[Review] MSI PL60 7RD โน๊ตบุ๊คพรีเมียมคลาส จอสีตรง สำหรับเน้นทำงานเป็นหลักและเล่นเกมไปด้วย

กลับมาอีกครั้งกับซีรี่ย์ P หรือ Prestige Series ที่เน้นไปที่กลุ่มนักธุรกิจวัยทำงาน หรือแนวๆ ฮิปสเตอร์ จากการออกแบบตัวบอดี้ที่เป็นสีเงินสแตนเลสทั้งตัว ทำให้ดูโดดเด่นหรูหรา สัมผัสเรียบหรู แถมประสิทธิภาพภายในแต่ไม่แพ้ MSI Gaming Series เป็นอีกตัวของโน๊ตบุ๊คต้นปี 2017 ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของจริงๆ เลยทีเดียว

โดยเจ้าตัว MSI PL60 7RD ได้ทำการอัพเกรดให้ทันสมัยตามยุคโดย มี CPU เป็น Intel Core™ i7 7th Gen และการ์ดจอ Nvidia GTX Series 10 รุ่นล่าสุดรวมทั้งฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นของ P ซีรี่ย์นั่นก็คือ True Color Technology ที่เน้นการแสดงผลของจอที่คมชัดและแสดงสีได้แม่นยำส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ก็อยู่กันครบไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Nahimic 2, True Color Technology 100% sRGB, CoolerBoost 3, Matrix Display, Silver Lining Print keyboard เรียกได้ว่าจัดเต็มเลยทีเดียวครับสำหรับเจ้าตัวนี้

VDO Review

Specification

สเปคเต็มๆ ของ MSI PL60 7RD ติดตั้งชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7500U (2.70 – 2.90 GHz) Gen 7 Kaby Lake ตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุดซึ่งเป็นแบบ 2 Cores/ 4 Threads การ์ดจอแยกเกมมิ่งอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (2GB GDDR5) ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 960M ราวๆ 30% สามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้เกือบทุกเกมแบบลื่นๆ

ในส่วนของ Harddisk เลือกใช้ความจุ 1 TB 7200 RPM พร้อมรองรับ SSD แบบ M.2 มี Ram 8 DDR4 (Bus 2400 หนึ่งแถว (สามารถใช้ได้สูงสุดสองแถวและรองรับสูงสุด 32 GB) หน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 Full HD eDP ให้สีที่มีความสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป (94% NTSC WIDE-VIEW PANEL)

ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อกันบ้าง มีมาให้ครบถ้วนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น รูหูฟัง, รูไมโครโฟร, USB 3.0, USB 2.0, USB 3.1 Type-C, Mini Display Port, HDMI, LAN, SD Card Reader ถือมีมาให้ทุกฟอร์แมต และในส่วนการเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 4.2 รุ่นใหม่ล่าสุด และใช้ Wireless เป็นแบบ 802.11 ac ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อความถี่ 5 Ghz ความเร็วสูง

น้ำหนักตัวเครื่องทีเรียกได้ว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว ซึ่งมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.2 กิโลกรัม มาพร้อมแบตเตอรรี่ขนาด 6 Cell สามารถใช้งานได้งาน ส่วนด้านการระบายความร้อนเจ้าตัว MSI PL60 7RD มีฮีทไปป์ 5 เส้นและพัดลมระบายความร้อนสองตัวถือว่าทำมาดีมาก เหมาะสำหรับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ โดยเจ้าตัวนี้มีราคาอยู่ที่ 37,900 บาท

อ่านหน้าสเปคเต็มได้ ที่นี่

 

Hardware / Design

หน้าตาการออกแบบของเจ้า MSI PL60 7RD ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีมาก ดูสวยงาม หรูหรา สมกับเป็นซีรี่ย์ P หรือ Prestige Series ซึ่งดูจากภายนอกคิดว่าบอดี้เป็นอลูมิเนียม แต่จริงๆ แล้วบอดี้ตรงหน้าจอเป็นพลาสติก และตรงส่วนด้านในที่เป็นแป้นพิมพ์จะเป็นแบบอลูมิเนียม ทั้งตัวเครื่องบอดี้เป็นสีสแตนเลสสีเงิน ดูเข้ากันดีทั้งด้านนอกและด้านใน เรียบหรู มีระดับ โดดเด่นเป็นสง่า ตามสไตล์โน๊ตบุ๊คพรีเมียมคลาสสำหรับวัยทำงานที่เน้นความเรียบง่าย ที่ไม่หวือหวาหรือดุดัน ส่วนฝาหลังของตัวเครื่องจะมีโลโก้ MSI อยู่มุมขวากลางเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

ด้านในตัวเครื่องก็มีสีสันเป็นสีสแตนเลสเงินเหมือนกับฝาบน แต่ในส่วนนี้วัสดุส่วนนี้จะเป็นอลูมิเนียม ซึ่งให้สัมผัสที่ดี แข็งแรง พร้อมคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ Silver Lining Print ที่แป้นพิมพ์จะเป็นสีใสๆ ทำให้ไฟ Backlit ใต้คีย์บอร์ดสีขาวที่คีย์บอร์ดสว่างมากยิ่งขึ้น ทะลุแป้นพิมพ์ออกมาดูสวยงามมากซึ่งจะเห็นได้จากรูปด้านบน

