ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากในตลาดไอที ไม่ว่าจะเป็นซีพียูหรือเมนบอร์ดรุ่นใหม่ รวมถึงบรรดาอุปกรณ์ต่อพ่วงที่มีความรวดเร็วทันสมัยก็มีให้เลือกมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีของเมนบอร์ดปรับตัวไปไกล เพื่อให้รองรับกับเทรนด์ต่างๆ ที่กำลังตามมา เช่นเดียวกับเมนบอร์ด ASRock ที่เป็นอีกค่ายหนึ่ง ซึ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออกมาได้อย่างรวดเร็วและมีฟีเจอร์รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่มากมายเลยทีเดียว
ASRock Z270 Extreme4 เป็นเมนบอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน เล่นเกมและโอเวอร์คล็อกที่เหนือกว่าพื้นฐานทั่วไป โดยมาในแพลตฟอร์ม Z270 ซ็อกเก็ต LGA1151 ซึ่งรองรับซีพียู Intel Kaby Lake หรือที่เรียกกันว่า Gen7 นั่นเอง โดยชูไฮไลต์ในด้านของฟีเจอร์ที่จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Purity Sound4 ใหม่ล่าสุด สล็อต PCI-E Steel Slot เน้นความแข็งแรง และมีไฟ AURA RGB รองรับ USB Type-C รวมถึงสล็อต M.2 ที่มาเป็นคู่ เสริมความแรงด้วยการสนับสนุนแรม DDR4 3866+ (OC), SLI HB Bridge และเทคโนโลยีอีกมากมาย ที่ออกมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้ที่เน้นพลังที่มากกว่า ในการรีดประสิทธิภาพจากซีพียู แรม กราฟฟิกการ์ดออกมาได้เต็มที่มากยิ่งขึ้น ภายใต้รูปลักษณ์ที่โดดเด่น
Specification
- ASRock Super Alloy
- Supports 7th and 6th Generation Intel® Core™ i7/i5/i3/Pentium®/Celeron® Processors (Socket 1151)
- Supports DDR4 3866+(OC)
- 3 PCIe 3.0 x 16, 3 PCIe 3.0 x1, 1 M.2 Socket (Key E)
- NVIDIA® Quad SLI™, AMD 3-Way CrossFireX™
- Graphics Output Options: HDMI, DVI-D, D-Sub
- Supports Triple Monitor
- 7.1 CH HD Audio (Realtek ALC1220 Audio Codec), Supports Purity Sound™ 4 & DTS Connect
- 8 SATA3, 2 Ultra M.2 (PCIe Gen3 x4 & SATA3)
- 2 USB 3.1 10Gb/s (1 Type-A + 1 Type-C), 8 USB 3.0 (4 Front, 4 Rear)
- ASRock AURA RGB LED
คุณสมบัติพิเศษ
รูปลักษณ์การออกแบบ
แพ็คเกจออกแบบแตกต่างจากในซีรีส์ 9x และ 100 อยู่พอสมควร ทั้งในแง่ของสีสัน กราฟฟิก ซึ่งถือว่ามีความทันสมัยมากขึ้น ให้ความชัดเจน สำหรับเมนบอร์ด ASRock Z270 Extreme4 มาในโทนกล่องสีฟ้าสดใส มีกราฟฟิกตัว X ซึ่งหมายถึง eXtreme เต็มหน้ากล่อง
ASRock ปรับรูปแบบด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์ผ่านทางอักขระ ซึ่งประกอบไปด้วย P K G และ X ในการย้ำว่าเมนบอร์ดแต่ละรุ่นนั้น มีคุณลักษณะเด่นใด เช่น X หมายถึง Extreme series
อุปกรณ์ที่บันเดิลมาในกล่อง ประกอบด้วย Manual, HB Bridge, Driver, น็อตยึด M.2, SATA cable และแผ่นปิดพาแนลด้านหลัง เรียกว่าเป็นแบบพื้นฐาน
ซิงก์ขนาดใหญ่รายรอบภาคจ่ายไฟ 10-phase พร้อมปิดพาแนลด้านหลัง เพิ่มความสวยงาม โดยมีไฟ RGB อยู่ในบริเวณด้านบนนี้ด้วย
ภาคจ่ายไฟและชุดคาปาซิเตอร์แบบ Solid capacitor ในโทนสีดำ เข้ากับตัวเมนบอร์ด ด้วยคุณภาพที่รองรับการโอเวอร์คล็อกได้ดี
เมนบอร์ดรุ่นนี้มาพร้อม PCI-E Steel slot ที่มีครอบโลหะ ให้ความแข็งแรงสำหรับรองรับกราฟฟิกการ์ดขนาดใหญ่ โดยลดแรงที่เกิดจากน้ำหนักของตัวการ์ด โดยมีทั้งหมด 3 สล็อต รองรับ SLI และ CrossFire รองรับการทำงาน Single 16x, Dual 8x/8x และ Triple 8x/8x/4x
