หากกล่าวถึงโน๊ตบุ๊คบางเบาแล้ว หลายๆ คนต้องนึกถึงแบรนด์ Acer เป็นเจ้าแรกๆ อย่างแน่นอน ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา ก็ได้รับการต่อยอดมาโดยตลอด อย่างในส่วนของ Acer Spin 7 ที่เป็น 2-in-1 Notebook ดีไซน์บางเบารุ่นล่าสุด ที่เราจะมารีวิวให้ได้ชมกันนี่เอง
ซึ่ง Acer Spin 7 ถือได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook ที่ต้องบอกว่าครบครันจริงๆ กับโน๊ตบุ๊คบางเบาและพรีเมียม ด้วยดีไซน์และการออกแบบที่โดดเด่นสวยงาม อีกทั้งยังมาพร้อมวัสดุคุณภาพสูง มีความบาง 10.98 มิลลิเมตร หนักเพียงแค่ 1.17 กิโลกรัม ส่วนหน้าจอเป็นแบบ Touch screen ขนาด 14 นิ้ว Full HD IPS สามารถพับได้ถึง 360 องศา ทำให้สามารถถือและใช้งานได้ด้วยมือเดียวเหมือนกับแท็บเล็ต บอดี้เป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา แข็งแรง และให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม สำหรับสเปกก็ใหม่สุดๆ ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i Gen 7 Kaby Lake
Specification
ในเรื่องของสเปก Acer Spin 7 นั้น เครื่องที่เราได้มารีวิวเป็นเครื่องที่ใช้ CPU เป็น Intel Core i7-7Y75 ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.30 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 3.60 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 615 แรมก็ให้มา 8GB DDR3L เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD มีมาให้ขนาด 256GB มาพร้อมความเร็วสูง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องจอที่ได้กล่าวไปแล้วว่าใช้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS พร้อม Touch Screen ได้ เรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นมีเพียงพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ 2 พอร์ตเท่านั้น (หลักๆ 1 พอร์ตเอาไว้ชาร์จไฟจากอแดปเตอร์ด้วย) ร;มไปถึงยังมีช่องต่อหูฟังมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตรมาให้ พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์
ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO (multiple-input, multiple-output) ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง ที่มาพร้อมความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 866 Mbps เลยทีเดียว พูดๆ ง่ายคือแรงกว่าเดิมถึง 2.8 เท่า ซึ่งช่วยให้เราได้สัมผัสการใช้งาน Wi-Fi ดีกว่าที่เคย สนนราคา 49,990 บาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบซ่อมฟรีถึงบ้าน
Hardware / Design
Acer Spin 7 เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักอลูมิเนียมสีดำเกรดพรีเมียมตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าของ Acer ที่เป็นในส่วนของผลิตภัณฑ์ 2-in-1 Notebook พอสมควร ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าเดิมค่อนข้างมาก เรียกได้ว่าทิศทางการออกแบบของ Acer Spin 7 จะเป็นแนวเดียวกับรุ่นรองอย่าง Acer Spin 5 และ Acer Spin 3
ฝาหลังเป็นลักษณะโลหะแบบด้านที่ให้ผิวสัมผัสที่ดีมีความพรีเมียมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer ตามมาตรฐาน สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในก็จะเป็นอลูมิเนียมที่ดูหรูหรา ที่สำคัญยังออกแบบให้ส่วนของไฟแสดงสถานะการทำงานอยู่ของตัวเครื่องด้านหลัง เมื่อพับลงมาแล้วจะยังเห็นสถานะของการทำงานได้อยู่
สำหรับความบางของ Acer Spin 7 โดยมีความบาง 10.98 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียงแค่ 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook ประจำปี 2017 ที่มีทั้งความบางและความเบาแบบสุดๆ อีกหนึ่งรุ่น ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ โดยเหมาะมากๆ สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศ ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ
ที่สำคัญถ้าสังเกตกันให้ดีจะเป็นว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาที่สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศารุ่นนี้ไม่มีในส่วนของช่องระบายความร้อนเลย โดยก็มาจากการที่ใช้ชิปประมวลผลที่ก่อเกิดความร้อนที่ต่ำ จึงทำให้ Acer Spin 7 ไม่จำเป็นต้องออกแบบให้มีพัดลมระบายความร้อนแต่อย่างใด หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นใช้เป็นเทคโนโลยี Fanless นั่นเอง ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางพิเศษแบบสุดๆ อย่างที่โน๊ตบุ๊คเมื่อก่อนไม่สามารถทำได้ สำหรับตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และดีไซน์การออกแบบของ Acer Spin 7 นั้นมีความน่าประทับใจในทุกมิติจริงๆ เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับ 2-in-1 Notebook รุ่นล่าสุด
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างสั้น แต่ใช้งานจริงก็พอได้อยู่ไม่ได้ลำบากในการใช้งานนัก ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากตัวเครื่องได้ดีไซน์ให้มีความบางเป็นพิเศษของตัวเครื่องนั่นเอง ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว ส่งผลให้พิมพ์ได้อย่างสะดวกไม่แพ้คีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ เลย แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ Acer Spin 7 ไม่มีในส่วนของไฟ Backlit มาให้
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดีอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้เวลาพิมพ์งานมือจะไม่เผลอไปสัมผัสกับทัชแพด โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งเป็นข้อดีของการใช้งานนอกสถานที่ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ทัชแพดมากกว่าการใช้เม้าส์อยู่แล้ว
Screen / Speaker
Acer Spin 7 ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซล รองรับการ Touch Screen 10 จุดพร้อมๆ กัน ตามมาตรฐานของ 2-in-1 Notebook ที่สำคัญยังใช้พาเนลแบบ IPS เป็นพาเนลระดับสูงที่ให้ภาพคมชัดสีสันสวยงามกว่าพาเนลแบบโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป พร้อมด้วยเทคโนโลยี Acer Color Intelligence ที่จะจะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี โดยไม่มีภาพขาดและความอิ่มตัวของสีเกิน จากการใช้งานจริงรู้สึกน่าประทับใจกว่าจอของโน๊ตบุ๊คทั่วไปมาก พร้อมด้วยกระจก Gorilla Glass ที่แข็งแรงทนทาน
ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอ Acer TrueHarmony มาพร้อมระบบเสียง Dolby Home Theater โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กติดตั้งอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Spin 7 ถือว่าเป็น 2-in-1 Notebook ยุคใหม่ที่มาพร้อมกับพอร์ตที่จำเป็นเท่านั้นอย่าง USB 3.1 Type-C โดยมีจำนวน 2 พอร์ตด้วยกัน โดยรวมแล้วต้องบอกว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ก็ยังจำเป็นต้องอาศัยตัวแปลงในการเชื่อมต่ออยู่บ้างในบางกรณี ซึ่งหลักๆ แล้ว 1 พอร์ตจะเป็นการรองรับเชื่อมต่อกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟ รวมไปถึงยังมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรตามมาตรฐาน นอกเหนือจากนั้นปุ่มเปิดปิดเครื่องพร้อมปุ่มปรับระดับเสียงนั้น ก็จะถูกติดตั้งอยู่ด้านข้างเครื่อง
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.5 กิโลกรัมเลยล่ะ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองกมีขนาดที่เล็กและเบามากๆ เทียบได้ก็พอๆ กับอแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนเท่านั้นเอง โดยรวมแล้วก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่ลำบากในการพกพาเลย
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Acer Spin 7 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหา 2-in-1 Notebook ซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาเบาๆ แต่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าแรงพอตัวด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i7 Gen 7 ซึ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหล
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
Performance / Software
Acer Spin 7 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7Y75 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.6 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ และประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR3L ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 615 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U หรือ M รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Liteon กับความเร็วระดับ Read: 557 MB/s – Write: 516 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Spin 7 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook หรือ 2-in-1 Notebook หลายๆ เครื่อง โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน อาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 36 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 68 องศาเซลเซียสเท่านั้น (ไม่สูงไปกว่านี้แล้ว เพราะระบบจะลดความเร็วชิปประมวลผลลงมาครึ่งหนึ่ง) นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Spin 7 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ ที่เคยทำการรีวิวมาพอควรตอนทำงานเต็มที่แล้ว นับว่า Acer Spin 7 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีมากทีเดียว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
ประสบการณ์ใช้งานที่ได้จาก Acer Spin 7 เครื่องนี้ทำออกมาได้ประทับใจดี ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่เข้ากันได้กับทุกคน เหมาะที่จะนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยการดีไซน์ที่เรียบง่ายไม่หวือหวาจนเกินงามและยังให้สเปกที่ดีอีกด้วย อีกทั้งงานประกอบก็มีความแน่นหนาจากการมใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่างอลูมิเนียมคุณภาพสูง โดยมีความบางเพียง 10.98 มิลลิเมตร และมีความเบาเพียง 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น
ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7 รหัส Y สถาปัตยกรรม Gen 7 Kaby Lake การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วยฮาร์ดดิสก์แบบ SSD และระบบเสียงของ Dolby ที่ปรับแต่งมาดีและเป็นจอด้านความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซลที่ให้ความคมชัด และเป็นพาเนลแบบ IPS ที่ให้สีสันสมจริง รวมถึงตัว Acer Spin 7 ยังได้ติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ 2 พอร์ตอีกด้วย
ที่สำคัญ Acer ก็ได้นำเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO (multiple-input, multiple-output) ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง ที่มาพร้อมความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 866 Mbps เลยทีเดียว พูดๆ ง่ายคือแรงกว่าเดิมถึง 2.8 เท่า ซึ่งช่วยให้เราได้สัมผัสการใช้งาน Wi-Fi ดีกว่าที่เคย และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่ออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอินเตอร์เน็ต การเล่นเกม การสตรีมข้อมูล รวมถึงการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ
ส่งผลให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับบางท่านที่ต้องเน้นในเรื่องของการพกพาไปใช้งานนนอกสถานที่เป็นหลัก รวมไปถึงต้องการใช้งาน Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถึงแม้ว่าในเรื่องของการทำงานกราฟิกหนักๆ อาจจะไม่รองรับมากนัก นั่นก็เป็นเพราะ Acer Spin 7 ให้ความสำคัญในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่และการพกพาที่สะดวกสบายมากกว่า
สนนราคา Acer Spin 7 อยู่ที่ 49,990 บาท ซึ่งหลายคนอาจจะเห็นว่ามีราคาสูง ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่หากว่าได้ทดลองใช้งานจริงแล้ว จะเห็นว่าราคานี้เหมาะสมกับสิ่งที่ทาง Acer ให้มาใน 2-in-1 Notebook เครื่องนี้แน่นอน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และมีความหรูหรา
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง เหมาะกับการพกพาสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่
- หน้าจอใช้พาเนลคุณภาพสูง IPS แบบ Full HD ให้ภาพที่คมชัดสีสันสดใส
- ชิปประมวลผลให้ประสิทธิภาพการทำงานที่พอตัว
- ฮาร์ดดิสก์ SSD มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- ติดตั้ง Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO
- ติดตั้ง USB 3.1 Type-C กับพอร์ตมาตรฐานใหม่
- ติดตั้ง Windows 10 ลิขสิทธิ์ พร้อมใช้งานทันที
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานติดต่อกันได้ถึง 8 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์ Ultrabook
