โน๊ตบุ๊คจอใหญ่กำลังมาแรงมากในขณะนี้เรียกได้ได้ว่าเหมาะกับการเล่นเกมสุดๆ ในส่วนของแบรนด์ Gaming Notebook ตัวจริงอย่าง MSI นั้น ก็ได้นำเสนอมาอย่างหลากหลายรุ่น ทั้ง 15.6″ และ 17.3″ ตั้งแต่รุ่นราคาไม่กี่หมื่นบาทจนไปถึงหลักแสนบาท โดยล่าสุดก็ได้นำเสนอ Gaming Notebook ตัวแรงระดับท็อปขนาดหน้าจอ 17.3″ ในราคาไม่ถึงแสนบาทออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับในรุ่น MSI GE72mVR 7RG Apache Pro
สำหรับ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมที่มาพร้อมกับสเปก Intel Core i7 Gen 7 Kaby Lake รหัส HQ ที่เน้นในเรื่องของประสิทธิภาพ รวมไปถึงก็ได้ควบคู่มากับการ์ดจอตัวแรงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 โดยมีความแรงกว่ารุ่นก่อนอย่าง GTX 980M กว่า 25% ที่สำคัญยังให้หน้าจอที่เหมาะกับการเล่นเกมอย่าง 120Hz (จอปกติ 60Hz เท่านั้น) สนนราคาอยู่ที่ 69,900 บาทเท่านั้นเอง
VDO Review
Specification
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1TB 7200 RPM พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 32GB โดยระบบปฏิบัติการนั้นเป็น DOS ทำให้จะให้งานจริงๆ คงต้องติดตั้ง Windows กันเองอีกที
นอกจากนี้ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 17.3″ ที่ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพสูง (IPS level) ให้การแสดงผลระดับ 120Hz เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลให้ภาพในการเล่นเกมที่คมชัดสมจริงสมจริง ที่แม้มุมมองอาจจะสูงพาเนล IPS จริงๆ ไม่ได้ แต่ก็ทำได้ดีไม่เป็นรองเท่าไรนัก พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ และตัวเครื่องยังมีระบบเสียง Dynaudio บนซอฟแวร์เสียง Nahimic Audio Enhancer เวอร์ชั่น 2 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า
พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, mini DisplayPort, 2 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac
สนนราคา MSI GE72mVR 7RG Apache Pro อยู่ที่ 69,900 บาท มาพร้อมการรับประกัน 2 ปีตามมาตรฐานของ MSI
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่สามารถทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์และการออกแบบที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน บนความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกโลหะที่ดุดันมีพลัง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจเคอเกมอย่างสุดๆ ด้วยฝาหลังวัสดุอลูมิเนียมที่มีการขัดเงาสีดำทะมึน มีลูกเล่นนูนตามสไตล์ฝากระโปรงรถสปอร์ต เรียกได้ว่ามีมีการต่อยอดจาก GE72 รุ่นเดิมพอสมควร
ด้านฐานล่างใช้วัสดุพลาสติก ABS งานประกอบแน่นหนาแข็งแรง มียางรอง 4 มุม ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นทำให้มวลลมมากกว่า ช่วยส่งมวลลมเย็นเข้าช่องดูดลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ในจุดนี้สามารถถอดอัพเกรดเพิ่มแรมความจุสูงสุดถึง 32GB แบบ DDR4 , เพิ่มเติมด้วย SSD PCIe Gen3 ที่เร็วแรงกว่า SSD ทั่วๆ ไป สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลแบบทะลุขีดจำกัด รวมถึงซ่อมบำรุงรักษาทำความสะอาดเครื่องในระยะยาวได้สะดวกสมเป็น Gaming Notebook ระดับสูงก็ว่าได้
รายละเอียดในเรื่องของระบบระบายความร้อนใช้เทคโนโลยี CoolerBoost 4 ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 2 จุด อยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายความร้อนพัดลมคู่ขนาดใหญ่ ที่แยกการระบายความร้อนระหว่าง GPU และ CPU ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 – 7 เส้น หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสมแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี่เองทำให้ตัวเครื่องดูหนาไปซักหน่อย รวมไปถึงมีน้ำหนัก 2.9 กิโลกรัม
ขอบตัวเครื่องด้านหน้าที่มีลายเส้นสีแดงพาดผ่าน ตัดด้วยไฟแสดงผล 3 ดวง เวลาใช้งานจะกระพริบแสดงสถานะ เรียกได้ว่าโดยรวมแล้วต่อยอดความสำเร็จของรุ่นก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Gaming Notebook พันธุ์แท้ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดีและดุดัน ที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้จริง
