Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook News

[Preview] Samsung Galaxy Book 10.6 และ Galaxy Book 12 ที่เป็น Windows Tablet รุ่นล่าสุด

ถึงแม้ว่าในงาน MWC 2017 ที่ผ่านมานั้นทาง Samsung จะไม่มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ออกมาเลย(ซึ่งก็เป็นไปตามข่าวลือก่อนหน้านี้) แต่ทว่าในงาน MWC 2017 นี้นั้นทาง Samsung ได้ขนเอาแท็บเล็ตมาเปิดตัวหลายรุ่นกันเลยหล่ะครับ และในวันนี้นั้นเราจะขอยกบทความพรีวิวของแท็บเล็ตอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นแม่งานของ Samsung มาให้ทุกๆ ท่านได้ดูกันครับ

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 01

Advertisement

Galaxy Book 10.6 และ Galaxy Book 12 นั้นเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 ที่มีฐานการพัฒนาระบบปฎิบัติการมาจากสถาปัตยกรรม x86 ดังนั้นแล้วในส่วนของหน่วยประมวลผลนั้นจึงใช้ต้องหน่วยประมวลผลสถาปัตกรรม x86 ครับ ดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นหากพูดกันตามตรงก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก Surface สักเท่าไรนัก แต่ก็มีความต่างกันบ้างไม่ว่าจะเป็นฐานตั้ง หรือการใช้งานครับ

จุดที่ Galaxy Book น่าจะอยู่เหนือคู่แข่งได้นั้นก็คือเรื่องของหน้าจอที่มาพร้อมกับหน้าจอพาเนล Super AMOLED(เฉพาะรุ่น 12″) แถมยังนำเอาจุดเด่นที่ดีๆ ของรุ่นอื่นมาให้ Galaxy Book อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการใช้สไตลัส หรือแม้กระทั่งคีย์บอร์ดแบบถอดใช้งานได้นั้น คุณผู้ซื้อ Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นก็จะได้รับแถมมาเลยในกล่องครับ(ถ้าเป็น Tab S3 นี่ต้องซื้อต่างหากนะครับ)

สำหรับสเปคของแต่ละรุ่นนั้นจะมีดังต่อไปนี้ครับ

Samsung Galaxy Book 10.6

  • ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 261.2 x 179.1 x 8.9 mm ใช้วัสดุเป็น aluminum body
  • น้ำหนักรุ่นที่มาพร้อมกับ WiFi อย่างเดียวอยู่ที่ 640 g ส่วนรุ่นที่มาพร้อมกับ 4G LTE อยู่ที่  650 g
  • มาพร้อมกับ 2-in-1 form factor with a detachable keyboard และ  S Pen stylus ในชุดวางจำหน่าย
  • หน้าจอขนาด 10.6 นิ้วใช้พาเนลแบบ TFT ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ FHD 1920×1280 pixels
  • หน่วยประมวลผล 7th Gen ของทาง Intel รุ่น Core m3 processor แบบ Dual Core 2.6 GHz
  • หน่วยความจำ(RAM) ขนาด 4 GB RAM และแหล่งเก็บข้อมูลมี่ให้เลือกที่ความจุ 64 GB และ 128 GB แบบ eMMC
  • สามารถเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลได้ผ่านทาง microSD สูงสุด 256 GB
  • แบตเตอรี่ขนาด 30.4 W สามารถใช้งานได้ยานนาน 10 hrs รองรับ Fast Charging
  • การเขื่อมต่อแบบไร้สายประกอบไปกเวย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2X2 MIMO, LTE Cat. 6, Bluetooth® 4.1 BLE
  • รองรับ GPS + GLONASS
  • การเชื่อมต่อแบบใช้สายรองรับ USB 3.1(Type-C);
  • ระบบปฎิบัติการ Windows 10
  • กล้องหลังความละเอียด 5 MP แบบ fixed camera

Samsung Galaxy Book 12

  • ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 291.3 x 199.8 x 7.4 mm ใช้วัสดุเป็น aluminum body
  • น้ำหนักรุ่น WiFi + 4G LTE อยู่ที่ 754 g
  • มาพร้อมกับ 2-in-1 form factor with a detachable keyboard และ S Pen stylus ในชุดวางจำหน่าย
  • หน้าจอขนาด 12 นิ้วใช้พาเนลแบบ Super AMOLED ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 2160 x 1440 pixels รอบรับ 10-bit HDR
  • หน่วยประมวลผล 7th Gen ของทาง Intel รุ่น Core i5 processor แบบ Dual Core 3.1 GHz
  • หน่วยความจำ(RAM) ขนาด 4 – 8 GB RAM และแหล่งเก็บข้อมูลมี่ให้เลือกที่ความจุ 128 GB และ 256 GB แบบ eMMC
  • สามารถเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลได้ผ่านทาง microSD สูงสุด 256 GB
  • แบตเตอรี่ขนาด 39 W สามารถใช้งานได้ยานนาน 10 hrs รองรับ Fast Charging
  • การเขื่อมต่อแบบไร้สายประกอบไปกเวย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2X2 MIMO, LTE Cat. 6, Bluetooth® 4.1 BLE
  • รองรับ GPS + GLONASS
  • การเชื่อมต่อแบบใช้สายรองรับ USB 3.1(Type-C) จำนวน 2 พอร์ต;
  • ระบบปฎิบัติการ Windows 10
  • กล้องหลังความละเอียด 13 MP แบบ Auto Focus ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 MP แบบ fixed camera

Design

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 02

ก่อนอื่นเลยนั้นด้านหลังของตัวเครื่องจะมีดีไซน์ที่ตัดเอากระจกกันรอยทางด้านหลังออกไปทำให้เวลาสัมผัสนั้นคุณจะได้สัมผัสกับตัวอลูมิเนียมของตัวเครื่องโดยตรงซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ดีจุดหนึ่งของ Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นนี้เนื่องจากว่าคุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการยกจับและดีไซน์ของตัวเครื่องที่เป็น all-metal unibody ที่รวมถึงขอบโค้งของตัวเครื่องในแต่ละด้านด้วย

จุดที่น่าเสียดายของการตัดเอากระจกกันรอยของตัวเครื่องออกไป(เมื่อเทียบกับ Tab S3) นั่นก็คือตัวเครื่องจะไม่ได้มาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือซึ่งนั่นก็ต้องแล้วแต่คุณหล่ะครับว่าต้อการที่จะใช้งานระบบสแกนลายนิ้วมือด้วยรึเปล่าเพราถ้าคุณคิดว่าคุณต้องการระบบสแกนลายนิ้วมือแล้วคุณก็ต้องหนีไปเล่น Tab S3 ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android แทนครับ

เรื่องนำหนักของตัวเครื่องนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีทั้ง 2 รุ่นครับไม่ว่าจะเป็น 650 g กับ Galaxy Book 10.6 และ 750 g กับ Galaxy Book 12 การพกพานั้นถือว่าทำออกมาได้ดีอย่างมากๆ เพราะคุณจะไม่รู้สึกหนักในการพกพา รวมไปถึงการใช้งานแบบใช้มือเดียวจับตัวเครื่องส่วนอีกมือหนึ่งสัมผัสหน้าจอนั้นก็ถือว่ามำได้ง่ายครับ

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 03

จุดที่ทำให้ Galaxy Book แตกต่างไปจาก Tab S3 อย่างชัดเจนเลยก็คือเรื่องของการดีไซน์ของกรอบหลังที่เราจะเห็นได้ชัดเจนเลยครับว่าทุกรุ่นนั้นจะมาพร้อมกับกล้องหลังที่อยู่บริเวณตรงกลางทางด้านข้างของเครื่อง(ตามการถือเครื่องแบบขวางอย่างบนรูปด้านบน) ซึ่งตรงจัดนี้นั้นก็เนื่องมาจากว่าการใช้งานระบบปฎิบัติการ Windows 10 แบบแนวขวางจะทำได้ดีกว่าในแบบแนวตั้งครับ

หมายเหตุ – นี่ก็ถือว่าเป็นความตั้งใจส่วนหนึ่งของทาง Samsung ที่จะยังคับให้ผู้ใช้ ใช้งาน Galaxy Book แบบแนวขวางหล่ะครับ