- แรมยังไม่เป็นมาตรฐาน DDR4
- ไม่มี Backlit Keyboard
- พอร์ตการเชื่อมต่อมีเพียง USB 3.1 Type-C
Award
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Spin 7 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมและพลาสติกที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
สำหรับ Acer Spin 7 ที่มีความบางเพียง 10.98 มิลลิเมตร และมีความหนักเพียง 1.1.7 กิโลกรัม นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่า Ultrabook ในกลุ่มขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว หรือ 14 นิ้วด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ จึงได้คะแนนในส่วนนี้ไปไม่ยากนัก
Best Ultrabook
และด้วยข้อดีข้อเด่นทั้งหมดทั้งมวลนี้ Acer Spin 7 ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอด 2-in-1 Notebook ที่เป็นกลุ่ม Ultrabook ของปี 2017 นี้ ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสิทธิภาพ รวมไปถึงราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ที่หา Ultrabook เครื่องอื่นๆ มาเทียบไม่ได้ (แม้กระทั่ง MacBook Air ยังเป็นรอง) ประกอบกับคุณสมบัติในการตอบสนองการทำงานที่ครบถ้วน เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกอะไรนักที่ Acer Spin 7 จะได้รับ Award ประเภท Best Ultrabook ไปครับ
Specification
ในเรื่องของสเปก Acer Spin 7 นั้น เครื่องที่เราได้มารีวิวเป็นเครื่องที่ใช้ CPU เป็น Intel Core i7-7Y75 ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.30 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 3.60 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 615 แรมก็ให้มา 8GB DDR3L เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook ปกติ ส่วน SSD มีมาให้ขนาด 256GB มาพร้อมความเร็วสูง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องจอที่ได้กล่าวไปแล้วว่าใช้จอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS พร้อม Touch Screen ได้ เรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นมีเพียงพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ 2 พอร์ตเท่านั้น (หลักๆ 1 พอร์ตเอาไว้ชาร์จไฟจากอแดปเตอร์ด้วย) ร;มไปถึงยังมีช่องต่อหูฟังมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตรมาให้ พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์
ที่สำคัญยังมาพร้อม Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO (multiple-input, multiple-output) ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง ที่มาพร้อมความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 866 Mbps เลยทีเดียว พูดๆ ง่ายคือแรงกว่าเดิมถึง 2.8 เท่า ซึ่งช่วยให้เราได้สัมผัสการใช้งาน Wi-Fi ดีกว่าที่เคย สนนราคา 49,990 บาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบซ่อมฟรีถึงบ้าน
Hardware / Design
Acer Spin 7 เครื่องนี้ใช้วัสดุประกอบหลักอลูมิเนียมสีดำเกรดพรีเมียมตลอดทั้งตัวเครื่องที่มีความบางเบาแต่แข็งแรง เรียกได้ว่าได้รับการต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้าของ Acer ที่เป็นในส่วนของผลิตภัณฑ์ 2-in-1 Notebook พอสมควร ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูแล้วมีความเรียบหรูกว่าเดิมค่อนข้างมาก เรียกได้ว่าทิศทางการออกแบบของ Acer Spin 7 จะเป็นแนวเดียวกับรุ่นรองอย่าง Acer Spin 5 และ Acer Spin 3
ฝาหลังเป็นลักษณะโลหะแบบด้านที่ให้ผิวสัมผัสที่ดีมีความพรีเมียมกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป พร้อมโลโก้ Acer ตามมาตรฐาน สำหรับขอบตัวเครื่องมีความโค้งมนเพื่อความสวยงาม ส่วนด้านในก็จะเป็นอลูมิเนียมที่ดูหรูหรา ที่สำคัญยังออกแบบให้ส่วนของไฟแสดงสถานะการทำงานอยู่ของตัวเครื่องด้านหลัง เมื่อพับลงมาแล้วจะยังเห็นสถานะของการทำงานได้อยู่
สำหรับความบางของ Acer Spin 7 โดยมีความบาง 10.98 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียงแค่ 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็น 2-in-1 Notebook ประจำปี 2017 ที่มีทั้งความบางและความเบาแบบสุดๆ อีกหนึ่งรุ่น ทำให้เราสามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ โดยเหมาะมากๆ สำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค หรือคนทำงานพนักงานออฟฟิศ ที่เน้นใช้งานทั่วไปให้ประสิทธิภาพพอตัว แต่พกพาไปที่นู้นที่นั่นบ่อยๆ ซึ่งรองรับการทำงานได้ยาวนานกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ
ที่สำคัญถ้าสังเกตกันให้ดีจะเป็นว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาที่สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศารุ่นนี้ไม่มีในส่วนของช่องระบายความร้อนเลย โดยก็มาจากการที่ใช้ชิปประมวลผลที่ก่อเกิดความร้อนที่ต่ำ จึงทำให้ Acer Spin 7 ไม่จำเป็นต้องออกแบบให้มีพัดลมระบายความร้อนแต่อย่างใด หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งรุ่นใช้เป็นเทคโนโลยี Fanless นั่นเอง ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางพิเศษแบบสุดๆ อย่างที่โน๊ตบุ๊คเมื่อก่อนไม่สามารถทำได้ สำหรับตัวเครื่องฮาร์ดแวร์และดีไซน์การออกแบบของ Acer Spin 7 นั้นมีความน่าประทับใจในทุกมิติจริงๆ เพราะดูแล้ว Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีกับ 2-in-1 Notebook รุ่นล่าสุด
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดที่ติดตั้งมาให้เป็นแบบ Chiclet Keyboard ซึ่งระยะเว้นระหว่างปุ่มพิมพ์ทำออกมาได้พอดีไม่ชิดกันมากเกินไปและระยะยุบตัวของปุ่มพิมพ์นั้นค่อนข้างสั้น แต่ใช้งานจริงก็พอได้อยู่ไม่ได้ลำบากในการใช้งานนัก ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากตัวเครื่องได้ดีไซน์ให้มีความบางเป็นพิเศษของตัวเครื่องนั่นเอง ผิวสัมผัสของปุ่มแต่ละปุ่มนั้นให้ความรู้สึกที่ติดนิ้ว ส่งผลให้พิมพ์ได้อย่างสะดวกไม่แพ้คีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ เลย แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ Acer Spin 7 ไม่มีในส่วนของไฟ Backlit มาให้
ทัชแพดถูกออกแบบมาให้มีขนาดที่ใหญ่กำลังดีอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทำให้เวลาพิมพ์งานมือจะไม่เผลอไปสัมผัสกับทัชแพด โดยจะซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและคลิกขวาเอาไว้ทำให้ดูเรียบง่ายหรูหรา จากการทดสอบแล้วทัดแพชนี้รองรับ Gesture Control ได้ดีและมีการตอบสนองที่รวดเร็วซึ่งเป็นข้อดีของการใช้งานนอกสถานที่ที่ส่วนใหญ่ต้องใช้ทัชแพดมากกว่าการใช้เม้าส์อยู่แล้ว
Screen / Speaker
Acer Spin 7 ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ที่ 1920×1080 พิกเซล รองรับการ Touch Screen 10 จุดพร้อมๆ กัน ตามมาตรฐานของ 2-in-1 Notebook ที่สำคัญยังใช้พาเนลแบบ IPS เป็นพาเนลระดับสูงที่ให้ภาพคมชัดสีสันสวยงามกว่าพาเนลแบบโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป พร้อมด้วยเทคโนโลยี Acer Color Intelligence ที่จะจะปรับแกมม่าและความอิ่มตัวสีแบบเรียลไทม์ ช่วยปรับสี ความสว่าง และความอิ่มตัวสี โดยไม่มีภาพขาดและความอิ่มตัวของสีเกิน จากการใช้งานจริงรู้สึกน่าประทับใจกว่าจอของโน๊ตบุ๊คทั่วไปมาก พร้อมด้วยกระจก Gorilla Glass ที่แข็งแรงทนทาน
ในส่วนของลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นแบบสเตอริโอ Acer TrueHarmony มาพร้อมระบบเสียง Dolby Home Theater โดยเป็นลำโพงขนาดเล็กติดตั้งอยู่ทางด้านล่างฝั่งผู้ใช้มุมซ้ายและขวาของตัวเครื่องอัดลงพื้นให้สะท้อนขึ้น จากการทดสอบลำโพงพบว่าเสียงที่ออกมาค่อนข้างดีน่าประทับใจ แยกรายละเอียดได้ในระดับหนึ่ง ถือได้ว่ามีเสียงที่ดังชัดเจน โดยเน้นไปโทนกลางเป็นหลักตามสไลต์ลำโพงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Spin 7 ถือว่าเป็น 2-in-1 Notebook ยุคใหม่ที่มาพร้อมกับพอร์ตที่จำเป็นเท่านั้นอย่าง USB 3.1 Type-C โดยมีจำนวน 2 พอร์ตด้วยกัน โดยรวมแล้วต้องบอกว่าพอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ก็ยังจำเป็นต้องอาศัยตัวแปลงในการเชื่อมต่ออยู่บ้างในบางกรณี ซึ่งหลักๆ แล้ว 1 พอร์ตจะเป็นการรองรับเชื่อมต่อกับอแดปเตอร์ชาร์จไฟ รวมไปถึงยังมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรตามมาตรฐาน นอกเหนือจากนั้นปุ่มเปิดปิดเครื่องพร้อมปุ่มปรับระดับเสียงนั้น ก็จะถูกติดตั้งอยู่ด้านข้างเครื่อง
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.2 กิโลกรัมเท่านั้น และเมื่อรวมกับตัวอแดปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่ถึง 1.5 กิโลกรัมเลยล่ะ ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านอกจากตัวเครื่องที่บางเบาแล้ว ในส่วนของอแดปเตอร์เองกมีขนาดที่เล็กและเบามากๆ เทียบได้ก็พอๆ กับอแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนเท่านั้นเอง โดยรวมแล้วก็จัดว่ามีน้ำหนักที่ไม่ลำบากในการพกพาเลย
Using Experience
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Acer Spin 7 ตอบสนองได้อย่างหลากหลายจากการที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการพับใช้งานถึง 4 รูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็น Notebook / Stand / Tent / Tablet บอกได้เลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหา 2-in-1 Notebook ซักตัวที่พกพาสะดวกในราคาเบาๆ แต่มีความสามารถครบครันทั้งในเรื่องของการทำงานทั่วไปหรือแท็บเล็ตที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ส่วนสเปกก็ถือว่าแรงพอตัวด้วยชิประมวลผลประหยัดพลังงานอย่าง Intel Core i7 Gen 7 ซึ่งใช้งานได้อย่างลื่นไหล
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน๊ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดและทัชแพดในการควบคุมเหมือนโน๊ตบุ๊คปกติ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียวและวางไว้บนพื้นที่ราบ โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุดที่ 10 จุดพร้อมกัน
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้
Tablet Mode ด้วยการพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา จนฝาหลังและฐานใต้เครื่องมาติดกัน เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้
Performance / Software
Acer Spin 7 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7Y75 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.6 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ และประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR3L ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 615 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U หรือ M รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB โดยเป็นของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Liteon กับความเร็วระดับ Read: 557 MB/s – Write: 516 MB/s ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Spin 7 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับ Ultrabook หรือ 2-in-1 Notebook หลายๆ เครื่อง โดยสามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 8 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน อาจจะขึ้นอยู่กับหลายๆ ตัวแปร
อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 36 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 68 องศาเซลเซียสเท่านั้น (ไม่สูงไปกว่านี้แล้ว เพราะระบบจะลดความเร็วชิปประมวลผลลงมาครึ่งหนึ่ง) นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Spin 7 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ ที่เคยทำการรีวิวมาพอควรตอนทำงานเต็มที่แล้ว นับว่า Acer Spin 7 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีมากทีเดียว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก Acer ที่ดี และชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง
Conclusion / Award
ประสบการณ์ใช้งานที่ได้จาก Acer Spin 7 เครื่องนี้ทำออกมาได้ประทับใจดี ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่เข้ากันได้กับทุกคน เหมาะที่จะนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยการดีไซน์ที่เรียบง่ายไม่หวือหวาจนเกินงามและยังให้สเปกที่ดีอีกด้วย อีกทั้งงานประกอบก็มีความแน่นหนาจากการมใช้วัสดุคุณภาพสูงอย่างอลูมิเนียมคุณภาพสูง โดยมีความบางเพียง 10.98 มิลลิเมตร และมีความเบาเพียง 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น
ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7 รหัส Y สถาปัตยกรรม Gen 7 Kaby Lake การเข้าถึงข้อมูลได้ไวด้วยฮาร์ดดิสก์แบบ SSD และระบบเสียงของ Dolby ที่ปรับแต่งมาดีและเป็นจอด้านความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซลที่ให้ความคมชัด และเป็นพาเนลแบบ IPS ที่ให้สีสันสมจริง รวมถึงตัว Acer Spin 7 ยังได้ติดตั้งพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้ 2 พอร์ตอีกด้วย