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ แบบสิ้นเชิง จากการที่ใช้คีย์บอร์ดแบรนด์ SteelSeries ที่ถูกคิดค้นพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้เกมมิ่งคีย์บอร์ดแยก บนไฟ LED ที่เป็น RGB เปลี่ยนสีได้ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ในระดับนึง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกออกมา โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็มีความนุ่มและเด้งรับได้น่าประทับใจ การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก สัมผัสแบบผิวสากๆ เล็กๆ ทำให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย และควบคุมได้ง่ายมากขึ้นกว่าเปกติถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ดีเลย นอกจากนี้ยังมี Hotkey ตรงมุมขวาบนของชุดแป้นคีย์บอร์ด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มแรงรอบพัดลมและปุ่มเปลี่ยนสีไฟของคีย์บอร์ด
Screen / Speaker
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro มีหน้าจอจอแสดงผลขนาด 17.3″ รองรับที่ 120Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น ที่แม้ว่าจะเป็นพาเนล TN แต่ก็เป็น TN คุณภาพสูง ที่แม้ว่ามุมมองอาจจะสู้ IPS แท้ๆ ไม่ได้ แต่เรื่องสีสันก็ไม่ได้เป็นรองอะไรมากมาย เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแทบเท่าพาเนล IPS เลยทีเดียว ยิ่งปรับโปรไฟล์สีผ่านซอฟแวร์ MSI True Color เทคโนโลยีที่ให้ค่าสีที่สมจริง ใกล้เคียงกับ 100% sRGB พร้อมโหมดพรีเซ็ทปรับได้อีก 6 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ก็แจ่มและใช้งานได้จริง
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO 2.1 ชาแนลซัพวูฟเฟอร์ในตัว โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic 2 จำลองการซ้อมรบ สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน ใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียง และความกว้างของเวทีได้สูงขึ้นถึง 30% อีกด้วย
Connector / Thin And Weight
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.0, 1x USB 3.1 Type-C, 1x USB 2.0, 1x HDMI 1.4, 1x Mini DisplayPort 1.2, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out
รวมถึงยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4 และอินเตอร์เน็ตมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเล่นเกม 4K ได้หลากหลายจอ ทั้ง USB 3.1 Type-C, Mini Display Port, HDMI ส่วนของการพกพาทำได้ไม่เลวเลย ด้วยน้ำหนัก 2.9 กิโลกรัม ถือว่าเบากว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3″ เพื่อการเล่นเกมแยยปกติพอสมควร ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมทีเดียว รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็จะหนักไม่เกิน 3.5 กิโลกรัม
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 980M แบบรู้สึกได้ โดยเคลมไว้ว่าแรงกว่าถึง 25% เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 7200 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 54MB/s และสูงสุดที่ 143MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 106MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 16.2 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1070 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (เชื่อได้ว่าถ้าใช้ SSD ด้วยจะมีประสิทธิภาพดียิ่งกว่านี้)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 /GTA V และ Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 60FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย (แต่ต้องเปิด V-Sync ด้วยนะ เพราะไม่มี G-Sync)
อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 – 100 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