ส่วนตัวลำโพงของเครื่องจะอยู่ตรงด้านล่างใต้ Touchpad ซ้ายขวา และมีซัฟวูฟเฟอร์อยู่ใต้ตัวเครื่องให้ด้วย โดยเลือกใช้ลำโพง Dynaudio ที่ใช้ระบบเสียงแบบ Nahimic 2 ซึ่งให้เสียงที่ดีพอสมควร แต่เวลาเราพิมพ์งานใช้สองมือ ข้อมือเราอาจจะไปบดบังลำโพงได้ลดทอนเสียงลงได้ ทางด้านแกนบ้านพับเป็นแบบ 2 แกนอยู่มุมซ้ายขวา ดูแข็งแรง ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาว

สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ MSI PL60 7RD สามารถพูดได้เลยว่าวัสดุและการออกแบบทำได้ดีที่สุดในตลาดโน๊ตบุ๊คในราคาระดับเดียวกันก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการประกอบที่ดูดี แข็งแรง บอดี้ด้านในที่เป็นอลูมิเนียม ปุ่มกดคีย์บอร์ดแบบ Silver Lining Print และการสัมผัสให้ความรู้สึกที่ดีไม่เป็นรอยนิ้วมือ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คมาทำงานที่ซีเรียสเรื่องสีของภาพ เพราะ เจ้าตัวนีเแสดงสีสันได้ 100% sRGB ทำให้ได้ภาพที่สีไม่เพี้ยน สมจริง ไม่สดเวอร์หรือจืดเกินไป หรือหากจะนำมาเล่นเกมก็พอได้บ้างเช่น

Keyboard / Touchpad

ทางด้านคีย์บอร์ดตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำ แบบ Silver Lining Print ที่ตัวครอบปุ่มด้านข้างเป็นแบบใส ตัวฟอนต์เป็นสีขาวชัดเจน พร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad อยู่ด้านขวา ส่วนของไฟ Backlit เป็นสีขาวสามารถใช้งานได้ดี โดยสามารถปรับได้ 3 ระดับ ด้านบนขวาคีย์บอร์ดจะมีปุ่มสามปุ่ม เรียงจากซ้ายไปขวา ปุ่มแรกจะเป็นปุ่มเร่งพัดลมให้ทำงานสูงสุดช่วยในการะบายความร้อน ถัดมาเป็นปุ่มปรับสีหน้าจอ และปุ่มสุดท้ายเป็นเปิด-ปิดเครื่อง ส่วนการสัมผัสปุ่มคีย์บอร์ดรุ่นนี้ได้ทำค่อนข้างดีไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป พิมพ์งานได้ไม่มีสะดุด

ทัชแพดมีขนาดกลางๆ พอดีมือเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว วัสดุเป็นอลูมิเนียมเหมือนบอดี้ด้านในให้สัมผัสการเลื่อนเมาส์ที่แม่นยำ แยกปุ่มคลิกซ้าย คลิกขวาชัดเจน ซึ่งมีตัวซอฟต์แวร์สามารถใช้งาน Multi-touch ได้ดี การสัมผัสคลิกซ้ายคลิกขวาให้สัมผัสที่ดี หนักแน่น เรียกได้ว่าในส่วนนี้ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว

Screen / Speaker

ในส่วนของหน้าจอ MSI PL60 7RD เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 15.6 นิ้ว บนความละเอียด 1920×1080 Full HD eDP การแสดงผลของสีที่สมจริง 100% sRGB  มุมมองกว้างที่ 170 องศา ให้สีสันค่อนข้างตรง ไม่สด ไม่เวอร์จนเกินไป โดยสามารถปรับได้หลายระดับจากปุ่มกดด้านบน ซึ่งมีโหมดปรับได้ดังนี้ คือ Anti-Blue, sRGB, Designer, Office, Movie และ Gamer เรียกได้ว่าใครกำลังใช้งานแบบไหนอยู่สามารถปรับภาพให้สีตรงกับงานในทีเราทำได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

มาดูทางด้านเสียงกับบ้าง ตัวลำโพงเป็นของ Dynaudio ใช้ระบบเสียง Nahimic 2 เคลมว่าสามารถให้เสียงได้ครอบคลุม 360 องศา โดยมีลำโพงซ้ายขวาอยู่ด้านล่างตัวเครื่อง และมีซัพวูฟเฟอร์ให้อยู่ด้านใต้ตัวเครื่อง ซึ่งให้เสียงเบสทีดีพอสมควรในระดับความเป็นโน๊ตบุ๊ค ดูโดยรวมแล้วทางด้านเสียงของเจ้าตัวนี้ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เสียงดัง ฟังชัด เป็นที่น่าพอใจเลย ถือว่าในด้านเรื่องเสียงของเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวนี้ทำได้มาดีมากอีกตัวหนึ่งของโน๊ตบุ๊คในราคาระดับนี้เลยครับ

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง MSI PL60 7RD นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คครบครันมี่สุดตัวหนึ่งในโน๊ตบุ๊คในระดับราคาใกล้เคียงกัน แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นเรียกได้ว่าน่าจะให้ครบที่สุดอีกรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 3 Type C จำนวน 1 พอร์ต, USB 2.0 อีก 1 พอร์ต, HDMI, mini Display Port, ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 mm, ช่องต่อไมค์ 3.5 mm, SD Card Reader ขนาดมาตรฐานและพอร์ต LAN ตัวเต็ม แต่ไม่มี Drive DVD มาให้ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว

การจัดวางของแต่ละพอร์ตถือว่าทำได้ดีกว่ามาก ระยะระหว่างความห่างของพอร์ต USB  ห่างพอสมควร สามารถเสียบสาย USB ได้หลายอันโดยไม่ติดกัน ซึ่งใครที่มีปัญหาเรื่องสายเสียบที่ออกแบบมามีขนาดใหญ่ ปัญหานี้จะหมดไปในทันที ส่วนขนาดของตัวเครื่องจะเป็น 383 x 260 x 22-29 mm (กว้าง x ยาว x สูง) มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.2 กิโลกรัม รวมกับอแด็ปเตอร์ชาร์จไฟก็น่าจะอยู่ราวๆ ไม่เกิน 3 กิโลกรัม ถือว่าอยู่ในระดับที่ยังพอพกพาไปไหนมาไหนได้ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว

Performance / Software

ตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7500U รุ่นประหยัดพลังงานล่าสุด ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการแบบไม่หนักงาน เน้นระยะเวลาการใช้งานมากกว่าประสิทธิภาพที่ได้ ซึ่งความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.70 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้ 2.90 GHz โดยเป็น CPU แบบ 2 Cores/4 Threads เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ตกแต่งภาพ ทำงานเอกสาร หรือหากจะนำมาเล่นเกมก็พอเล่นได้บ้างอยู่ที่การปรับกราฟฟิค ซึ่งสามารถทำได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว และมาพร้อม Ram ขนาด 8GB DDR4 (Bus 2400) 1 แถว เรียกได้ว่าเหลือๆ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

ด้านการ์ดจอตัวออนบอร์ดเป็น Intel HD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง สามารถใช้งานกราฟฟิค 2 มิติ ได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ใช้การ์ดจอแยกจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเยอะ

การ์ดจอแยกของเจ้าตัวนี้จะเป็น Nvidia GeForce GTX 1050 2 GB DDR5 รุ่นล่าสุด สามารถเล่นเกมในปัจจุบันในสบายๆ เกือบทุกเกม แต่จะเสียนิดหน่อยตรงที่หน่วยความมีแค่ 2 GB ซึ่งดูจะน้อยไปหน่อยในการเล่นเกมที่กินทรัพยากรเครื่องมากๆ ไม่เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจจะซื้อเจ้าตัวนี้มาเล่นเกมจริงจัง เพราะ MSI PL60 7RD ถูกออกแบบมาให้อยู่ในตลาดกลุ่มเน้นการทำงานมากกว่า

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ หรือเทียบเท่ากับ i7-7700HQ ลดมาครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบรุ่นก่อนหน้าในไลน์เดียวกันแล้ว ถือได้ว่าทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ไม่ได้หวือหวามาก ส่วนตัวการ์ดจอแยกให้ประสิทธิภาพที่ดีในระดับหนึ่ง สูงพอสมควรเลยที่เดียว พอๆ กับ GTX  1050 4GB หรืออาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำในบางยี่ห้อ

ทดสอบการทำงาน Hardisk ด้วยโปรแกรม HD Tune Pro ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ใช้ความจุ Harrdisk ขนาด 1 TB 7200 RPM พบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 65.7 MB/s และสูงสุดที่ 144.6 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 102.6 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 16.4 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว

ในส่วนนี้เราจะทดสอบ MSI PL60 7RD ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 6 เกม ยอดฮิตในตอนนี้ ไปดูกันเลยครับ

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว โดยเฉลี่ยมี 4 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30 FPS ขึ้นไป ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย ซึ่งต้องปรับกราฟฟิคให้เหมาะสมด้วย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7500U สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 (2 GB) ออกมาได้เป็นอย่างดี ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 และ  Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดเกือบทั้งหมด (ระดับ High) ภาพที่ได้ดูสวยงาม ลื่นไหล ในระดับที่สามารถเล่นได้โดยไม่สะดุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้ว จะมีต่ำกว่า 30 FPS บ้างเป็นบ้างครั้ง ถ้าอยากจะให้ลื่นจริงๆ ต้องปรับคุณภาพให้กราฟฟิคต่ำกว่านี้ครับ

ส่วนอีก 4 เกมที่เหลือ Overwatch, DOTA 2, For Horner, GTA V ที่ได้จัดทำการทดสอบ โดยตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ปรับตั้งค่ากราฟฟิคสูงสุดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ภาพได้ออกมาอย่างไหลลื่น และค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 30 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือสามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ประทับใจในระดับหนึ่ง ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอสีสันสมจริง

Battery / Heat / Noise

MSI PL60 7RD นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 3,500 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าค่อนข้างธรรมดา โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งจริงๆ น่าจะได้มากกว่านี้เพราะใช้ CPU ประหยัดพลังงาน

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมาก ทั้งตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไม่ใช่ทรัพยากรมากนัก เช่น จำพวกทำงานเอกสาร หรือท่องอินเตอร์เน็ต ส่วนตอนการเล่นเกมหนักๆ หรือใช้ทรัพยากรเครื่องมากๆ อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ไม่เกิน 70 องศา ซึ่งทีมงานได้ทำการทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 23 องศา โดยเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง

ทั้งนี้ส่วนของเรื่องเสียงพัดลมถือว่าไม่ดังมาก หากใช้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น เช่นท่องเว็บ พิมพ์งาน ฯลฯ เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของพัดลมระบายความร้อนเลย ซึ่งทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก แถมมีปุ่มกดเพิ่มรอบพัดลม ทำให้เวลาใช้งานเครื่องหนักๆ สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี และจากการทดสอบสามารถลดได้กว่า 10 องศาเลยทีเดียว แต่ก็ต้องแลกกับเสียงพัดลมที่เสียงดังขึ้นมามากเลยทีเดียว ในส่วนนี้บอกได้เลยครับว่า MSI ทำการบ้านมาดีมาก หรือพูดเต็มปากเลยว่า เรื่องระบบระบายความร้อนเนี่ย MSI ตัวนี้นี่ดีที่สุด ในบรรดาโน๊ตบุ๊คในตลาดระดับเดียวกันตอนนี้

Conclusion / Award

สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงของเจ้าตัว MSI PL60 7RD ทั้งในส่วนของการทำงาน ดูหนังฟังเพลง รวมไปถึงการเล่นเกม โดยเจ้าตัวนี้สามารถทำออกมาได้ประสิทธิภาพที่ดีพอสมควร สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล(ปรับค่าตามความเหมาะสมของแต่ละเกม) ซึ่ง CPU เป็นแบบ Intel Core i7-7500U รุ่นประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง มาพร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1050 GDDR5 2 GB และ Ram 8 DDR4 อีกทั้งยังรองรับการอัพเกรด SSD แบบ M.2 ด้วย

นอกจากนี้ยังมีชุดระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม หรือพูดได้เต็มปากเลยว่าดีที่สุดในบรรดาโน้ตบุ๊ตในราคาระดับใกล้เคียงกัน เพราะให้ฮีทไปป์ถึง 5 เส้น พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว จัดเต็มสุดๆ อีกหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD eDP ที่ให้ภาพคมชัด สมจริง แสดงผลแบบ 100% sRGB อีกด้วย

ในเรื่องของการออกแบบถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ทั้งในส่วนของการประกอบที่แน่นหนา และวัสดุที่เป็นกึ่งพลาสติก กึ่งอลูมิเนียม ให้สัมผัสที่ดีไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย รวมถึงเรื่องของน้ำหนักที่หนักเพียง 2.2 กิโลกรัม  อีกทั้งยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ อย่างคีย์บอร์ด Silver Lining Print ที่ให้สีไฟ Backlit สีขาว ส่องผ่านแป้นออกมาดูสวยงาม  ลำโพง Dynaudio พร้อมซัฟวูฟเฟอร์ในตัว โดยใช้ระบบเสียง Nahimic 2 ให้เสียงที่มีคุณภาพดี

ในส่วนทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อ เจ้าตัว MSI PL60 7RD ถือได้ว่าให้มาครบครันที่สุดอีกรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ เพราะได้ทั้ง USB 3 type C สำหรับต่ออุปกรณ์ใหม่ และ mini Displat Port ที่เอาไว้ต่อหลายจอได้ ส่วนเรื่องการรับประกันทาง MSI มีมาให้ 2 ปีเต็ม และมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 37,900 บาท

ข้อดี

• วัสดุงานประกอบดี และดีไซน์สวยงาม
• ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก
• หน้าจอความละเอียด Full HD eDP สมจริง แสดงผลแบบ 100% sRGB
• ลำโพง Dynaudio มีซัฟวูฟเฟอร์ในตัว ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง
• รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 และ RAM DDR4 (สูงสุด 32 GB)
• ระบบระบายความร้อนทำได้ยอดเยี่ยมมากที่ให้ ฮีทไปป์ 5 เส้น พัดลม 2 ตัว

ข้อสังเกต

• สเปคเทียบกับราคาค่อนข้างสูงกว่ายี่ห้ออื่นพอสมควร
• เสียงพัดลมค่อนข้างดัง เมื่อเปิดโหมดเร่งพัดลม

Award

Best Multimedia

ลำโพง Dynaudio ใช้ระบบเสียง Nahimic 2 มีซัพวูฟเฟอร์อยู่ใต้เครื่อง ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ดูหนังฟังเพลงได้เพลินๆ และหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD eDP ที่สามารถแสดงสีได้สมจริง มาพร้อม Ram 8 GB, Harddisk 7200 RPM และพอร์ทเชื่อมต่อที่ครบครัน สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต ส่วนการเล่นเกมก็สามารถพอเล่นได้บ้างเช่นกัน

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาของเจ้า MSI PL60 7RD เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีงามที่สุดของเครื่องนี้เลยทีเดียว ทั้งงานประกอบที่แน่นหนาแข็งแรง กับวัสดุที่ใช้เลือกเป็นกึ่งพลาสติก กึ่งอลูมิเนียม การสัมผัสที่ให้ความรู้สึกที่ดีและไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย ทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรา เกรดพรีเมี่ยมคุณภาพดี แต่ก็แฝงไปด้วยเรียบง่ายไปในตัว

VDO Review

Specification

สเปคเต็มๆ ของ MSI PL60 7RD ติดตั้งชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7500U (2.70 – 2.90 GHz) Gen 7 Kaby Lake ตัวประหยัดพลังงานรุ่นล่าสุดซึ่งเป็นแบบ 2 Cores/ 4 Threads การ์ดจอแยกเกมมิ่งอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (2GB GDDR5) ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 960M ราวๆ 30% สามารถเล่นเกมในปัจจุบันได้เกือบทุกเกมแบบลื่นๆ

ในส่วนของ Harddisk เลือกใช้ความจุ 1 TB 7200 RPM พร้อมรองรับ SSD แบบ M.2 มี Ram 8 DDR4 (Bus 2400 หนึ่งแถว (สามารถใช้ได้สูงสุดสองแถวและรองรับสูงสุด 32 GB) หน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 Full HD eDP ให้สีที่มีความสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป (94% NTSC WIDE-VIEW PANEL)

ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อกันบ้าง มีมาให้ครบถ้วนเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น รูหูฟัง, รูไมโครโฟร, USB 3.0, USB 2.0, USB 3.1 Type-C, Mini Display Port, HDMI, LAN, SD Card Reader ถือมีมาให้ทุกฟอร์แมต และในส่วนการเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 4.2 รุ่นใหม่ล่าสุด และใช้ Wireless เป็นแบบ 802.11 ac ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อความถี่ 5 Ghz ความเร็วสูง

น้ำหนักตัวเครื่องทีเรียกได้ว่าค่อนข้างเบาเลยทีเดียว ซึ่งมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.2 กิโลกรัม มาพร้อมแบตเตอรรี่ขนาด 6 Cell สามารถใช้งานได้งาน ส่วนด้านการระบายความร้อนเจ้าตัว MSI PL60 7RD มีฮีทไปป์ 5 เส้นและพัดลมระบายความร้อนสองตัวถือว่าทำมาดีมาก เหมาะสำหรับการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ โดยเจ้าตัวนี้มีราคาอยู่ที่ 37,900 บาท

อ่านหน้าสเปคเต็มได้ ที่นี่

 

Hardware / Design

หน้าตาการออกแบบของเจ้า MSI PL60 7RD ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีมาก ดูสวยงาม หรูหรา สมกับเป็นซีรี่ย์ P หรือ Prestige Series ซึ่งดูจากภายนอกคิดว่าบอดี้เป็นอลูมิเนียม แต่จริงๆ แล้วบอดี้ตรงหน้าจอเป็นพลาสติก และตรงส่วนด้านในที่เป็นแป้นพิมพ์จะเป็นแบบอลูมิเนียม ทั้งตัวเครื่องบอดี้เป็นสีสแตนเลสสีเงิน ดูเข้ากันดีทั้งด้านนอกและด้านใน เรียบหรู มีระดับ โดดเด่นเป็นสง่า ตามสไตล์โน๊ตบุ๊คพรีเมียมคลาสสำหรับวัยทำงานที่เน้นความเรียบง่าย ที่ไม่หวือหวาหรือดุดัน ส่วนฝาหลังของตัวเครื่องจะมีโลโก้ MSI อยู่มุมขวากลางเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

ด้านในตัวเครื่องก็มีสีสันเป็นสีสแตนเลสเงินเหมือนกับฝาบน แต่ในส่วนนี้วัสดุส่วนนี้จะเป็นอลูมิเนียม ซึ่งให้สัมผัสที่ดี แข็งแรง พร้อมคีย์บอร์ดที่เป็นแบบ Silver Lining Print ที่แป้นพิมพ์จะเป็นสีใสๆ ทำให้ไฟ Backlit ใต้คีย์บอร์ดสีขาวที่คีย์บอร์ดสว่างมากยิ่งขึ้น ทะลุแป้นพิมพ์ออกมาดูสวยงามมากซึ่งจะเห็นได้จากรูปด้านบน

ส่วนตัวลำโพงของเครื่องจะอยู่ตรงด้านล่างใต้ Touchpad ซ้ายขวา และมีซัฟวูฟเฟอร์อยู่ใต้ตัวเครื่องให้ด้วย โดยเลือกใช้ลำโพง Dynaudio ที่ใช้ระบบเสียงแบบ Nahimic 2 ซึ่งให้เสียงที่ดีพอสมควร แต่เวลาเราพิมพ์งานใช้สองมือ ข้อมือเราอาจจะไปบดบังลำโพงได้ลดทอนเสียงลงได้ ทางด้านแกนบ้านพับเป็นแบบ 2 แกนอยู่มุมซ้ายขวา ดูแข็งแรง ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาว

สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ MSI PL60 7RD สามารถพูดได้เลยว่าวัสดุและการออกแบบทำได้ดีที่สุดในตลาดโน๊ตบุ๊คในราคาระดับเดียวกันก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการประกอบที่ดูดี แข็งแรง บอดี้ด้านในที่เป็นอลูมิเนียม ปุ่มกดคีย์บอร์ดแบบ Silver Lining Print และการสัมผัสให้ความรู้สึกที่ดีไม่เป็นรอยนิ้วมือ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คมาทำงานที่ซีเรียสเรื่องสีของภาพ เพราะ เจ้าตัวนีเแสดงสีสันได้ 100% sRGB ทำให้ได้ภาพที่สีไม่เพี้ยน สมจริง ไม่สดเวอร์หรือจืดเกินไป หรือหากจะนำมาเล่นเกมก็พอได้บ้างเช่น

Keyboard / Touchpad

ทางด้านคีย์บอร์ดตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำ แบบ Silver Lining Print ที่ตัวครอบปุ่มด้านข้างเป็นแบบใส ตัวฟอนต์เป็นสีขาวชัดเจน พร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad อยู่ด้านขวา ส่วนของไฟ Backlit เป็นสีขาวสามารถใช้งานได้ดี โดยสามารถปรับได้ 3 ระดับ ด้านบนขวาคีย์บอร์ดจะมีปุ่มสามปุ่ม เรียงจากซ้ายไปขวา ปุ่มแรกจะเป็นปุ่มเร่งพัดลมให้ทำงานสูงสุดช่วยในการะบายความร้อน ถัดมาเป็นปุ่มปรับสีหน้าจอ และปุ่มสุดท้ายเป็นเปิด-ปิดเครื่อง ส่วนการสัมผัสปุ่มคีย์บอร์ดรุ่นนี้ได้ทำค่อนข้างดีไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป พิมพ์งานได้ไม่มีสะดุด

ทัชแพดมีขนาดกลางๆ พอดีมือเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว วัสดุเป็นอลูมิเนียมเหมือนบอดี้ด้านในให้สัมผัสการเลื่อนเมาส์ที่แม่นยำ แยกปุ่มคลิกซ้าย คลิกขวาชัดเจน ซึ่งมีตัวซอฟต์แวร์สามารถใช้งาน Multi-touch ได้ดี การสัมผัสคลิกซ้ายคลิกขวาให้สัมผัสที่ดี หนักแน่น เรียกได้ว่าในส่วนนี้ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว

Screen / Speaker

ในส่วนของหน้าจอ MSI PL60 7RD เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 15.6 นิ้ว บนความละเอียด 1920×1080 Full HD eDP การแสดงผลของสีที่สมจริง 100% sRGB  มุมมองกว้างที่ 170 องศา ให้สีสันค่อนข้างตรง ไม่สด ไม่เวอร์จนเกินไป โดยสามารถปรับได้หลายระดับจากปุ่มกดด้านบน ซึ่งมีโหมดปรับได้ดังนี้ คือ Anti-Blue, sRGB, Designer, Office, Movie และ Gamer เรียกได้ว่าใครกำลังใช้งานแบบไหนอยู่สามารถปรับภาพให้สีตรงกับงานในทีเราทำได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

มาดูทางด้านเสียงกับบ้าง ตัวลำโพงเป็นของ Dynaudio ใช้ระบบเสียง Nahimic 2 เคลมว่าสามารถให้เสียงได้ครอบคลุม 360 องศา โดยมีลำโพงซ้ายขวาอยู่ด้านล่างตัวเครื่อง และมีซัพวูฟเฟอร์ให้อยู่ด้านใต้ตัวเครื่อง ซึ่งให้เสียงเบสทีดีพอสมควรในระดับความเป็นโน๊ตบุ๊ค ดูโดยรวมแล้วทางด้านเสียงของเจ้าตัวนี้ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เสียงดัง ฟังชัด เป็นที่น่าพอใจเลย ถือว่าในด้านเรื่องเสียงของเจ้าโน๊ตบุ๊คตัวนี้ทำได้มาดีมากอีกตัวหนึ่งของโน๊ตบุ๊คในราคาระดับนี้เลยครับ

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง MSI PL60 7RD นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คครบครันมี่สุดตัวหนึ่งในโน๊ตบุ๊คในระดับราคาใกล้เคียงกัน แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบา แต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นเรียกได้ว่าน่าจะให้ครบที่สุดอีกรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 3 Type C จำนวน 1 พอร์ต, USB 2.0 อีก 1 พอร์ต, HDMI, mini Display Port, ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 mm, ช่องต่อไมค์ 3.5 mm, SD Card Reader ขนาดมาตรฐานและพอร์ต LAN ตัวเต็ม แต่ไม่มี Drive DVD มาให้ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้กันแล้ว