ที่สำคัญ Acer ก็ได้นำเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO (multiple-input, multiple-output) ส่งผลให้เรานั้นจะได้สัมผัสกับความสามารถของระบบไร้สายในระดับที่แรงอย่างจริงจัง ที่มาพร้อมความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 866 Mbps เลยทีเดียว พูดๆ ง่ายคือแรงกว่าเดิมถึง 2.8 เท่า ซึ่งช่วยให้เราได้สัมผัสการใช้งาน Wi-Fi ดีกว่าที่เคย และไม่พลาดทุกการเชื่อมต่ออย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอินเตอร์เน็ต การเล่นเกม การสตรีมข้อมูล รวมถึงการดาวน์โหลดไฟล์ต่างๆ
ส่งผลให้ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับบางท่านที่ต้องเน้นในเรื่องของการพกพาไปใช้งานนนอกสถานที่เป็นหลัก รวมไปถึงต้องการใช้งาน Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถึงแม้ว่าในเรื่องของการทำงานกราฟิกหนักๆ อาจจะไม่รองรับมากนัก นั่นก็เป็นเพราะ Acer Spin 7 ให้ความสำคัญในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่และการพกพาที่สะดวกสบายมากกว่า
สนนราคา Acer Spin 7 อยู่ที่ 49,990 บาท ซึ่งหลายคนอาจจะเห็นว่ามีราคาสูง ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่หากว่าได้ทดลองใช้งานจริงแล้ว จะเห็นว่าราคานี้เหมาะสมกับสิ่งที่ทาง Acer ให้มาใน 2-in-1 Notebook เครื่องนี้แน่นอน
จุดเด่น
- มีดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และมีความหรูหรา
- วัสดุทำจากอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง งานประกอบดูแน่นหนา
- น้ำหนักเบา ตัวเครื่องบาง เหมาะกับการพกพาสำหรับคนที่ชอบนำไปใช้งานนอกสถานที่
- หน้าจอใช้พาเนลคุณภาพสูง IPS แบบ Full HD ให้ภาพที่คมชัดสีสันสดใส
- ชิปประมวลผลให้ประสิทธิภาพการทำงานที่พอตัว
- ฮาร์ดดิสก์ SSD มีความรวดเร็วในการใช้งานมาก
- ติดตั้ง Wi-Fi มาตรฐาน 802.11ac พร้อมรองรับ MIMO
- ติดตั้ง USB 3.1 Type-C กับพอร์ตมาตรฐานใหม่
- ติดตั้ง Windows 10 ลิขสิทธิ์ พร้อมใช้งานทันที
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานสามารถใช้งานติดต่อกันได้ถึง 8 ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- ไม่สามารถอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆเพิ่มเติมได้ ตามสไตล์ Ultrabook
- แรมยังไม่เป็นมาตรฐาน DDR4
- ไม่มี Backlit Keyboard
- พอร์ตการเชื่อมต่อมีเพียง USB 3.1 Type-C
Award
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Acer Spin 7 ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบมที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ที่เชื่อได้เลยว่าทาง Acer ได้ใส่ใจในส่วนของรายละเอียดนี้เป็นอย่างมาก ประกอบกับวัสดุหลักในการผลิตยังใช้เป็นอลูมิเนียมและพลาสติกที่ให้ในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน และยังบ่องบอกได้ถึงความสวยงามหรูหราอีกด้วย ฉะนั้นในเรื่องของรางวัล Best Design ทำให้ได้ไปอย่างไม่ยากเย็น
สำหรับ Acer Spin 7 ที่มีความบางเพียง 10.98 มิลลิเมตร และมีความหนักเพียง 1.1.7 กิโลกรัม นั้น จัดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีน้ำหนักเบามากๆ แน่นอนว่าจะไม่เป็นภาระในการนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ และความบางของตัวเครื่องก็ยังมีความบางเฉียบ เหนือกว่า Ultrabook ในกลุ่มขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว หรือ 14 นิ้วด้วยกันในหลายๆ ตัว และสำหรับระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ก็ถือได้ว่ามีความน่าประทับใจ จึงได้คะแนนในส่วนนี้ไปไม่ยากนัก
Best Ultrabook
และด้วยข้อดีข้อเด่นทั้งหมดทั้งมวลนี้ Acer Spin 7 ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสุดยอด 2-in-1 Notebook ที่เป็นกลุ่ม Ultrabook ของปี 2017 นี้ ทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ประสิทธิภาพ รวมไปถึงราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ที่หา Ultrabook เครื่องอื่นๆ มาเทียบไม่ได้ (แม้กระทั่ง MacBook Air ยังเป็นรอง) ประกอบกับคุณสมบัติในการตอบสนองการทำงานที่ครบถ้วน เพราะฉะนั้นคงไม่แปลกอะไรนักที่ Acer Spin 7 จะได้รับ Award ประเภท Best Ultrabook ไปครับ