ส่วนเกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์ใหม่ล่าสุดอย่าง For Horner ก็ได้นำมาทดสอบกัน โดยปรับเป็นกราฟิกแบบสุดทางอย่าง Extreme ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างลืนไหลและสวยงาม ด้วยเฟรมเรทเฉลียนที่ 60+ ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นได้อย่างสบายๆ แล้ว
MSI DRAGON CENTER เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้
- App Portal : ทางลัดในการเข้าสู่โปรแกรมต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- System Monitor : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- LED Wizard : ปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB ตามความต้องการ
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วนของ MSI True Color ที่เราสามารถปรับโปรไฟล์สีสันได้ รวมไปถึง SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้
ปิดท้ายด้วยโปรแกรม Killer Control Center ที่เราสามารถปรับแต่งได้การใช้งานเครือข่ายได้อย่างอิสระ ช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีความสเถียรยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อลดอาการกระตุนภายในเกมออนไลน์ต่างๆ อีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก)
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 85 – 90 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี
Conclusion / Award
สรุปรีวิว MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 17.3″ ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงระดับนบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 ที่เป็นรองเพียง GTX 1080 เท่านั้น โดยแรงกว่ารุ่นก่อน GTX 980M ถึง 25% ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่อัพเกรดได้ถึง 32GB ที่สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อน Cooler Boost 4
อีกทั้ง MSI GE72mVR 7RG Apache Proยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บข้อมูลความเร็วสูง PCIe, เทคโนโลยีจอแสดงผล 120Hz ที่มี True Color ให้สีสมจริง, ระบบเสียง Dynaudio – Nahimic 2, Killer Network, คีย์บอร์ด SteelSeries มีไฟแสดงผลเปลี่ยนสี RGB ได้บนเทคโนโลยี Silver Lining Print พร้อมกันนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อ USB 3.1 Type-C ที่ครอบคลุมใช้ประโยชน์ได้จริงและทันสมัย และขาดไม่ได้เลยสำหรับ MSI Dragon Center ที่บอกได้เลยว่าไม่มี Gaming Notebook แบรนด์ไหนใส่ฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์ได้มากมายขนาดนี้ เรียกได้ว่าแรงเทียบเท่า Desktop PC แบบสบายๆ ในราคาที่รับได้
ถึงแม้ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ไม่ได้ให้ SSD รวมไปถึง Windows 10 อีกทั้งไม่ได้มีเทคโนโลยี G-Sync (ถ้าต้องให้ลื่นไหลภาพไม่ฉีกขาดจำเป็นใช้ V-Sync ทำให้กินทรัพยากรเครื่องมากกว่าปกติเล็กน้อย) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์กับสนนราคาขายที่ 69,900 บาท ต้องยอมรับเลยว่า MSIMSI GE72mVR 7RG Apache Pro เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ นักเล่นเกมที่จริงจัง งานประกอบแน่นวัสดุดี
- สเปคสูงมากทั้ง Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070
- หน้าจอแสดงผลรองรับที่ 120Hz พร้อมปรับแต่งผ่าน MSI True Color ได้ด้วย
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, USB 3.1 Type-C และ Mini DisplayPort 1.2 , HDMI 1.4
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio แบบ 2.1 ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 2 ให้เสียงที่ดี
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 4 มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม เล่นเกมนานๆ ได้สบาย
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง อาทิ MSI Dragon Center
- คีย์บอร์ด SteelSeries ปรับเปลี่ยนสีไฟได้ Silver Linging Print ให้แสงสดใสสวยงาม
ข้อสังเกต
- ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่ค่อนข้างจำกัด ด้วยสเปคที่แรงและกินไฟเยอะ
- ควรอัพเกรด SSD เพื่อให้ระบบโดยรวมดีขึ้น เพราะฮาร์ดดิสก์เดิมๆ เครื่องยังมีอาการหน่วงอยู่บ้าง
- ไม่มีระบบปฏิบัติการ Windows มาให้ ต้องหาติดตั้งภายหลังด้วยตนเองอีกที
- ยังคงมีพอร์ต USB 2.0 มาให้ 1 ช่อง
- ไม่ได้ติดตั้งชิป NVIDIA G-Sync มาให้
AWARDS
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
BEST TECHNOLOGY
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น NVMe M.2, Nahimic, DDR4, Steelseries Keyboard, Killer Network, USB 3.1 Type-C รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง อีกทั้งคีย์บอร์ด SteelSeries ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
BEST PERFORMANCE
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องที่อัพเกรดได้มากถึง 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
VDO Review
Specification
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1TB 7200 RPM พร้อมรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 32GB โดยระบบปฏิบัติการนั้นเป็น DOS ทำให้จะให้งานจริงๆ คงต้องติดตั้ง Windows กันเองอีกที
นอกจากนี้ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 17.3″ ที่ความละเอียด Full HD พาเนล TN คุณภาพสูง (IPS level) ให้การแสดงผลระดับ 120Hz เพื่อการเล่นเกมที่ลื่นไหลให้ภาพในการเล่นเกมที่คมชัดสมจริงสมจริง ที่แม้มุมมองอาจจะสูงพาเนล IPS จริงๆ ไม่ได้ แต่ก็ทำได้ดีไม่เป็นรองเท่าไรนัก พร้อมเทคโนโลยี MSI True Color Technology ปรับโปรไฟล์สีให้ตรงกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ และตัวเครื่องยังมีระบบเสียง Dynaudio บนซอฟแวร์เสียง Nahimic Audio Enhancer เวอร์ชั่น 2 ขับเสียงได้ดียิ่งกว่า
พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, mini DisplayPort, 2 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C, Kensington lock slot, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac
สนนราคา MSI GE72mVR 7RG Apache Pro อยู่ที่ 69,900 บาท มาพร้อมการรับประกัน 2 ปีตามมาตรฐานของ MSI
Hardware / Design
ดีไซน์การออกแบบของ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ถือว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่ง ที่สามารถทำได้ดีมากๆ ในเรื่องของการดีไซน์และการออกแบบที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน บนความเป็นเกมเมอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการออกแบบให้ความรู้สึกโลหะที่ดุดันมีพลัง แม้แต่ฝาหลังก็สื่อความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมได้เต็มเปี่ยมถูกใจเคอเกมอย่างสุดๆ ด้วยฝาหลังวัสดุอลูมิเนียมที่มีการขัดเงาสีดำทะมึน มีลูกเล่นนูนตามสไตล์ฝากระโปรงรถสปอร์ต เรียกได้ว่ามีมีการต่อยอดจาก GE72 รุ่นเดิมพอสมควร
ด้านฐานล่างใช้วัสดุพลาสติก ABS งานประกอบแน่นหนาแข็งแรง มียางรอง 4 มุม ยกตัวเครื่องให้สูงขึ้นทำให้มวลลมมากกว่า ช่วยส่งมวลลมเย็นเข้าช่องดูดลมขนาดใหญ่ได้มากขึ้นส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดี ในจุดนี้สามารถถอดอัพเกรดเพิ่มแรมความจุสูงสุดถึง 32GB แบบ DDR4 , เพิ่มเติมด้วย SSD PCIe Gen3 ที่เร็วแรงกว่า SSD ทั่วๆ ไป สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลแบบทะลุขีดจำกัด รวมถึงซ่อมบำรุงรักษาทำความสะอาดเครื่องในระยะยาวได้สะดวกสมเป็น Gaming Notebook ระดับสูงก็ว่าได้
รายละเอียดในเรื่องของระบบระบายความร้อนใช้เทคโนโลยี CoolerBoost 4 ซึ่งมีช่องระบายอากาศถึง 2 จุด อยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่อง เป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายความร้อนพัดลมคู่ขนาดใหญ่ ที่แยกการระบายความร้อนระหว่าง GPU และ CPU ด้วย Heat Pipes รวมกันถึง 6 – 7 เส้น หายห่วงได้เลยในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะเล่นเกมหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสมแต่อย่างใด ซึ่งตรงนี่เองทำให้ตัวเครื่องดูหนาไปซักหน่อย รวมไปถึงมีน้ำหนัก 2.9 กิโลกรัม
