ปืนในเกม FPS ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นปืนยุคโบราณไปจนถึงปืนเลเซอร์ย่อมมีสัก 1 กระบอกที่ถูกจัดว่าเป็นปืนที่ทรงปสิทธิภาพและยอดเยี่ยมมากที่สุดซึ่งในความคิดของหลาย ๆ ท่านอาจจะนึกถึงปืนยุคใหม่ที่บรรจุกระสุนได้เยอะมีอัตราการยิงสูงหรือมีของแต่งปืนติดตั้งเพียบแต่สิ่งเหล่านั้นก็ยังไม่ดีเท่าปืนกระบอกหนึ่งที่มีชื่อว่า M1 Garand ครับ
M1 Garand เป็นปืนรุ่นเก่าซึ่งต่อให้ไม่ใช่คนเล่นเกมก็น่าจะรู้จักดีโดยเฉพาะชายไทยที่เรียนรด.มาก่อนก็คงจะรู้ซึ้งถึงอานุภาพของมันที่ทุกคนต่างพากันบอกว่า “มันหนักเหลือเกิน!” แต่เจ้า M1 Garand หรือ ปลย.88 กระบอกนี้มันมีดีอะไรทำไมถึงได้เป็นปืนที่ใช้ในเกมได้ดีที่สุดวันนี้มีคำตอบครับซึ่งเป็นข้อมูลที่รวบรวมมาจาก Kotaku เชิญชมครับ
ก่อนอื่นใดเรามาทำความรู้จักประวัติคร่าว ๆ กับปืนกระบอกนี้กันก่อน M1 Garand เป็นปืนเล็กยาวถูกใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหลักมีจุดเด่นคือเป็นปืนยิงแบบกึ่งอัตโนมัติบรรจุกระสุน 8 นัดโดยมันเป็นปืนประจำกองทัพสหรัฐในสมัยนั้นและยังได้มีการแจกจ่ายสนับสนุนแก่ประเทศพันธมิตรซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยจนกระทั่งมันก็ถูกใช้เป็นปืนฝึกสำหรับนักเรียนรด.ในภายหลัง
สิ่งที่ทำให้ M1 Garand เป็นที่น่าจดจำและโดดเด่นมากก็คือระบบการยิงและการเปลี่ยนกระสุนซึ่งจากที่เกริ่นมามันเป็นปืนยิงกึ่งอัตโนมัติแต่ความพิเศษของมันอยู่ที่เมื่อกระสุนหมดมันจะเด้งตลับกระสุนออกมาอัตโนมัติทันทีและมีเสียง “ปิ๊ง” ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่ากระสุนหมดแล้วต้องใส่ใหม่
ซึ่งการที่มันมีระบบแบบนั้นก็ส่งผลให้ M1 เป็นปืนที่สามารถยิงเร็วรีโหลดกระสุนได้ไวพอสมควรทั้งปืนของจริงและปืนในเกมลองสังเกตดูว่าเกมแนวสงครามโลกเราจะได้จับปืนนี้เป็นหลักและเชื่อว่าหลายคนคงใช้มันเป็นอาวุธคู่ใจฝ่าฟันอุปสรรคจนถึงด่านสุดท้ายแน่นอนอย่าง Call of Duty 2 , Call of Duty: World At War หรือ CS:GO ก็มีปืนนี้ด้วยในกิจกรรม World War II
นอกจากความเร็วของมันแล้วการที่มันใช้กระสุนขนาด .30-06 มันจึงเป็นหนึ่งในปืนที่มีความแรงมากและแม่นยำมากเช่นกันโดยเฉพาะในเกมที่สามารถยิงศัตรูตายได้ภายใน 1 -2 นัดถ้าหากเล็งเข้าบริเวณที่ศรีษะซึ่งมันก็ทดแทนข้อด้อยในเรื่องปริมาณกระสุนที่มีเพียง 8 นัด/ตลับ
แต่อย่างไรก็ตามข้อเสียเรื่องปริมาณกระสุนอาจจะไม่สำคัญเท่าการเปลี่ยนกระสุนครับเพราะปืน M1 ใช้ตลับกระสุนที่ต้องให้ตลับเด้งออกมาซึ่งก็แสดงว่าผู้เล่นจะต้องยิงให้หมดตลับก่อนถึงจะเปลี่ยนได้ครับเช่นหากยิงไปแล้ว 3 นัดคุณจะไม่สามารถเปลี่ยนเติมกระสุนได้แต่ต้องยิงอีก 5 นัดที่เหลือให้หมดก่อนถึงจะทำได้นั่นเอง
ถึงแม้ว่าในชีวิตจริงข้อเสียนี้จะไม่ส่งผลอะไรมากแต่ถ้าหากเป็นโลกในเกมถือว่าอันตรายพอสมควรซึ่งการเติมกระสุนให้เต็มตลอดเวลาคือสิ่งที่ผู้เล่น FPS มักจะทำกันแต่กับปืนกระบอกนี้ทำให้ผู้เล่นต้องคิดหนักกว่าเดิมว่าต้องใช้กระสุนแต่ละนัดให้คุ้มค่าที่สุด
ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องแย่แต่เปล่าเลยถึงมันมีข้อจำกัดแต่เราสามารถนำมาพลิกแพลงได้อีกทั้งยังช่วยฝึกให้ผู้เล่นวางแผนการเข้าโจมตีหรือฝึกใช้ทักษะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและด้วยความที่มันเป็นปืนแรงและแม่นยำอยู่แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องกับการประยุกต์ใช้เช่นซุ่มยิงเรียงคนหรือยิงให้หมดแล้วตามด้วยปืนพกทำให้ยิงได้ต่อเนื่องเมื่อเจอศัตรูคราวละมาก ๆ
ด้วยคุณสมบัติข้างต้นแบบนี้ก็คงจะหาปืนชนิดอื่น ๆ ที่ให้ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้แน่นอนแล้วเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบเกม FPS หรือเกมแนวสงครามล่ะครับชอบปืนกระบอกไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าสามารถแชร์ความคิดเห็นกันมาได้เลยนะครับ
ที่มา: Kotaku