รองรับแรม DDR4 3866+ (OC) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่รองรับการใช้งานสำหรับเกมเมอร์ มืออาชีพและโอเวอร์คล็อกได้ดี
สล็อตสำหรับ SSD M.2 มีด้วยการ 2 จุดเพื่อการใช้งาน จุดติดตั้งจัดว่าไม่เกะกะ และสามารถปรับเปลี่ยนหรืออัพเกรดได้ง่ายกว่า ไม่ติดกราฟฟิกการ์ดมากนัก
พอร์ตต่อพ่วงมีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตแสดงผลที่มี D-Sub, DVI และ HDMI โดยมี USB 3.1 Type-C มาให้ด้วย
ชิปเซ็ตด้านล่าง ถูกวางซิงก์ขนาดใหญ่ และมีดีไซน์ลงตัวกับเมนบอร์ด ด้านใต้เป็นไฟ RGB LED ปรับแสงสีได้จากซอฟต์แวร์ที่มากับเมนบอร์ด
ชิปสังเคราะห์เสียงจาก Realtek ALC1220 มาพร้อมเทคโนโลยี Purity Sound4 รุ่นใหม่ล่าสุด
สล็อต Ultra M.2 ที่อยู่มุมล่างขวาของเมนบอร์ดใกล้กับ SATA รองรับ M.2 module 2230/2242/2260/2280
Conclusion
จัดว่า ASRock Z270 Extreme4 เป็นเมนบอร์ดที่เก็บรายละเอียดของฟังก์ชั่นการทำงานที่สำคัญไว้ได้แทบจะครบทุกความต้องการ โดยเฉพาะในแง่ของเกมเมอร์และกลุ่มผู้ใช้ระดับมืออาชีพ ซึ่งหากมองไปในท้องตลาด เมนบอร์ดในกลุ่มเดียวกัน ASRock จัดเต็มในฟังก์ชั่นมาครบเกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแง่ของดีไซน์ การจัดวางองค์ประกอบ โดยเฉพาะเรื่องของอุปกรณ์ต่อพ่วงความเร็วสูง ที่เพิ่มเข้ามามากมาย เช่น M.2 หรือ PCI-E จำนวน 3 ช่อง นอกจากนี้ยังเติมในส่วนของเกมเมอร์ ด้วยการนำ Steel Slot มาใส่ไว้ เอาใจคนที่ใช้การ์ดจอแรงๆ ตัวใหญ่ ซิงก์หนักๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องของสล็อตจะไปก่อนวัยอันควรมากนัก ระบบเสียงที่มีมาให้ก็ถือว่าจัดจ้านตามสไตล์ของ Purity Sound4 ในเวอร์ชั่่นใหม่นี้ แม้จะขยับปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ก็จัดมาสำหรับเกมเมอร์แบบเต็มๆ แถมยังใส่ลูกเล่นเล็กๆ ในเรื่องสีสัน RGB ตามสไตล์นิยมมาไว้ด้วย ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถปรับลูกเล่น ให้เข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มี เช่น เมาส์ คีย์บอร์ด ที่รองรับ แต่ที่น่าสนใจก็คือ คอนเน็คเตอร์สำหรับปั้มน้ำ ที่จ่ายไฟเพิ่มเฉพาะสำหรับปั้ม ที่ไม่จำเป็นต้องลากสายแยกต่างหาก ตรงจุดนี้เอาใจนักโอเวอร์คล็อกได้ดีทีเดียว ซึ่งในภาพรวมต้องเรียกว่ามีความหลากหลายด้านการใช้งาน เรียกว่าต้องการจุดไหน ASRock เติมมาให้หมด จะมีขาดเล็กน้อยสำหรับคนที่ชอบความดิบก็คือ สวิทช์เปิด-ปิด และ Reset บนเมนบอร์ด ที่นักโอเวอร์คล็อกชอบเปลือยบอร์ดโมดิฟายชื่นชอบกันและไฟ LED Debug ที่ไม่มีมาบนบอร์ดรุ่นนี้ แต่ก็ถือว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการเติมลูกเล่นอื่นๆ มาให้แทน
จุดเด่น
- มีฟังก์ชั่นรองรับอุปกรณ์รุ่นใหม่ เช่น M.2, USB Type-C, Key E มาให้มากมาย
- มีพอร์ตต่อไฟ Water pump มาให้โดยเฉพาะ
- แสงไฟแบบ RGB บนซิงก์ รองรับการปรับแต่งเองได้
- มาพร้อมสล็อต PCI-E Steel Slot เพิ่มความแข็งแรงรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่
ข้อสังเกต
- น่าจะมีสวิทช์ออนบอร์ด เพิ่มมาให้สำหรับนักโอเวอร์คล็อกบ้าง
- ไม่มี LED Debug มาให้
ราคาประมาณ : 5,600 บาท