ขอบตัวเครื่องด้านหน้าที่มีลายเส้นสีแดงพาดผ่าน ตัดด้วยไฟแสดงผล 3 ดวง เวลาใช้งานจะกระพริบแสดงสถานะ เรียกได้ว่าโดยรวมแล้วต่อยอดความสำเร็จของรุ่นก่อนหน้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สัมผัสได้ถึงความเป็น Gaming Notebook พันธุ์แท้ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดีและดุดัน ที่สำคัญยังสามารถใช้งานได้จริง
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจาก Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ แบบสิ้นเชิง จากการที่ใช้คีย์บอร์ดแบรนด์ SteelSeries ที่ถูกคิดค้นพัฒนาและออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมบน Gaming Notebook จาก MSI โดยเฉพาะทั้งอารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ แรงกด และการใช้ปุ่มหลายๆ ปุ่มพร้อมๆ กัน สามารถทำได้แม่นยำไม่แพ้เกมมิ่งคีย์บอร์ดแยก บนไฟ LED ที่เป็น RGB เปลี่ยนสีได้ตามใจของผู้ใช้หลากหลายรูปแบบ พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง Silver Lining Print ขอบโปร่งแสงสวยงาม และยังปรับแต่ง Macrokeys บนคีย์บอร์ดเพื่อใช้ในเกมหรือซอฟแวร์ต่างๆ ผ่าน Steelseries Engine 3 ได้ด้วยเช่นกัน
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ในระดับนึง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบปุ่มแยกออกมา โดยการควบคุมสามารถทำได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงปุ่มคลิกทั้งซ้ายขวาก็มีความนุ่มและเด้งรับได้น่าประทับใจ การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก สัมผัสแบบผิวสากๆ เล็กๆ ทำให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย และควบคุมได้ง่ายมากขึ้นกว่าเปกติถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ดีเลย นอกจากนี้ยังมี Hotkey ตรงมุมขวาบนของชุดแป้นคีย์บอร์ด ไม่ว่าจะเป็นปุ่มแรงรอบพัดลมและปุ่มเปลี่ยนสีไฟของคีย์บอร์ด
Screen / Speaker
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro มีหน้าจอจอแสดงผลขนาด 17.3″ รองรับที่ 120Hz ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น ที่แม้ว่าจะเป็นพาเนล TN แต่ก็เป็น TN คุณภาพสูง ที่แม้ว่ามุมมองอาจจะสู้ IPS แท้ๆ ไม่ได้ แต่เรื่องสีสันก็ไม่ได้เป็นรองอะไรมากมาย เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าแทบเท่าพาเนล IPS เลยทีเดียว ยิ่งปรับโปรไฟล์สีผ่านซอฟแวร์ MSI True Color เทคโนโลยีที่ให้ค่าสีที่สมจริง ใกล้เคียงกับ 100% sRGB พร้อมโหมดพรีเซ็ทปรับได้อีก 6 อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ANTI-BLUE, sRGB, DESIGNER, OFFICE, MOVIE, GAMER ก็แจ่มและใช้งานได้จริง
ระบบเสียงก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยลำโพง DYNAUDIO 2.1 ชาแนลซัพวูฟเฟอร์ในตัว โดยมีซอฟแวร์ปรับแต่งเสียง Nahimic 2 จำลองการซ้อมรบ สู่ระบบเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกมจากฝรั่งเศส ทำให้มีการปรับแต่งเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปอย่างชัดเจน ใช้เล่นเกมนี่บันเทิงได้เต็มอารมณ์ ยิ่งถ้าต่อหูฟังเสียบผ่าน Audio Boost ยิ่งได้อรรถรสในการเล่นเกมได้ดีขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการที่เป็นแจ๊คแบบชุบทองคำ จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของคุณภาพเสียง และความกว้างของเวทีได้สูงขึ้นถึง 30% อีกด้วย
Connector / Thin And Weight
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 17.3 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x USB 3.0, 1x USB 3.1 Type-C, 1x USB 2.0, 1x HDMI 1.4, 1x Mini DisplayPort 1.2, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out
รวมถึงยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4 และอินเตอร์เน็ตมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac ผ่าน Killer ac ระบบเน็ตเวิร์คสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะลดกาารกระตุกช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นๆ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Matrix Display ช่วยให้ต่อจอเล่นเกม 4K ได้หลากหลายจอ ทั้ง USB 3.1 Type-C, Mini Display Port, HDMI ส่วนของการพกพาทำได้ไม่เลวเลย ด้วยน้ำหนัก 2.9 กิโลกรัม ถือว่าเบากว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17.3″ เพื่อการเล่นเกมแยยปกติพอสมควร ในสเปกที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมทีเดียว รวมกับอแดปเตอร์แล้วก็จะหนักไม่เกิน 3.5 กิโลกรัม
