mode ก็จะเป็นการดังเป็นบางครั้งเท่านั้นกรณีใช้งานหนักๆ หรือตัวเครื่องต้องการระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเย็นแล้วก็จะลดรอบพัดลมมาเงียบเหมือนเดิม ซึ่งแทบไม่ได้ยินเสียงก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับพีซีปกติถือว่าเบากว่ามากๆ

temp

Conclusion / Award

ASUS ROG G20 - 2017 Review-19

ASUS ROG G20CI เป็นมากกว่าคอมพิวเตอร์สำหรับการเล่นเกม ซึ่งมันก้าวเข้าสู่ความเป็น Gaming Desktop PC กับขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมมาก เรียกได้ว่าถ้าไปวางบนโต๊ะทำงานแล้วจัดสวยมุมให้สวยๆ จะทำให้ห้องดูงามล้ำ หรือจะวางใช้งานในห้องนั่งเล่นไว้ใช้งานงานคู่กับทีวีจอใหญ่ก็โดดเด่นขึ้นอีก ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ไม่ซ้ำใคร อีกทั้งมีไฟ ASUS Aura LED Effects ที่สามารถปรับแต่งได้กว่า 8 ล้านสี แถมตัวพัดลมระบายความร้อนก็ยังทำได้เงียบสนิทด้วย

ซึ่งนอกจากความสวยงามและการออกแบบที่โดดเด่นแล้วยังมีประสิทธิภาพที่ไม่เป็นรองคอมพิวเตอร์เครื่องไหนด้วยประสิทธิภาพชิปประมวลผล  Intel Core i7-7700 และ NVIDIA GeForce GTX 1070 ทำให้สามารถรองรับการทำงานได้อย่างหลากหลายรวมถึงการเล่นเกมอีกด้วย โดยมาพร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ห้าหมื่นบาท ซึ่งเอาเข้าจริงถือว่าราคาสูงกว่าพีซีหรือคอมประกอบทั่วไป แต่ได้ขนาดตัวเครื่องที่เล็ก พร้อมความพรีเมียมและฟีเจอร์ต่างๆ เข้ามาแทนนั่นเอง

ASUS ROG G20 - 2017 Review-8

โดยรวมแล้ว ASUS ROG G20CI ถือว่าเป็น Gaming Desktop PC ที่น่าสนใจที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ด้วยชื่อชั้นของ ASUS ที่ทำ Gaming ตระกูล ROG และฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจในเรื่องการดีไซน์ออกแบบและประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี แม้ว่าราคาค่าตัวนั้นจะสูงกว่าสเปกพีซีที่ใกล้เคียงกัน  แต่มั่นใจได้เลย ASUS ROG G20CI ก็มีคนที่สนใจจะจับจองเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน มาพร้อมประกัน 3 ปี ใช้งานได้อย่างสบายใจ

ข้อดี

  • ตัวเครื่องมีขนาดเล็กมาก เมื่อเทียบกับ Gaming Desktop ทั่วไป
  • ดีไซน์สวยงามมีไฟ LED โดดเด่น งานประกอบแน่นๆ ตามสไตล์ของ ASUS
  • มีประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมจากชิป Core i7-7700 และการ์ดจอ GTX 1070
  • ฟีเจอร์การใช้งานที่มีมาให้อย่างมากมายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงขึ้น
  • พอร์ตการเชื่อมต่อมีครบครัน เพียงพอต่อการใช้งาน
  • พัดลมทำงานได้ค่อนข้างเงียบสนิท
  • มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที
  • รับประกัน 3 ปี

ข้อสังเกตุ

  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์สเปคในระดับเดียวกัน
  • เมาส์ปละคีย์บอร์ดบันเดิลให้มาดูธรรมดาไปหน่อย
Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ถ้านับในช่วงหลัง ๆ มา ชิปกราฟิกแบบ iGPU ที่อยู่ใน CPU โน้ตบุ๊กของ AMD ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนทำให้มีประสิทธิภาพสูงถึงระดับที่สามารถใช้งานได้จริง โดยเฉพาะกับการใช้เล่นเกมที่ข้ามกำแพงจากในอดีตกราฟิกแบบ iGPU มักจะทำได้อย่างมากก็เป็นเกมออนไลน์ เกมเก่าที่มีอายุนานพอสมควรแล้ว กลายมาเป็นสามารถเล่นเกมระดับ AAA และเกมใหม่ล่าสุดได้ ซึ่งปัจจุบันก็เดินทางมาถึง AMD Radeon 800M series ที่มาพร้อมกับชิป AMD...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก