จอไร้ขอบแล้วดียังไง (สมองฉับไวขับถ่ายเป็นก้อน 555 ประโยคมันคล้องจองพอดี) เป็นคำถามที่เพื่อนๆหลายๆท่านน่าจะสงสัยกันอีกละ ด้วยปัจจุบันโน๊ตบุ๊ค หรือแม้กระทั่งจอพีซีก็ล้วนแต่เป็นจอภาพแบบขอบบางเฉียบ หรือไร้ขอบกันทั้งนั้น แน่นอนว่ามันเล็กลง แล้วมันมีอะไรดีขึ้นอีกละ ช่วยให้ชีวิตสะดวกและง่ายขึ้นอย่างไรกันนะ
รู้จักกันก่อน
เทคโนโลยีของจอภาพปัจจุบันพัฒนาขึ้นมามากมายกว่าเมื่อก่อนนัก จากคอมพิวเตอร์รุ่นก่อนๆที่เป็นจอภาพแบบหลอด ทั้งใหญ่ หนัก และกินไฟมาก เปิดจอภาพที่ไฟตกไปแป็นนึงเลย ต่อมาพัฒนาจอ LCD แบบ 4:3 จอแบบสีเหลี่ยมเกือบจตุรัสนั่นละครับ และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันที่ทุกบ้านก้าวเข้าสู่ยุคจอภาพแบบ LCD กันหมดแล้ว แต่ขอจำกัดหนึ่งของจอภาพแบบ LCD คือต้องมีขอบเพื่อเอาไว้เป็นวงจรควบคุมการแสดงผลทำให้เราๆท่านๆยังจำใจต้องมีจอภาพที่มีขอบอยู่ แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีขอบของจอ lcd อีกต่อไป โดยการแยกวงจรควบคุมออกมาต่างหาก นึกง่ายๆแบบจอภาพเครื่องพีซีที่ขอบบางมากๆ มักจะมีฐานที่เป็นวงจรทั้งพอร์ตแสดงผลต่างๆ และยังมีชุดควบคุมอีกด้วย ทำให้สามารถออกแบบจอภาพได้บางมากยิ่งขึ้น (แต่มาหนาและหนักที่ฐานแทน)
จอไร้ขอบแล้วดียังไง
แน่นอนว่านอกจากน้ำหนักที่เบาลงแล้ว ยังทำให้ขนาดของตัวเครื่องเล็กลงมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะขอบของจอภาพ ลองนึกถึงโน๊ตบุ๊คก็ได้ครับ โน๊ตบุ๊คขนาดจอภาพ 14 นิ้ว แต่จะมีขอบที่หน้าอีกราวๆ 1 นิ้ว ทำให้เครื่องถ้าเราวัดจากขอบของตัวเครื่องจริงๆ โน๊ตบุ๊คจะมีขนาดถึงเกือบๆ 15 นิ้วเลยทีเดียว หรือบางรุ่น โน๊ตบุ๊คขนาด 14 นิ้ว แต่จอภาพแสดงผลจริงๆกลับอยู่แค่ 13 นิ้วเท่านั้น แต่ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มาพร้อมจอภาพแบบไร้ขอบ จะทำให้โน๊ตบุ๊คมีขนาดที่เล็กลงได้อีก เช่นจอภาพ 13 นิ้ว ก็จะทำให้โน๊ตบุ๊คมีขนาดที่เล็กลงเที่ยบเท่าโน๊ตบุ๊คสมัยก่อนที่ขนาด 12 นิ้วเลยทีเดียวครับ เพราะข้อจำกัดของขนาดโน๊ตบุ๊คจริงๆอยู่ที่จอภาพ เพราะในส่วนของเมนบอร์ดเดี๋ยวนี้ออกแบบให้เล็กลงไปได้มากเลยทีเดียว
สำหรับจอพีซีนั้น จุดเด่นของจอภาพบางๆนอกจากประหยัดพื้นที่การจัดวางแล้ว ยังสามารถใช้งานได้เต็มตามากขึ้น โดยไม่มีของมาเกะกะ ไม่ว่าจะดูหนังหรือเล่นเกม อีกทั้งเพื่อนๆที่ต้องการต่อจอภาพหลายจอพร้อมกันไม่ว่าจะเพื่อใช้งานหรือเพื่อนเล่นเกม ก็จะทำให้รอยต่อระหว่างจอแทบจะไม่มีเลยทีเดียว ไม่มีเส้นหนาๆของขอบจอมากวนใจอีกต่อไป
นอกจากขนาดที่เล็กลงแล้ว ยังใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วยครับ ไม่ต้องพึ่ง adapter ใหญ่ๆอีกต่อไป เพราะแผงวงจร รวมถึงชุดควบคุมเองก็เล็กลงไปมาก และอีกทั้งจอภาพก็ยังมีความหนาที่น้อยลง หรือเรียกได้ว่าบางทั้งขอบตัวเครื่องและความหนาของจอภาพเลยทีเดียวครับ
ข้อเสีย และข้อจำกัด
ข้อจำกัดของจอภาพแบบไร้ขอบเลยคือสเปคที่ไม่สูงมากเท่าไรครับ สามารถทำได้เพียงมาตรฐานเช่นความละเอียดระดับ Full HD หรือ 2K (ส่วน 4K ก็มีแต่แพงมาก) หรือจอที่ Hz สูงๆสำหรับเล่นเกม ก็ยังไม่มีเยอะมากเท่ากับจอภาพที่ขอบหนาๆ ทำให้จอไร้ขอบสำหรับเล่นเกมยังมีตัวเลือกที่น้อยมากๆ และที่สำคัญคือราคาสูงครับ จอพีซีสำหรับเล่นเกมผมเลยยังแนะนำว่าวื้อจอภาพที่ยังมีของสักหน่อยจะดีกว่า ราคาไม่แพง อีกทั้งขอบของจอภาพใหม่ๆก้ไม่ได้หนามากมายแล้ว
สุดท้ายคือจอภาพแบบไร้ขอบแตกได้ง่ายมากๆ ส่วนนึงเพราะไม่มีขอบจอภาพมาคอยรับหรือกระจายแรงให้นั่นเองครับ นึกถึงโน๊ตบุ๊คทั่วๆไปก็ได้ครับ ปรกติถ้าเกิดการตกกระแทก ส่วนใหญ่ขอบตัวเครื่องขอบจอภาพบิ่นแต่ก แต่จอภาพก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่ถ้าเป็นจอภาพแบบไร้ขอบนี่จอแตกแน่นอนครับ รวมถึงราคาค่าซ่อมที่สูง และอะไหล่ที่พัจจุบันก็ยังหาได้ยากอยู่ครับ