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซีแบบสบายๆ และแรงกว่า GTX 980M แบบรู้สึกได้ โดยเคลมไว้ว่าแรงกว่าถึง 25% เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็วรอบ 7200 ที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 54MB/s และสูงสุดที่ 143MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 106MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 16.2 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1070 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 16GB DDR4 รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (เชื่อได้ว่าถ้าใช้ SSD ด้วยจะมีประสิทธิภาพดียิ่งกว่านี้)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 /GTA V และ Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 60FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ที่สำคัญด้วยหน้าจอ 120Hz ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย (แต่ต้องเปิด V-Sync ด้วยนะ เพราะไม่มี G-Sync)
อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 80 – 100 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
ส่วนเกมออนไลน์ฟอร์มยักษ์ใหม่ล่าสุดอย่าง For Horner ก็ได้นำมาทดสอบกัน โดยปรับเป็นกราฟิกแบบสุดทางอย่าง Extreme ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างลืนไหลและสวยงาม ด้วยเฟรมเรทเฉลียนที่ 60+ ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นได้อย่างสบายๆ แล้ว
MSI DRAGON CENTER เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนาโดย MSI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่ายและสามารถช่วยเหลือ และ จัดการการปรับแต่งตั้งค่า MSI Gaming Notebook ซึ่งแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ดังนี้
- App Portal : ทางลัดในการเข้าสู่โปรแกรมต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- System Monitor : ตรวจสอบสถานะเครื่อง (ประสิทธิภาพ,ความเร็วของพัดลม,ความร้อน)
- LED Wizard : ปรับแต่งไฟคีย์บอร์ด RGB ตามความต้องการ
- System Tuner : ปรับแต่งตั้งค่าการใช้งานต่างๆของ MSI Gaming Notebook
- Mobile Center : ทำการเชื่อมต่อกับมือถือ
- Tools & Help : ติดต่อ MSI และ ฟังก์ชั่นช่วยเหลือต่างๆ ที่จำเป็น
นอกเหนือจากนี้ยังมีในส่วนของ MSI True Color ที่เราสามารถปรับโปรไฟล์สีสันได้ รวมไปถึง SteelSeries Engine 3 ที่ช่วยในการปรับแต่งการใช้งานของอุปกรณ์ต่อพ่วง Gaming Gear ต่างๆ ของ SteelSeries แน่นอนว่าในส่วนของคีย์บอร์ด SteelSeries ตัวเครื่องก็สามารถปรับแต่งได้ผ่านทางโปรแกรมนี้
ปิดท้ายด้วยโปรแกรม Killer Control Center ที่เราสามารถปรับแต่งได้การใช้งานเครือข่ายได้อย่างอิสระ ช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีความสเถียรยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อลดอาการกระตุนภายในเกมออนไลน์ต่างๆ อีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก)
สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 85 – 90 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกมอยู่แล้ว โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี
Conclusion / Award
สรุปรีวิว MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 17.3″ ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงระดับนบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1070 ที่เป็นรองเพียง GTX 1080 เท่านั้น โดยแรงกว่ารุ่นก่อน GTX 980M ถึง 25% ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่อัพเกรดได้ถึง 32GB ที่สำคัญคือควบคุมความร้อนได้แบบมีเสถียรภาพผ่านชุดระบายความร้อน Cooler Boost 4