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 04

ส่วนของหน้าจอของ Galaxy Book นั้นถือว่ามาในรูปแบบโล่งๆ มีแค่ส่วนของหน้าจอเท่านั้นครับ ตรงนี้นั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไรนักเนื่องจากว่าด้วยการใช้งานของระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานปุ่มต่างๆ เหมือนกับระบบปฎิบัติการ Android และ iOS ครับ

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 05

เรื่องของระบบเสียงนั้นป็นที่น่าเสียดายว่า Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่ได้มาพร้อมกับระบบเสียง AKG ที่มีลำโพงจำนวน 4 ตัวเหมือนใน Galaxy Tab S3 อย่างไรก็ตามแต่ การวางตำแหน่งของลำโพงบน Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นนั้นก็อยู่ในตำแหน่งที่ถือว่าดีเพราะตัวลำโพงนั้นจะถูกวางอยู่ทางด้านข้างของ(กล้อง) ไปจนชิดขอบด้านข้างทั้ง 2 ด้วน ให้เสียงแบบ stereo ครับ

หมายเหตุ – รุ่น Galaxy Book 12 นั้นจะต้องมาพร้อมกับช่องตรงส่วนของลำโพงมากกว่ารุ่น 10.6 เนื่องจากว่าต้อใช้ในการระบายความร้อนไปด้วยในตัวครับ

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 06

ส่วนทางด้านบนของตัวเครื่องที่เป็นจุดที่มีช่องของลำโพงอยู่นั้นจะยังมีปุ่มเปิดปิดเครื่อง, ปุ่มเพิ่มลดเสียงและช่องไมโครโฟนอีก 2 ช่องด้วยครับ ส่วนทางข้างของตัวเครื่องฝั่งขวานั้นจะมีพอร์ตการเชื่อมต่อแบบใช้สายต่างๆ เรียงตัวอยู่ และทางด้านล่างของตัวเครื่อง(รูปทางด้านบน) นั้นจะเป็น pin สำหรับการเชื่อมต่อกับแผงคีย์บอร์ดครับ

สำหรับการเชื่อมต่อระหว่างส่วนแท็บเล็ตกับคีย์บอร์ดนั้นจะใช้การเชื่อมต่อกันด้วยแม่เหล็กซึ่งแข็งแรงใช้ได้ ทว่าจะมีจุดที่น่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งซึ่งนั่นก็คือฐานเชื่อมต่อของ Galaxy Book จะมีขนาดใหญ่กว่าของทาง Galaxy Tab S3 อยู่เล็กน้อย ซึ่งคาดว่าที่เป็นเช่นนี้นั้นอาจจะมาจากเรื่องของน้ำหนักของ Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นนั้นมากกว่า Galaxy Tab S3 อยู่พอดูครับ

Keyboard และ S Pen

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 07

สำหรับเรื่องคีย์บอร์ดและ S Pen สำหรับ Galaxy Book นั้นถือว่าทาง Samsung ใจใหญ่จริงๆ ครับเพราะผู้ซื้อทุกท่านจะได้คีย์บอร์ดและ S Pen มาให้ด้วยในชุดจำหน่าย(ในขณะที่ Tab S3 นั้นคุณต้องซื้อแยกต่างหาก) บนตัวคีย์บอร์ดที่มาในรูปแบบเคสพร้อมฐานตั้งนั้นจะมีช่องสำหรับเอาไว้ใช้ในการเสียบ S Pen เพื่อเป็นที่เก็บเวลาไม่ได้ใช้งานด้วยครับ

ตัวเคสคีย์บอร์ดในชุดวางจำหน่ายนั้นจะมาพร้อมกับสีดำและขาวครับ(ทว่าคุณก็ยังสามารถหาซื้อเคสคีย์บอร์ดสีอื่นแยกได้) แป้นคีย์สำหรับกดบนคีย์บอร์ดนั้นจะพร้อมกับไฟ Backlit สำหรับส่องสว่างซึ่งใช้แบตเตอรี่ของตัวแท็บเล็ตมาเป็นพลังงานทำให้ในการใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดนั้นแบตเตอรี่จะหมดเร็วกว่าปกติ(ถ้าคุณเปิดไฟ Backlit จะยิ่งหมดเร็วขึ้นไปอีก)

