ณ เวลานี้เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันได้พัฒนามากทำให้ประสิทธิภาพการทำงานก็มากขึ้นไปด้วย บวกกับการแข่งขันของตลาดโน๊ตบุ๊คและ Tablet ทำให้ราคาก็ถูกลงไปอีก โดยเฉพาะภายใน Commart ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์วันที่ 16-19 มีนาคมนี้ ลด แลก แจกแถม ผ่อนได้หมด เรียกได้ว่า ผู้บริโภคอย่างเราได้รับประโยนชน์เต็มๆ ไปเลยครับ
ซึ่งในงบประมาณ 10,000 บาท ก็มีโน๊ตบุ๊คมาให้เราเลือกซื้อกันหลากหลายค่ายกันเลยทีเดียว ดูแล้วเหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คที่มีงบประมาณจำกัด โดยมีจุดประสงค์เน้นในการทำงานเอกสาร พกพาไปนอกสถานที่ และดูหนังฟังเพลงนิดๆ หน่อยๆ เป็นหลัก และในวันนี้เราจะมาแนะนำโน๊ตบุ๊คสำหรับคนงบน้อย ใช้สอยประหยัด ในช่วงราคาไม่เกิน 10,000 บาท รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
หากคุณเป็นคนที่ต้องการความคุ้มค่าแบบทุกเม็ดทุกหน่วยในงบไม่เกิน 10,000 บาท โดยเน้นพกพาเป็นหลักแล้วละก็ แนะนำเจ้าตัวนี้เลยครับ Acer Aspire ES1-131 สเปคภายในจะใช้ CPU รุ่น Intel Pentium N3700 (1.60 – 2.60 GHz) Ram 4 GB DDR3L ความจุ Harddisk 500 GB 5400 RPM หน้าจอ 11.6 นิ้ว HD ขนาด 1366×768 มีพอร์ท USB 2 และ 3 มาให้อย่างละหนึ่งช่อง บอดี้ตัวเครื่องเป็นพลาสติกสีเทา ส่วนจุดเด่นของรุ่นนี้จะอยู่ที่น้ำหนักตัวเครื่องโดยมีน้ำหนักเพียง 1.26 กิโลกรัม เรียกได้ว่ามีทั้งประสิทธิภาพที่โอเคและพกพาไปไหนมาไหนสะดวก โดยมีราคาเพียง 7,990 บาทเท่านั้น
สำหรับคนที่ต้องโน๊ตบุ๊คจอ 14 นิ้ว ในราคาประหยัดแนะนำตัวนี้เลยครับ สเปคที่ได้ถือว่าไม่ธรรมดา มาพร้อมกับ CPU ที่เป็น Intel Celeron N3350 (1.10 – 2.40 GHz) Ram 4 GB DDR3L มีความจุ Harddisk 500GB 5400 RPM หน้าจอ 14 นิ้ว HD ขนาด 1366×768 บอดี้จะเป็นพลาสติกธรรมดาสีดำ มี Drive DVD มาให้ด้วย ส่วนเรื่องพอร์ทจะมี USB 2 และ USB 3 อย่างละหนึ่งช่อง และที่สำคัญคือ มีพอร์ท USB 3.1 type C มาด้วยหนึ่งช่องถือว่าครบครันสุดๆ โดยมีน้ำเครื่องอยู่ที่ 1.75 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาพอสมควรและมีราคาอยู่ที่ประมาณ 9,900 บาทครับ
มาดูกันอีกตัวกับสเปคสุดคุ้มตัวนี้ยี่ห้อ HP กันบ้างครับ เรียกได้ว่า เจ้าตัวนี้คุ้มค่ามากเพราะจัดสเปคมาค่อนข้างดูดีกว่ารุ่นอื่นพอสมควร สเปคภายในมาพร้อมกับ Intel Pentium N3710 (1.60 – 2.60 GHz) ตัวใหม่ Ram 4 GB DDR3L มีความจุ Harddisk 500GB 5400 RPM หน้าจอ 14 นิ้ว HD ขนาด 1366×768 มี Drive DVD ให้ ส่วนเรื่องพอร์ทจะมี USB 2 ให้สองช่องและUSB 3 หนึ่งช่อง จุดเด่นของรุ่นนี้จะใช้ Wireless Lan เป็นแบบ 802.11 ac ซึ่งจะสามารถรับสัญญาณความถี่ 5 Ghz ได้ มีประกันเป็นแบบ On-site 2 ปี แถมมีแบตเตอรรี่เป็นแบบ 4 Cell ซึ่งให้มากกว่ารุ่นคือที่เป็นแค่ 3 Cell ทำให้ใช้งานได้นานมากขึ้นแต่ก็ต้องแลกกับน้ำหนักที่มากขึ้นเช่นกัน โดยน้ำหนักเจ้าตัวนี้น้ำหนักจะอยู่ที่ 1.94 กิโลกรัม และมีราคาประมาณ 9,900 บาท
