ในโลกของเราตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่มีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้น ไม่ว่าจะใช้สำหรับในเรื่องของเพื่อความบันเทิงหรือใช้ทำงาน คอมพิวเตอร์จะคอยเป็นตัวที่ใช้อำนวยความสะดวกในการทำจุดประสงค์นั้นๆ ให้สมบูรณ์แบบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งคำว่าประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์หลักๆ จะขึ้นอยู่กับหัวใจการประมวลผลซึ่งก็คือ CPU แรกเริ่ม CPU ยังเป็นแบบ Single Core ที่ความเร็วไม่ทำไรจนถึงทุกวันนี้ 4 Cores/8 Threads ยังไม่พอใช้ ซึ่ง Intel เป็นผู้นำตลาด CPU ของคอมพิวเตอร์มาตลอด จนถึงทุกวันนี้ แต่ก็มี AMD ผู้ตามหลังที่คอยขับเคี่ยวแข่งขันกันมาตลอด
AMD เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งเมื่อ ปี ค.ศ. 1969 ซึ่ง AMD เริ่มมาทำตลาด CPU คอมพิวเตอร์จนเป็นรู้จักในประเทศไทยก็ประมาณสักยุคปี ค.ศ. 2000 ที่มาผ่าน Intel เป็นผู้นำหรือจะเรียกว่าผูกขาดมาตลอด จนกระทั่งการมาของ CPU AMD รุ่น Athlon ซึ่งสมัยนั้นถ้าเป็นยุคของ Intel จะเป็นรุ่น Intel Core 2 Duo ที่เริ่มใช้เป็น 2 Cores ยุคแรกๆ แต่ราคาสมัยนั้นก็แพงเอาเรื่องจนทำให้ AMD Athlon ออกมาตีตลาดได้
ผู้เขียนได้มีโอกาสใช้ CPU AMD ตั้งแต่ Athlon X64 ซึ่งตอนที่ใช้เลือกใช้เพราะว่ามันราคาถูกเมื่อเทียบกับ Intel จากประสบกาณ์ที่ใช้พบว่ามันทำงานได้เร็วพอสมควรแต่ก็สู้พวก Core 2 Duo ไม่ได้ แต่ปัญหาหลักๆ ก็คือ เรื่องความร้อน ใครใช้ AMD ยุคนั้นคงจะทราบกันดีว่ามันร้อนแค่ไหน เรียกได้ว่าต้องเปิดฝาเคสตลอดเวลาเลยทีเดียว ไม่งั้นเล่นๆ ไปดับแน่ๆ แต่ก็ยังไม่เข็ด
ผู้เขียนยังได้ซื้อโน๊ตบุ๊คตัว Hp Pavillion G4 รุ่นที่ใช้ CPU รุ่น A6-4400m เพราะ CPU ตัวนี้มีการ์ดจอในตัวสามารถ Crossfire กับการ์ดจอนอกที่เป็น Radeon ได้ ทำให้เล่นเกมได้แรงเร็วขึ้น และคิดว่า AMD คงแก้ไขปัญหาเรื่องความร้อนไปแล้ว แต่เปล่าเลยปัญหาความร้อนของ AMD ยังมีอยู่ เมื่อได้ลองเช็คจากโปรแกรมตรวจอุณหภูมิในเครื่องแล้วอุณหภูมิอยู่ที่ 90-110 องศาตลอดจนบางครั้งดับไปดื้อๆ ครั้งเทียบกับโน๊ตบุ๊คอีกเครื่องที่เป็น Hp Pavillion G4 เหมือนกันแต่ CPU เป็น Intel Core i5 เมื่อวัดอุณหภูมิดูกลับวิ่งไม่เคยเกิน 90 องศาเมื่อประมวลหนัก ซึ่งการประมวลผลที่ว่าทั้งสองเครื่องใช้จากการ Render ไฟล์เดียวกัน โปรแกรมเดียวกัน คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเครื่องไหนเสร็จก่อนกัน
และในปี ค.ศ. 2017 การกลับสุดยิ่งใหญ่ของอย่างก้าวกระโดดของ AMD ที่ได้เปิดตัว CPU ตัวตระกูลใหม่ชื่อว่า Ryzen หลังจากที่ทุกคนได้ให้ บอกได้เลยครับว่า ทำให้ทุกคนได้ร้องว้าวกันแน่นอน เพราะเปิดตัวมาด้วย CPU ที่เป็น 8 Cores/16 Threads ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ XFR ทุกรุ่น ซึ่งก็คือเทคโนโลยีการปรับความเร็วอัตโนมัติและที่สำคัญสามารถเร่งได้ทุกคอร์ Intel ยังทำไม่ได้เลย แถมราคาที่เปิดตัวมาถูกกว่าที่คาดการณ์ไว้มากเริ่มต้นตัว Ryzen 7 1700 เพียงแค่ 12,900 บาท เท่านั้น
สรุป
เมื่อกับไลน์รุ่นด้วยกันกับ Intel แล้ว บอกได้ว่า Ryzen ชนะใสๆ ทุกรุ่น แถมด้วยราคาถูกกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะซื้อคอม Desktop ใหม่มาเล่นเกมหนักๆ หรือ Render งานวิดีโอ เพราะ ด้วยความที่เป็น 8 Cores/16 Threads ทำให้พวกโปรแกรมใหม่ๆ ที่ทำงานแบบ Multicores ใช้ Ryzen แล้วได้เปรียบกว่า Intel ที่เริ่มต้นเป็น 4 Cores/8 Threads เป็นไหนๆ งานนี้จอมกั๊กอย่าง Intel ถึงกับต้องลดราคา CPU Kaby Lake แทบทันทีและในอนาคตคงต้องหวังพึ่ง Cannon Lake มาจัดการแล้วละครับ ส่วนถ้าหากใครที่ยังใช้ตัวเก่าที่เป็น Intel Gen 6 Skylake หรือใช้แต่โปรแกรมเก่าที่ยังไม่รองรับจำพวกโปรแกรม Multeicores เท่าไร ก็ยังไม่แนะนำให้รีบซื้อตัว Ryzen เท่าไรนัก เพราะ ประสิทธิภาพยังต่างกันไม่มาก และการซัพพอร์ทของ Ryzen ก็ยังไม่ค่อยสมบูรณ์ แถมเวลาเปลี่ยนทีต้องเปลี่ยนตัว Mainborad ใหม่ด้วย เว้นแต่เงินเหลือๆ อยากลองของใหม่ๆ ก็จัดไปอย่าให้เสียครับ