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 11Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 12

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจนั่นก็คือตัวแป้นคีย์บอร์ดของรุ่นจอ 12 นิ้วนั้นจะสามารถใช้งานได้ถนัดกว่าคีย์บอร์ดของรุ่น 10.6 นิ้วพอสมควร ตรงจุดนี้นั้นน่าจะเป็นเพราะทาง Samsung ไม่ได้ออกแบบส่วนของแป้นคีย์บอร์ดของแต่ละรุ่นใหม่ดังนั้นแล้วรุ่น 10.6 นิ้วก็เลยมาพร้อมกับคีย์บอร์ดที่อัดกันแน่นมากกว่า(หรือย่อส่วนลงมา) และทำให้ใช้งานยากกว่ารุ่นขนาดจอ 12 นิ้วครับ

หมายเหตุ – อย่างไรก็แล้วแต่ แป้นคีย์บอร์ของ Galaxy Book ถือว่าดีกว่า TabPro S ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows เหมือนกันครับ

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 08

สำหรับ Touchpad นั้นถือว่า Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นได้รับข้อดีเสมือนโน๊ตบุ๊คจริงๆ มากกว่า Tab S3 ครับ ถึงแม้ว่าตัวหน้าจอจะสัมผัสได้และตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ S Pen ด้วยอีก ทว่าการใช้งานเมาส์บนระบบผฎิบัติการ Windows นั้นคงจะไม่มีอะไรดีเท่าไรกับการใช้เมาส์หรือ Touchpad แล้วหล่ะครับ

ตัว Touchpad นั้นมีขนาดอยู่ที่ 77 x 43 mm บนรุ่นขนาดหน้าจอ 10.6 นิ้วและมีขนาดอยู่ที่ 100 x 53 mm บนรุ่นขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว ซึ่งแน่นอนครับว่า Touchpad บนขนาดหน้าจอ 12 นิ้วนั้นจะสามารถใช้งานได้ดีกว่าและสะดวกกว่า(แต่ทาง Samsung บอกว่าสามารถใข้งานได้แบบไม่เห็นข้อแตกต่าง) ทั้งนี้บน Touchpad ของหน้าจอทั้ง 2 รุ่นนั้นจะไม่มีปุ่มคลิ๊กทางด้านซ้ายและขวามาให้นะครับ

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 09Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 10

Stand mode

สำหรับการใช้งานอีกอย่างของเคสคีย์บอร์ดนั้นก็คือมันสามารถที่จะเอามาทำเป็นฐานตั้งหน้าจอซึ่งทาง Samsung เรียกว่า Stand mode ได้ 3 รูปแบบดังรูปข้างบนครับ รูปแบบที่เป็นที่ตั้งหน้าจอพร้อมมองเห็นคีย์บอร์ดด้วยนั้นจะสามารถที่ทำการปรับเลื่อนขนาดขาตั้งได้ 2 แบบ ในขณะที่แบบที่ 3 หรือรูปทางด้านขวานั้นจะทำให้มองไม่เห็นคีย์บอร์ดและใช้เคสเป็นฐานตั้งหน้าจอเพียงอย่างเดียวครับ(ซึ่งการตั้งแบบนี้นั้นจะเหมาะสมกับการใช้ S Pen เป็นอย่างมากครับ)

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 13

สำหรับ S Pen ที่คุณจะได้รับมานั้นเป็น S Pen ที่รองรับการใช้งานกับรุ่นก่อนหน้า ดังนั้นแล้วคุณเองก็สามารถที่จะนำเอา S Pen ของ Galaxy Book ไปใช้กับเครื่องอื่นๆ ที่มาพร้อมกับ S Pen ได้ ในทางกลับกันแล้วคุณก็สามารถที่จะเอา S Pen ของรุ่นอื่นๆ มาใช้กับ Galaxy Book ได้เหมือนกัน(อย่างเช่น S Pen ของ Note 4 เป็นต้นโดยสามารถที่จะใช้งานได้แบบทุกฟังก์ชันการใช้งานครับ)