สำหรับคนที่เน้นพกพาเต็มตัวในงบราคาช่วงนี้ โดยไม่ได้แคร์เรื่องสเปคภายในมากมายนัก แนะนำตัวเจ้าตัวนี้เลยครับ Asus VivoBook E200HA เพราะจุดเด่นหลักของเครื่องนี้เลยคือมีน้ำหนักเพียง 0.8 กิโลกรัมเท่านั้น สเปคภายในจะเป็น Intel Atom x5-Z8350 Ram 4 GB DDR3L หน้าจอ 11.6 นิ้ว HD ขนาด 1366×768 มี Harddisk e.MMC ขนาด 32 GB ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยไปหน่อยสำหรับยุคปัจจุบัน บอดี้พลาสติก พอร์ทเชื่อมต่อจะมี USB 2 และ USB 3 อย่างละหนึ่งช่อง จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้คือตัวรับ Wireless Lan เป็นแบบ 802.11 ac รุ่นใหม่ และมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ 9,990 บาท
หาคุณต้องการจอใหญ่ๆ ไว้ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมนิดๆ หน่อยๆ แบบไม่หนักมาก ในราคาประหยัดแนะนำตัวนี้เลยครับ Asus VivoBook X540YA มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว HD ขนาด 1366×768 ถือว่าให้มาเต็มสำหรับงบในช่วงนี้ ตัว CPU เป็น AMD E2-7110 (1.8 GHz) ซึ่งจะมีการ์ดจอในตัวเป็นรุ่น AMD Radeon R2 (Mullins/Beema) เพียงพอต่อเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ มี Ram 4 GB DDR3L ความจุ Harddisk 500 GB 5400 RPM มี Drive DVD ในส่วนพอร์ทเชื่อมต่อจะมี USB 2 และ USB 3 มาให้อย่างละหนึ่งช่อง และมีพอร์ท USB 3.1 Type C มาให้อีกหนึ่งช่องด้วย โดยที่น้ำหนักเจ้าตัวนี้จะอยู่ประมาณ 2.01 กิโลกรัม ถือว่าค่อนข้างเบาสำหรับโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดจอ 15.6 นิ้ว และมีราคาอยู่ที่ 9,990 บาทครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับโน๊ตบุ๊คที่แนะนำมาทั้ง 5 ตัวนี้ หวังว่าจะพอถูกให้เพื่อนๆ ที่กำลังหาซื้อกันอยู่นะครับ แต่ถ้าหาใครคิดว่าอยากได้สเปคที่ดีกว่านี้ในงบประมาณนี้ แนะนำว่าให้ลองหาร้านที่มีโปรล้างสต็อคโน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าในงาน Commart ที่จะจัดในวันที่ 16-19 มี.ค. นี้ดูนะครับ ซึ่งในตอนนี้พวก CPU Gen ใหม่กำลังจะเข้ามาวางขาย ทำให้พวกรุ่นเก่าๆ ลดราคาเยอะมาก เช่น พวกโน๊ตบุ๊คที่ใช้ CPU รุ่น Intel Core i5 หรือ i7 ที่เป็น Gen 4 ลดราคาลงมาเยอะมาก ซึ่งถือว่ายังเพียงพอต่อการใช้งานในยุคปัจจุบัน และยิ่งด้วยถ้าเป็นมือสองแล้ว ราคาก็จะลดลงไปอีก แต่ก็ต้องชั่งใจกันดีๆ นะครับว่าคนขายเชื่อถือรึเปล่า อันนี้แอดมินไม่สามารถบอกได้ แต่แนะนำได้ว่า หากจะซื้อมือสองจริงๆ แนะนำให้ไปจับเครื่องจริงด้วยตัวเองจะดีกว่าให้ส่งมาทางไปรณีย์ เพราะ เราจะได้จับของจริง เช็คสภาพภายนอก และสามารถเช็คอุปกรณ์ภายในได้ว่าเป็นแบบที่บอกจริงๆ นะ