การจัดวางของแต่ละพอร์ตถือว่าทำได้ดีกว่ามาก ระยะระหว่างความห่างของพอร์ต USB  ห่างพอสมควร สามารถเสียบสาย USB ได้หลายอันโดยไม่ติดกัน ซึ่งใครที่มีปัญหาเรื่องสายเสียบที่ออกแบบมามีขนาดใหญ่ ปัญหานี้จะหมดไปในทันที ส่วนขนาดของตัวเครื่องจะเป็น 383 x 260 x 22-29 mm (กว้าง x ยาว x สูง) มีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.2 กิโลกรัม รวมกับอแด็ปเตอร์ชาร์จไฟก็น่าจะอยู่ราวๆ ไม่เกิน 3 กิโลกรัม ถือว่าอยู่ในระดับที่ยังพอพกพาไปไหนมาไหนได้ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว

Performance / Software

ตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7500U รุ่นประหยัดพลังงานล่าสุด ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการแบบไม่หนักงาน เน้นระยะเวลาการใช้งานมากกว่าประสิทธิภาพที่ได้ ซึ่งความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.70 GHz สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้ 2.90 GHz โดยเป็น CPU แบบ 2 Cores/4 Threads เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ตกแต่งภาพ ทำงานเอกสาร หรือหากจะนำมาเล่นเกมก็พอเล่นได้บ้างอยู่ที่การปรับกราฟฟิค ซึ่งสามารถทำได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว และมาพร้อม Ram ขนาด 8GB DDR4 (Bus 2400) 1 แถว เรียกได้ว่าเหลือๆ เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป

ด้านการ์ดจอตัวออนบอร์ดเป็น Intel HD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง สามารถใช้งานกราฟฟิค 2 มิติ ได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ใช้การ์ดจอแยกจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเยอะ

การ์ดจอแยกของเจ้าตัวนี้จะเป็น Nvidia GeForce GTX 1050 2 GB DDR5 รุ่นล่าสุด สามารถเล่นเกมในปัจจุบันในสบายๆ เกือบทุกเกม แต่จะเสียนิดหน่อยตรงที่หน่วยความมีแค่ 2 GB ซึ่งดูจะน้อยไปหน่อยในการเล่นเกมที่กินทรัพยากรเครื่องมากๆ ไม่เหมาะสำหรับคนที่ตั้งใจจะซื้อเจ้าตัวนี้มาเล่นเกมจริงจัง เพราะ MSI PL60 7RD ถูกออกแบบมาให้อยู่ในตลาดกลุ่มเน้นการทำงานมากกว่า

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับกลางๆ หรือเทียบเท่ากับ i7-7700HQ ลดมาครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบรุ่นก่อนหน้าในไลน์เดียวกันแล้ว ถือได้ว่าทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ไม่ได้หวือหวามาก ส่วนตัวการ์ดจอแยกให้ประสิทธิภาพที่ดีในระดับหนึ่ง สูงพอสมควรเลยที่เดียว พอๆ กับ GTX  1050 4GB หรืออาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำในบางยี่ห้อ

ทดสอบการทำงาน Hardisk ด้วยโปรแกรม HD Tune Pro ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ใช้ความจุ Harrdisk ขนาด 1 TB 7200 RPM พบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 65.7 MB/s และสูงสุดที่ 144.6 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 102.6 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 16.4 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว

ในส่วนนี้เราจะทดสอบ MSI PL60 7RD ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 6 เกม ยอดฮิตในตอนนี้ ไปดูกันเลยครับ

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาได้ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว โดยเฉลี่ยมี 4 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30 FPS ขึ้นไป ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย ซึ่งต้องปรับกราฟฟิคให้เหมาะสมด้วย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7500U สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 (2 GB) ออกมาได้เป็นอย่างดี ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 และ  Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดเกือบทั้งหมด (ระดับ High) ภาพที่ได้ดูสวยงาม ลื่นไหล ในระดับที่สามารถเล่นได้โดยไม่สะดุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้ว จะมีต่ำกว่า 30 FPS บ้างเป็นบ้างครั้ง ถ้าอยากจะให้ลื่นจริงๆ ต้องปรับคุณภาพให้กราฟฟิคต่ำกว่านี้ครับ

ส่วนอีก 4 เกมที่เหลือ Overwatch, DOTA 2, For Horner, GTA V ที่ได้จัดทำการทดสอบ โดยตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ปรับตั้งค่ากราฟฟิคสูงสุดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ภาพได้ออกมาอย่างไหลลื่น และค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 30 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือสามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ประทับใจในระดับหนึ่ง ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอสีสันสมจริง

Battery / Heat / Noise

MSI PL60 7RD นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 3,500 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าค่อนข้างธรรมดา โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งจริงๆ น่าจะได้มากกว่านี้เพราะใช้ CPU ประหยัดพลังงาน

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีมาก ทั้งตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไม่ใช่ทรัพยากรมากนัก เช่น จำพวกทำงานเอกสาร หรือท่องอินเตอร์เน็ต ส่วนตอนการเล่นเกมหนักๆ หรือใช้ทรัพยากรเครื่องมากๆ อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ไม่เกิน 70 องศา ซึ่งทีมงานได้ทำการทดสอบในห้องแอร์อุณหภูมิ 23 องศา โดยเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง

ทั้งนี้ส่วนของเรื่องเสียงพัดลมถือว่าไม่ดังมาก หากใช้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น เช่นท่องเว็บ พิมพ์งาน ฯลฯ เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของพัดลมระบายความร้อนเลย ซึ่งทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก แถมมีปุ่มกดเพิ่มรอบพัดลม ทำให้เวลาใช้งานเครื่องหนักๆ สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี และจากการทดสอบสามารถลดได้กว่า 10 องศาเลยทีเดียว แต่ก็ต้องแลกกับเสียงพัดลมที่เสียงดังขึ้นมามากเลยทีเดียว ในส่วนนี้บอกได้เลยครับว่า MSI ทำการบ้านมาดีมาก หรือพูดเต็มปากเลยว่า เรื่องระบบระบายความร้อนเนี่ย MSI ตัวนี้นี่ดีที่สุด ในบรรดาโน๊ตบุ๊คในตลาดระดับเดียวกันตอนนี้

Conclusion / Award

สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงของเจ้าตัว MSI PL60 7RD ทั้งในส่วนของการทำงาน ดูหนังฟังเพลง รวมไปถึงการเล่นเกม โดยเจ้าตัวนี้สามารถทำออกมาได้ประสิทธิภาพที่ดีพอสมควร สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล(ปรับค่าตามความเหมาะสมของแต่ละเกม) ซึ่ง CPU เป็นแบบ Intel Core i7-7500U รุ่นประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง มาพร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1050 GDDR5 2 GB และ Ram 8 DDR4 อีกทั้งยังรองรับการอัพเกรด SSD แบบ M.2 ด้วย

นอกจากนี้ยังมีชุดระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม หรือพูดได้เต็มปากเลยว่าดีที่สุดในบรรดาโน้ตบุ๊ตในราคาระดับใกล้เคียงกัน เพราะให้ฮีทไปป์ถึง 5 เส้น พัดลมระบายความร้อน 2 ตัว จัดเต็มสุดๆ อีกหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD eDP ที่ให้ภาพคมชัด สมจริง แสดงผลแบบ 100% sRGB อีกด้วย

ในเรื่องของการออกแบบถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ทั้งในส่วนของการประกอบที่แน่นหนา และวัสดุที่เป็นกึ่งพลาสติก กึ่งอลูมิเนียม ให้สัมผัสที่ดีไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย รวมถึงเรื่องของน้ำหนักที่หนักเพียง 2.2 กิโลกรัม  อีกทั้งยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ อย่างคีย์บอร์ด Silver Lining Print ที่ให้สีไฟ Backlit สีขาว ส่องผ่านแป้นออกมาดูสวยงาม  ลำโพง Dynaudio พร้อมซัฟวูฟเฟอร์ในตัว โดยใช้ระบบเสียง Nahimic 2 ให้เสียงที่มีคุณภาพดี

ในส่วนทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อ เจ้าตัว MSI PL60 7RD ถือได้ว่าให้มาครบครันที่สุดอีกรุ่นหนึ่งก็ว่าได้ เพราะได้ทั้ง USB 3 type C สำหรับต่ออุปกรณ์ใหม่ และ mini Displat Port ที่เอาไว้ต่อหลายจอได้ ส่วนเรื่องการรับประกันทาง MSI มีมาให้ 2 ปีเต็ม และมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 37,900 บาท

ข้อดี

• วัสดุงานประกอบดี และดีไซน์สวยงาม
• ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก
• หน้าจอความละเอียด Full HD eDP สมจริง แสดงผลแบบ 100% sRGB
• ลำโพง Dynaudio มีซัฟวูฟเฟอร์ในตัว ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่ง
• รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 และ RAM DDR4 (สูงสุด 32 GB)
• ระบบระบายความร้อนทำได้ยอดเยี่ยมมากที่ให้ ฮีทไปป์ 5 เส้น พัดลม 2 ตัว

ข้อสังเกต

• สเปคเทียบกับราคาค่อนข้างสูงกว่ายี่ห้ออื่นพอสมควร
• เสียงพัดลมค่อนข้างดัง เมื่อเปิดโหมดเร่งพัดลม

Award

Best Multimedia

ลำโพง Dynaudio ใช้ระบบเสียง Nahimic 2 มีซัพวูฟเฟอร์อยู่ใต้เครื่อง ให้เสียงที่ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ดูหนังฟังเพลงได้เพลินๆ และหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD eDP ที่สามารถแสดงสีได้สมจริง มาพร้อม Ram 8 GB, Harddisk 7200 RPM และพอร์ทเชื่อมต่อที่ครบครัน สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต ส่วนการเล่นเกมก็สามารถพอเล่นได้บ้างเช่นกัน

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาของเจ้า MSI PL60 7RD เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดีงามที่สุดของเครื่องนี้เลยทีเดียว ทั้งงานประกอบที่แน่นหนาแข็งแรง กับวัสดุที่ใช้เลือกเป็นกึ่งพลาสติก กึ่งอลูมิเนียม การสัมผัสที่ให้ความรู้สึกที่ดีและไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย ทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรา เกรดพรีเมี่ยมคุณภาพดี แต่ก็แฝงไปด้วยเรียบง่ายไปในตัว