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 14

และอาจจะด้วยเหตุผลที่ต้องทำให้ S Pen สามารถใช้งานย้อนหลังได้ด้วยนั้นทำให้ S Pen ของ Galaxy Book ไม่ได้มีความแตกต่างไปจาก S Pen ของอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้าเท่าไรนัก โดยที่ตัว S Pen นั้นจะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อเรียกเมนูการใช้งาน(และทำงานในฟังก์ชันอื่น) ทั้งนี้ S Pen ของ Galaxy Book นั้นก็ไม่ได้เหมือนเดิมมากนัก เพราะทาง Samsung ได้ออกดีไซน์มาใหม่ทำให้มันมีขนาดเล็กกว่า บางกว่า(หนาแค่ 0.7 mm) และถือได้ถนัดมือมากกว่า S Pen ของรุ่นก่อนๆ มากครับ

หมายเหตุ – ทั้งนี้สำหรับตัวเคสคีย์บอร์ดนั้นจะมีตัวเลือกที่มาพร้อมกับ NFC มาให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อด้วยเพราะเคสคีย์บอร์ดมาตรฐานที่มาพร้อมกับชุดบางจำหน่ายนั้นไม่มี NFC มาให้ครับ

Hardware and Performance

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 15

ในส่วนของฮาร์ดแวร์นั้น ถ้าไม่นับเรื่องของหน้าจอที่ทั้ง 2 รุ่นมีไม่เท่ากัน(และใช้พาเนลกับความละเอียดคนละแบบกัน) ส่วนของฮาร์ดแวร์อื่นๆ นั้นก็เรียกได้ว่าแถบจะเหมือนกันครับ(เว้นหน่วยประมวลผล, หน่วยความจำ(RAM), ขนาดแหล่งเก็บข้อมูลที่เป็นแบบ eMMC เหมือนกัน , แบตเตอรี่และกล้อง) การวางตัวของฮาร์ดแวร์ของทั้ง 2 รุ่นนั้นค่อนข้างที่จะคล้ายกันครับ

จุดเด่นที่ทำให้ Galaxy Book 12 นิ้วนั้นน่าสนใจมากกว่าก็คือความละเอียดของหน้าจอที่ 2,160 x 1,440 pixels พร้อมกับการรองรับ 10-bit HDR เหมือนกับที่พบได้ใน Tab S3 ซึ่งน่าจะพอทำให้ใครหลายๆ คนเลือกได้เลยหล่ะครับว่าต้องการ Galaxy Book 10.6 หรือ Book 12 เพราะในรุ่น 12 นั้นจะให้คุณได้พบกับประสบการณ์ในการรับรู้ผ่านทางดวงตาได้ดีกว่ารุ่น 10.6 อย่างเห็นได้ชัดครับ

ถึงแม้ทาง GSMArena จะไม่ได้ทดสอบตัวเครื่องแบบเชิงลึก แต่ทว่าในการใช้งานจริงตามที่เคยเป็นนั้นจะพบว่าหน่วยประมวลผล Core M และ M i5 ของ Galaxy Book นั้นส่งผลทางด้านประสิทธิภาพในการใช้งานพอสมควรครับ(ถึงแม้จะเป็นหน่วยประมวลผลแบบ Dual Core และความเร็วสัญญาณนาฬิกาแตกต่างกันไม่มาก)

Samsung Galaxy Book 10.6 and Galaxy Book 12 Preview 600 16

ขนาดของแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นมาในรุ่นขนาดจอ 12 นิ้วนั้นก็ไม่ได้ทำให้อายุการใช้งานแตกต่างจากรุ่น 10.6 มากเท่าไรนัก เพราะมันสามารถใช้งานได้ราวๆ 10.5 ชั่วโมง(พอๆ กับที่ทาง Samsung ได้คำนวณเอาไว้) นอกไปจากนั้นแล้วเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่ทั้ง 2 รุ่นให้เต็มนั้นก็อยู่ที่ราว 2.15 ชั่วโมงพอๆ กันอีกด้วยครับ

ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของรุ่น Book 12 นั่นก็คือมันมาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C จำนวน 2 พอร์ตซึ่งเวลาใช้งานจริงๆ นั้นน่าจะมีปรัโยชน์มากๆ กับผู้ใช้ที่ต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวเข้ากับตัวเครื่องครับ(ทว่านั่นก็ต้องแรกมากับค่าใช้จ่ายในการซื้อ Dongle เพื่อด้วยสำหรับการใช้งานเช่นกันเพราะทาง Samsung ไม่ได้ให้มาในชุดและจากในงานนั้นก็ยังไม่เห็นว่าจะมีแยกจำหน่ายต่างหากรึเปล่าครับ)

ข้อเสียที่ไม่รู้ว่าจะเป็นข้อเสียดีไหมก็คือ NFC ที่บนตัวเครื่อง Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่มีมาให้ด้วยแต่มี build in บนเคสคีย์บอร์ด ดังนั้นผู้ที่อยากใช้งานฟีเจอร์ NFC นั้นก็จำเป็นที่จะต้องซื้อเคสคีย์บอร์ดแบบแยกที่มาพร้อมกับ NFC เอาไว้ใช้งานด้วยครับ(ที่ทาง Samsung น่าจะตัด NFC ไปนั้นก็น่าจะเป็นเพราะในปัจจุบันนี้มันสามารถใช้งานกับฟีเจอร์ Samsung Flow เท่านั้นครับ)

Conclusions

โดยรวมนั้น Galaxy Book ทั้ง 2 รุ่นสามารถที่จะทำออกมาได้ดีเลยทีเดียวครับ แถมความสามารถในการเป็นแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ที่สามารถพกพาไปไหนไหนได้สะดวกนั้นยิ่งทำให้ Galaxy Book น่าสนใจยิ่งขึ้น และแน่นอนครับว่ารุ่นที่น่าสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นรุ่นขนาดหน้าจอ 12 นิ้วที่คุณนั้นสามารถที่จะเอามาใช้งานในชีวิตจริงได้ตลอดเวลาโดยไม่จำเป็นต้องสรรหา PC มาช่วยเลยหล่ะครับ(เว้นงานหนักๆ ที่ต้องการฮาร์ดแวร์เฉพาะงานนะครับ) ส่วนจะเข้ามาขายในไทยในอนาคตหรือไม่นั้นก็ต้องรอดูกันอีกที !!!

ที่มา : gsmarena

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

Accessories review

VOLTME Revo 140 กับ VOLTME RUGG CTC 100W คอมโบสายและอะแดปเตอร์สุดเจ๋ง ชาร์จได้หมดทั้งโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและมือถือ!! ถ้าเปิดกระเป๋ามานอกจากโน๊ตบุ๊คแล้ว หลายคนก็มีแท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนติดกระเป๋ากันแน่ๆ ดังนั้นอะแดปเตอร์อย่าง VOLTME Revo 140 กับสายชาร์จ VOLTME RUGG CTC 100W เลยเป็นไอเท็มคู่สำคัญควรมีติดกระเป๋าเอาไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งใครใช้โน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงหรือ MacBook...

รีวิว Lenovo

Lenovo LOQ 15APH8 รุ่นคุ้มราคาประหยัด แต่ใส่สเปคมาจัดจ้านในราคาคุ้มเกินตัว!! Lenovo LOQ 15APH8 เกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นเล็กราคาประหยัดซึ่งแฟนคลับ Lenovo ก็ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด เพราะรวมองค์ประกอบน่าใช้เอาไว้มากมายทั้งบอดี้สวยเรียบร้อยคล้ายกับพี่ใหญ่อย่าง Legion Series อยู่พอควร แถมยังให้สเปคต่อราคามาคุ้มค่าทั้งซีพียู AMD Ryzen กับจีพียู NVIDIA GeForce RTX 30 series...

PR-News

ซัมซุงตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดเกมมิ่งมอนิเตอร์ โดย Samsung Odyssey Neo G7 คว้ารางวัล The Most Popular Game Device and Gadget สาขา Gaming Monitor กลุ่มรางวัลเกมประเภทอุปกรณ์และเกมมิ่งเกียร์ ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดียในปี 2023 ที่งาน Thailand Social AIS...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก