สำหรับ ARM นั้นน่าจะเป็นชื่อที่ใครหลายๆ คนทราบทราบกันดีครับว่าเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังชิปเซ็ทสุดแรงไม่ว่าจะเป็น Snapdragon ของทาง Qualcomm หรือจะเป็น Exynos ของทาง Samsung รวมไปถึงชิปเซ็ทสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอีกหลายๆ รุ่นเพราะว่าชิปเซ็ททั้งหมดเหล่านั้นพัฒนาขึ้นมาจากสถาปัตยกรรม Cortex ของทาง ARM หล่ะครับ
ล่าสุดทาง ARM ได้เปิดตัวสถาปัตยกรรมของชิปเซ็ทรุ่นใหม่อีกครั้งอย่าง DynamIQ ซึ่งสถาปัตยกรรมดังกล่าวนี้นั้นจะเน้นไปที่เรื่องของการทำงานด้วย AI และ machine learning ที่ถือได้ว่าเป็นโลกเทคโนโลยีสำหรับอนาคตโดยเฉพาะครับ ทั้งนี้ทาง ARM ได้บอกเอาไว้ว่าเราได้เห็นว่าในปัจจุบันนั้นทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตต่างก็มาพร้อมกับ AI มากขึ้น(อย่างเช่น Siri) โดยการเรียนรู้ของ AI นั้นมีเรื่องของ machine learning เป็นส่วนสำคัญครับ
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วนั้นชิปเซ็ทรุ่นเก่าๆ ที่ใช้สถาปัตยกรรม Cortex อาจจะไม่มีความสามารถมากพอที่จะขับเคลื่อน AI ที่ทางผู้ผลิตใส่ลงไปในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ ดังนั้นแล้ว DynamIQ จึงถือว่าจะเข้ามาช่วยในส่วนนี้ที่ไม่เพียงแต่มันจะสามารถใช้ในการประมวลผลในรูปแบบเดิมได้เท่านั้นแต่ด้วยความแรงทางด้าน AI และ machine learning ที่จำเป็นต่อการพัฒนา AI ก็จะสามารถรองรับได้ดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดครับ
ในครั้งนี้นั้นทาง ARM ได้เปิดให้ทางผู้ผลิตสามารถที่จะจัดวางตำแหน่งของหน่วยประมวลผลในรุ่นต่างๆ รวมกันได้ดีกว่าเดิมสำหรับบน SoC หนึ่งซึ่งการวางตำแหน่งดังกล่าวนี้จะทำให้เกิดความแตกต่างของหน่วยประมวลผลของผู้ผลิตแต่ละเจ้าซึ่งทาง ARM บอกอีกด้วยครับว่าทางผู้ผลิตที่เป็นคู่ค้าของทาง ARMนั้นได้นำเอาสถาปัตยกรรม DynamIQ ไปดัดแปลงเป็นสถาปัตยกรรมของตนพร้อมจดลิขสิทธิ์แล้วด้วยหลายราย
หมายเหตุ – ลักษณะการวางตำแหน่งของแกน CPU นั้นจะยังเป็นลักษณะแบบเดียวกับ BIG.little ที่พบเจอได้บนหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Cortex ทว่าด้วยเทคโนโลยีใหม่นั้นผู้ผลิตจะสามารถทำตัวเลือกได้มากกว่าเดิมเช่น 7 BIG 1 littel หรือ 3 BIG 5 little เป็นต้นครับ)
ทั้งนี้หากไม่มีอะไรผิดพลาดนั้น ทาง ARM ได้บอกเอาไว้ชิปเซ็ทที่ใช้สถาปัตยกรรม DynamIQ เป็นฐานนั้นน่าจะพร้อมลงตลาดให้เราได้เห็นกันในช่วงต้นปี 2018 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ที่ได้รับประโยชน์เต็มๆ นั้นก็คือผู้ใช้งาน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือบนสมาร์ทโฟน Huawei ระดับบนที่มาพร้อมกับ AI ในตัวนั้นจะสามารถที่ทำการประมวลผลได้ฉลาดมากขึ้้นกว่าเดิมเป็นกองครับ
ที่มา : theverge