อีกทั้ง MSI GE72mVR 7RG Apache Proยังมีคุณสมบัติอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บข้อมูลความเร็วสูง PCIe, เทคโนโลยีจอแสดงผล 120Hz ที่มี True Color ให้สีสมจริง, ระบบเสียง Dynaudio – Nahimic 2, Killer Network, คีย์บอร์ด SteelSeries มีไฟแสดงผลเปลี่ยนสี RGB ได้บนเทคโนโลยี Silver Lining Print พร้อมกันนั้นยังรองรับการเชื่อมต่อ USB 3.1 Type-C ที่ครอบคลุมใช้ประโยชน์ได้จริงและทันสมัย และขาดไม่ได้เลยสำหรับ MSI Dragon Center ที่บอกได้เลยว่าไม่มี Gaming Notebook แบรนด์ไหนใส่ฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์ได้มากมายขนาดนี้ เรียกได้ว่าแรงเทียบเท่า Desktop PC แบบสบายๆ ในราคาที่รับได้
ถึงแม้ MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ไม่ได้ให้ SSD รวมไปถึง Windows 10 อีกทั้งไม่ได้มีเทคโนโลยี G-Sync (ถ้าต้องให้ลื่นไหลภาพไม่ฉีกขาดจำเป็นใช้ V-Sync ทำให้กินทรัพยากรเครื่องมากกว่าปกติเล็กน้อย) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสเปค ฟีเจอร์ และการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์กับสนนราคาขายที่ 69,900 บาท ต้องยอมรับเลยว่า MSIMSI GE72mVR 7RG Apache Pro เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณในการซื้อที่สูงซักหน่อย เพราะเอาเข้าจริงในสเปกที่ใกล้เคียงกันบางแบรนด์สามารถทำได้ราคาได้ดีกว่า แต่ก็นั่นแหละ ฟีเจอร์หรือคุณสมบัติต่างๆ ก็คงไม่ครบครันขนาดนี้
เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ระดับสูงรุ่นนี้หรือรุ่นอื่นๆ จาก MSI สามารถสอบถามไปที่ MSI Gaming Shop หรือร้านจำหน่ายโน๊ตบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศกันได้เลย
ข้อดี
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ นักเล่นเกมที่จริงจัง งานประกอบแน่นวัสดุดี
- สเปคสูงมากทั้ง Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070
- หน้าจอแสดงผลรองรับที่ 120Hz พร้อมปรับแต่งผ่าน MSI True Color ได้ด้วย
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, USB 3.1 Type-C และ Mini DisplayPort 1.2 , HDMI 1.4
- มาพร้อมลำโพง Dynaudio แบบ 2.1 ชาแนลพร้อมระบบเสียง Nahimic 2 ให้เสียงที่ดี
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 4 มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม เล่นเกมนานๆ ได้สบาย
- มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง อาทิ MSI Dragon Center
- คีย์บอร์ด SteelSeries ปรับเปลี่ยนสีไฟได้ Silver Linging Print ให้แสงสดใสสวยงาม
ข้อสังเกต
- ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่ค่อนข้างจำกัด ด้วยสเปคที่แรงและกินไฟเยอะ
- ควรอัพเกรด SSD เพื่อให้ระบบโดยรวมดีขึ้น เพราะฮาร์ดดิสก์เดิมๆ เครื่องยังมีอาการหน่วงอยู่บ้าง
- ไม่มีระบบปฏิบัติการ Windows มาให้ ต้องหาติดตั้งภายหลังด้วยตนเองอีกที
- ยังคงมีพอร์ต USB 2.0 มาให้ 1 ช่อง
- ไม่ได้ติดตั้งชิป NVIDIA G-Sync มาให้
AWARDS
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 17 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง MSI GE72mVR 7RG Apache Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
BEST TECHNOLOGY
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro เป็น Gaming Notebook ที่มีความสดใหม่และเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย อาทิเช่น NVMe M.2, Nahimic, DDR4, Steelseries Keyboard, Killer Network, USB 3.1 Type-C รวมไปถึงซอฟต์แวร์ MSI Dragon Center ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง อีกทั้งคีย์บอร์ด SteelSeries ถือได้ว่าเป็นผู้นำในตลาด Gaming Notebook ยิ่งเทียบในระดับเดียวกันยิ่งหาตัวจับยาก
BEST PERFORMANCE
MSI GE72mVR 7RG Apache Pro มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1070 (8GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องที่อัพเกรดได้มากถึง 32GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ NVMe M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล